“กลิ่นหอมจางๆ ในนั้น...” ฉู่ชิงไม่หลบเลี่ยง ทว่าเขายังคงแปลกใจ เขาคิดว่าเหนียนยวี่จะแกล้งโง่ ทำเป็ไม่รู้ แม้ว่าเขาจะรู้อยู่แก่ใจ ทว่าเขาก็ไม่ได้้าเปิดโปงสิ่งใด ทว่าหญิงสาวผู้นี้ช่างเหนือความคาดหมายของเขาทุกครั้งจริงๆ
กลิ่นหอมจางๆ งั้นหรือ?
เหนียนยวี่หยิบจดหมายขึ้นมาดม แต่สิ่งที่นางได้กลิ่นคือกลิ่นของอำพันทะเลบนตัวฉู่ชิง
เหนียนยวี่เข้าใจว่า ฉู่ชิงคงจะอาศัยกลิ่นลมหายใจของนางที่ติดมาบนจดหมาย จึงรู้ว่าคนที่ส่งจดหมายคือนาง และเนื้อหาในจดหมาย...
“เ้ารู้เื่รังรักของฉินอันได้อย่างไร?”
นี่เป็คำถามที่ติดอยู่ในใจของเขามาตลอด สิ่งที่ฉินอันทำ แม้แต่แม่ทัพหลวงเช่นเขายังมิเคยได้ยินมาก่อนเลยแม้แต่น้อย
สิ่งที่เขาถามเป็สิ่งที่เหนียนยวี่คาดการณ์ไว้ นางสบตาฉู่ชิงและเอ่ยตอบอย่างไม่ปิดบังว่า "คืนที่ฉินอันเสียชีวิต ข้าบังเอิญอยู่ที่นั่นพอดี ท่านถามว่าข้ารู้ได้อย่างไรใช่หรือไม่?"
คิ้วใต้หน้ากากของฉู่ชิงขมวดมุ่นเล็กน้อย “เ้าฆ่าเขาหรือ?”
“ไม่ใช่ เป็เขาที่อยากฆ่าข้า ทว่าผลกรรมคืนสนอง ท้ายที่สุดกลับกลายเป็ฆ่าตัวเอง” เหนียนยวี่นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ั์ตานางพลันเจือกลิ่นอายเย็นเยียบขึ้นมาไม่น้อย “ข้าพูดเช่นนี้ ท่านเชื่อข้าหรือไม่?”
“ข้าเชื่อ” ฉู่ชิงไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ความลับมากมายในตัวเหนียนยวี่ที่ผู้คนมองไม่เห็น ทว่านางกลับเป็หญิงสาวที่เที่ยงตรงและเปิดเผย เื่ราวในค่ำคืนนั้น นางกับฉินอันพบเจออะไรมากันแน่?
ฉู่ชิงรู้ดีว่าด้วยสติปัญญาของเหนียนยวี่ต้องไม่ยอมถูกเอาเปรียบแน่ ทว่าไม่รู้เหตุใดในใจของเขายังคงมีความรู้สึกโกรธเกรี้ยวไหลวนไปมาอย่างมิอาจบรรยายได้
“ขอบคุณท่านแม่ทัพหลวงที่เชื่อเหนียนยวี่ และขอบคุณที่ใต้เท้าพาคนไปวันนั้น อย่างไรก็ตาม เื่นี้กลับสร้างความยุ่งยากในจวนแม่ทัพไม่น้อยเลย”
ครั้นนึกเื่ในตำหนักชีอู๋วันนั้น แม่ทัพใหญ่ฉู่เพ่ยที่เข้ามาในตำหนักพร้อมกับฉินเฟิง เหนียนยวี่เองก็นึกไม่ถึงเลยว่า ตระกูลฉินจะเกี่ยวดองกับจวนแม่ทัพจากการสมรส ทว่าฉู่ชิงกลับยังคงพาคนไปเข้าค้นรังรักแสนสุขของฉินอัน
เหนียนยวี่มองตรงไปที่ฉู่ชิง แม้ไม่เห็นสีหน้าบนใบหน้าเขา ทว่าความอารมณ์ลึกซึ้งในดวงตาคู่นั้นกลับมิได้สงบแต่อย่างใด
“เจอปัญหาไม่น้อยเลย หลังจากวันนั้นเพราะเื่ตระกูลฉิน อนุฉินจึงถูกทรมานอยู่ในจวน ทว่าในใจท่านพ่อเองก็เข้าใจ ภายใต้อำนาจเด็ดขาดของฮ่องเต้ผู้ซึ่งนั่งอยู่บนตำแหน่งนั้น ไม่มีทางปล่อยให้ผลประโยชน์อยู่ในสายตาของเขาแน่ ยามที่ตระกูลฉินและตระกูลฉู่แต่งงานเกี่ยวดองกัน ข้ายังเล็กนัก ยังไม่เข้าราชสำนัก ทว่าหลายปีมานี้ ฮ่องเต้ทรงเชื่อใจจึงมอบอำนาจทางการทหารและทหารรักษาพระองค์ให้ข้าดูแล ทว่าภายใต้ความเชื่อใจนี้กลับวุ่นวายนัก” ฉู่ชิงเปลี่ยนท่าทีให้นอนสบายมากขึ้น
เหนียนยวี่รู้สึกประหลาดใจที่ฉู่ชิงพูดเื่พวกนี้กับนาง
ความเชื่อใจและวุ่นวายภายใต้อำนาจของฮ่องเต้งั้นหรือ?
