" หึ หึ " เด็กชายหัวเราะในลำคอ
" ความเจ็บระดับนี้ ไม่สามารถขัดขวางการเติบใหญ่ของเราได้หรอก" เขาพูดออกมาทั้งที่ยังลุกไม่ขึ้น " เอาเค้าไม่อยู่จริง ๆ "
เขายันตัวเองลุกขึ้นมานั่ง หน้าตาเต็มไปด้วยเศษดินและเศษหญ้า ในใจลังเลว่าจะฝึกขั้นต่อไปเลยดีไหม อาการเจ็บหัวจากข้อมูลที่หลั่งไหลเข้ามาสู่สมองโดยตรง มันช่างทรมานทรกรรมตัวเขาดีจริง ๆ
ฟึ่บ -
เขาเรียกลูกไฟออกจากมือ
วูบ - ดับไป
ฟึ่บ วูบ ฟึ่บ วูบ -
เขาเอนตัวลงนอน " ฮ่า ๆ สนุกเป็บ้า " ถ้าไม่นับตอนหัวจะะเินะ
..... .... .... - - '
เหงื่อแตก เขารีบลุกขึ้นมา เขามานอนทำบ้าไรกลางแดดฟร๊ะเนี่ย ดีใจจนลืมสิ่งรอบข้างไปหมด คิดได้ดังนั้นจึงวิ่งไปทางหลังบ้าน หลบแดดเสียหน่อย หลังบ้านนั้นมีทั้งต้นไม้และลำธาร แลดูสดชื่นเย็นสบาย เขานั่งใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง ลมพัดโชยเอื่อย ๆ นำพาความเย็นสบายมาปะทะกับร่างกายของเด็กชาย เขาหลับตาเงยหน้าขึ้น
" ลองเปลี่ยนจากไฟ เป็ลมดีไหม " เขาคิดในใจ กำลังชั่งน้ำหนักว่าถ้าเปลี่ยนจากไฟเป็ลม หัวเขาจะปวดไหม แต่เขาคิดว่าตอนที่เรียกไฟได้ก็ไม่ได้แจ้งว่าสร้างเวทย์ไฟได้ซะหน่อย แจ้งแค่ว่า สร้างเวทมนต์เฉย ๆ
" เอาละลองดู " เขาตัดสินใจแน่วแน่ จินตนาการถึงลมพัด
" มันจะคิดภาพไงฟร๊ะ มองไม่เห็น " พลันคิดถึงภาพเวทย์ลมในเกมแฟนตาซี Rpg เกมหนึ่ง ที่ตัวเขาเป็ Fc ทุกภาคในซีรี่ย์ ที่มีชื่อบอกว่าสุดท้ายทุกภาค แต่ก็ไม่ท้ายสุดซะที
" เอาตามนั้นละกัน " เขานึกขึ้น
.. ... ... ... ว่างเปล่า
เขาสงสัย รู้สึกว่าได้ใช้มานาไป แต่ว่างเปล่า เอาใหม่
........ เหมือนเดิม
เขาก้มลงมามองที่มือเขาใกล้ ๆ เอาใหม่ มีความรู้สึกว่ามานาถูกใช้ไปอีกครั้ง
ฟิ้วว !!! มีเสียงแ่เบา เบาจริง ๆ แล้วหายไป
ยังสงสัย เอาใหม่ แต่ครั้งนี้เอานิ้วมืออีกข้าง มาแหย่ไว้ เริ่ม
ฟิ้วววว วูบ
นิ้วของเขามีความรู้สึกว่ามีลมพัดผ่านไม่นาน ก่อนหายไป
" อ่อออ " ที่มองไม่เห็นเพราะมันคือลมซินะ เก็ทแล้ว เมื่อรู้เช่นนั้น เด็กชายลุกขึ้นแล้วะโลงลำธาร
ตู้มม !!! เสียงน้ำกระจายย
" ฮ่า ๆ ๆ เย็นสบายจริง ๆ " ที่เขาะโลงน้ำมา ไม่ใช่แค่อยากสดชื่นอย่างเดียว
" ไหนดูซิ น้ำจะเป็ไง "
จ๋อมม ~ น้ำลูกกลม ๆ กระเพื่อม ๆ ลอยบนมือเขา
ซ่าา ~ น้ำเหลวลงบนมือ
" น้ำแข็ง ๆ ๆ ๆ "
แกร็ก ๆ ๆ !!! น้ำแข็งก่อตัวขึ้น แล้วค่อยสลายเป็น้ำไป
