ในร่างกายหลงเหยียนหลอมไปด้วยเสี้ยวิญญาสามส่วน พร์ของหลงเหยียนก็สูงปานนี้แล้ว หากเขาสามารถรวบรวมิญญาัครบทั้งหมด ไม่รู้จริงๆ เลยว่าเขาจะแข็งแกร่งมากเพียงใด
ฉะนั้นบนเส้นทางที่ยาวไกลไม่สิ้นสุดเกรงว่าคงไม่มีผู้ใดเหนือกว่าหลงเหยียน คาดว่าถ้าเว่ยเวยรู้เื่นี้ ต่อให้เป็ผู้แข็งแกร่งระดับชีพเทพคงต้องอ้าปากค้างด้วยความใ
ในที่สุดเว่ยเวยก็กดเสียงต่ำถามหลงเหยียน “เหยียนเอ๋อ หากเ้าอยู่เพราะอยากได้เซียนหอมหมื่นลี้ เช่นนั้นให้ข้าอยู่ช่วยเ้าหรือไม่ อย่างไรเสียตระกูลเซียวก็มีสำนักมารอยู่แล้ว!”
หลงเหยียนพูดด้วยความไม่ลังเล “ข้าคิดว่า… ไม่ต้องดีกว่า ข้าไม่อยากถูกผู้อื่นมองว่าสำเร็จได้เพราะมีผู้อื่นคอยช่วย ข้าอยากยืนยันตัวเองด้วยพละกำลังของข้าเอง อีกเื่หนึ่ง ศึกชี้ชะตาในครั้งนี้ ต่อให้เป็ท่านปู่ก็ไม่อยากให้ท่านมาช่วย”
ดูเหมือนเว่ยเวยเห็นความกังวลในแววตาของเขาจึงพยักหน้า “ย่อมได้ เช่นนั้นข้าจะไปแล้ว จงจำไว้ ต้องรอดชีวิตแล้วมาหาข้าที่เมืองหยุนจง!”
หลงเหยียนพยักหน้า เขาหันหลังกลับ นึกไม่ถึงว่าการแยกจากกันครั้งนี้ทำให้หลงเหยียนรู้สึกปวดร้าวเล็กน้อย
ผู้าุโตระกูลหลงและผู้นำตระกูลเซียวเห็นตัวแทนจากตระกูลอู่ตี้กำลังจะกลับแล้วจึงยกมือคารวะเป็การส่ง “ขอให้ท่านเดินทางปลอดภัย!”
เว่ยเวยหันไปมองเซียวหยุนเหว่ยก่อนพูดด้วยเสียงที่เฉยเมย “ข้าไม่สนว่าเ้าเด็กหลงเหยียนนั่นมีเื่อะไรกับตระกูลเซียว อย่างไรเสียข้าก็้าให้ทุกอย่างราบรื่น เ้าเข้าใจความหมายข้าใช่หรือไม่ หากเ้ากล้าทำร้ายเขาแม้เพียงเล็กน้อย ข้าไม่ปล่อยพวกเ้าไปแน่”
เซียวหยุนเหว่ยรีบพยักหน้า ทว่าในใจกลับนึกแผนการชั่วร้าย
‘ถึงตอนนั้นคงไม่ใช่เื่ของเ้าแล้ว หากได้ต้นเซียนหอมหมื่นลี้มา อย่างน้อยตระกูลข้าก็มีผู้แข็งแกร่งระดับชีพเทพ ไยข้ายังต้องกลัวเ้าอีก? ทุกคนไม่ใช่เด็กแล้ว แค้นที่หลงเหยียนก่อ มีหรือที่เ้าจะบอกให้ปล่อยก็ต้องปล่อย?’ ทั้งหมดนี้เป็เพียงสิ่งที่เขานึกในใจเท่านั้น
จากนั้นสายตาของเขาก็เลื่อนไปบนตัวผู้าุโตระกูลหลง แววตาเปลี่ยนเป็ดุดัน “หลงกงฉู่ ความจริงต่อให้ข้าไม่พูดท่านก็น่าจะรู้ตัวตนข้าดีอยู่แล้ว กลิ่นอายของคนคือสิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนได้ แม้ท่านจะไม่เอ่ยถึงเลยจึงถือเป็การเคารพข้า ทว่าเื่ในวันนั้นข้ายังจำทุกอย่างได้ดี อย่างไรก็ดี เพื่อหลงเหยียน ข้าจึงไม่อยากสืบสาวเอาเื่ หากชีวิตหลงเหยียนต้องสูญสิ้น ข้าจะฆ่าล้างตระกูลหลงของท่านเช่นกัน”
เมื่อเว่ยเวยพูดจบนางก็กลับหลังหัน ทะยานตัวขึ้นพร้อมผู้ติดตามทั้งสี่คน…
ผู้าุโแห่งตระกูลหลงชะงักไป ยืนอยู่บนเวที เวลาผ่านไปนานทว่าในใจก็ไม่อาจนิ่งลงได้
“สุดท้ายแล้วนางก็ยังจำเื่ในวันนั้นได้!”
