เมื่อได้ยินจวินอู๋เสียซ้ำาแตนเองอย่างไม่เกรงใจ สีหน้าซ่งอี้หานก็ดูไม่น่ามองอย่างยิ่ง “จวินอู๋เสีย ท่านไม่กลัวข้าทำให้ท่านก้าวออกไปไม่ได้หรือ?”
“ท่านอ๋องจะไม่ทำเช่นนี้” จวินอู๋เสียพูดอย่างไม่รีบร้อน “ตำแหน่งอาลักษณ์ฝ่ายซ้ายมีค่ายิ่งกว่าตัวประกันราชวงศ์ใต้อย่างข้ามาก”
ใช่แล้ว หลักฐานในมืออาลักษณ์อู๋ยังอยู่ในมือจวินอู๋เสีย ซ่งอี้หานจำเป็ต้องปล่อยให้เขาเดินออกจากจวนเสียนอ๋อง
ซ่งอี้หานกำหมัดที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อแน่น ในที่สุดเขาก็เผยรอยยิ้มอบอุ่น “เมื่อครู่เป็แค่มุกขำขันเท่านั้น”
จวินอู๋เสียแย้มยิ้มตาม “กระหม่อมรู้ว่าเสียนอ๋องชอบล้อเล่นเป็ที่สุด ทว่าคนอื่นอาจคิดเป็จริงเป็จังได้ง่าย อย่างเช่นเื่ที่ชอบเด็กชายตัวน้อย พูดไปมากๆ คนอื่นก็เชื่อเอาได้ ท่านอ๋องไม่ชอบชื่อเสียงเสียหาย ทว่าคร้านที่จะโต้แย้ง ช่างใจกว้างจริงๆ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าอ่อนโยนของซ่งอี้หานก็เปลี่ยนเป็เ็าอีกครั้ง เขาจ้องจวินอู๋เสียเขม็งด้วยแววตาที่ยากจะปกปิดเจตนาฆ่าเอาไว้ได้
แน่นอนว่าจวินอู๋เสียสังเกตเห็น ทว่าเขากลับไม่หวาดกลัวเลยสักนิด การปรากฏตัวของเขาที่นี่ในคืนนี้เทียบได้กับการปลูกฝังเจตนาฆ่าไว้ที่ซ่งอี้หาน ทว่าอำนาจปัจจุบันของซ่งอี้หานไม่อาจทำเช่นนี้ได้
หากพุ่งเป้าไปที่ตัวประกันราชวงศ์ใต้ ไทเฮากับซ่งอี้เฉินต้องไม่เห็นด้วยแน่ และจะยิ่งก่อให้เกิดความสงสัย และเมื่อสืบเสาะความสงสัยนี้ต่อไป ซ่งอี้หานจะต้องยุ่งยากแน่นอน เขาจึงทำได้เพียงอดทน เมื่อนึกถึงโอรส์ในอดีตแล้วเปรียบเทียบกับตำแหน่งในปัจจุบัน จวินอู๋เสียก็เข้าใจความรู้สึกของซ่งอี้หาน
ก็เหมือนกับจวินอู๋เสียเองที่เคยเป็รัชทายาทแห่งราชวงศ์ใต้ แม้ปัจจุบันฝั่งนั้นจะยังรักษาตำแหน่งของเขาไว้ ทว่ามันไม่มีประโยชน์แล้ว เขาหวังว่าหากกลับไปไม่ได้ก็ตายในต่างแดนเสียดีกว่า
ทว่าเขาจำเป็ต้องกลับไป แม้การแต่งตั้งเขาเป็รัชทายาทในตอนแรกเป็แผนรับมือชั่วคราวที่เหมาะสม แม้ตอนแรกเสด็จพ่อจะทำเพื่อปกป้องบุตรชายที่เขารักทะนุถนอมที่สุด ดังนั้นเขาก็ต้องกลับไปให้ได้ ในเมื่อเสด็จพ่อทรงมอบตำแหน่งนี้ให้เขา เสด็จพ่อจำเป็ต้องรักษาสัญญานี้ไว้ให้ได้
จวินอู๋เสียสะบัดแขนเสื้อเล็กน้อย เมื่อสังเกตเห็นว่าซ่งอี้หานเก็บเจตนาฆ่ากลับไปแล้วเขาจึงถามด้วยรอยยิ้ม “ท่านอ๋องไตร่ตรองได้ว่าอย่างไรบ้าง? ไทเฮาพบเอกสารร่วมมือกับศัตรูที่บอกว่าอาลักษณ์อู๋สมรู้ร่วมคิดกับตระกูลอวิ๋นที่เหลือ ร่วมมือกับศัตรูทรยศบ้านเมือง อาลักษณ์อู๋เหลือเวลาไม่มากแล้ว”
ซ่งอี้หานยืดตัวตรง ในที่สุดก็ไม่ได้สืบสวนจวินอู๋เสียอีกต่อไป ทว่ากลับหยิบจดหมายขึ้นมาจ่อเปลวเทียนพลางมองเปลวไฟค่อยๆ ไหม้จนหมดแล้วพูดออกมาว่า “ปกป้องครอบครัวเขาได้ ทว่าอาลักษณ์อู๋จะไม่มีหวังในการกลับเข้ามารับตำแหน่งนี้อีก”
“เื่นี้ดูท่าอาลักษณ์อู๋คงชั่งน้ำหนักไว้แล้ว” จวินอู๋เสียได้รับคำมั่นแล้วจึงลุกขึ้นยืน “เช่นนี้ กระหม่อมทูลลา รุ่งสางรอฟังข่าวดี”
ซ่งอี้หานลุกขึ้นยืนประสานมือคำนับแล้วฟื้นคืนสีหน้าอบอุ่นตามปกติเหมือนกับท่านอ๋องที่เอ้อระเหยลอยชายไม่สนใจเื่การเมืองในราชสำนักเมื่อก่อน
......
