เจียงเฉิงเยว่มองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มเ็า “ไม่ได้พบกันนาน? คำพูดนี้ช่างพิลึก ทำไมในความประทับใจของข้า ถึงจำคนรู้จักเก่าแก่อย่างใต้เท้าเช่นนี้ไม่ได้?”
เจียงเฉิงเยว่โกหก ความเป็จริงแล้วแม้ว่าจะมีวาสนาได้พบกันเพียงครั้งหนึ่งกับคนตรงหน้า แต่ก่อนที่จะพบก็รับรู้ถึงการมีอยู่ ไม่เพียงแค่รู้ แต่ความประทับใจยังลึกซึ้งเป็อย่างยิ่ง
โยวหยวน เ้าเมืองยวนโส่วแห่งปรโลกผู้นี้ ยามแรกเมื่อฉิงชางจวินมีอิทธิพลยิ่งใหญ่ราวกับพระอาทิตย์กลางนภาในปรโลก กระทั่งมีอำนาจในการสั่งการาาผีน้อยใหญ่ อีกฝ่ายเป็หนึ่งในาาผีชั้นผู้น้อยซึ่งลุกขึ้นต่อต้านภายใต้แรงกดดันอย่างหาได้ยากนัก กล่าวได้ว่าเป็หนามที่ดำรงอยู่สำหรับฉิงชางจวิน ประการที่สองที่อีกฝ่ายสร้างความประทับใจให้กับเจียงเฉิงเยว่อย่างลึกซึ้งคือ โยวหยวนผ่านนรกทั้งสิบแปดขุมในปรโลก เช่นเดียวกับตนเอง!
หากิญญาอาฆาตที่บาปหนาเข้ามาในปรโลก ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกลงโทษให้ผ่านนรกทั้งสิบแปดขุมรอบหนึ่ง หลังจากชำระบาปที่ติดตัวมาจึงสามารถกลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้งอย่างสะอาดบริสุทธิ์ พวกเขาในเวลานี้ไม่มีกายเนื้อแล้ว การลงโทษที่น่าสยดสยองอย่างการควักไส้ดึงลิ้นหรือใช้รถฉีกกระชากตรึงไว้กับไม้เ่าั้ สุดท้ายแล้วล้วนเป็ภาพมายาที่สร้างขึ้นในจิตใต้สำนึก เพื่อให้ผู้ถูกลงโทษสามารถถูกลงโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทุกวัน ราวกับว่าจะไม่ได้เห็นแสงสว่างตลอดไป และอยู่ในความเ็ปอย่างลึกซึ้งโดยไม่มีทางปลดปล่อยตนเองจากความความสิ้นหวังและความหวาดผวา
สำหรับาาผีแห่งปรโลกส่วนใหญ่เกิดจากิญญาที่ดุร้าย ซึ่งรวบรวมพลังแห่งความอาฆาตแค้นอย่างต่อเนื่องควบรวมเป็ตัวตนเพื่อมอบพลังจนเป็รูปร่าง อารมณ์ของความเ็ปและความกลัวที่รุนแรงจะกลายเป็พลังแห่งความอาฆาตแค้นโดยให้แหล่งพลังงานที่ดียิ่ง ดังนั้น การที่ร่างถูกทรมานในปรโลก ิญญาจะถูกหลอมทุกวี่วัน แต่กลับกลายเป็หนึ่งในวิธีการฝึกฝนที่รุนแรงของาาผีในปรโลกบางตนที่ชอบเสี่ยงอันตราย ราวกับเป็ด่านอย่างไรอย่างนั้น แน่นอนว่าเป็เหตุผลเดียวกับความเสี่ยงในการลงทุน และการกระทำนี้มีข้อเสียมากมาย จุดที่อันตรายถึงชีวิตมากที่สุดคือหากทนไม่ไหว อาจมีความเป็ไปได้มากว่าจะจบลงด้วยการที่ิญญาแตกสลาย