ทุกคนมองเว่ยเวยจากไป ทันใดนั้น แรงกดมหาศาลบนตัวก็ลดน้อยลงไปมาก ทุกคนถอนหายใจ ส่วนหลงเหยียนมองแผ่นป้ายในมือ ในใจเริ่มจินตนาการถึงชีวิตในเมืองหยุนจงหลังจากนี้ ไม่แน่เขาอาจเจอความวุ่นวายที่มากกว่าตอนนี้…
อย่างไรเสีย เพื่อหลงหลิงแล้ว หลงเหยียนจำต้องก้าวเข้าสู่เส้นทางนั้น เขาต้องชิงเซียนหอมหมื่นลี้มาให้ได้ เพื่อความแข็งแกร่งของตระกูล เช่นนั้นเขาถึงวางใจจากไป มีเวลาเพียงสิบห้าวันเท่านั้น หลงเหยียนลองคำนวณเวลา…
คำพูดที่เว่ยเวยบอกกับผู้าุโแห่งตระกูลหลง แม้ดูเหมือนเป็การข่มขู่ ทว่าหลงเหยียนก็ยิ่งมั่นใจว่านางคือมารดาของตน ดูเหมือนนางยังคงให้ความสำคัญตนมาก
‘ท่านแม่ วางใจเถิด ลูกต้องไปหาท่านให้ได้ ทว่าเพราะเื่ในตระกูลข้าจึงจำต้องอยู่ที่นี่ก่อน’
เขานึกในใจ จากนั้นก็มองไปทางผู้นำตระกูลเซียว เซียวหยุนเหว่ย เื่ใกล้จบลงแล้ว เหล่ามหาอำนาจอื่นๆ และผู้ฝึกยุทธ์ที่มุงดูกำลังแยกย้าย
ยามนี้เซียวหยุนเหว่ยยืนอยู่ตรงหน้าผู้าุโตระกูลหลง เซียวเหลิงเอ้าและเซียวมั่วเหยียนที่อยู่ด้านล่างพุ่งขึ้นมา หลงอี หลงห่าวเทียน และคนอื่นๆ ก็รีบพุ่งเข้ามาข้างกายผู้าุโทันที
ตอนนี้ทุกคนยืนจ้องกันแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน
ทุกคนแตกตื่นกันอีกครั้ง… “อะไรกัน? หรือว่าพวกเขาสองตระกูลยังไม่ยอมรามืออีก เหมือนมีเื่สนุกๆ ดูอีกแล้ว” ผู้ฝึกยุทธ์รอบๆ ล้อมเข้ามาอีกครั้ง
เมื่อก่อน พวกเขาสองตระกูลแสดงออกเหมือนดีต่อกัน ตอนนี้กลับมาถึงขั้นไม่ยอมร่วมโลก ตระกูลเซียวเพียงสามคนเท่านั้น อย่างไรเสีย จะประเมินพละกำลังของพวกเขาต่ำไปไม่ได้ รังสีพลังทะลุทะลวง แววตาเต็มไปด้วยความโมโห ในเมื่อเซียวกงเป้าตายไปเช่นนี้ คนรุ่นถัดไปของตระกูลเซียวถูกหลงเหยียนทำร้ายไปหลายคน แค้นนี้ไม่มีทางมลายหายไปได้ง่ายๆ
“เซียวหยุนเหว่ย เ้ายังไม่ยอมจบอีกหรือ? เช่นนั้นวันนี้ข้าจะลากคนตระกูลเซียวมาอยู่ในจวนตระกูลหลงไปชั่วกาลเลยดีหรือไม่?” ผู้าุโกู่ร้องคำราม จากนั้นลูกหลานตระกูลหลงก็ล้อมกันเข้ามา มองเซียวหยุนเหว่ยกับพรรคพวกด้วยสายตาเกลียดชัง
เซียวหยุนเหว่ยยืนอยู่ต่อหน้าคนทั้งตระกูลหลง ไร้ซึ่งความกลัว เขาแหงนหน้าหัวเราะเสียงดัง “คาดว่าเว่ยเวยคงไปไกลแล้ว ทว่าวันที่ตระกูลเ้าจะล่มก็เหลืออีกไม่นาน พวกเ้ารอก่อนเถอะ มากสุดอีกสองวัน ข้าจะทำให้ตระกูลหลงหายไปจากเมืองั โดยเฉพาะเ้าเด็กบ้านั่น”
จากนั้นเซียวหยุนเหว่ยก็ยกมือชี้ไปทางหลงเหยียนที่ยืนอยู่ด้านหลังหลงอี
