ซินเยว่แอบคิดเล่น ๆ เมื่อเห็นว่ามีรถม้าจอดอยู่หน้าบ้านว่า มารดาของตนกับหลัวฮูหยินคงจะพูดคุยกันถูกคอไม่น้อย ถึงได้ส่งรถม้ามารอรับมารดาของนางไปพบที่จวนทุกวัน
“ลี่หลินเ้ามาแล้วรีบเข้ามานั่งเร็ว นี่คือรายชื่อคนที่ข้าจะให้เ้าไปช่วยแต่งหน้าให้พวกนาง” รายชื่อที่ยื่นให้ลี่หลินนั้นล้วนเป็สหายของนางทั้งสิ้น
ลี่หลินดูรายชื่อในกระดาษที่รับมามีทั้งหมดสิบกว่าชื่อ และคาดว่าสตรีเหล่านี้คงเป็ฮูหยินของขุนนางระดับสูงในเมืองเหลียงซาน ถ้าบุตรสาวได้เห็นรายชื่อเหล่านี้คงจะดีใจมากเป็แน่
“เ้ารู้หรือไม่ยามที่ไปถึงงานเลี้ยง ตอนข้าเดินเข้าไปในงานพวกนางต่างตกตะลึงจนจำข้าแทบไม่ได้ พอจำข้าได้พวกนางก็เอาแต่เอ่ยชมไม่หยุดปากเลยล่ะ” หลัวฮูหยินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เมื่อคิดถึงเื่ที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงเมื่อวาน
เมื่อวานนางได้แต่ฟังคำถามและคำชื่นชมตลอดทั้งงาน ทั้งเื่การแต่งหน้าที่ให้งดงามและกลิ่นกายที่หอมอยู่ตลอดเวลา พอทนการรบเร้ามาก ๆ เข้าไม่ไหว จึงได้บอกสหายว่านางได้ช่างแต่งหน้าฝีมือดีมาแต่งหน้าให้ และยังบอกอีกว่าช่างแต่งหน้ามีชื่อว่าลี่หลิน หลังจากนั้นสหายของนางถึงกับลงชื่อขอจองตัวล่วงหน้ากันเลยทีเดียว
“เมื่อวานก่อนที่จะไปร่วมงานเลี้ยงสามีที่ได้เห็นใบหน้าของข้า ถึงกับรั้งตัวข้าไว้จนเกือบไปไม่ทันเข้าร่วมงานเลี้ยง เห็นเขาเอาแต่ทำงานนึกว่าจะไม่สนใจข้าแล้ว
อีกอย่างข้าก็อายุมากขึ้นทุกวัน ในใจก็นึกกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจไปมองหญิงอื่น” สามีของนางถึงจะอายุสี่สิบกลาง ๆ แต่ยังคงความหล่อเหลาอยู่ไม่น้อย มีสตรีมากมายพยายามยัดเยียดตนเองบ่อย ๆ แม้เขาจะบอกว่ารักนางเพียงผู้เดียวแต่นางก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี
“พี่เมิ่งหลานอยากให้ใต้เท้ามีสายตาไว้มองท่านผู้เดียวใช่หรือไม่เ้าคะ เช่นนั้นข้ามีวิธีเ้าค่ะ” ลี่หลินทำท่าทีมีลับลมคมใน
เมื่อลี่หลินกระซิบบอกวิธีที่ข้างหูของหลัวฮูหยิน แต่พอได้ยินวิธีของลี่หลินเท่านั้น หลัวฮูหยินถึงกับเบิกตากว้างพร้อมกับพยักหน้ารัว ๆ