ก่อนหน้าโยวหยวน เจียงเฉิงเยว่เป็เพียงคนเดียวที่ทะลวงผ่านทั้งสิบแปดด่านรวดและได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีพลังิญญาไร้ขอบเขต จนถึงตอนนี้ เขาได้กลายเป็าาผีที่มีชื่อเสียงในสามโลก พลิกสถานการณ์ของหนึ่งในสองาาผีผู้ยิ่งใหญ่แห่งปรโลกมาแล้ว
แม้ว่าฉิงชางจวินไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับพอใจยิ่ง จนกระทั่งการปรากฏตัวของโยวหยวนได้ทำลายสถิติที่เขารักษาไว้ เช่นนี้แล้วเขาจะไม่รู้จักอีกฝ่ายได้อย่างไร? การจงใจบอกว่าไม่รู้จักกัน แน่นอนเพียงเพื่อยั่วยุอีกฝ่าย ทว่าเขาพูดในเชิงเหยียดหยาม อีกฝ่ายกลับไม่หงุดหงิดแม้แต่น้อย ยังคงยิ้มอย่างงดงามแล้วตอบกลับ “ผู้น้อยคิดไม่ถึงจริงเชียว...ว่าจะได้พบฉิงชางจวิน ผู้ที่มีข่าวลือว่าถูก์ลงมาจัดการแยกิญญาหลังจากการปิดล้อมเมืองยงเมื่อหลายสิบปีก่อน เฮอะ ‘เข่นฆ่าเมืองและทำลายประเทศ’ การลงมือของฉิงชางจวินนั้นเป็ที่ประจักษ์อย่างที่คาดไว้เสียจริง ช่างชวนให้คนเลื่อมใส เพียงไม่คาดคิดว่า...หลังจากเข่นฆ่าเมืองและทำลายประเทศแล้ว ‘สองผู้ยิ่งใหญ่แห่งปรโลก’ ที่หยิ่งผยองเมื่อปีนั้นจะมีวันที่สามารถตกต่ำลงจนถึงเพียงนี้? การอาศัยอยู่ในร่างของมนุษย์ธรรมดาเพื่อความอยู่รอดกลับชวนให้ทอดถอนใจจริงเชียว”
ฮึ่ม ภายหลังแทงคนไม่สำเร็จ กลับถูกแทงทะลุก้นบึ้งหัวใจแทน เจียงเฉิงเยว่อดโกรธจนหน้าเปลี่ยนเป็สีเขียวไม่ได้ ถึงอย่างนั้น ฉิงชางจวินในตอนนี้มีอายุขัยเกือบสองร้อยปี จึงไม่ถึงขั้นอารมณ์เสียในทันที หลังจากมองข้ามเื่นี้แล้วมองไปโดยรอบ เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้มหยัน “หากพูดเช่นนี้...าาผีผู้ทำสัญญาเื้ัของ ‘คำสาปร้อยผีกลืนใจ’ นี้คือใต้เท้าหรือ?
โยวหยวนยิ้มโดยไม่พูดอะไร
เจียงเฉิงเยว่เอ่ยอย่างเ็า “คำสาปเช่นนี้ขัดต่อกฎ์ ใต้เท้าไม่กลัวว่า์จะลงมาสืบสวน ลงเอยเหมือนกับข้าอย่างนั้นหรือ?”
โยวหยวนหัวเราะแล้วกล่าว “เื่นี้ไม่รบกวนให้ฉิงชางจวินต้องเป็กังวลหรอก นอกจากนี้ มีฉิงชางจวินเป็ ‘มุกกับหยกก่อนหน้า1 ’ สังหารคนนับหมื่นในคราวเดียว กล้าที่จะนำเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาไปเผชิญหน้ากับเซียนจวินแห่งแดน์มากมาย นับเป็การต่อสู้ที่ดุเดือด หากเทียบกันแล้ว ข้าแค่รับิญญาของมนุษย์เล็กน้อย จึงไม่นับว่าเป็อาชญากรรมครั้งใหญ่อะไร ใช่หรือไม่?”
