ฉือเซียว หยางเทียน หยางเต้า ฉู่เยว่ฉาน ฉู่สยง และคนอื่นๆ ต่างตกตะลึงอย่างมาก แม้แต่ถังอีิยังต้องขยี้ตาตัวเองอยู่หลายครั้ง อย่างไม่อยากเชื่อสายตา
เมื่อทุกคนมองดูให้ดี จึงเหมือนถูกเรียกให้ได้สติ คนที่ยืนอยู่เคียงข้างวานรยุทธ์ที่น่าเกลียดน่ากลัวตรงหน้า จะเป็ใครได้อีกหากไม่ใช่ฉินอวี่?
“ศิษย์... ศิษย์น้องหวัง?” ฉือเซียวระงับความตื่นเต้นเอาไว้ และถามไปอย่างไม่แน่ใจ
แม้ว่าใบหน้าของฉินอวี่ในตอนนี้จะฟื้นคืนเป็ชายหนุ่ม แต่ใบหน้าของเขาก็ซีดเซียว รอบดวงตาทั้งสองข้างดูดำช้ำ มองดูเหมือนคนกำลังป่วยหนัก ผนวกกับเส้นผมสีขาวโพลนบนศีรษะ ทำให้ฉือเซียวถึงกับไม่แน่ใจอยู่ครู่หนึ่ง ว่านี่คือหวังซิงเฉินศิษย์น้องของเขาแน่หรือไม่
ฉินอวี่เหลือบมองฉือเซียว พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นเขาก็กวาดสายตามองคนหนุ่มสาวเกือบหกสิบคนที่อยู่โดยรอบ ท้ายที่สุด จึงหยุดมองไปที่ชายหนุ่มห้าคนที่อยู่ตรงหน้า
หากมองจากพลังปราณที่แผ่ออกมาเพียงอย่างเดียว ทั้งห้าคนนี้น่าจะเป็ผู้อยู่ในรายนามระดับสามัญในสิบอันดับแรก สิ่งที่ทำให้ฉินอวี่ต้องตกตะลึงคือ คนสามคนในจำนวนนี้มีพลังปราณที่แข็งแกร่งกว่าอันดับห้า ส่วนอีกสองคนจัดว่ามีพลังไม่ได้ด้อยไปกว่าอันดับห้าเช่นกัน
“อันดับแรกนี่เอง ไปกันเถอะ!” เสี่ยหยวนที่อยู่ด้านข้างพูดออกไปด้วยเสียงทุ้มต่ำ เมื่อพบคนของหยาจื้อสิบสามเผ่า เขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้กำลังรอตักตวงผลประโยชน์อยู่ และเมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ด้านหน้าสุดซึ่งเป็ผู้นำของทั้งห้าคนคืออันดับหนึ่ง ในใจของเสี่ยหยวนก็เริ่มมั่นใจมากขึ้น และคิดจะวิ่งตรงไปยังค่ายกลนำส่งเพื่อหาทางออกไปจากที่นี่อย่างไม่ลังเล แต่ในเวลานี้ มีมืออันไร้เืลมข้างหนึ่งได้คว้าแขนของเสี่ยหยวนเอาไว้
“ไม่ต้องรีบ” ฉินอวี่ชำเลืองมองเสี่ยหยวนและกระซิบเบาๆ เขากวาดสายตาไปยังคนทั้งห้าที่อยู่หน้าสุด สุดท้ายจึงมองไปยังชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงกลาง เขาคงจะเป็อันดับหนึ่งแล้วล่ะ
เสี่ยหยวนเคยบอกกับฉินอวี่ไว้แล้ว ว่าตอนที่เขาสู้รบกับอันดับห้า อันดับหนึ่งก็เคยปรากฏตัวแล้ว และยังทำให้ตนเองถึงกับถอยออกไปอย่างตกตะลึง แต่ฉินอวี่ไม่นึกเลยว่าอันดับหนึ่งจะใตนเองจนถอยห่างออกไป
