ทุกคนหันมองไปที่จ้าวอิ้งเสวี่ย ทันใดนั้น ในที่สุดจ้าวอิ้งเสวี่ยก็เริ่มเคลื่อนไหว
ทุกคนเห็นเพียงนางกำลังค่อยๆ ยกมือขึ้น ครั้นผิงเอ๋อร์เห็นดังนั้น นางจึงตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง และรีบเร่งเข้าไปประคองตัวจ้าวอิ้งเสวี่ยทันที
จ้าวอิ้งเสวี่ยลุกขึ้น และเดินไปที่หนานกงเยวี่ยทีละก้าวๆ เสียงฝีเท้าทุกย่างก้าวของนาง ทำให้ผู้คนที่ได้ยินต้องรู้สึกหวาดผวา
แม้หนานกงเยวี่ยจะตั้งใจกระตุ้นจ้าวอิ้งเสวี่ย และเตรียมใจไว้ล่วงหน้าแล้วก็ตาม ทว่าตอนนี้ ยามที่นางมองเห็นจ้าวอิ้งเสวี่ยกำลังก้าวเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ในใจนางกลับรู้สึกคับแน่นขึ้นตามจังหวะก้าวเดินนั้น
“ท่านหญิงอิ้งเสวี่ย..."
เหนียนเย่าก้าวไปข้างหน้า ถ้าจ้าวอิ้งเสวี่ยฆ่าหนานกงเยวี่ยขึ้นมาเช่นนั้นจริง แม้ว่าจวนจิ้นอ๋องจะเป็คนรับผิดชอบเื่นี้ก็ตาม ทว่าเื่นี้เกิดขึ้นในจวนเหนียน ตระกูลหนานกงคงไล่สอบสวนที่นี่เป็แน่ จวนเหนียนของเขาคงยากจะหาความสงบ
ทว่าทันทีที่เขาเรียกนาง จ้าวอิ้งเสวี่ยกลับยกมือขึ้นจับคอของหนานกงเยวี่ยด้วยมือขวา และกดลงอย่างแรง เพราะใช้แรงกดลงไป ใบหน้าของจ้าวอิ้งเสวี่ยจึงยิ่งดูดุร้ายมากเสียจนทำให้ผู้คนหวาดกลัว
ผู้คนที่เฝ้ามองขยับถอยหลังไปทันทีตามสัญชาตญาณ
ความรู้สึกของพวกนางที่มีต่อจ้าวอิ้งเสวี่ยนั้นซับซ้อนมาก พวกนางหวาดกลัวใบหน้านั่น ทว่าในเวลาเดียวกันก็รู้สึกเห็นใจสตรีที่ถูกทำร้าย ได้แต่ทอดถอนใจอย่างเกลียดชังเหนียนเฉิง และทอดถอนใจต่อความโหดร้ายของหนานกงเยวี่ยผู้นี้
เพราะการตลบตะแลงของหนานกงเยวี่ยเมื่อครู่นี้ ทำให้จ้าวอิ้งเสวี่ยต้องถูกเผยใบหน้า เกรงว่านี่จะทำให้นางบ้าคลั่ง!
และในยามนี้ หนานกงเยวี่ยกำลังถูกจ้าวอิ้งเสวี่ยบีบคอ นางส่งเสียงสะอื้นไห้ แม้จะมีบ่าวรับใช้ของจวน เหนียนเย่าและฮูหยินผู้เฒ่าเหนียนเฝ้ามองอยู่ ทว่ามิมีผู้ใดกล้าเข้าไปห้ามเลยแม้แต่คนเดียว
"เ้า...จ้าวอิ้งเสวี่ย...ข้า..." หนานกงเยวี่ยรู้สึกเจ็บที่คอ จ้าวอิ้งเสวี่ย้าฆ่านางจริงหรือ?
แต่...
