“หากเป็ประสงค์ของรัชทายาท ข้าน้อยถังเยี่ยนก็เห็นดีด้วยเพคะ ฮองเฮาจะได้เลือกนางกำนัลด้วยองค์เอง เหมือนอดีตที่เคยเลือกเสี่ยวเอินเข้ามา” เขาพยักหน้า แล้วหันกลับมาจับพู่กัน วาดรูปเด็กผู้หญิงต่อ โดยไม่พูดอะไร
ภายในจวนของสกุลหลี่ ถังเยี่ยนเดินเข้ามาหาบิดาด้วยท่าทางไม่สบายใจนัก ก่อนหลี่ถังชุนจะวางมือจากงานตรงหน้าแล้วเอ่ยถามบุตรสาวด้วยความเป็ห่วง
“ข้าเห็นเ้านำผลไม้ไปให้รัชทายาท เหตุใดเดินหน้าบึ้งกลับมาเช่นนี้ รัชทายาทไม่ทรงโปรดรึ”
“หาใช่เช่นนั้น”
“แล้วมีเื่อันใดทำให้เ้าไม่พอใจอีก” หลี่ถังชุนลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วเดินมาหาหญิงสาว พลันยิ้มแล้วลูบศีรษะนางด้วยความเอ็นดู
“ข้ากำจัดพระสนมเสี่ยวเอินให้แล้ว เ้าไม่ยังพอใจอีกรึ” เสนาบดีเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนถังเยี่ยนจะถอนหายใจออกมา
“ท่านพ่อ ตอนนี้รัชทายาทประกาศรับนางกำนัลเข้ามาใหม่ หากถูกพระทัยฮองเฮาจริง ๆ ล่ะก็ จะต้องถูกแต่งตั้งให้เป็พระสนมของรัชทายาทอีกเช่นเดิม แบบนี้แล้วข้าจะทำเช่นไร” หลี่ถังชุนนิ่งเงียบไป ก่อนหญิงสาวจะจับมือบิดาแล้วเอ่ยด้วยความร้อนใจ
“ข้ายอมไม่ได้แล้ว ที่จะให้ผู้ใดขึ้นเป็พระสนมของรัชทายาท จริงอยู่ที่เสี่ยวเอินไม่ได้รับการโปรดปรานจากรัชทายาท แต่หากคนใหม่เข้ามา แล้วรัชทายาทเกิดพอใจขึ้นมา ข้าจะทำเช่นไร ข้าทนไม่ได้หากเห็นรัชทายาทรักผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ข้า”
“เ้าไม่ต้องห่วง ข้าจะเป็คนช่วยคัดเลือกนางกำนัลให้ฮองเฮาเอง” ถังหลี่ชุนเป็ขุนนางเก่าแก่ทำหน้าที่ซื่อตรงมาโดยตลอดแต่ด้วยความรักที่มีให้บุตรสาวทำให้เขาใช้อำนาจในทางที่ผิด คือการตัดสินโทษของพระสนมเสี่ยวเอินอย่างไม่เป็ธรรมเพื่อให้ถังเยี่ยนมีโอกาสขึ้นเป็พระสนมในรัชทายาทอย่างที่นางตั้งใจ
ท่ามกลางหุบเขาอันห่างไกล หญิงสาวในชุดเหลืองค่อย ๆ ได้สติจากเสียงเรียกของใครบางคนที่ดังอยู่ด้านข้าง
“แม่นาง เ้าได้ยินข้าหรือไม่ แม่นางตื่นเถิด” เสียงหญิงชราเอ่ยเรียกเบา ๆ พระสนมเสี่ยวเอินที่ความรู้สึกดับวูบไปหลังจากถูกปะาครานั้น ก็ได้สติลืมตาตื่นขึ้น ความรู้สึกเ็ปทรมานจากการดื่มพิษหายไป นางขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าของหญิงชราจับจ้องตรงมา
“ท่านเป็ใคร” หญิงสาวสะดุ้งตัวแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งด้วยความหวาดหวั่น
“ข้าควรถามเ้ามากกว่า ว่าเหตุใดเ้าจึงมานอนตรงนี้” เสี่ยวเอินหันมองไปยังรอบ ๆ พบกับตะกร้าใบใหญ่ วางอยู่ด้านข้าง พร้อมเบิกตากว้างเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเสื้อผ้าที่ตนสวมใส่อยู่นั้นเป็ชุดที่ไม่คุ้นชิน
