กูเฟยเยี่ยนตกอยู่ในภวังค์ของความสุข แต่เซี่ยเสี่ยวหม่านกลับอิจฉา ริษยา และชิงชัง
เขาดึงหน้าตึงพลางสั่งสอน “กูเฟยเยี่ยน เ้ายังไม่ขอบคุณในบุญคุณครั้งนี้อีก!”
กูเฟยเยี่ยนจึงได้สติกลับคืนมา ริมฝีปากค่อยๆ เผยรอยยิ้ม ถึงแม้ว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะออกไปนานแล้ว นางก็ยังคงหันไปทางด้านที่เขาออกไป แล้วโน้มกายแสดงความเคารพด้วยความจริงใจและนอบน้อม!
บุญคุณในครั้งนี้แน่นอนว่าต้องขอบคุณสิ
จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะต้องเป็ดาวนำโชคของนางอย่างแน่นอน ไม่ผิดแน่
แม้ว่าเซี่ยเสี่ยวหม่านจะไม่ยินยอมเป็อย่างยิ่ง ทว่าก็ยังให้คนนำหนึ่งหมื่นเหรียญทองมามอบให้กูเฟยเยี่ยน เขาวางมาดสั่งสอนอย่างพิลึกกึกกือ “นังหนู งานของศิลาโอสถเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เ้าจักต้องระมัดระวังและละเอียดรอบคอบ ไม่สามารถเหลวไหลและไม่สามารถประมาทเลินเล่อได้! ”
กูเฟยเยี่ยนยังไม่ได้คิดบัญชีกับเขาในเื่ของการเดิมพัน เมื่อได้ยินคำว่า “นังหนู” สองคำนี้ โทสะจึงปะทุขึ้นมา นางชายตามองอย่างเ็าพลางเอ่ยว่า “ผู้ที่เอ่ยวาจาที่เชื่อถือไม่ได้ก็คือลูกสุนัข! ”
“เ้า! ” เซี่ยเสี่ยวหม่านปรับเปลี่ยนสีหน้าทันที
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้ล้อเล่นกับเขา นางเอ่ยอย่างจริงจัง “รบกวนหม่านกงกงนำสมุนไพรที่ใช้ไปเมื่อวานสรุปผลออกมาก่อนค่ำคืนวันนี้ เพื่อให้ข้าง่ายต่อการตรวจสอบคลังในหอเก็บยา ข้าจะบอกกับเ้าเป็ครั้งสุดท้ายว่านับั้แ่บัดนี้เป็ต้นไป ไม่ว่าจะเป็สมุนไพรที่เ้าเป็ผู้ไปจัดซื้อเข้ามา หรือว่าเป็สมุนไพรและใบสั่งยาที่ห้องยาสำนักหมอหลวงส่งมา ทุกอย่างล้วนจำเป็ต้องให้ข้าตรวจสอบ อีกอย่างหนึ่งคือ ตราบใดที่เป็ยาที่เตี้ยนเซี่ยทรงใช้ การคัดเลือก การปรุงต้ม และการนำไปส่งมอบ ข้าจะทำด้วยตนเองทั้งหมด! ”
ในเมื่อได้รับความไว้วางใจจากจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย กูเฟยเยี่ยนจึงแอบสาบานเอาไว้ว่านางจะรับผิดชอบให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน และจะไม่ให้คนร้ายตัวจริงผู้นั้นมีโอกาสลงมือ! เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความ้าของกูเฟยเยี่ยน เซี่ยเสี่ยวหม่านก็ได้ยิ้มเยาะออกมา “เหอะ งานพวกนี้หากไม่ใช่นังหนูอย่างเ้ามาทำ แล้วต้องให้ผู้ใดมาทำ? ”
“นังหนู” อีกแล้ว!
กูเฟยเยี่ยนหรี่ตาลงในทันที เมื่อเซี่ยเสี่ยวหม่านเห็นเช่นนี้จึงหันหลังวิ่นหนีออกไป!
