รถพยาบาลกับรถตำรวจทำลายบรรยากาศเงียบสงัดในชุมชน จางเหมยนั้นตื่นขึ้นั้แ่ได้ยินเสียงอวี๋มู่พังประตูบ้านเหลียงแล้ว
เธอกับหวางปิง สามีพากันออกมาดู มองเห็นเหลียงหานถูกหามขึ้นรถพยาบาล อวี๋มู่ไม่ได้ตามไปด้วย แต่อยู่ที่เกิดเหตุเพื่อพูดคุยให้ปากคำกับตำรวจ
“ปล่อยฉันนะ! พวกแกฟังคำพูดคนไม่รู้เื่รึไง!” เหลียงหวาที่ตื่นขึ้นมาอีกทีก็ถูกตำรวจล็อคตัวไว้เรียบร้อย ยังไม่ทันหายเมา เขาด่ากราดต่างๆ นาๆ “นี่มันบ้านฉัน ฉันฟาดลูกชายมันเป็เื่สมควร พวกแกมีสิทธิ์อะไรมาจับฉัน!”
“ครูอวี๋ นี่มัน…...เกิดอะไรขึ้นกัน?” จางเหมยเดินมา เอ่ยถามอวี๋มู่ “ทำไมแม้แต่ตำรวจก็ยังมากันล่ะ?”
อวี๋มู่พึ่งให้ปากคำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตำรวจเสร็จ จางเหมยก็เดินมาพอดี จึงลากจางเหมยมาเป็พยานเพิ่มเติม “คุณตำรวจครับ นี่คือเพื่อนบ้านในชุมชนเรา เธอย้ายมาอยู่ที่นี่นานกว่าผม รู้เื่ราวของเด็กนั่นดีกว่าผม เธอรู้ดีถึงการกระทำของเหลียงหวาที่ทารุณสองแม่ลูกมาโดยตลอด หากคุณไม่เชื่อผม คุณลองสองถามเธอดูก็ได้”
จากนั้น เขาพูดกับจางเหมย “พี่จาง ผมเองก็ทนดูมาตลอดหลายเดือน วันนี้เหลียงหวาทำเกินไปจริงๆ เขาหักขาเสี่ยวหาน ผมไม่กล้าคิดเลยว่าถ้าหากมาช้ามากว่านี้อีกก้าวเดียว ชีวิตของเสี่ยวหานคงจะดับคามือพ่อเขาแล้วจริงๆ”
“ผมเป็ครูของเขา จะช่วยเขาดำเนินคดีนี้เอง ถึงตอนนั้นต้องขอความช่วยเหลือจากพวกคุณเพื่อเป็พยาน หวังว่าพวกคุณจะยินดีช่วยเหลือเด็กคนนี้ด้วย แค่พูดตามความเป็จริงก็พอ”
เขาพูดอย่างจริงใจ จางเหมยเองก็รับรู้ได้ จึงพยักหน้ารับคำเขา
“เฮ้อ ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วสองแม่ลูกไปก่อกรรมทำเข็ญอะไรไว้ ถึงต้องมาเจอคนเฮงซวยแบบนี้…...”
เธอบ่นพึมพำ และให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็อย่างดี และบอกเล่าถึงเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัวนี้พร้อมกับสามีของเธอ
เหลียงหวาที่ถูกคุมตัวขึ้นรถตำรวจจ้องมองอวี๋มู่สายตาเหี้ยมโหด ราวกับจะถลกหนังเขาให้ได้ ะโว่า “ไอ้คนแซ่อวี่ ฝากไว้ก่อนเถอะ!”
อวี๋มู่มองดูเขาถูกสวมกุญแจมืออย่างเ็า ความโกรธเกลียดในใจไม่ได้ลดทอนแต่อย่างใด
เขาได้แต่บอกกับตัวเองว่านี่เป็เื่ราวในโลกนิยาย ต้องมีสติ ต้องรู้จักแบ่งแย่งให้ถูก แต่ตอนที่เหลียงหานจับชายเสื้อเขา แล้วครวญครางด้วยความเ็ป ความเป็จริงตอนนั้น เขาเกิดความวู่วามจนอยากฆ่าคนขึ้นมาจริงๆ
เด็กดีขนาดนี้ ่เวลาที่ควรได้ใช้ชีวิตอย่างเริงร่ากลับต้องมาทนทุกข์กับความโชคร้ายและทรมานเหล่านี้
อยากจะทำอะไรเพื่อเขาสักนิด
แล้วเขาจะทำอะไรได้นะ?