“ข้ายังไม่ตายหรอกเหรอ” นางอุทานขึ้นด้วยความสับสน ก่อนหญิงชราจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“ดูจากลักษณะแล้ว เ้าคงไปเก็บสมุนไพรมาแล้วเกิดเป็ลมเป็แน่ ดีนะที่ข้าผ่านมาเห็น ไม่เช่นนั้นเ้าก็คงต้องตายจริง ๆ” หญิงชราพูดพลางพยุงเสี่ยวเอินขึ้นช้า ๆ ท่ามกลางความสับสนของหญิงสาว
“เก็บสมุนไพรงั้นเหรอ” นางทวนคำของอีกฝ่าย พลันหันมองไปยังตะกร้าที่มีสมุนไพรบรรจุอยู่เต็ม ก่อนนางจะสำรวจเสื้อผ้าที่สวมใส่ เป็ชุดชาวบ้านธรรมดาที่ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์ใด ๆ
“ท่านยาย ที่นี่ที่ไหน”
“เขาไท่ซาน เหตุใดเ้าจึงไม่รู้ว่าสถานที่แห่งนี้คือที่ใด ในเมื่อสมุนไพรก็อยู่เต็มตะกร้า” หญิงชราถามด้วยความแปลกใจ ก่อนนางจะค่อย ๆ จับเนื้อตัวและใบหน้าของตัวเอง พลันวิ่งไปหาแอ่งน้ำเล็ก ๆ ที่อยู่บริเวณนั้นพลันก้มลงมองภาพสะท้อน เห็นเป็หญิงสาวรูปร่างหน้าตาไม่คุ้นชิน
“นางไม่ใช่ข้า ข้ามาอยู่ในร่างนี้ได้อย่างไร” เสี่ยวเอินทิ้งตัวลงนั่งอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อแน่ใจแล้วว่าิญญาของนางอาจเข้ามาสิงในหญิงที่ตายแล้วอย่างร่างนี้ จึงค่อย ๆ หันมายังหญิงชราแล้วเอ่ยถามนาง
“ข้าอยากไปวังหลวง ท่านช่วยบอกทางได้หรือไม่”
“ไปวังหลวงงั้นรึ?อ่อ เ้าคงอยากไปเป็นางกำนัลใช่หรือไม่” เสี่ยวเอินหรี่ตาแล้วถามอีกฝ่าย
“หมายความว่าอย่างไร”
“ก็วันนี้เป็วันที่วังหลวงประกาศรับสมัครนางกำนัล หลานข้าเอง ก็ไปที่วังหลวงด้วยเช่นกัน” เสี่ยวเอินรีบลุกขึ้นแล้วเดินมายังหญิงชราในทันทีด้วยความรีบร้อน
“เช่นนั้นท่านช่วยบอกทางข้าไปวังหลวงหน่อย ข้าต้องรีบไปให้ทัน”
“เดินไปทางนั้น จะพบกับศาลเ้าร้าง ให้มุ่งไปทางทิศเหนือเดินไปอีกหน่อยก็จะเห็นตลาด เ้าลองถามคนแถวนั้นดู เขาจะบอกทางไปวังหลวง” เสี่ยวเอินได้ยินดังนั้นจึงรีบมุ่งตรงไปยังวังหลวงทันที
“เดี๋ยวก่อนแม่นาง ตะกร้าสมุนไพรของเ้าล่ะ”
“ข้าไม่เอาแล้วล่ะ” พูดจบเสี่ยวเอินก็นำพาร่างอันมอมแมมตรงไปยังวังหลวงทันทีด้วยความรีบร้อน ระหว่างเดินทางผ่านตลาดที่ผู้คนพลุกพล่าน เสียงของชาวบ้านกลุ่มหนึ่งก็พูดขึ้น
“วันนี้เป็วันคัดเลือกนางกำนัลเข้าไปทำหน้าที่ดูแลฮองเฮา ว่ากันว่าหลังจากพระสนมเสี่ยวเอินถูกปะาไป ฮองเฮาก็ทรงเก็บตัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร ฮ่องเต้ทรงง้อด้วยการประกาศรับสมัครนางกำนัลคนใหม่” เสี่ยวเอินในร่างของหญิงมอมแมมได้ยินดังนั้นจึงหยุดฟังเงียบ ๆ ก่อนอีกฝ่ายจะกล่าวต่อ
“ฮองเฮาก็แปลกคน พระสนมเสี่ยวเอินลอบคบชู้จนถูกปะาก็สมควรแล้วมิใช่รึ เหตุใดจึงโศกเศร้าเช่นนั้น นางทำผิดใหญ่หลวง ฮ่องเต้ทรงทำถูกแล้วล่ะ ที่ยอมให้ท่านเสนาบดีสั่งปะานาง”