เจียงเฉิงเยว่ตอบกลับ “โอ้ เ้าก็พึ่งพาวิธีการนี้ในการบ่มเพาะหรือ รู้วิธีเล่นกลจริงเชียว ไม่แปลกใจที่จะมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ อิิทธิพลขยายตัวรวดเร็วยิ่ง ช่างเป็คนรุ่นหลังที่น่าเกรงขามจริงเชียว”
เมื่อครู่เขาแสร้งว่าต่อหน้าทำเป็ไม่รู้จัก ยามนี้เขาเปิดเผยออกมาทันที แน่นอนว่าโยวหยวนไม่สนใจความผิดพลาดหรือความขัดแย้งก่อนหน้านี้ เอ่ยด้วยรอยยิ้มเ็า “บ่มเพาะอย่างไรมา...สำคัญเช่นนั้นจริงหรือ? ฉิงชางจวินกับท่านนั้นแห่งเมืองจู้ยงมีชื่อเสียงมาเป็เวลานานย่อมโดดเด่นพอแล้วไม่ใช่หรือไร? การหลีกทางให้กับเหล่าคนรุ่นหลังในเวลาที่เหมาะสมก็เป็คุณธรรมที่ดี”
หลังจากเจียงเฉิงเยว่ได้ยินก็หัวเราะเสียงเย็น
โยวหยวนพูดอีกครั้ง “ฉิงชางจวิน ไม่สู้เอาิญญาของคนผู้นี้ออกมาอย่างเชื่อฟัง...อาจสะดวกต่อทุกฝ่ายกระมัง?”
เจียงเฉิงเยว่หัวเราะเยาะ “หากข้าบอกว่า ‘ไม่’ เล่า?”
โยวหยวนอธิบาย “นี่นับเป็การหาความลำบากให้ตนเองกระมัง? หลังจากการต่อสู้ที่เมืองยง แม้ว่าท่านจะไม่เคยถูกแดน์แยกิญญาตามข่าวลือจริง แต่ท่านนั้นในวังเสวียนิก็ปิดกั้นข้อมูลของท่านจากทั้งสามโลกอย่างสิ้นเชิง...และในเมื่อฉิงชางจวินสามารถปรากฏตัวที่นี่ได้ ด้วยนิสัยที่ซื่อตรงของท่านผู้นั้นในวังเสวียนิ แม้ว่าเขาจะมีใจลำเอียง...ฉิงชางจวินก็จ่ายราคาที่สอดคล้องกันสำหรับการต่อสู้ในเมืองยงไปแล้ว...ไม่ว่าราคานี้เป็รูปธรรมอย่างไร โดยธรรมชาติแล้วย่อมสมน้ำสมเนื้อกับ ‘เข่นฆ่าเมืองและทำลายประเทศ’ สี่ตัวอักษรที่เผยความเผด็จการยิ่ง มิฉะนั้นเขากับ์คงมิอาจอธิบายกันได้ ด้วยเหตุนี้ยามนี้ท่านฉิงชางจวินคงไม่สามารถรุ่งเรืองเฉกเช่นในอดีตได้อีก”
หลังจากเจียงเฉิงเยว่ได้ยินคำพูดนั้นก็หัวเราะเยาะ “โอ้ หลังจากที่เ้าคาดคะเนแล้ว...คิดว่าข้าในตอนนี้ไม่สามารถเอาชนะเ้าได้หรือ? เช่นนี้จึงได้มาที่นี่ด้วยความพึงพอใจเพื่อยั่วยุผู้าุโอย่างข้า?”
โยวหยวนหัวเราะเสียงเบา
เขากับเจียงเฉิงเยว่ไม่เคยต่อสู้กันมาก่อน ในอดีตเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจียงเฉิงเยว่ การพบกันเพียงครั้งเดียว ปีกของเขาถูกตัดจำต้องกลับมา2 นับได้ว่าหนีหัวซุกหัวซุน และยังเกือบถูกเจียงเฉิงเยว่นำตนเองกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่อิทธิพลเริ่มมากขึ้นรัดคอตายในเปลด้วยกัน ผู้าุโ ถึงอย่างไรย่อมเป็ผู้าุโ!