เหยียนอู๋อวี้ฟังทุกอย่างจนจบ ความขุ่นเคืองบนใบหน้าก็ยังไม่หายไป “ถึงอย่างไรตอนแรกท่านก็ไม่รู้อยู่ดีว่าซ่งอี้หานจะถูกท่านบีบบังคับได้หรือไม่”
จวินอู๋เสียส่ายศีรษะปฏิเสธ “ไม่ เขาจะต้องตอบตกลงแน่นอน”
เหยียนอู๋อวี้ไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะมั่นใจในชัยชนะ “คนหนุ่มสาวมุทะลุ คิดไม่รอบคอบ คิดว่าตนเองถูก หากเขาไม่ถูกจดหมายฉบับนี้ข่มขู่ ไม่หวั่นไหวกับสิ่งที่ท่านเสนอ ท่านจะทำอย่างไร?”
จวินอู๋เสียมองนางที่จู่ๆ ก็พูดประโยคชวนให้รู้สึกฉงน “คนหนุ่มสาวหรือ? เท่าที่ขารู้ ปีนี้เหยียนฉายเหรินอายุไม่เกินสิบเจ็ด เด็กกว่าข้าเกือบห้าปี”
เหยียนอู๋อวี้ใบ้กิน ตนเองเผลอมองเขาเป็เด็กในปีนั้นโดยไม่รู้ตัวและลืมตัวตนในปัจจุบันของตนเองไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้เมื่อถูกบีบคั้นจึงไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรไปชั่วขณะ
ทว่าอย่างไรนางก็ไม่ใช่สตรีธรรมดาอยู่แล้วจึงตอบกลับไปทันทีว่า “ที่บ้านเกิดข้า จะมองว่าคนที่แต่งงานแล้วจะถือว่ามีอายุมากกว่าคนที่ไม่ได้แต่งงาน ข้าเพียงแค่เคยชินเท่านั้นเอง”
จวินอู๋เสียเหมือนฟังเหตุผลนี้ของนางโน้มน้าวใจ เขาตอบด้วยรอยยิ้ม “เมื่อครู่ข้าพูดแล้วว่าซ่งอี้หานต้องถูกข้าโน้มน้าวได้แน่นอน ของในเรือนรับรองของอาลักษณ์อู๋แห่งนั้นมากเกินกว่าสิ่งที่ข้าให้ไป เขายังไม่รู้ว่าข้าต้องพึ่งพาอีกมากเพียงใด นอกจากนี้ต่อให้เขาไม่ปล่อยข้าไป ข้าก็ออกไปได้อยู่ดี เขาเป็เสียนอ๋องที่ไม่กล้าก่อเื่ใหญ่โต เป็พวกจะขว้างหนูก็กลัวกระทบสิ่งของ อีกทั้งข้าตัวคนเดียวจึงไม่จำเป็ต้องกังวล”
สิ่งที่จวินอู๋เสียพูดมาทั้งหมด ความจริงแล้วเหยียนอู๋อวี้คาดคิดไว้อยู่แล้ว ทว่านางยังคงรู้สึกเป็กังวลอยู่บ้างจึงได้แต่ตักเตือนเสียงเบา “คราวหน้าอย่าบุ่มบ่ามเช่นนี้อีก”
จวินอู๋เสียไม่โต้แย้งนาง ตอบรับเสียงทุ้ม จากนั้นก็ได้ยินเหยียนอู๋อวี้ถามเขาว่า “หลังออกท่านมาสังเกตเห็นคนอื่นสะกดรอยตามหรือไม่?”