“วิธีนี้เมื่อทำครบหนึ่งเดือนท่านอาจจะเหนื่อยจนลุกไม่ไหวเ้าค่ะ วันนี้ข้าจะกลับไปเตรียมของให้ท่านก่อน เราจะเริ่มฝึกกันในวันพรุ่งนี้นะเ้าคะ” ลี่หลินสนทนาอีกเพียงเล็กน้อยก็ขอตัวกลับ เพื่อเตรียมสิ่งที่นางได้รับปากกับหลัวฮูหยินเอาไว้
ลี่หลินมองตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึงเงินในมือ ก็รู้สึกเหมือนกับว่านางจะติดนิสัยของบุตรสาวไปแล้ว นึกถึงเื่ที่บอกกับหลัวฮูหยินไปนั้น คงต้องบอกให้บุตรสาวเตรียมทั้งยาและครีมบำรุงอย่างดีไว้ อีกอย่างนางจะสอนหลัวฮูหยินออกกำลังกายเหมือนนาง รวมถึงรายการอาหารเพื่อสุขภาพที่ต้องกินควบคู่กัน
ยามเหม่าของวันต่อมาซินเยว่ตื่นมาแต่เช้า เพื่อสอนเถ้าแก่เซียวออกกำลังกายด้วยการรำมวยไทเก๊กจะได้มีสุขภาพแข็งแรง และภายหลังจากรับมื้ออาหารเช้าเสร็จซินเยว่ก็เอ่ยชักชวนเสี่ยวหลานออกจากบ้าน เพื่อไปดูการปรับปรุงร้านของนายช่างชางิ
“ไปกันเถอะพี่เสี่ยวหลาน”
วันนี้เป็วันที่เจ็ดของการปรับปรุงโรงเตี๊ยม ซินเยว่คิดว่าจะแวะเข้าไปดูเสียหน่อย หากมีจุดไหนที่ไม่ตรงตามแบบจะได้แก้ไขทันที
“คุณหนูนายหญิงกลับมาพอดีเลยเ้าค่ะ”
“ท่านแม่เหตุใดวันนี้ถึงกลับมาเร็วได้เ้าคะ” ซินเยว่ถามมารดาด้วยความแปลกใจ เนื่องจากเพิ่งผ่านไปไม่ถึงสองชั่วยาม ปกติแล้วมารดามักจะกลับมาใน่ยามเว่ย
“พอดีวันนี้แม่คุยธุระเสร็จเร็ว แล้วนี่เ้ากำลังจะออกไปตรวจดูโรงเตี๊ยมงั้นหรือ”
“ใช่เ้าค่ะ ท่านแม่สนใจไปด้วยกันกับข้าไหมเ้าคะ”
“ก็ดีนะ เช่นนั้นแม่ไปกับเ้าด้วยก็แล้วกัน” ลี่หลินตัดสินใจไปกับซินเยว่ ซึ่งเดินเข้ามาประคองนางเดินออกจากบ้านไปด้วยกัน
หน้าโรงเตี๊ยมหลิ่งซาน
“คารวะท่านลุงชางิเ้าค่ะ งานเป็อย่างไรบ้างเรียบร้อยดีหรือไม่เ้าคะ” เมื่อซินเยว่มองเข้าไปในโรงเตี๊ยมก็เห็นว่าเริ่มเป็รูปเป็ร่างขึ้นมาแล้ว
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่มีปัญหาเลย เพราะแบบที่เ้าเขียนมาทำให้ลุงเข้าใจง่ายและทำงานได้ไวขึ้นอีกด้วย”
“โต๊ะไม้ตัวนี้มีไว้ทำอันใดหรือเยว่เอ๋อร์” ลี่หลินถามขึ้นเมื่อเห็นโต๊ะไม้ยาวและยังมีมุมโค้งที่สวยแปลกตา
“อ้อ โต๊ะไม้ตัวนี้น่ะหรือ เอาไว้ให้คนงานที่ประจำอยู่จุดนี้ใช้ต้อนรับแขกที่เข้าพักโรงเตี๊ยมของเรา รวมถึงการรับเงินและจ่ายเงินก็จะทำที่โต๊ะนี้เ้าค่ะ”
“เถ้าแก่เนี้ยไม่ทราบว่าวันนี้มีห้องว่างให้ข้าสักห้องไหมเ้าคะ” ซินเยว่หันไปตามเสียงก็พบว่าเป็เสี่ยวหลาน ที่กำลังแสร้งเล่นเป็ลูกค้า