*
เมื่อจบเื่ราวที่เกิดขึ้นแล้ว เวลาก็ล่วงเลยไปตีหนึ่งเศษ
อวี๋มู่ไม่ได้หลับ แต่หยิบเชิ้ตบางๆ ตัวนึงมาสวม แล้วปั่นจักรยานไปโรงพยาบาลที่เหลียงหานพักอยู่
เขาจอดจักรยานไว้ที่ลาน เขาสอบถามห้องพักของเหลียงหาน เดินขึ้นชั้นสามแล้วผลักประตูห้องเข้าไป หัวของเหลียงหานมีผ้าพันแผลพันอยู่ ขาขวาถูกเขาเฝือกห้อยไว้ตรงปลายเตียง สองตาปิดอยู่เหมือนหลับไปแล้ว
อวี๋มู่ดึงเก้าอี้มานั่งข้างเตียง ศอกชันไว้บนเตียง นั่งหลังโก่งงอ หน้าซุกฝ่ามือ แทบไม่มีเสียง
เขาหัวเสียกับเื่ราวที่เกิดขึ้นคืนนี้
เหลียงหานจริงๆ แล้วไม่ได้หลับ
เขายังคงเวียนหัว ความเ็ปที่ขาเหมือนทิ่มแทงเขาอยู่เรื่อยๆ บังคับให้เขาตื่น
ดังนั้นจังหวะที่อวี่มู่ก้าวเข้ามาในห้อง เขาก็รู้สึกได้แล้ว
เวลาเนิ่นนานที่อยู่ด้วยกันมา เหลียงหานเริ่มเข้าใจนิสัยของอวี๋มู่
ครูของเขามีความสุขุมหนักแน่น แบ่งแยกความรักความเกลียดได้ชัดเจน แต่ชอบแบกรับความรับผิดชอบทุกอย่างไว้บนบ่าคนเดียว
เื่ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ไม่ใช่ความผิดของเขาแม้แต่นิดเดียว ถ้าจะพูดให้ถูกกว่าคือ เื่นี้ไม่เกี่ยวกับเขาแม้แต่นิดเดียว
แม้ว่าอวี๋มู่จะมาไม่ทันการ แล้วตัวเองต้องตายไปเพราะความรุนแรงของพ่อในบ้านนี้ ครูก็ไม่ได้มีหน้าที่ต้องมารับผิดชอบอะไรด้วยซ้ำ
แต่พอเห็นอวี๋มู่ทำถึงขนาดนี้ เหลียงหานกลับเป็สุขอย่างหน้าไม่อาย
ที่แท้ตัวเองก็มีตัวตนสำคัญในใจของครูอวี๋อยู่
อยากจะมีตัวตนมากกว่านี้ ให้มากกว่านี้อีก……
“ครูอวี๋ฮะ…...” เหลียงหานค่อยๆ ลืมตา ขนตาสั่นไหวเล็กน้อย หว่างคิ้วขมวดขึ้น ราวกับว่าเ็ปมาก
เขาคว้าเสื้ออวี๋มู่เบาๆ เอ่ยเสียงแหบพร่า “ครูมาแล้วหรอฮะ”
พอเขาขยับ อวี๋มู่ก็รับรู้ทันที รีบเงยหน้าขึ้นจากฝ่ามือ แล้วพูดกับเขา “ทำไมตื่นเอาเวลานี้ล่ะ หมอบอกว่าเธอได้รับความกระทบกระเทือนทางสมองเล็กน้อย ต้องพักผ่อน”
“เจ็บครับ นอนไม่หลับ…...” เหลียงหานจะพยุงตัวเองขึ้น พิงหลังกับเตียง พร้อมกับคว้ามือของอวี่มู่ ััความเป็ห่วงที่อบอุ่นนั้น จู่ๆ ในใจก็ก่อเกิดความรู้สึกผิดแปลกบางอย่าง
ไม่อยากปล่อยมือ ต่อแต่นี้ไป ไม่อยากปล่อยมืออีกแล้ว
แต่ลำพังความสามารถของเขาตอนนี้จะทำอะไรได้?