นางคิดถึงเื่ที่ตนเองสั่งให้อีหลานไปทำ ยามนี้แล้ว เหตุใดนางยังไม่กลับมาอีก?
หากนางยังไม่กลับมา เกรงว่าตัวนางจะต้องถูกจ้าวอิ้งเสวี่ยผู้นี้รัดคอจนตายเป็แน่แท้แล้ว!
ขณะที่นางกำลังคิด นอกห้องโถงพลันมีเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่งดังเข้ามา โดยเฉพาะเสียงของไม้เท้าที่ดังกระทบพื้น เสียงนั้นทำให้ในใจของหนานกงเยวี่ยรู้สึกดีใจเป็อย่างยิ่ง
มาแล้ว ในที่สุดก็มาแล้วใช่หรือไม่
เป็อย่างที่คิด เพียงชั่วพริบตาเดียว มีเสียงะโร้องลั่นด้วยความโมโหของฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงดังเข้ามาจากด้านนอกประตู...
"นี่...พวกเ้ากำลังทำอะไร?"
ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงเดินเข้าประตูมา โดยมีเหนียนอีหลานและหนานกงจื้อคอยประคอง ยามที่นางเดินเข้ามาแล้วเห็นหนานกงเยวี่ยกำลังถูกบีบคออยู่ นางรีบยกไม้เท้าขึ้นมาและจะตีมันลงไปบนมือที่กำลังบีบคอหนานกงเยวี่ย
ครั้นผู้คนในเหตุการณ์เห็นว่าไม้เท้ากำลังจะตีลงบนมือของจ้าวอิ้งเสวี่ย หัวใจของทุกคนพลันสั่นสะท้าน
มือของท่านหญิงอิ้งเสวี่ย เดิมทีก็มีาแอยู่แล้ว หากถูกตีเข้าละก็ เช่นนั้นคง...
ทันใดนั้นเหนียนเย่าก้าวเท้ายาวไปข้างหน้าโดยที่แทบจะไม่รู้ตัว ‘ปัง’ ไม้เท้าตีโดนหลังเหนียนเย่าเข้าอย่างจัง ความเ็ปแผ่ซ่านไปทั่ว ทว่าในใจเขากลับรู้สึกโล่งอก ยังดีที่เป็เขาที่เจ็บ หากตีโดนท่านหญิงอิ้งเสวี่ยละก็ คงเป็หายนะอย่างแน่นอน!
"ท่านแม่ ช่วยข้าด้วย..." หนานกงเยวี่ยร้องขอความช่วยเหลือ ท่าทีอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงของนาง ทำประหนึ่งว่าคอตนเองจะถูกตัดขาดในชั่วพริบตา
เสี้ยววินาทีที่เหนียนอีหลานเดินผ่านประตูเข้ามา นางเร่งฝีเท้าวิ่งเข้าไปหาหนานกงเยวี่ยทันที “ท่านแม่...ท่าน...”
เดิมทีเหนียนอีหลาน้าจะบอกให้จ้าวอิ้งเสวี่ยปล่อยมือ ทว่าเมื่อนางเงยหน้าขึ้นมา และเห็นใบหน้านั้นของจ้าวอิ้งเสวี่ย คำพูดที่อยากจะเอ่ยพลันกล้ำกลืนลงไปในท้องทันที
นาง...หน้านาง...
แท้จริงแล้ว ใบหน้าของจ้าวอิ้งเสวี่ยเสียโฉมร้ายแรงถึงเพียงนี้...