“ห้องว่างย่อมมีแน่นอนเ้าค่ะ ไม่ทราบว่าลูกค้าจะพักกี่คืนดีเ้าคะห้องส้วมด้านหลังโรงเตี๊ยมยังว่าง” ลี่หลินเห็นเช่นนั้นก็เล่นตามเสี่ยวหลานอีกคน ทำเอาซินเยว่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ถึงกับกลั้นขำจนหน้าแดง
“นายหญิงงง...” เสี่ยวหลานทำหน้ายู่ใส่เ้านายของตนไปหนึ่งที
ซินเยว่เกรงว่าจะทนดูต่อไม่ไหว จึงเดินขึ้นไปตรวจภายในห้องพัก บางห้องเริ่มมีโครงของเตียงไม้แล้ว ถือว่ามีความคืบหน้าไปพอสมควร ขณะที่กำลังจะลงไปคุยกับนายช่างชางิต่อ นางก็บังเอิญเห็นร่างคุ้น ๆ ตาเข้าพอดี
“พี่อาเซ่อทำไมท่านยังมาที่นี่เล่า ท่านตาให้ท่านลาพักมิใช่หรือ” ถึงท่านตาของนางจะให้เขาพักงาน แต่ก็ยังจ่ายค่าจ้างให้เหมือนเดิม
“ข้ามารอให้นายช่างทำงานเสร็จ แล้วค่อยทำความสะอาดมันจะได้ไม่สกปรกจนเกินไปขอรับ”
“อาเซ่อมาช่วยงานที่โรงเตี๊ยมทุกวันเลยขอรับ ไม่ว่าจะทำความสะอาดหรือช่วยงานช่างไม้เล็ก ๆ น้อย ๆ เ้านี่เป็คนขยันมากจริง ๆ ขอรับคุณหนู”
“เช่นนั้นพรุ่งพี่อาเซ่อไปพบข้าที่บ้านในตอนเช้า ข้ามีธุระจะคุยกับพี่สักหน่อย”
“ขะ ขะ ขอรับคุณหนู” ‘หรือว่านางจะรู้เื่นั้นแล้ว จะเป็ไปได้อย่างไรข้าทำงานที่นี่มาเกือบสองปี แม้แต่เถ้าแก่ยังมองไม่ออกเลย’
ซินเยว่เดินลงมาด้านล่างเพื่อคุยกับนายช่างชางิ เกี่ยวกับเื่แบบปรับปรุงร้านผ้าของจูจื่อฉิง
“ท่านลุงชางิ ข้ารบกวนท่านช่วยดูแบบร่างใบนี้ และตีราคาให้ข้าหน่อยได้หรือไม่เ้าคะ”
“หือ ร้านตัดเสื้อผ้าสตรีงั้นหรือ ช่างออกแบบมาได้เหมาะกับร้านตัดเสื้อจริง ๆ”
“พอดีข้าอยากปรับปรุงหน้าร้านใหม่ และตกแต่งเพิ่มเติมบางอย่างอีกเล็กน้อยเ้าค่ะ”
“ถ้าแค่ปรับปรุงและตกแต่งเพิ่มไม่มาก ลุงว่าไม่เกินสองร้อยตำลึงเงิน งานนี้คุณหนูรีบหรือไม่ลุงมีสหายที่กำลังว่างงานอยู่ ถ้าคุณหนูรีบลุงจะติดต่อพวกเขาให้” ตัวของชางิคงไปทำให้ไม่ได้ เพราะติดทั้งงานโรงเตี๊ยมไหนจะต่อด้วยบ้านพักคนงานอีก
“เช่นนั้นข้าคงต้องรบกวนท่านลุง ช่วยติดต่อสหายของท่านให้ข้าแล้วเ้าค่ะ”
หลังจากคุยกับนายช่างชางิเสร็จแล้ว ซินเยว่ก็เอ่ยขอตัวกลับไปทำงานต่อ แต่นางเกือบจะลืมมารดากับเสี่ยวหลาน จึงรีบกลับเข้าไปตามทั้งสองคนเพื่อกลับบ้านพร้อมกันอีกครั้ง
