ฮุ่ยเฟินเริ่มจากการควบคุมพลังหยินในปริมาณเล็กน้อย สลับเปลี่ยนกับการใช้พลังหยางระหว่างการเฝ้าดูแลเ้าปักษา โดยมีเหล่าองครักษ์เข้ามาให้ความช่วยเหลือ เอ่ยปรามเขาเื่การดูแลปักษาแห่งเมืองเทพซึ่งมาพำนักอาศัยในเมืองปีศาจว่ามิใช่เื่ง่ายดาย
นางปักษาตนนี้นอกเสียจากบอบบางแล้วยังาเ็สาหัส จากโคลนพิษที่ออกฤทธิ์ทำลาย ดูดร่างลงไปจนขาดอากาศหายใจ หลังจากที่นางดิ้นรนจนหมดสติ มีโอกาสเป็ไปได้ว่าอาจกลายเป็ปักษาสติไม่สมประกอบ เมื่อไรนางหายดี ควรส่งกลับเมืองเทพไปเสีย ไม่ให้เป็ภาระในเมืองปีศาจ
กลางห้องกว้างขวางที่มีฟูกนอนและโต๊ะทำงานไม้สักขนาดใหญ่ราวห้องประทับบรรทมของกษัตริย์ หากเต็มไปด้วยสมบัติของาา เครื่องเรือนล้วนเป็สีนิล ของสะสมมากมายบ่งบอกว่าจิ้งจอกผู้นี้โปรดปรานการออกไปท่องเที่ยวเตร็ดเตร่ เก็บของบางสิ่งติดมือกลับมาด้วยเสมอ
เหล่าองครักษ์เฝ้ามองนายท่านตั้งใจใช้เวทหยาง บรรจงมือเช็ดศีรษะปักษาให้แห้งด้วยผ้าขนแกะหนา หลังอาบน้ำแปรงขนสีขาวสะอาดให้นาง เ้าปักษายืนคอตก หลับตาในสภาพว่าเป็ปักษาป่วยหนัก
“ปีกนางหักข้างหนึ่ง การเสาะหายารักษาสัตว์เทพในเมืองจิ้งจอก เกรงว่าไม่มีผู้ใดมี แม้การจะสักกระปุกหนึ่ง ท่านผู้นำรุ่นก่อนได้ออกข้อห้ามเื่การลักลอบนำสิ่งของจากเมืองเทพเข้ามาโดยเด็ดขาด”
“ถ้าพวกเ้าหายาวิเศษมารักษานางไม่ได้ ข้าจะเดินทางไปเมืองเทพด้วยตนเอง ไม่ใช่เื่ยากเย็นสำหรับข้า”
การมีปักษาเทพสักตัวในเมือง นับเป็ข้อครหาไม่พอใจของปีศาจตนอื่น ๆ จะอย่างไรเสีย องครักษ์คนสนิทอย่างเฟยฟาไม่กล้าขัดใจ
“ข้าน้อยจะไปนำยารักษาจากเทวโลกมาให้นายท่านขอรับ ความพึงพอใจของนายท่านเปรียบดั่งภารกิจสำคัญ เท่าชีวิตพวกข้า” เอ่ยพลางยกมือก้มศีรษะคำนับท่านผู้นำ จางเหว่ยออกไปถ่ายทอดคำสั่งเื่การนำยารักษาสัตว์เทพ นำมันมาให้นายท่านให้ได้ภายในสามราตรี ตงหยางสั่งให้แยกย้ายกำลังพลไปเมืองเหยียนของปีศาจอสรพิษ มิให้เอิกเกริกมากนัก ส่วนหนึ่งให้เดินทางไปเทวโลก เพื่อเสาะหาเทพแห่งการรักษา อาจไปภพภูมิลับแล ขอยารักษามาจากบรรดานักพรตผู้บำเพ็ญตนอย่างแม่เฒ่าเมิ่งเฉียนเป่ย าุโผู้มีเมตตา เป็ที่นับหน้าถือตาของทั้งเหล่าเทพและปีศาจ เป็ไปได้ว่าอาจมีสักหนทางหนึ่ง หากมีสิ่งอื่นติดมือกลับมาด้วยก็เป็เื่ดี จะได้รับการตกรางวัลอย่างงาม