เวลานี้ที่เจียงเฉิงเยว่กล่าวถึงเื่นั้นอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่า้าเหน็บแนม แต่โยวหยวนไม่ได้หลงกลเขา ทั้งยังไม่โกรธเคือง กลับยิ้มเย้ยหยัน “ฉิงชางจวิน สามสิบปีทางตะวันออกของแม่น้ำ กับสามสิบปีทางตะวันตกของแม่น้ำ...ท่านไม่จำเป็ต้องนำถ้อยคำเหล่านี้มากระตุ้นข้า ฮวงจุ้ยนั้นผลัดกันมาแต่ไหนแต่ไร เมื่อตกอับแล้วก็ต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับโชคชะตา! ข้าเกลี้ยกล่อมให้ท่านเป็คนเชื่องๆ เสียแต่ตรงนี้จะดีกว่า”
เจียงเฉิงเยว่กัดฟันเพื่อระงับโทสะที่พลุ่งพล่าน จากนั้นหายใจเข้าลึกๆ “เ้าเมืองยวนโส่ว เหตุใดถึงตัดสินว่าเ้าในตอนนี้มีอำนาจเหนือกว่า? น่าจะเคยได้ยินคำว่า ‘อูฐที่ผอมตายยังตัวใหญ่กว่าม้า3 ’ กระมัง”
ราวกับว่าโยวหยวนได้ยินเื่ที่น่าขบขันมากจึงหัวเราะไม่หยุด เอ่ยเหน็บแนมเช่นกัน “ช่างเสแสร้งจริงเชียว หากฉิงชางจวินยอมเป็ที่สอง ในสามโลกคงไม่มีใครกล้าเป็ที่หนึ่ง ว่าก็ว่าเถอะ จากที่ได้เห็นการต่อสู้ที่แท้จริงมาก่อน อิงตามนิสัยที่รุนแรงก่อนหน้านี้ของท่าน หากคิดว่าจะเอาชนะข้าได้จริงๆ คงจะลงมือไปนานแล้ว ไหนเลยจะยังปะทะฝีปากกับข้าจนถึงตอนนี้?”
เจียงเฉิงเยว่ถูกดักทางจนพูดไม่ออก กลับไม่คิดว่าคนผู้นี้จะรู้จักเขาดีเช่นนี้ แน่นอนว่าฝีปากเขาไม่สามารถปล่อยไปได้ เขาพูดอีกครั้ง “เ้ารู้ได้อย่างไร...อาจเป็เพราะข้าแค่ไม่้าทำร้ายเหล่ามนุษย์ที่อยู่แถวนี้ก็ได้กระมัง?” เขายิ้ม จากนั้นหันศีรษะช้าๆ มองไปยังทิศทางหนึ่งอย่างแม่นยำพลางะโเสียงดัง “ใช่หรือไม่น้องสาม? ถึงอย่างไรก็เป็พี่น้องกัน...เสด็จพี่อย่างข้าย่อมทนไม่ได้ที่จะเห็นิญญาของเ้าแตกสลายไปกับภูตผีภายใต้แรงกดดันิญญาของข้าเช่นนี้”
บริเวณมุมทางเดินด้านข้างของวัดเสวียนชาง ในความมืดมีเงาร่างหนึ่งสว่างวาบออกมา เป็หลี่อวิ๋นอี้อย่างที่คาดไว้
ใบหน้าของอีกฝ่ายขาวซีดอยู่บ้าง มองมายังทิศทางของโยวหยวนอย่างประหม่า เมื่อเห็นาาผีผู้ทำสัญญาเหลือบมองแวบหนึ่งอย่างเฉยชา จึงค่อยสงบสติอารมณ์แล้วกล่าว “ฉิงชางจวิน เ้าครอบครอบร่างของเสด็จพี่ ยามนี้ยังกล้าพูดจาใหญ่โตอย่างไม่ละอายใจอีกหรือ?”
เจียงเฉิงเยว่หัวเราะอย่างหนัก มองดูอีกฝ่ายแล้วเอ่ยอย่างเ็า “เ้ายังกล้าดีเรียกเขาว่า ‘เสด็จพี่’ ในยามนี้อีกหรือ? เท่าที่ข้ารู้ หลี่อวิ๋นเฉินไม่ได้ทำอะไรผิดต่อเ้า เ้าปฏิบัติกับเขาด้วยการร่ายคำสาปชั่วร้ายเช่นนี้ เพียงเพราะเขาขวางทางเ้าหรือไร?”
หลี่อวิ๋นอี้กล่าวอย่างเ็า “หากปรารถนาที่จะบรรลุสิ่งที่ยิ่งใหญ่ก็ไม่จำเป็ต้องสนใจสิ่งเล็กน้อย...เสด็จพ่อทรงมีใจเอนเอียง ่หลายปีนี้นอกจากคนขี้โรคผู้นี้แล้ว เคยมองตรงมาที่พวกเราทั้งหมดเมื่อไรกัน? ดังที่เรียกว่า เมื่อถึงที่สุดแล้วก็ต้องพลิกกลับด้าน หลี่อวิ๋นเฉินเกิดมาโดยไม่จำเป็ต้องทำอะไรกลับมีเกียรติยศสูงสุด ตอนนี้ควรถึงคราวที่เขาต้องจ่ายค่าตอบแทนสักเล็กน้อยแล้วไม่ใช่หรือไร?”