อันดับหนึ่งสามารถเข้าเป็อันดับหนึ่งในรายนามระดับสามัญ เขาจะต้องแข็งแกร่งกว่าอันดับห้าอย่างแน่นอน และคิดว่าอันดับหนึ่งก็คงดูออกว่าตนเองกำลังอยู่ใน่พัฒนาศักยภาพ เพียงแค่เผชิญหน้ากันหนหนึ่ง ใครแพ้หรือชนะยังไม่แน่นอน แต่อันดับหนึ่งกลับออกไปแล้ว เื่นี้จึงจะต้องคิดให้ดี
หลังจากครุ่นคิดอย่างรอบคอบอยู่ครู่หนึ่ง ฉินอวี่ก็เดาได้ว่าอันดับหนึ่งคงไม่้าเผชิญหน้ากับตนเองโดยตรง ประการแรกเป็เพราะอันดับหนึ่งประเมินพละกำลังของเขาสูงเกินไป ประการที่สองคือ... อันดับหนึ่งอาจไม่คิดจะสังหารตนเองแล้ว เมื่อคิดดูให้ดี การที่เขายังไว้ชีวิตตนเองเช่นนี้ จะต้องเกี่ยวข้องกับการเข้าสู่ชั้นที่เจ็ดของหอคอยขัดเกลา ไม่เช่นนั้น คนที่ตนเองพ่ายแพ้ก็คือน้องชายของตนเอง
เมื่อเข้าสู่หอขัดเกลาชั้นที่ห้า ฉินอวี่ก็คิดว่าอันดับหนึ่งคงมารอตนเองอยู่ที่ชั้นห้า ดังนั้น เมื่อเทียบกับความกังวลของเสี่ยหยวน ฉินอวี่ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้าน จนถึงขั้นคิดวางแผนซ้อนแผน ต้องไปยึดเอาเืหยาจื้อที่อยู่ในชั้นที่เจ็ดของหอขัดเกลา แต่สิ่งที่อันดับหนึ่งคาดไม่ถึงเลยคืออันดับหนึ่งได้พาตัวฉือเซียวและคนอื่นๆ มาด้วย เช่นนี้ตัวแปรก็จะยิ่งมีมากขึ้น
อันดับหนึ่งเริ่มเคลื่อนไหว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาพาตัวฉือเซียวและคนอื่นๆ มาที่นี่ก็เพื่อข่มขู่และควบคุมตนเอง แต่อันดับหนึ่งไม่รู้เลยว่า เขาทำเช่นนี้เป็การสิ้นเปลืองเวลาไปเปล่าๆ ในเมื่อฉินอวี่สามารถคาดเดาไว้แล้วว่าพวกเขาน่าจะมาเฝ้ารอที่นี่ และด้วยเพราะมีความมั่นใจจากเขา แม้ว่าพวกฉือเซียวจะมีตัวแปรที่เปลี่ยนแปลงไป แต่กลับทำให้ฉินอวี่วางใจมากขึ้น อย่างน้อยที่สุด... ฉือเซียว และฉู่เยว่ฉานก็ยังไม่ตาย ในบรรดาคนทั้งหมดในที่นี้ ฉินอวี่เป็กังวลและให้ความสนใจเพียงสองคนนี้เท่านั้น
บรรดาคนหนุ่มสาวของหยาจื้อสิบสามฝ่ายที่กำลังปิดล้อมพวกฉือเซียวทั้งเจ็ดคนอยู่นั้นต่างจ้องมองไปทางเสี่ยหยวนด้วยความโกรธ โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นสร้อยคอที่ทำจากกระดูกบนคอของเสี่ยหยวน ในดวงตาทั้งสองข้างก็เปล่งประกายแสงของความอาฆาตออกมาทันที จากนั้นจึงมีใครบางคนพูดขึ้นมา “เสี่ยหยวนทรยศตระกูลหยาจื้อ เขาไล่เข่นฆ่าคนของตระกูลเรา สมควรโดนลงโทษ! ฆ่าเขา!”