จ้าวอิ้งเสวี่ยชำเลืองมองเหนียนอีหลานอย่างราบเรียบ เมื่อเห็นความหวาดกลัวและประหลาดใจในดวงตาของจ้าวอิ้งเสวี่ย รวมถึงใบหน้าที่ซีดเผือด มุมปากของจ้าวอิ้งเสวี่ยพลันยิ้มเยาะ ไม่นานก็ยอมคลายมือที่บีบคอหนานกงเยวี่ยออก
“ท่านแม่ นาง...พวกนางคิดจะฆ่าข้า!” ครั้นหนานกงเยวี่ยเป็อิสระ นางเอนกายลงบนตัวของเหนียนอีหลาน ครั้นนางหันมองฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง นางก็เริ่มเอ่ยปากฟ้องขึ้นมาเป็อย่างแรก ทว่าเมื่อสายตาเห็นคนสองคนที่เดินตามเหนียนอีหลานและฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงเข้ามา ร่างกายนางพลันชะงักงั้นอย่างมิอาจห้ามได้
ท่านอ๋องหลี เหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
และยังมีสตรีอีกคนในชุดเรียบง่ายอีก นั่น...
นั่นมิใช่ไทเฮาหรอกหรือ?
แม้ว่าฉางไทเฮาจะดูเรียบง่ายแต่เข้าถึงยากนัก หลายปีมานี้ ยิ่งนางไปพักผ่อนอยู่ที่ชิงโหยวกว่านบนเขาฉีชาน ก็ยิ่งน้อยคนที่จะได้พบเจอฉางไทเฮา ทว่านางเคยพบไทเฮามาก่อน ฉะนั้นจึงยังจำรูปลักษณ์ของไทเฮาได้
แม้จะเรียบง่ายไปหน่อย ทว่าอย่างไรเสียฉางไทเฮาก็ยังคงเป็ฉางไทเฮา!
เดิมทีหนานกงเยวี่ยคิดจะรอให้ปัญหามันวุ่นวายก่อน แล้วจึงจะเข้าวังไปหาฮองเฮาให้ช่วยตัดสิน ทว่านึกไม่ถึงเลยว่า การไปเชื้อเชิญของอีหลานเพียงครั้งเดียว ไม่เพียงแต่จะพาท่านแม่มา ทว่ายังมีฉางไทเฮาและท่านอ๋องหลีมาด้วย
แม้ว่าคนสองคนนี้จะไม่มีอำนาจอะไร ทว่าแค่ฐานะของพวกเขาสองคนก็นับว่ามีประโยชน์แล้ว รออีกสักประเดี๋ยว ให้พวกเขามาเป็พยานให้นาง ดูจะมีน้ำหนักมากว่าผู้อื่นมาก
หนานกงเยวี่ยคิดคำนวณในใจ ทว่าภายนอกยังคงแสดงความหวาดกลัว อ่อนแรงและเ็ปต่อไปอย่างสุขุมเยือกเย็น
ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงปราดตามองจ้าวอิ้งเสวี่ย ใบหน้านั้นยังคงทำให้นางชะงักงันไปเล็กน้อย ทว่าเพียงชั่วครู่หนึ่ง นางก็กลับมาเป็ปกติดังเดิม ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงเบนสายตามองเหนียนเย่าและฮูหยินผู้เฒ่าเหนียนด้วยใบหน้าทะมึน ดวงตาลุกโชนราวคบเพลิง “พวกเ้าปล่อยให้คนพวกนี้มารังแกคนสกุลหนานกงของข้าได้อย่างไร”
ทุกถ้อยคำของฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงเต็มไปด้วยพลัง ท่าทีคำพูดที่ยกตนข่มท่านเช่นนั้นราวกับว่ามีติดตัวมาั้แ่เกิดก็มิปาน
เหนียนเย่าและฮูหยินผู้เฒ่าเหนียนรู้สึกกล้ำกลืนในใจ ยิ่งรู้ว่าเมื่อฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงมาถึง พวกเขาหวาดกลัวเหลือเกินว่าจะยิ่งทำให้สถานการณ์ต่างๆ ควบคุมได้ยากขึ้นกว่าเดิม
“ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง เมื่อครู่ท่านเข้าใจผิดแล้ว” ฮูหยินผู้เฒ่าเหนียนฝืนยกยิ้มประจบสอพลอ เื่ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ล้วนอยู่ในสายตานาง ผลสุดท้ายแล้วยากนักที่จะตัดสินว่าใครรังแกใคร
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของนางเห็นว่าต้องทำให้ทั้งสองฝ่ายสงบใจลงโดยเร็ว
ทว่าสิ่งนี้จะเป็เื่ง่ายได้อย่างไร
"เข้าใจผิดหรือ? เข้าใจผิดอะไร? ข้าเห็นกับตาตัวเองว่าลูกสาวข้าโดนบีบคอ ทำไม คิดจะพรากชีวิตลูกสาวของตระกูลหนานกงหรือ? หากผู้ใดกล้าคิดเช่นนั้นก็เอาชีวิตของยายแก่ผู้นี้ไปก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน”
ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงผู้มีพลังอำนาจล้นเหลือเทียมฟ้า เมื่ออยู่ต่อหน้าองค์หญิงใหญ่ชิงเหอ นางต้องเคารพนบน้อม มิกล้าทำตัวหยาบคายไร้มารยาท กลับกันแม้จวนจิ้นอ๋องจะสกุลจ้าวและเป็ราชนิกุล ทว่าก็เป็เพียงกิ่งก้านหนึ่ง คนอื่นกลัวเกรง แต่นางมิใช่
ในใจของทุกคนที่ได้ฟังคำพูดนี้พลันสั่นสะท้านอย่างอดมิได้ มิต้องเอ่ยถึงอำนาจของตระกูลหนานกงในแคว้นเป่ยฉีแห่งนี้เลย เพียงฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงผู้เดียว ก็เป็ถึงฮูหยินขั้นหนึ่งที่ได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้พระองค์ก่อนด้วยตัวเอง ชีวิตของนางงั้นหรือ? ผู้ใดจะกล้าเอาชีวิตของนาง
ทว่าจ้าวอิ้งเสวี่ยกลับมิเห็นนางในสายตา
จ้าวอิ้งเสวี่ยยืนอยู่ตรงนั้น มีจิ้นหวางเฟยคอยประคองอยู่ด้านข้าง เดิมทีในใจนางรู้สึกโกรธเกลียดจนต้องขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เมื่อครู่นี้ไฉนนางไม่บีบคอสัตว์เดียรัจฉานอย่างหนานกงเยวี่ยนั่นให้ตายไปเสีย
“ชีวิตของเ้าหรือ?” จ้าวอิ้งเสวี่ยพึมพำออกมาอย่างแ่เบา ความไม่พอใจในน้ำเสียงนั้น ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงที่ได้ยินพลันมีสีหน้ามืดมนยิ่งกว่าเดิม
ชีวิตของนางหรือ
ชีวิตของหนานกงเยวี่ย นางยังไม่้า ชีวิตของยายแก่ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเลย
จ้าวอิ้งเสวี่ยมองไปที่หนานกงเยวี่ย ท่าทีโศกเศร้าราวกับผู้บริสุทธิ์เช่นนั้น ประหนึ่งว่าตนเองถูกทำร้ายมาั้แ่ต้นจนจบก็มิปาน
หึ! ในใจจ้าวอิ้งเสวี่ยรู้สึกเย้ยหยัน ความเกลียดชังแผ่ซ่านในใจนาง นางกวาดสายตามองฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง รวมถึงพวกคนที่ตามนางมา...
ฉางไทเฮา...หลีอ๋องจ้าวเยี่ยน...
หึ คนพวกนี้คือผู้ที่จะมาช่วยนาง ‘หนานกงเยวี่ย’ หรือไร?
ผู้ที่จะมาช่วยยามวิกฤติ?
คนตระกูลนี้ทำร้ายนาง รังแกนาง วันนี้ยังเชิญคนในวังมาอีก พวกเขาคิดว่า ‘จ้าวอิ้งเสวี่ย’ จะยอมปล่อยให้พวกเขารังแกได้ง่ายๆ งั้นหรือ?