เหนียนยวี่เข้าใจเป็อย่างดี ฉู่ชิงมีตำแหน่งสูงส่ง เสริมกับจวนแม่ทัพที่มีรากฐานหยั่งลึก ไม่ว่าฉู่ชิงและจวนแม่ทัพจะทะเยอทะยานหรือไม่ ด้วยอำนาจพลังที่มีเช่นนี้ ก็ทำให้ฮ่องเต้หยวนเต๋อเป็กังวลได้แล้ว เพราะเช่นนั้น ในวันนั้นฮ่องเต้หยวนเต๋อจึงได้ฉวยโอกาสนี้ในการตัดกำลังอำนาจของจวนแม่ทัพ ส่วนแม่ทัพฉู่เพ่ย...
เกรงว่าเขาคงรู้เจตนาของฮ่องเต้หยวนเต๋อ จึงเอาตระกูลฉินมาแลกกับความปลอดภัยของตระกูลฉู่!
วิถีของฮ่องเต้ วิถีของข้าราชบริพาร การชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย อำนาจของฮ่องเต้ ราชสำนักแห่งนี้เป็เช่นนี้มาโดยตลอด
ส่วนฉินอันนั้น...
ดวงตาของเหนียนยวี่ฉายแววเ็าเล็กน้อย ต่อให้ไม่ใช่นาง ท้ายที่สุดก็ต้องมีวันที่รังรักแสนสุขของฉินอันถูกเปิดเผยต่อสายตาใต้หล้า ชาติก่อนเื่นี้ทำให้ผู้คนในท้องพระโรงตื่นใตะลึงงงงัน อย่างไรเสียตระกูลฉินก็ไม่มีทางเลี่ยงเื่นี้!
การกระทำอันแสนชั่วร้ายของฉินอันนั้น แค่ตายร้อยครั้งยังไม่เพียงพอ!
เกิดความเงียบขึ้นภายในห้อง
ผ่านไปครู่หนึ่ง ฉู่ชิงลุกยืนขึ้น เขาเดินไปที่หน้าโต๊ะ หยิบของบางอย่างออกมาจากกล่องผ้า แล้วเดินกลับมายืนอยู่ตรงหน้าเหนียนยวี่
“มือ” มีเสียงดังขึ้นเหนือหัวนาง เหนียนยวี่ยื่นมือออกไปโดยที่แทบไม่รู้ตัว ทว่าทันทีที่นึกขึ้นได้ เหนียนยวี่จึงรีบเก็บมือกลับมา ทว่าข้อมือนางกลับถูกฝ่ามือใหญ่คว้าจับไว้ ตามมาด้วยกำไลหยกวงหนึ่งสวมเข้ามาที่ข้อมือนาง
เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว เขากำลังทำอะไร?
เพียงแค่ชำเลืองมอง เหนียนยวี่รู้ได้ทันทีว่ากำไลหยกวงนี้มีค่าประหนึ่งบ้านเมือง
“เหนียนยวี่ยังคงคุ้นเคยกับการที่ท่านแม่ทัพหลวงส่งกริชมาให้” เหนียนยวี่เอ่ยปาก นางเริ่มไม่เข้าใจฉู่ชิงมากขึ้นเรื่อยๆ
วันนั้น เขาวางปิ่นหยกอันหนึ่งไว้ในห้องของนาง ยามนี้ยังมาให้กำไลหยกวงนี้กับนางอีก ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใดเช่นกัน นางยังลอบมีความคิดว่าหรือที่แม่ทัพหลวงผู้นี้มีมิตรไมตรีล้นเหลือ เพราะกำลังตามพิชิตใจนาง
พิชิตใจนางหรือ?
เหนียนยวี่เหลือบมองฉู่ชิง จะเป็ไปได้อย่างไร?
เขาเป็แม่ทัพหลวงผู้สูงศักดิ์สง่าผ่าเผย ทั้งยังเป็บุตรชายของท่านแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ที่มีตำแหน่งสูงส่ง ฐานะสูงศักดิ์จะมามองบุตรีอนุตัวเล็กๆ ผู้นี้ได้อย่างไร?
ยิ่งกว่านั้น ชาติที่แล้วนั้น แม่ทัพหลวงผู้นี้โดดเดี่ยวมาโดยตลอด ยามที่สิ้นชีวียังจากไปอย่างเปล่าเปลี่ยว เขาไม่ได้สนใจสตรีเลยด้วยซ้ำ!