" หิ้ววว ๆ " เสียงเขาโห่ร้องอย่างดีใจ
" เอาเขาไม่อยู่จริง ๆ นั่นแหละ " เด็กชายกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ คิดว่าวิธีการของตัวเองนั้นถูกต้อง สร้างไฟก็ยืนกลางแดด ลมก็ให้ลมพัด น้ำก็โดดลงน้ำ แล้วค่อยคิดภาพขึ้นในหัว โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่า เป็เพราะพร์ของเขาที่พระเ้าให้มาล้วนๆ แช่น้ำได้ซักพักก็ขึ้นมา
" เอาละพร้อมแล้ว " เขาพร้อมรับแรงปะทะจากอาการเ็ปแล้ว
เขาเรียกไฟขึ้นมา " ลุงแบรดบอกว่าให้ค่อยส่งมานาไปเลี้ยงเรื่อย ๆ ให้คงที่ " เขาทวนคำสอน
เขาใช้สมาธิ ฟึ่บ ~ คงอยู่ได้ซักพัก วูบ ~ เป็แบบนี้วนไป
" ฮึ่บบ " ไม่ยอมแพ้หรอก ว่าแล้วก็ทำวนต่อไปเรื่อย ๆ
ฟึ่บ ~ ค่อย ๆ ส่งมานาเข้าไป เรื่อย ๆ ค่อย ๆ พอใกล้ดับ ก็เร่งมานาขึ้น เหมือนจุดเตาแก๊สมั้ง เขาคิดแล้วทำตามความเข้าใจของเขาเอง
[ ได้รับเวทมนตร์ ไฟ ]
[ ผลของพร์ทำงาน เวทมนตร์ไฟ วิวัฒนาการเป็ แตกฉานเวทมนตร์ไฟขั้นสุดยอด ]
[ ได้รับความสามารถ แสดงเวทมนตร์ ]
[ ผลของพร์ทำงาน...... แตกฉานการแสดงเวทมนตร์ ]
เช่นเคย หน้าคะมำจุมพิศกับพสุธา
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า " เด็กชายหัวเราะหลังจากศรีษะของเขาหายปวด เขาหงายตัวขึ้นมา แบมือขึ้น
ฟึ่บ ~ ไฟ ล่องลอยอยู่บนมือของเขาอยู่อย่างนั้น
" อืมม " เขายื่นนิ้วไปที่ไฟ ไม่รู้สึกถึงความร้อนอะไรเลย
" ต้องมีอะไรผิดพลาดตรงหนายยย " เขาฮึมฮัมออกมา
ฟึ่บบบบ ~ มีใบไม้แห้งปลิวผ่านไฟ เด็กชายมองตามไป มันค่อย ๆไหม้ ลามไปเรื่อย ๆ จนใบไม้แห้ง กลายเป็เถ้าถ่านปลิวตามลมไป
" หรือคนร่ายจะไม่ได้รับความร้อนจากไฟของตัวเอง " เขาคิดในใจ พลางเอานิ้วจิ้มเข้าจิ้มออกไฟที่เขาสร้างขึ้นมา สลับกับหาใบไม้แห้ง
ความรู้สึกที่มานาถูกนำมาใช้ยังคงรู้สึกอย่างต่อเนื่อง แต่มันเบาบางเอามาก ๆ
แทบไม่รู้สึกถึงเลยถ้าไม่ตั้งใจจับความรู้สึกจริง ๆ จัง ๆ
วูบบบ ~ เขาดับไฟลง
" ไปตุ๋นไก่ดีกว่า ต้องวิ่งไปเก็บตะไคร้อีก " พูดจบก็ออกวิ่งไปทันที
เมื่อกลับมาถึง เขาจัดแจงวางกองไม้แห้งที่เขาเก็บมาระหว่างทางไว้ในเตาแล้วจุดไฟทันที
เปรี๊ยะ ๆ ~ ประกายไฟเกิดขึ้นส่งเสียงดัง ไม้แห้งค่อย ๆติดไฟ เขานำหม้อมาวาง แล้วค่อยตักน้ำเติมลงไป เอาไก่ใส่ลงไป ทุบตะไคร้แล้วมัดรวมกัน ใส่ลงไป รอเดือด คอยตักฟองออก จนไม่มีฟอง น้ำลดลงมาก็ใส่เพิ่ม รอเดือดอีกรอบ