ในขณะที่ทุกคนกำลัง้าเข้าสังหารเสี่ยหยวนนั้น อันดับหนึ่งก็เอ่ยปากขึ้นมาทันที และพูดด้วยน้ำเสียงที่เ็า “ช้าก่อน!”
ยอดฝีมือวัยหนุ่มของหยาจื้อสิบสามฝ่ายต่างหยุดนิ่งทันที และทยอยหันกลับไปมองทางอันดับหนึ่ง
อันดับหนึ่งลุกขึ้นช้าๆ รูปลักษณ์ของเขาค่อนข้างคล้ายกับเ้าสิบเอ็ด แต่ใบหน้าดูคมชัดกว่า เผยให้เห็นความเย่อหยิ่งและเ็า เขาอยู่ในชุดคลุมสีทอง เหลือบสายตามองเสี่ยหยวนก่อนจะหันไปมองทางฉินอวี่ และค่อยๆ พูดขึ้นมา “เ้าสองคนยินดีจะไปยังชั้นที่เจ็ดของหอขัดเกลาร่วมกับพวกข้าหรือไม่?”
คนของหยาจื้อสิบสามฝ่ายต่างตกตะลึงในทันที แม้แต่คนทั้งสี่ที่อยู่ด้านข้างของอันดับหนึ่งต่างก็หันมองอันดับหนึ่งอย่างไม่อยากเชื่อ
อย่างไรก็ตาม อันดับหนึ่งเป็คนเงียบขรึมและดูเ็ามาโดยตลอด ด้วยพละกำลังและสถานะที่ภาคภูมิใจของผู้คนทำให้ศิษย์อัจฉริยะคนอื่นๆ ต่างไม่กล้าสนิทชิดใกล้มากนัก แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่า ครั้งนี้อันดับหนึ่งจะเอ่ยปากชักชวนพวกเขา ทำให้คนของหยาจื้อสิบสามฝ่ายต่างหันมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง โดยไม่อยากเชื่อหูตนเอง
หรือว่า... อันดับหนึ่งรอคอยอยู่ตรงนี้เป็เวลานาน ก็เพื่อรอบุคคลสองคนนี้?
เป็ไปไม่ได้! เป็ไปไม่ได้อย่างยิ่ง!
หากคนเหล่านี้ได้ดูการต่อสู้กับระหว่างฉินอวี่และอันดับห้า พวกเขาจะไม่ใกันถึงขนาดนี้แน่นอน
ไม่เพียงแต่คนของหยาจื้อสิบสามฝ่ายเท่านั้นที่ต้องตกตะลึง แม้แต่ฉือเซียว หยางเต้า และคนอื่นๆ ต่างไม่อยากเชื่อเช่นกัน ระยะเวลากว่าหนึ่งเดือนเศษ คนของหยาจื้อสิบสามฝ่ายไม่เคยจะพูดคุยกับพวกเขาเลยสักคำ หรือแม้ว่าพวกเขาทั้งเจ็ดคนจะพยายามพูดคุยด้วย คนของหยาจื้อสิบสามฝ่ายต่างทำเป็ไม่ได้ยิน
แต่ในตอนนี้ หัวหน้าผู้แข็งแกร่งของกลุ่มนี้ กลับเอ่ยปากเชื้อเชิญฉินอวี่และเสี่ยหยวน แล้วจะไม่ให้พวกเขาแปลกใจได้อย่างไร เพียงแต่ ท้ายที่สุดพวกเขาต่างก็คิดว่าเป็เพราะเสี่ยหยวน พวกเขาต่างคาดเดากันว่า ผู้เป็หัวหน้าคนนี้คงจะ้าเชิญเสี่ยหยวน จึงได้เชิญฉินอวี่ไปพร้อมกัน
เมื่อได้ยินคำพูดของอันดับหนึ่ง ในใจของเสี่ยหยวนก็เริ่มลังเล จิตใจของเขาเริ่มอ่อนไหว เขารู้ดีว่าการร่วมมือกับอันดับหนึ่งในการเข้าถึงชั้นที่เจ็ดนับเป็เื่ดี แต่เมื่อผ่านความยากลำบากเข้าสู่ชั้นที่เจ็ดได้แล้ว จะต้องเกิดศึกความเป็ความตายขึ้นอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้น โอกาสมีชีวิตรอดของพวกเขาก็คงจะเหลืออยู่เพียงน้อยนิด!