เซี่ยเสี่ยวหม่านเพียงแค่ไม่เชื่อว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทรงชื่นชอบกูเฟยเยี่ยน ภายในใจของเขามีความเลื่อมใสศรัทธากูเฟยเยี่ยนอยู่มากทีเดียว เื่ที่เขาควรที่จะให้ความร่วมมือ เขาก็จะร่วมมือย่างดี
กูเฟยเยี่ยนใช้ระยะเวลาสองวันก็สามารถทำความเข้าใจในสิ่งที่้าจะรับรู้แล้ว สมุนไพรทั่วไปที่ควรจะเพิ่มเติมเข้ามาก็ได้เพิ่มเข้ามาเรียบร้อยแล้ว จิ้งหวางฝู่แตกต่างจากห้องยาสำนักหมอหลวง กูเฟยเยี่ยนเพียงแค่รับผิดชอบยาที่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทรงใช้ก็เพียงพอแล้ว ตัวนางเองจึงไม่มีงานอะไรให้ทำมากนัก หากว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยมิได้ประชวร และไม่ได้ใช้ย่าวซ่าน [1] อันที่จริงแล้วกูเฟยเยี่ยนนั้นก็ว่างมากทีเดียว
เมื่อนางทำงานเรียบร้อยแล้วก็ใช้เหตุผลของการไปจัดซื้อเสื้อผ้าฤดูหนาว ลาหยุดกับเซี่ยเสี่ยวหม่านครึ่งวันเพื่อออกไปซื้อของด้านนอก
ทรัพย์สินทั้งหมดของร่างเดิมนั้นมีเพียงแค่รองเท้าสองคู่ เสื้อผ้าสองชุด นอกจากมันจะไม่ต้านอากาศที่เย็นะเืแล้ว ยังเก่าๆ ขาดๆ อีกด้วย ในตอนนี้นางมาที่จิ้งหวางฝู่แล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเสียหน้าได้! อย่างไรก็ตามการจัดซื้อข้าวของเครื่องใช้นั้นเป็เื่รอง การจัดซื้อสมุนไพรถึงจะเป็สิ่งที่สำคัญที่สุด เนื่องจากมันเกี่ยวข้องกับการบำเพ็ญญาณของหวางเป่าติง
การบำเพ็ญญาณของหวางเป่าติงมีสองประเภท ประเภทที่หนึ่งคือการบำเพ็ญญาณสมาธิของผู้ที่ผูกพันธสัญญา กล่าวได้ว่าการเพิ่มการควบคุม การเพิ่มความเร็วในการจัดเก็บและการนำสมุนไพรออกมาใช้ อีกทั้งการเรียกอัคคีเทพที่มีระดับสูงขึ้น ทำได้โดยการบำเพ็ญญาณสมาธิ อีกประเภทหนึ่งคือการใช้วิธีการเพาะปลูกสมุนไพรบางอย่างที่ถูกกำหนดไว้มาขยายช่องว่างของหวางเป่าติงเพื่อเปิดพื้นที่เขตแดนที่ไม่รู้จัก
ในเมื่อมาเกิดใหม่แล้วก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากทักษะยาสมุนไพรได้ กูเฟยเยี่ยนจึงต้องบำเพ็ญญาณหวางเป่าติงให้ดี นอกจากนี้คือนางมักจะรู้สึกว่าท่านอาจารย์อาภรณ์ขาวมีแผนการอะไรบางอย่างต่อนาง การที่ให้นางมาเกิดใหม่ในโลกเสวียนคง จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับหวางเป่าติงอย่างแน่นอน
หากนางสามารถเป็ดั่งท่านอาจารย์อาภรณ์ขาวที่บำเพ็ญญาณหวางเป่าติงจนถึงเขตแดนอันยอดเยี่ยมเลิศล้ำที่สุดได้ บางทีอาจจะสามารถค้นพบความจริงของการมาเกิดใหม่ และทราบได้อย่างชัดเจนว่าตกลงแล้วนางเป็ใครกันแน่!
ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม กูเฟยเยี่ยนจัดซื้อเสื้อผ้าที่เรียบง่ายสวมใส่สบายมาสามชุด และได้เพิ่มเติมสมุนไพรทั่วไปบางชนิดสำรองเอาไว้ นางนำเงินที่เหลืออีกเก้าพันกว่าเหรียญมาใช้จ่ายในร้านขายสมุนไพรชื่อดังในตัวเมืองหลวงของอาณาจักรเทียนเหยียน แล้วคัดสรรเมล็ดพันธุ์สมุนไพรล้ำค่ามาสามชนิด จากนั้นจึงเปิดทุ่งสมุนไพรใหม่สามอันในช่องว่างของหวางเป่าติง
สมุนไพรในทุ่งสมุนไพรของหวางเป่าติงไม่เพียงแค่เติบโตได้งดงามแล้ว แต่ยังเติบโตได้รวดเร็วอีกด้วย ทันทีที่สมุนไพรล้ำค่าเหล่านี้เติบโตแล้ว นางก็จะสามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็สมุนไพรล้ำค่าชนิดอื่นได้ ดังนั้นนางไม่เพียงแต่สามารถเปิดทุ่งสมุนไพรได้เรื่อยๆ แล้ว แต่ยังสามารถเติมสมุนไพรสะสมไว้ได้ บางคราค้าขายสมุนไพรบ้าง ไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะไม่มีเงินใช้เลย
เมื่อซื้อสมุนไพรเรียบร้อยแล้วกูเฟยเยี่ยนจึงไปที่โรงน้ำชาเพื่อสืบข่าวสองเื่ เื่แรกคือปิงไห่ เื่ที่สองคือเื่ขององค์ชายในพระราชวัง
หลังจากที่สืบข่าวมาครู่หนึ่งจึงได้ทราบว่า “ปิงไห่” สองคำนี้เกือบจะเป็คำต้องห้ามไปแล้ว น้อยคนมากที่จะเต็มใจกล่าวถึง อีกทั้งคำว่า “แดน์ปิงไห่” นั้นไม่มีผู้ใดรับรู้เลย กล่าวได้ตามตรงว่าผิดหวังเป็อย่างยิ่ง
ทางด้านของสถานการณ์เหล่าองค์ชายนั้น สืบข่าวได้ง่ายดายมาก หญิงสาวเลือกโรงน้ำชามาแห่งหนึ่ง มอบสามเหรียญทองให้นักเล่านิทาน จากนั้นสั่งชาดีๆ มาหนึ่งถ้วยพลางนั่งลงค่อยๆ ฟัง
นักเล่านิทานเริ่มเล่าจากองค์ชายใหญ่ จวินเย่าเฉิง แล้วเล่าไปเรื่อยๆ จนถึงองค์ชายเล็ก นั่นก็คือองค์รัชทายาท จวินจื่อเจ๋อ
สุดท้ายกูเฟยเยี่ยนใช้รูปร่าง นิสัยอารมณ์ ความชำนาญในการต่อสู้ เส้นทางการเดินทาง รวมไปถึงความสัมพันธ์กับเฉิงอี้เฟย มาวิเคราะห์แล้วเจาะจงตัวบุคคลต้องสงสัยไว้ที่องค์ชายแปด จวินฮั่นหยิ่น
องค์ชายแปดจวินฮั่นหยิ่นมีอุปนิสัยเ็า เฉลียวฉลาด เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ไม่มีความสนใจในราชบัลลังก์ และมีลักษณะท่าทีสูงส่งต่อเหล่าขุนพลในราชสำนัก มีความสัมพันธ์อันดีกับเฉิงอี้เฟย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความชำนาญในการต่อสู้ของเขาสูงมาก เขามักจะไม่ประทับอยู่ในพระราชวัง อีกทั้งชื่นชอบการปกปิดตัวตน เดินทางท่องไปทั่วมุมโลก สถานการณ์เหล่านี้มีความคล้ายคลึงกันกับนายก้อนน้ำแข็งเหม็นมากทีเดียว
กูเฟยเยี่ยนไม่ถึงกับเชื่อนักเล่านิทานทั้งหมด แต่ว่าในใจนางมีความคิดว่าในครั้งหน้า เมื่อได้พบกับนายก้อนน้ำแข็งเหม็นอีก นางจะหยั่งเชิงเขาบ้าง
หลังจาก่กลางวันกูเฟยเยี่ยนก็ได้กลับไปยังจิ้งหวางฝู่ นางเปลี่ยนมาสวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ อีกทั้งทำความสะอาดห้องของตนเองทั้งภายในและภายนอก จากนั้นจึงนั่งลงตรงหน้ากระจก เหม่อมองตนเองอย่างจริงจัง เ้าของร่างเดิมกับนางมีใบหน้าที่เหมือนกันทุกประการ การแต่งตัวในครั้งนี้ทำให้นางเกิดภาพลวงตาว่ารูปร่างนี้เดิมทีก็เป็ของตนเองอยู่แล้ว
กูเฟยเยี่ยนกำลังคิดว่าจะพักผ่อน ทว่าก็มีคนจากพระราชวังมาแจ้งข่าวว่าไท่โฮ่วเหนียงเหนี่ยงทรงมีการถวายย่าวซ่าน โดยให้คนในจวนส่งคนไปรับได้ที่ห้องยาสำนักหมอหลวง
ย่าวซ่าน?
ทันทีที่กูเฟยเยี่ยนได้ยินคำนี้ จิตใจและความตื่นตัวก็ได้ผุดขึ้นมาในทันที!