" ไม่มีใครกลับมาเลยวุ้ย " พูดไม่ทันขาดคำ กลุ่มของไทนี่ก็เดินเข้ามา
" ไทนี่มาช่วยข้ายกหม้อลงหน่อย " เขาร้องขอความช่วยเหลือ เขาจะเอาน้ำซุปลงก่อน แล้วค่อยเอาพวกเนื้อใส่ลงไปทำอีกทีตอนใกล้ได้เวลากินอาหารเย็น
พอพวกเขาเอาหม้อลงมาวางเสร็จ ไทนี่ก็บอกเขาว่าจะไปเอาเถาวัลย์มาสานกระด้งให้ แนชจึงวานเขาให้เรียกพวกกลุ่มเด็กผู้หญิงมาทำหน้าที่ได้แล้ว ไทนี่พยักหน้าแล้วเดินออกไป
สักพักกลุ่มเด็กผู้หญิงก็เดินกันเข้ามาทำหน้าที่เสร็จแล้วจึงออกไปใหม่ แนชจึงเดินไปดูหอย เขาหาดูหอยมุก แต่ตัวเล็กทุกตัว จึงแยกไว้แล้วนำไปปล่อยหลังบ้าน
มีซุปไก่แล้ว จะมีคนกินซุปหอยไหม เสียดายถ้าเหลือ อาหารก็มีชีวิต เขาจึงจัดการเอาหอยไปปล่อยทั้งหมด พวกเด็ก ๆ เห็นแบบนั้น ต่างสงสัยกันทุกคน
" คือวันนี้เรามีซุปแบบอื่นน่ะ ข้ากลัวมันจะเหลือ เลยปล่อยมันกลับคืนสู่ธรรมชาติให้มันได้เติบโตต่อไป " เขาพูด
ทุกคนพยักหน้าแล้วกลับไปทำกิจกรรมของตัวเองต่อ
เมื่อถึงเวลาทำอาหาร ทุกคนก็ทำหน้าที่ของทุกคนไปจนเสร็จ หลังจากนั้นแนชจึงยกหม้อน้ำซุปโครงไก่ตั้งให้เดือด ใส่ชิ้นส่วนไก่ต่าง ๆ ปล่อยไว้ซักพักใหญ่ ใส่เครื่องใน ตักฟองออก ปรุงรสด้วยเกลือ ชิม ได้รสตาม้าแล้วจึงใส่เืก้อน แล้วยกลง
" แท่น แท่น แท๊นน ~ " เขาผายมือออก ไปยังหม้อที่พึ่งยกลง
รสชาติของน้ำซุปที่หวานจากโครงไก่ ตัดรสด้วยเกลือ ซุปไก่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นของตะไคร้ชวนอยากอาหารแตะจมูกเด็กทั้งหมด ทุกคนตื่นตาตื่นใจ ตั้งหน้าตั้งตารอคอยกันอย่างคาดหวัง พากันกลืนน้ำลายดัง เอื้อกก เอื้อกก
" นี่คือ ต้มเอ้ยซุปไก่ฟ้า นะทุกโคนนนน " เด็กชายบอกทุกคน มันก็ต้มปกติแหละ แต่ของเค้าพิเศษตรงมีตะไคร้ไง
" เอาละ มาตักกินกันเถอะ " เขาบอกทุกคน พลางตักซุปใส่ชาม แบ่งให้ลุงแบรดด้วยพร้อมกับกุ้งเผาผักต้มและปลาเผา แยกเสร็จจึงหันมาบอกเพื่อน ๆ
" เอ้า กินกันซิ รออะไรเล่า " สิ้นเสียงของแนช ทุกคนต่างผลัดกันซดน้ำซุป และตักเนื้อไก่ขึ้นมากิน
" ง่ำ ๆ แจ๊บ ๆ ๆ งืมมม ๆ ๆ " เสียงแห่งความอร่อยดังลั่นไปทั่วโถงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหลังนี้
" แนช ไอนี่คืออะไร ? " ไทนี่ถามขึ้นมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้