หากเหลียงหวายังคงปฏิบัติกับเขาอยู่แบบนี้ สักวันเขาคงพลาดพลั้งทำความผิดร้ายแรงแน่
ถึงตอนนั้นจะตอบแทนความคาดหวังที่ครูมีต่อเขาได้อย่างไรกัน? แล้วจะยืนอยู่ข้างเขาได้อย่างไร?
“ครูฮะ…… ที่จริงผม…...” ไม่นาน เขาก็นึกออก
แววตาที่แฝงด้วยความขลาดกลัวและเ็ป มือเย็นเฉียบของเหลียงหานกุมมืออวี๋มู่ไว้ สีหน้าซีดเผือด ค่อยๆ ส่งเสียง “วันนี้ผมกลัวมาก…… กลัวว่าจะตายด้วยน้ำมือพ่อ กลัวว่าจะไม่มีวันปกป้องแม่ได้อีก กลัว…...ว่าจะไม่ได้เจอครูอีก ผมยังไม่อยากตาย…… ครูฮะ ผมไม่อยากตาย”
เขาถ่ายทอดความหวาดกลัวของเด็กหนุ่มที่ต้องแบกรับความรุนแรงโหดร้ายทารุณภายในครอบครัวออกมาได้อย่างละเอียด ถึงขั้นน้ำตาคลอเบ้า หยดแหมะลงบนเตียง
หากว่าตอนที่ถูกเหลียงหวาทำร้ายจนสมองเบลอไม่รับรู้อะไร ท่าทางของเขาที่แสดงออกมาคงเป็ความอ่อนแอของจริง
แต่มาตอนนี้ ครึ่งนึงคือการแสดง
มีเพียงเหลียงหวาที่รู้ ขณะที่เขาฟาดเหลียงหาน เด็กหนุ่มนั้นมองเขาด้วยแววตาแบบไหน
นั่นคือแววตาของสัตว์ร้ายที่จ้องอยากฆ่าเขาเต็มที
ก่อนจะสลบไป เหลียงหานได้ยินเสียงรถตำรวจ ชัดว่าอวี่มู่แจ้งความ
เขาไม่รู้ว่าอวี๋มู่จะแจ้งดำเนินคดีกับเหลียงหวาหรือไม่ แต่นี่เป็โอกาสเดียวของเขา
เขาหวังว่าอวี๋มู่จะช่วยเขาส่งเหลียงหวาเข้าคุกได้ เขาอยากหลุดพ้นจากเงื้อมมือของชายคนนั้น เขาอยากยืนท่ามกลางแสงตะวัน เคียงบ่าเคียงไหล่กับอวี๋มู่ เเละเป็ที่ภาคภูมิใจของอีกฝ่าย
มือเรียวผอมของเด็กหนุ่มยังคงจับมืออวี๋มู่ไว้ นั่งอยู่ข้างเตียง หัวห้อย ไหล่สั่นเทา น้ำเสียงไร้ซึ่งความหวังของเขาแทบจะเอ่อล้นออกมา
นี่เป็ครั้งแรกที่เขาเห็นเหลียงหานหลั่งน้ำตา
เพราะที่ผ่านมาเหลียงหานให้เขาเห็นเพียงด้านที่ดีงาม ทั้งยังเป็เด็กดี แม้ตอนที่ทำแผลก็ไม่บ่นเจ็บ
ตอนนี้เหมือนว่ากับปลดปล่อยความหวาดกลัวที่มีทั้งหมดออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ร่ำร้องราวกับเด็กน้อยแล้วบอกว่าทุกข์ทรมานขนาดไหน
อวี๋มู่แววตาขมขื่น
เขาลุกขึ้นยืน โอบกอดเหลียงหาน ค่อยๆ ตบหลังเหลียงหาน “ไม่ต้องกลัว เสี่ยวหานไม่ต้องกลัวนะ ต่อไปครูจะปกป้องเธอเอง ครูจะไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสทำร้ายเธอได้อีก”
เหลียงหานสะอึกสะอื้น มือข้างนึงโอบไปที่เอวบางของอวี๋มู่ กอดรัดแน่น หัวพิงแนบตัวที่อบอุ่นของเขา ดวงตาเป็ประกายสั่นไหว จากนั้นหลับตาลง
ขอโทษครับ ครูอวี๋ ที่ผมหลอกใช้คุณ
-------------------------------------------------------------------------------------------------