ย่าวซ่านนั้นเป็ทั้งยาและก็เป็ทั้งอาหาร ย่าวซ่านเป็การผสมผสานกันระหว่างสมุนไพรกับอาหาร แม้ว่าจะไม่สามารถรักษาโรคได้ แต่ก็มีสรรพคุณในการบำรุงร่างกายให้แข็งแรงและป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ
ไท่โฮ่วเหนียงเหนี่ยงทรงเป็ผู้ที่ให้ความสำคัญแก่การดูแลรักษาสุขภาพเป็อย่างยิ่ง พระองค์มักจะจัดกลุ่มให้ไท่อีและอาจารย์แพทย์มาศึกษาค้นคว้าตำรับย่าวซ่าน นอกจากจะใช้เองแล้ว ก็ทรงชื่นชอบถวายย่าวซ่านให้กับคนอื่นๆ ไม่เพียงแต่มอบให้แก่ราชวงศ์และตระกูลสูงศักดิ์แล้ว แต่ยังมอบให้ขุนนางชั้นผู้ใหญ่และผู้คนในครอบครัวอีกด้วย หากว่าให้ห้องยาสำนักหมอหลวงปรุงต้มเรียบร้อยแล้วส่งไปให้ถึงที่นั่นก็คือตำรับยาลับสุดยอด หากว่าให้คนไปรับที่ห้องยาสำนักหมอหลวงก็จะเป็การยินยอมเปิดเผยตำรับยา โดยจะมีทั้งห่อย่าวซ่านและใบสั่งยาที่สามารถนำกลับมาปรุงต้มได้ด้วยตนเองได้
นี่เป็โอกาสที่ดีมากในการลงมือ คนร้ายตัวจริงจะปฏิบัติการหรือไม่นะ?
กูเฟยเยี่ยนคาดหวังให้คนร้ายตัวจริงลงไม้ลงมือสักที เป็เพราะว่ามีเพียงการนี้ที่คนร้ายตัวจริงลงมือ แล้วถึงจะเปิดเผยพิรุธออกมาและมีร่องรอยให้ตามหาได้
กูเฟยเยี่ยนไม่รอช้า นางรีบไปที่ห้องยาสำนักหมอหลวงด้วยตนเอง
ทันทีที่เข้าไปด้านในก็พบว่า ลานใหญ่ของห้องยาสำนักหมอหลวงมีการต่อแถวยาวเหยียดหนึ่งแถว บ่าวรับใช้ของแต่ละตำหนัก แต่ละจวนล้วนกำลังเข้าแถวรอรับย่าวซ่านจากห้องนำส่ง
เมื่อคนเ่าั้มองเห็นนางก็ล้วนมองมาครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าแววตาเ่าั้จะไม่ค่อยเป็มิตรต่อกันเท่าใดนัก แถมยังมีความดูถูกเหยียดหยามอีกไม่น้อย แต่ว่าทุกคนล้วนจำกัดอยู่ในขอบเขตของ “การมอง” เท่านั้น แม้กระทั่งเวินอวี่โหรวผู้ที่เกลียดนางเข้ากระดูก ก็ไม่กล้าที่จะเข้ามาหาเื่แล้ว
กูเฟยเยี่ยนนึงถึงการกลับมาที่ห้องยาสำนักหมอหลวงเมื่อสองครั้งก่อนที่ถูกผู้คนรายล้อมด่าประจานและประณาม แล้วเปรียบเทียบกับครั้งนี้ กูเฟยเยี่ยนจึงััได้ถึงความยิ่งใหญ่ของจิ้งหวางฝู่ และผู้ที่อยู่เื้ัของนาง
แม้ว่านางจะไม่แยแสความคิดของผู้อื่น ทว่าการที่ปัญหาและการประณามลดน้อยลงก็ทำให้นางมีความสุขมากจริงๆ เป็อีกครั้งที่จิตใจของนางลอบซาบซึ้งใจในตัวเทพบุตรของนาง…จวินจิ่วเฉิน
สิทธิพิเศษของจิ้งหวางฝู่ คือการที่ไม่จำเป็ต้องเข้าแถว
ไม่ช้าก็มีแพทย์หญิงวิ่งเข้ามาพลางเอ่ยด้วยลักษณะท่าทีนอบน้อม “แพทย์หญิงกู เชิญมารับย่าวซ่านทางด้านนี้ค่ะ”
กูเฟยเยี่ยนเดินออกไปชั่วครู่ก็มีคนสองคนที่หลบซ่อนตัวบริเวณมุมกำแพงมาโดยตลอดก้าวเดินออกมา สองคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็องค์หญิงหวายหนิงและฉีฟู่ฟาง…
——————————
เชิงอรรถ
[1] ย่าวซ่าน หมายถึง อาหารที่มียาจีนผสม