ฮุ่ยเฟินคงไม่ถือสาที่มีปากเสียงกับองครักษ์เล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุนัขล้วนมีอุปนิสัยซื่อสัตย์ ถึงแม้พวกเขาจะเป็ปีศาจ เขายังใช้ความระมัดระวังเป็อย่างมาก นำเ้าปักษาวางลงบนฟูกแล้วนั่งลง ฉับพลันนั้น ชายอาภรณ์สีนิลสะบัด เผลอปัดพลังหยินใส่นาง จึงหลับใหลไปในสภาพปักษาหมดสติ กว่าที่ั์ตาสีมรกตจะเปิดเผยขึ้นให้เห็นอีกครั้งหนึ่ง เขาออกคำสั่งให้บ่าวรับใช้ทำฟูกนอนอันใหม่ เสมือนเบาะนอนของสัตว์เลี้ยงซึ่งมนุษย์หันมานิยมปักทอเบาะผ้ายัดด้วยต้นนุ่น
ั์ตาคู่คมสีชาดเปล่งประกาย แลดูชอบพอปักษาตนนี้ยิ่งนัก ฟูกนอนขนาดเท่าฟูกของลูกสุนัข วางอยู่บนที่นอนข้างกายเสมอ กระทั่งตะวันลาลับขอบฟ้า ปรากฏจันทร์รุธิระกลมโต ซึ่งสว่างไสวในภพภูมิปีศาจ
ร่างสูงสง่าในอาภรณ์งดงามของผู้สูงศักดิ์ก้าวเข้าไปในห้องโถงกว้างขวางโอ่อ่า ปักษาสง่างามเกาะยืนบนแขนเป็ล่ำสัน ตั่งนั่งของปักษาถูกเนรมิตขึ้นด้วยพลังหยาง เคียงข้างกายเก้าอี้ไม้โอฬารของผู้นำแดนจิ้งจอก
“ปักษาในเมืองเทพไม่สามารถมีชีวิตรอดในภพภูมิปีศาจ หากมันไม่ถูกสังหาร ข้าพนันได้เลยว่ามันจะถูกไอปีศาจกัดกินจนตาย” เสียงแหลมเล็กของปีศาจสตรี เรือนร่างเย้ายั่วในอาภรณ์สีนิลปรากฏขึ้นกลางจวน
ใบหน้างามโฉบเฉี่ยวจ้องมองเ้าปักษาด้วยแววตาเกลียดชัง มิใช่เพียงเพราะว่าเ้านครหันไปเอาใจสัตว์ตัวใหม่ มีข่าวลือหนาหูว่าสัตว์ในเมืองเทพมาล่อลวงาาจิ้งจอก
“ข้ารู้แก่ใจดีว่าพวกเ้าเกลียดชังเทพ เพียงแต่ข้าเป็ผู้เก็บนางมาจากโคลนพิษนอกประตูเมือง การที่นางจะตาย ย่อมตายด้วยมือข้าเท่านั้น”
“มิใช่เพราะว่าท่านย่าของท่านเคยเป็เซียน จึงเกิดคิดถึงนางขึ้นมา?”
มีเพียงผู้เดียวที่กล้าพูดจาด้วยกิริยาไร้ความนอบน้อม ญาติห่าง ๆ ทางฝั่งมารดามีศักดิ์เป็ว่าที่คู่หมั้น ‘ลี่อิน’ กำลังโกรธเกรี้ยวริษยา นางอาจปลิดชีพเ้าปักษาตนนี้ได้หากว่ามันไม่เกาะอยู่บนเสื้อสีนิล
“ช่างเถิดเ้าค่ะ อย่างไรเสียท่านฮุ่ยเฟินคงโปรดปรานมันได้ไม่นาน ประเดี๋ยวท่านก็คงจะเบื่อหน่าย ยามได้สัตว์เลี้ยงตัวใหม่มาชื่นชม”
“หากข้าเกิดความโปรดปรานการเลี้ยงสัตว์ขึ้นมาสักตัวหนึ่ง สักหลายตัว ข้าจะสังหารสัตว์ตัวไหนเพราะว่าข้าอารมณ์ไม่ดี มันเื่อะไรของเ้า? ลี่อิน” เสียงเข้มถามกลับด้วยวิสัยเฉกเช่นปีศาจ ฮุ่ยเฟินตอบรับแววตารังเกียจเดียดฉันท์โดยไร้ความยำเกรง ั์ตาสีชาดหลุบมองสตรีที่ยืนอยู่ในระดับต่ำกว่า เขี้ยวคมโผล่พ้นออกมาจากมุมปาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้