หลงเหยียนหัวเราะพลางส่ายศีรษะไปมา เดินมาด้านหน้าพร้อมปรบมือเสียงดัง
“ไม่เลวเลยจริงๆ ผู้นำเซียว ต่อหน้าคนตระกูลหลงนับร้อย พวกเ้ามีกันแค่สามคนยังกล้าอวดดีเช่นนี้อีก แกร่งเหลือเกิน ไม่แปลกใจเลยที่ตอนนั้นตาแก่เซียวให้เ้ามาเป็ผู้นำตระกูล ข้านับถือในความกล้า ลองมองเซียวเหลิงเอ้าข้างเ้าสิ ฮ่าๆๆๆๆ เขามันเป็แค่คนไร้ค่า! ข้าหลงเหยียนจำต้องนับถือพร์ของคนตระกูลเซียวจริงๆ”
“พวกเ้ายังไม่ยอมกลับเพราะอยากสู้กันต่อหรืออย่างไร ไสหัวไปเดี๋ยวนี้ นับแต่วันนี้ไป พวกเ้าไม่คู่ควรมายังตระกูลหลงของข้า ไสหัวไป…” หลงเหยียนยื่นมือชี้ไปด้านนอกประตูพร้ะโกนเสียงดัง รังสีกระจายไปทั่ว ไม่เพียงแค่ระบายอารมณ์คนทั้งตระกูล ทว่าผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่รอบๆ ก็โลหิตพลุ่งพล่านเช่นกัน
ทันใดนั้นบนท้องฟ้าปรากฏระลอกสีโลหิตกระจายมาปกคลุมสนามฝึกยุทธ์ของตระกูลหลง ศิษย์สำนักมารที่เมื่อครู่หายตัวไปนั้นปรากฏแล้ว มือหนึ่งสร้างผนึกก่อนพลังจะร่วงลงมากลางจวนตระกูลหลง หากไม่ใช่เพราะผู้าุโตระกูลหลงที่มีพลังขั้นเก้าสูงสุดรับไว้ เกรงว่าะเิพลังเมื่อครู่คงล้มทุกคนในตระกูลหลงแล้ว
ตระกูลหลงและตระกูลเซียวแยกออกเป็สองฝั่ง เขาค่อยๆ โรยตัวลงมา รังสีพลังมหาศาลกระจายออกไปปกคลุมทุกคนที่อยู่รอบๆ
การปรากฏตัวของเขาทำให้ทุกคนกระตุกวูบ โดยเฉพาะผู้าุโแห่งตระกูลหลง เพราะเขาััได้ถึงพลังอันน่ากลัวอย่างเปรียบไม่ได้ของศิษย์สำนักมาร นึกไม่ถึงว่าเขาจะมีพละกำลังแกร่งเพียงนี้ ฝ่ามือเมื่อครู่ทำเอาผู้าุโเซถอยหลังไปสามก้าว
มันเป็สัญญาณอะไร? หากรวบรวมพละกำลังทั้งหมดแล้วโจมตีในครั้งเดียว เกรงว่าผู้าุโคงรับไม่ไหว เวลานี้ผู้าุโตกตะลึงอย่างยิ่ง โลหิตเดือดพล่านไปทั่วตัว เขาเก็บความใไว้ ยังคงยืดตัวตรงมองศิษย์สำนักมารที่ลึกลับ
“ท่านพ่อ! ท่านไม่เป็ไรใช่หรือไม่!” หลงอีและคนอื่นๆ รีบจับผู้าุโด้วยความใ
หลงเหยียนใหน้าถอดสี ขณะที่กำลังมองคนโรยตัวลงมาบนลานฝึกยุทธ์ เขาออกแรงที่มือ จากนั้นก็ปรากฏหลุมดำดูดหลงเหยียนเข้าไปในชั่วพริบตา ิญญาัที่อยู่ภายในร่างกายหลงเหยียนส่งเสียงคำรามอย่างต่อเนื่องคล้ายอยากพุ่งออกจากร่างเขา ทว่าหลงเหยียนที่อยู่ในมือชายผู้นั้นกลับไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน
‘นี่มัน นี่มันยอดฝีมือระดับชีพเทพงั้นหรือ?’ ความคิดแรกผุดเข้ามาในหัวหลงเหยียน
ผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหมดใก้าวถอยหลัง มองคนที่ปรากฏตัวด้วยสายตาหวาดกลัว
--------------------