เขาตอบ “มี ทว่าข้ากลับมาที่วังหลวงทันที พวกเขาแตะต้องข้าไม่ได้ ส่วนสิ่งของในเรือนรับรองของอาลักษณ์อู๋นั้น ข้าย้ายไปวางในที่ที่ไม่มีผู้ใดรู้ก่อนจะไปจวนเสียนอ๋องแล้ว ทว่าข้าสามารถบอกสถานที่นี้แก่ท่านได้”
เหยียนอู๋อวี้ส่ายศีรษะพลางกล่าว “ไม่จำเป็ ที่จริงข้าไม่ได้ทำอันใดเลย ของพวกนี้ควรเป็ของไว้ปกป้องท่าน ตอนนี้ท่านปรากฏตัวตรงหน้าซ่งอี้หานแล้ว ภายหลังต้องถูกเขาทำให้หวาดกลัวแน่นอน หากเขาคิดลงมือ ท่านจะได้มีที่พึ่งให้เขารู้สึกว่าจะขว้างหนูก็กลัวกระทบสิ่งของ”
จวินอู๋เสียพูดพลางแย้มยิ้ม “เป็เช่นนั้นจริง ลำบากเหยียนฉายเหรินที่เป็ห่วงข้าแล้ว”
รอยยิ้มเขาดูผ่อนคลาย แม้ปากจะพูดเช่นนี้ ทว่าเหยียนอู๋อวี้ไม่เห็นความกังวลของเขาสักกระผีกริ้น ตรงกันข้ามกลับเห็นความหมายอื่นในรอยยิ้มของเขา นางจิตใจไม่เป็สุขเล็กน้อยจึงเบือนสายตาไปทางผิวน้ำ
จวินอู๋เสียแอบเก็บรอยยิ้มแล้วกล่าว “เมื่อศึกครั้งนี้ผ่านไป องค์หญิงใหญ่พลันเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาแล้ว”
เหยียนอู๋อวี้พยักหน้า “ไทเฮาเริ่มรีบเร่งลงมือแล้ว องค์หญิงใหญ่ไม่เลิกราแน่นอน หากนางลงมือ ข้าไม่แปลกใจ”
จวินอู๋เสียถามอีกครั้ง “หากนาง้าเป็ฮ่องเต้หญิงเล่า?”
เหยียนอู๋อวี้ตะลึงงัน ก่อนจะส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม “ฮ่องเต่หญิง? ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วยแน่นอน ต่อให้ฆ่าไทเฮากับซ่งอี้เฉินก็ยังมีรัชทายาทที่ถูกปลดอยู่อีกคน ต่อให้ฆ่าอดีตรัชทายาท ตระกูลซ่งก็ยังมีเชื้อพระวงศ์สายอื่น ไม่ถึงคราวของนางง่ายๆ แน่ ประการที่สอง ไทเฮาไม่ได้ลงมือฆ่าองค์หญิงใหญ่ ไม่ใช่เพราะหวาดกลัวอำนาจในมือนาง แต่เป็เพราะนางมีศักดิ์เป็องค์หญิง หากนาง้าเป็ฮ่องเต้หญิงจริง เช่นนั้นหากไทเฮาจะฆ่านางก็สมเหตุสมผลแล้ว ประการที่สาม หากองค์หญิงใหญ่ตัดสินใจลงมือจริงๆ ทั้งแคว้นเซวียนจะเกิดการโกลาหลแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นผู้กล้าจากสาขาอื่นก็จะลุกฮือขึ้นมา ต่อให้นางโชคดีชนะไทเฮา ฆ่าซ่งอี้เฉินกับซ่งอี้หานได้ นางก็หลีกเลี่ยงการโจมตีที่ตามมาไม่พ้น ไม่ว่าจากมุมมองใดก็ไม่ใช่การกระทำที่ฉลาดในการขึ้นเป็ฮ่องเต้หญิงเลย”
เมื่อเขาพูดจบ เหยียนอู๋อวี้ตะลึงงัน ก่อนจะเข้าใจทีละนิด “เ้าพูดจริงหรือ?”
“นางวางแผนไว้แล้ว” จวินอู๋เสียทอดถอนใจ “เื่คุณและโทษพวกนี้ แม้แต่ท่านยังเข้าใจ ทว่านางกลับไม่เข้าใจ น่าแปลกจริงๆ”
เหยียนอู๋อวี้กล่าว “นางทำไม่สำเร็จแน่นอน ทว่าในเมื่อนางเคลื่อนไหวแล้วก็ถือว่าเป็โอกาสดีสำหรับข้า”
จวินอู๋เสียมีท่าทีอยากฟังรายละเอียดของนางให้มากขึ้น เขาจึงรอให้นางพูดต่อ
เหยียนอู๋อวี้ไม่ได้พูดต่อ กลับพูดเื่อื่นว่า “เื่พวกนี้ข้าจะวางแผนเอง ไม่รบกวนองค์ชายจวินแล้ว จริงสิ ไม่กี่วันก่อนข้าสืบข่าวมาว่ามือสังหารราชวงศ์ใต้มาถึงแคว้นเซวียนแล้ว อยู่ไม่ไกลจากที่พักของท่าน ใกล้จะเปิดฉากในอีกไม่กี่วัน ทางที่ดีท่านอยู่แต่ในพระราชวังจะปลอดภัยกว่า”
จวินอู๋เสียแย้มยิ้ม “ในวังมีการคุ้มกันแ่า ข้าเข้าไปได้ ท่านก็เข้าไปได้ คนอื่นก็สามารถเข้าไปได้ ต่อให้ข้าซ่อนตัวอยู่ในวังก็อาจหลีกเลี่ยงไม่พ้น ทว่าข้าหาตำแหน่งได้ ข้าไปเยี่ยมเยียนเสียหน่อยดีกว่า”