หลังจากลังเลอยู่ครู่ใหญ่ เสี่ยหยวนก็มองไปทางฉินอวี่อย่างมีนัยบางอย่าง
แต่คนที่ตั้งใจมองอยู่กลับมองเห็นความเคลื่อนไหวนี้ และแอบแปลกใจอยู่ในใจ ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงคนของหยาจื้อสิบสามฝ่ายและหยางเต้า!
ดวงตาของหยางเต้าเปล่งประกาย ก่อนหน้านี้เขาก็เป็เหมือนคนอื่นๆ ต่างคิดว่าอันดับหนึ่งเอ่ยปากเชิญเสี่ยหยวน แต่เมื่อมองเห็นสายตาที่ดูมีนัยบางอย่างของเสี่ยหยวนตอนมองไปทางฉินอวี่ หัวใจของหยางเต้าก็สั่นเล็กน้อย วานรยุทธ์กำลังรอฟังความเห็นของฉินอวี่หรือ?
เป็ไปได้หรือไม่ว่า ผู้นำกลุ่มเอ่ยปากเชิญเช่นนี้ หลักสำคัญเป็เพราะฉินอวี่ ไม่ใช่เพราะวานรยุทธ์ที่น่าเกลียดตัวนี้?
สีหน้าของหยางเต้าดูเหมือนจะเอาแน่เอานอนไม่ได้ ดูเหมือนว่าจะต้องเป็เช่นนี้แน่นอน และดูเหมือนเหตุผลที่ผู้นำกลุ่มได้พาพวกตนเองมาด้วย ก็คงเป็เพราะ้าควบคุมฉินอวี่ หรืออาจพูดได้ว่า... ชีวิตของทั้งเจ็ดคนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของฉินอวี่แล้ว
เมื่อคิดถึงเื่นี้ หยางเต้าก็หรี่ตาลงทันที และคาดเดาไว้ในใจ หรือยังมีอะไรบางอย่างที่ตนเองยังไม่เข้าใจ หัวหน้าผู้นี้มีพลังปราณที่แข็งแกร่งกว่าชายหนุ่มชุดคลุมสีแดงหลายสิบเท่า แม้ฉินอวี่จะเอาชนะชายหนุ่มชุดคลุมสีแดงได้ ก็ไม่น่าเป็ไปได้ที่เขาจะพยายามกักขังคนเจ็ดคนเอาไว้เพื่อกดดันฉินอวี่
ด้วยเหตุนี้ ในใจของหยางเต้าก็ได้ผลลัพธ์ที่เขารู้สึกเหลือเชื่อ อันดับหนึ่งผู้นี้ได้ยกให้ฉินอวี่คือยอดฝีมือระดับเดียวกับเขา มีเพียงเหตุผลนี้เท่านั้น ที่ดูเหมือนจะอธิบายทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
ฉือเซียว ฉู่เยว่ฉาน และคนอื่นๆ ก็สังเกตเห็นความผิดปกตินี้เช่นกัน และต่างมีการคาดเดาไปต่างๆ นานา
“อันดับหนึ่ง หรือเ้าคิดว่าคนนอกอย่างเขาสามารถเอาชนะเ้าสิบเอ็ดได้ ก็คงจะมีพละกำลังที่จะเข้าไปในชั้นที่เจ็ดร่วมกับพวกเราได้อย่างนั้นหรือ?” ชายหนุ่มร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างกายของอันดับหนึ่งได้พูดขึ้นพลางขมวดคิ้ว และมีเขาสีครามสองเขาอยู่บนหน้าผาก บนเขาเต็มไปด้วยลวดลายตามธรรมชาติอยู่อย่างแ่า
“อันดับสามพูดถูก อย่าว่าแต่คนนอกคนนี้เลย แม้จะเป็เสี่ยหยวน เขาคือคนทรยศเผ่าหยาจื้อ อีกทั้งยังเข่นฆ่าคนเผ่าหยาจื้อในหอคอยขัดเกลาอีก คนผู้นี้สมควรรับโทษตาย แล้วจะมีสิทธิ์อะไรเข้าไปกับพวกเรา?” อีกคนหนึ่งพูดขึ้นมา
อันดับหนึ่งไม่ให้ความสนใจต่อคำพูดของคนทั้งสอง สายตาจับจ้องไปทางฉินอวี่ ดูเหมือนกำลังรอคำตอบจากฉินอวี่
การกระทำในตอนนี้ทำให้คนของหยาจื้อสิบสามฝ่ายต่างตกตะลึงเป็อย่างยิ่ง อันดับหนึ่งกำลังรอคำตอบจากคนนอกคนหนึ่งอยู่จริงหรือ?