“ดูกำไลหยกวงนี้ให้ดี” ฉู่ชิงหันกลับไป เหนียนยวี่ที่ได้ยินคำพูดของเขา จึงสำรวจมองดูกำไลหยกบนข้อมืออย่างละเอียด หยกขาวนั้นดูราวกับกระดูกเรืองแสง ทว่ากลับมีหลุมเล็กๆ อยู่ที่หนึ่ง และในหลุมเล็กๆ นั่นมีปุ่มนูนบางอย่างที่ยากจะสังเกตเห็นอยู่ในนั้นด้วย
เหนียนยวี่เริ่มรู้สึกสนใจ ชาติก่อนยามที่นางอยู่ในกองทัพ นางได้ศึกษาค้นคว้าศาสตร์พยากรณ์สุดยอดเคล็ดลับวิชาฉีเหมินตุ้นเจี่ย กลไกอาวุธลับและกำไลที่อยู่บนข้อมือนางวงนี้...
มุมปากเหนียนยวี่ยกยิ้มเล็กน้อย จากการคาดเดาของตัวนางเอง นางเล็งไปที่จุดใดจุดหนึ่ง แล้วกดลงไปบนปุ่มที่นูนขึ้นมา ชั่วพริบตา บางอย่างพุ่งออกมาจากรูตรงนั้นอย่างรวดเร็ว และจมลงไปบนผนังข้างหน้า
ดวงตาของเหนียนยวี่เป็ประกาย มิอาจซ่อนความตื่นเต้นบนใบหน้าได้ นางก้าวเท้าไปข้างหน้า มองปุ่มที่นูนออกมาจากผนัง นางขมวดคิ้วเล็กน้อย ยื่นมือไปััทันที
อาวุธที่แทงเข้าไปตรงนี้ เห็นชัดว่าเป็หยก ทว่าหยกมิใช่ของที่แตกหักง่ายหรอกหรือ? เข็มหยกนี้แทงเข้าไปในผนังสามชั้นแล้วยังไม่แตกละเอียดได้อย่างไร?
เหนียนยวี่หันมองหาฉู่ชิง เห็นเพียงชายผู้นั้นสวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว สัดส่วนร่างกายอันสมบูรณ์แบบปกคลุมด้วยเครื่องแต่งกายสีดำ เขาในยามนี้กำลังใส่สายรัดเอว พลางเดินตรงมาหานาง ความสง่างามนั้นแฝงความเกียจคร้านง่วงงุน ภาพตรงหน้าทำให้เหนียนยวี่ตกอยู่ในภวังค์ไปครู่หนึ่ง...
ราวกับล่วงรู้ว่าเหนียนยวี่้าเอ่ยถามสิ่งใด มุมปากใต้หน้ากากของฉู่ชิงพลันยกยิ้มขึ้น พลางเอ่ยว่า “วัสดุของกำไลหยกชิ้นนี้ต่างจากหยกธรรมดา ข้าได้มันมาเมื่อต้นปีก่อน”
ฉู่ชิงมิได้เอ่ยอธิบายเื่กำไลหยกมากนัก เขายกมือดึงเข็มหยกในผนังออกมาและกลับไปที่โต๊ะ ใส่เข็มหยกลงในกล่องผ้า "ใช้เข็มหยกหมดแล้ว ค่อยนำกำไลหยกมาให้ข้า"
เอ่ยจบ ฉู่ชิงเหลือบสายตามองเหนียนยวี่ "วัสดุมีน้อย เ้าใช้ประหยัดๆ หน่อยเล่า"
ฉู่ชิงเอ่ยกำชับ พลางเก็บกล่องผ้าอย่างเรียบร้อย เขามิรู้ว่าเหตุใดตนเองถึงต้องยกกำไลหยกชิ้นนี้ให้เหนียนยวี่ ทว่าครั้นนึกถึงเื่ฉินอัน รวมถึงเื่ในสวนร้อยสัตว์ ฉู่ชิงพลันขมวดคิ้ว หญิงสาวผู้นี้เป็เพียงบุตรีอนุ ทว่ากลับรายล้อมไปด้วยอันตรายมากมาย
เหนียนยวี่ลูบกำไลหยกบนข้อมือ นางรู้ว่ากำไลหยกนี้ไม่เพียงแต่ล้ำค่าเท่านั้น เขาถึงขั้นมอบของล้ำค่าเช่นนี้ให้นางเลยหรือ?
เหนียนยวี่ชอบสิ่งของประณีตเป็มันวาวมาก นางรับมันมา ทว่าเหตุใดนางกลับรู้สึกอึดอัด?
“ท่านแม่ทัพหลวง นี่…” เหนียนยวี่กำลังจะถอดกำไลหยกที่ข้อมือของนางออกเพื่อส่งคืนให้ฉู่ชิง ทว่ากำไลหยกกลับดูเหมือนจะติดอยู่ที่ข้อมือของนาง ทำอย่างไรก็มิสามารถถอดออกมาได้
เกิดอะไรขึ้น? ยามที่ฉู่ชิงสวมให้นางเมื่อครู่นี้ เห็นได้ชัดว่ามันใส่ได้ง่ายดายอย่างยิ่ง เหตุใดยามนี้กลับ...
เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว สบสายตาซึ่งแฝงนัยแย้มยิ้มทั้งสองข้างของฉู่ชิง
“เ้าลืมคำพูดของข้าเร็วเยี่ยงนี้เลยหรือ?”