เจียงเฉิงเยว่ตอบกลับ “ิญญาแตกสลาย...พูดไม่ได้ว่าค่าตอบแทนไม่สูง”
หลี่อวิ๋นอี้กล่าวต่อ “เสด็จพ่อทรงโปรดปรานจนทำให้เขานิสัยเสีย เสด็จพี่ของข้าเป็คนไม่ได้เื่ ไม่มีความทะเยอทะยาน...จะคู่ควรกับการรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ได้อย่างไร? หากเขาได้นั่งในตำแหน่งนั้นจริง นี่จะเป็หายนะต่อประเทศชาติและประชาชน”
เจียงเฉิงเยว่ยิ้มเยาะ “โอ้? กลับดูไม่ออกเลยว่าเ้ามีใจห่วงใยใต้หล้าเช่นนี้?”
หลี่อวิ๋นอี้คร้านจะสนใจการเยาะเย้ยของเขาผู้ไม่เกี่ยวข้องและเป็คนนอก เพียงกล่าว “ล้วนไม่มีความเกี่ยวข้องกับฉิงชางจวิน...เหตุใดฉิงชางจวินจึงต้องลงไปในน้ำโคลนด้วย?”
เจียงเฉิงเยว่มองด้านหลังแล้วเอ่ยต่อ “ข้าเข้ามายุ่งเกี่ยวแล้ว อาศัยพวกเ้าที่มั่นใจเต็มเปี่ยมเช่นนี้ คิดว่าจะสามารถเอาดวงิญญาของเสด็จพี่ของเ้าไปจากมือข้าได้อย่างนั้นหรือ?”
หลังจากหลี่อวิ๋นอี้เห็นว่าเขารับรู้ได้จึงไม่หลบซ่อนอีกต่อไป เขาโบกมือไปที่ด้านหลัง ทันใดนั้นวัดเทียนจวินแห่งนี้กลับถูกมือธนูในชุดลำลองอย่างชุดจิ้นจวง4 ล้อมรอบอย่างแน่นขนัด ทั้งบนผนังและหลังคาล้วนมีผู้ถือคันธนูพร้อมดึงสายธนูอย่างเต็มแรง โดยที่ปลายลูกศรชี้มาที่เขา
หลังจากนั้น ชายวัยกลางคนผู้มีท่าทางราวกับผู้บัญชาการทหาร เข้าไปประสานมือที่ด้านหลังของหลี่อวิ๋นอี้พลางกล่าว “ฝ่าา ทุกคนประจำที่แล้ว”
เจียงเฉิงเยว่มองไปยังกลุ่มมือธนูในชุดลำลอง ทันใดนั้นพลันรู้สึกว่าเครื่องแบบบนร่างของพวกเขานั้นดูคุ้นตานัก จึงนึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านี้บนถนน มีคนจำนวนหนึ่งควบม้าจนเกือบจะชนเขากับหลี่อวิ๋นหังซึ่งสวมเสื้อผ้าเช่นนี้ เขายังแปลกใจอยู่เลยว่าในเมืองเล็กเช่นนี้จะควบม้ามาทำอะไร เดิมทีนั่นคือการไล่ล่าเอาชีวิตเขา! น่าเสียดายนักที่เขากับหลี่อวิ๋นหังกำลังอ้อร้อกันอยู่...จะไปมีความคิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วนได้อย่างไร
เมื่อนึกถึงตรงนี้เจียงเฉิงเยว่พลันหนาวสะท้าน บอกในใจว่าตนเองน่าจะ ‘เสียสติเพราะความงาม’ ไปแล้วกระมัง?