สิ่งที่น่าใไปกว่านั้นคือ ชายหนุ่มร่างผอมที่อยู่ถัดมาจากอันดับหนึ่ง เขาเป็คนที่เติบโตมาพร้อมกับอันดับหนึ่ง เขาจึงรู้จักนิสัยของอันดับหนึ่งเป็อย่างดี เขายังไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เขาไม่อาจจะเชื่อได้เลยคือ เขากำลังรู้สึกได้อย่างรางๆ ว่าอันดับหนึ่งกำลังเกรงกลัวคนนอกคนนี้เป็พิเศษ
ทำไมอันดับหนึ่งจะต้องเกรงกลัวคนนอกคนนี้ด้วย?
“อันดับหนึ่ง ช่วยให้คำอธิบายพวกข้าด้วย” ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งเอ่ยปากขึ้นมา
แต่คำพูดต่อมาของอันดับหนึ่ง ทำให้คนของหยาจื้อสิบสามฝ่ายใถึงกับหน้าถอดสี
“อันดับห้าตายแล้ว!”
“อะไรนะ?”
“อันดับห้าตายแล้วหรือ? ใครเป็คนฆ่าเขา?”
“ใครฆ่าอันดับห้า? เสี่ยหยวนหรือ? เป็ไปไม่ได้ พละกำลังของเขาไม่มีทางฆ่าอันดับห้าได้แน่นอน!”
หินก้อนเดียวก่อคลื่นนับพัน คำพูดเพียงประโยคสั้นๆ เปรียบเหมือนหินก้อนใหญ่ที่ถูกโยนลงบนทะเลสาบอันเงียบสงบ คนของหยาจื้อสิบสามฝ่ายต่างนั่งไม่ติด แม้แต่คนทั้งสี่คนที่อยู่ข้างกายอันดับหนึ่งต่างก็ใอย่างมาก และหันมองไปทางอันดับหนึ่งอย่างพร้อมเพรียง และเมื่อสังเกตเห็นสายตาของอันดับหนึ่ง ดวงตาของแต่ละคนก็กลมโต เผยให้เห็นถึงความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อ
“เ้า... เ้ากำลังจะบอกว่า คนป่วยกระเสาะกระแสะในขั้นเทียนชุ่ยชั้นที่สองเป็คนฆ่าอันดับห้าหรือ?”
“ใครฆ่าอันดับห้า?” ในเวลานี้ มีเสียงอันเกรี้ยวกราดดังขึ้น ค่ายกลนำส่งที่ฉินอวี่และเสี่ยหยวนกำลังยืนอยู่ก็ปรากฏแสงสว่างขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่จะมีเงาร่างปรากฏขึ้นในอากาศ
“อันดับสอง!” มีใครบางคนพูดขึ้น
“เขาเก็บตัวฝึกยุทธ์อยู่มิใช่หรือ?”