อายุปูนนี้แล้วแต่ยังไม่เคยรู้จักรสชาติของความรัก เมื่อใจเต้นถึงได้รู้ว่าตนเองไม่ต่างอะไรกับทรราชที่โง่เขลาและทำลายประเทศเ่าั้ หากเป็ปกติทำไมเขาจะสังเกตความแปลกประหลาดเล็กน้อยหล่านี้ไม่ออก เพราะเหตุใดราชรถที่ลำเลียงองค์ชายสองพระองค์ถึงเพลาหักกลางทางได้...เดิมทีั้แ่เริ่ม ทั้งสองคนได้เข้ามาอยู่ในกับดักที่วางไว้เรียบร้อยแล้ว ช่างน่าเสียดายที่ในสายตาของตนล้วนมีแต่ความตื่นเต้นที่ได้กลับมาคืนดีกับหลี่อวิ๋นหังอยู่ตลอดทาง เดิมทีไม่ได้แบ่งใจไปคิดเื่อื่นเลย...หากในวันนี้ข้าล้มที่นี่จริง เช่นนี้ก็นับได้ว่าขายหน้าไปทั่วทั้งสามโลกแล้ว!
เจียงเฉิงเยว่แสร้งทำเป็สงบแล้วพูดด้วยรอยยิ้มงดงาม “อึกทึกครึกโครมเช่นนี้เชียว?” จากนั้นเขาหันมาหาโยวหยวนพลางยกมุมปาก “เขาไม่รู้ เ้าก็ควรจะรู้...ว่าอาวุธของมนุษย์ธรรมดาไม่มีผลกับข้า จริงหรือไม่?”
เขาเป็าาผีแห่งยมโลก มีร่างกายที่ใช้พลังิญญาควบแน่น หากเป็รูปร่างก็จะฟันแทงไม่เข้า แต่เมื่อไรที่ไม่เป็รูปร่างก็จะล่องลอยราวกับควันและหมอก ภายหลังฟันแทงเข้าร่างจะทะลุผ่านไป
โยวหยวนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีผลกับฉิงชางจวิน..แต่มีผลต่อองค์รัชทายาท”
เจียงเฉิงเยว่ตกตะลึง สีหน้าพลันขาวซีด
โยวหยวนพูดต่อ “หลังจากรอให้ร่างกายของหลี่อวิ๋นเฉินตายไป ิญญาจะออกจากร่างโดยธรรมชาติ...แม้ว่าฉิงชางจวินจะผนึกเขาไว้ในจุดที่ลึกล้ำในจิตสำนึกของตนเอง แต่เมื่อถึงเวลา ฉิงชางจวินเตรียมที่จะส่งเขาไปที่แห่งใดกัน? ิญญาคนเป็เมื่อจากร่างไปแล้วจะไม่สามารถมีชีวิตได้...ฉิงชางจวินจะพาเขาไปร่างของมนุษย์คนอื่น รอให้เขาสิ้นอายุขัย เช่นเดียวกันนั้นอย่างไรก็ไม่สามารถกลับชาติมาเกิดได้ แต่จะบอกให้แล้วกันว่าท่านเข้ามาพัวพันกับวิบากกรรมโดยเปล่าประโยชน์ เมื่อถึงเวลา ฉิงชางจวินจะขอให้วังเสวียนิลงโทษอีกครั้งหรือไม่? ไม่รู้ว่าในเวลานั้นฉิงชางจวินจะยังได้รับการลงโทษระดับสองหรือไม่กันนะ”
เจียงเฉิงเยว่นิ่งค้างเป็เวลานานถึงเอ่ยด้วยรอยยิ้มหยัน “มนุษย์กับมนุษย์ าาผีกับาาผี...ลำบากทั้งสองแล้วที่คิดแทนข้ากับองค์รัชทายาทได้รอบคอบเช่นนี้ ดูเหมือนว่าคืนนี้พวกเ้ามุ่งมั่นที่จะชนะสินะ?”
------------------------
[1] มุกกับหยกก่อนหน้า เป็สำนวน หมายถึง มีผลงานที่โดดเด่นออกมาก่อนหน้า จึงสามารถใช้อ้างอิงได้
[2] ปีกถูกตัดจำต้องกลับมา เป็สำนวน หมายถึง กลับมาอย่างหมดอาลัยตายอยาก
[3] อูฐที่ผอมตายยังตัวใหญ่กว่าม้า เป็สำนวน หมายถึง แม้ว่าจะลำบาก แต่ก็ยังสบายกว่าอีกหลายคน
[4] ชุดจิ้นจวง หมายถึง ชุดประเภทหนึ่งที่ใส่แล้วคล่องตัว ไม่ระเกะระกะ
