มีข้อความมาจากหนานกงเสี่ยว ตอนนี้เธอเลเวล 10แล้ว และถูกส่งมาที่เมืองั หลังจากเปลี่ยนอาชีพเธอก็ถูกส่งออกจากหมู่บ้านเริ่มต้นหากหนานกงเสี่ยวไม่ออกจากหมู่บ้านเริ่มต้นเสียก่อนฉินโจ้วจะไม่สามารถติดต่อกับเธอได้
ฉินโจ้วส่งพิกัดกลับไปไม่กี่นาทีต่อมาหนานกงเสี่ยวในชุดสีขาวดุจหิมะได้ปรากฏตัวขึ้นที่บ้านของฉินโจ้ว
"แค่ฉันไม่เจอนายไม่กี่วัน นี่ถึงกับซื้อบ้านแล้วหรือเนี่ยมันสวยมากๆ เลย" หนานกงเสี่ยวเอ่ยปากชื่นชม
ฉินโจ้วยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหยิบเสื้อคลุมขนปีกออกมาส่งให้และพูดว่า"นี่ของเธอ"
"นี่มันอุปกรณ์ระดับเงินนี่ ให้ฉันจริงหรือรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้อุปกรณ์ระดับเงินทั้งหายากและขายได้ราคาสุดๆ เลยด้วย"หนานกงเสี่ยวกล่าว แต่แววตากลับส่งประกายวิบวับโดยปกติผู้หญิงก็มีความหลงใหลในสิ่งของจำพวกเสื้อผ้าอยู่แล้ว
"ก็ดีเลยเดียวผมเก็บไว้ขายแล้วกันนะ" ฉินโจ้วพูดพลางทำท่าดึงกลับคืน
หนานกงเสี่ยวคว้ามันไปอย่างว่องไวก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า"ฉันทำหน้าที่ของฉันเสร็จแล้ว นี่เป็สิ่งที่ฉันควรได้สิ"
ฉินโจ้วได้แต่หัวเราะจากนั้นหนานกงเสี่ยวได้ตรวจสอบคุณสมบัติ และอ้าปากค้างในทันที เธอประหลาดใจมากและพูดว่า
"นี่มันเยี่ยมสุดๆ เพิ่มพลังป้องกัน 60 หน่วยและเพิ่มพลังชีวิต 40 หน่วย สุดยอดเลย ฉันชอบมันมากเลยล่ะ"
"อ้าปากเร็วมีของดีอีกอย่างจะให้น่ะ" ฉินโจ้วกล่าวต่อ
หนานกงเสี่ยวเมื่อได้ยินดังนั้นก็เริ่มระวังตัวขึ้นทันทีก่อนดวงตาแวววับจะจ้องไปทางเขาเขม็ง และพูดขึ้นว่า"นายอยากให้ฉันทำอะไรให้หรือไง?"
ฉินโจ้วหน้าเปลี่ยนสีไปเป็ดำทะมึนด้วยความช็อกทันทีอะไรกัน นี่เ้าหล่อนเห็นผมเป็คนแบบนั้นหรืออย่างไร? พลางกลอกตามองบนก่อนจะพูดว่า"นมผึ้งสำหรับเพิ่มพลังชีวิต เธอจะเอาไหมล่ะ?"
เมื่อได้ยินคำว่าเพิ่มพลังชีวิตหนานกงเสี่ยวก็เงยหน้าเชิดคออย่างกับหงส์ ก่อนที่จะเปิดริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยๆริมฝีปากอวบอิ่มดั่งผลเชอร์รี่ ละเอียดอ่อนคล้ายกลีบดอกไม้ ฉินโจ้วจ้องตาไม่กะพริบก่อนที่เขาจะหยดนมผึ้ง 4 หยด ลงในปากของหนานกงเสี่ยว และรีบหันกลับไป พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆสาวน้อยคนนี้ดูแล้วเหมือนจะถูกสร้างมาให้ดูบอบบาง งดงามผิวพรรณทั้งขาวเนียนและงดงามยิ่งนัก ทั้งยังมีกลิ่นกายเฉพาะตัวของสาวแรกรุ่นทว่าปราศจากการยั่วยวนแต่อย่างใด
ราวกับปุยเมฆสีแดงสองกลุ่มลอยละล่องอยู่บนใบหน้าของหนานกงเสี่ยวเช่นนั้นก่อนที่เธอจะกระซิบว่า "พี่ชายของฉันเรียกให้ฉันตามเขาไปเก็บเลเวลไม่ยอมให้ฉันไปเที่ยวเล่นคนเดียว เอาไว้ถ้าฉันออกมาได้ฉันจะติดต่อไปหานะ"
ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใดฉินโจ้วถึงได้รู้สึกผิดหวังเสียอย่างนั้นก่อนเขาจะพยักหน้าและสิ่งยิ้มให้ และเอ่ยว่า "ได้สิ ไว้ค่อยคุยกันนะ"หนานกงเสี่ยวส่งยิ้มพลางพยักหน้าและจากไปในที่สุด
หลังจากหนานกงเสี่ยวจากไปฉินโจ้วจัดการอารมณ์อยู่สักพัก จากนั้นเดินออกจากห้องไปเขาซื้อแผนที่เมืองัจากพ่อค้าหาบเร่ เดินซื้อของเพิ่มเติม และเดินตรงเข้าป่าไปในที่สุด
ไม่ไกลจากเมืองเท่าไรนักกลุ่มผู้เล่นกำลังโจมตีหนูั์ตัวหนึ่ง ด้วยธนู เวทไฟ เกล็ดน้ำแข็ง และอื่นๆเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ''หนูั์'' เลเวล 10 พวกมันเป็สัตว์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วพวกมันดูเหมือนหนูปกติทั่วไป ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ ขนาดของเ้าหนูตัวั์นั้นใหญ่เกือบเท่าช้างหากเทียบกับคนทั่วไป การกัดหนึ่งครั้งสามารถทำให้ผู้เล่นร่างขาดครึ่งได้เลยทีเดียวดุร้ายสุดขีด
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พบกับบีเวอร์ั์ เลเวล11 ซึ่งฉินโจ้วกำลังหลบเลี่ยงด้วยความระมัดระวังสุดชีวิต เ้าบีเวอร์ตัวมโหฬารนั้นเคลื่อนที่เร็วมากและเนื่องจากมันเป็สัตว์ที่ชอบอยู่กันเป็ฝูงซึ่งเขาไม่อาจชนะมันได้ด้วยตัวคนเดียว
เป้าหมายของฉินโจ้วคือสุสานของซอมบี้ซอมบี้นั้นเคลื่อนไหวค่อนข้างช้าเมื่อเผชิญหน้ากันตัวต่อตัวและนั่นก็เพียงพอให้เขาฝึกฝน สกิลใหม่ๆ ของนักเวทได้
ดูจากเมืองหลักแล้ว สภาพแวดล้อมที่รกร้างทั้งยังไม่ค่อยมีแสงสว่าง ก่อให้เกิดเป็เงามืดกระจายตัวเข้าปกคลุมหลุมศพปรากฏอยู่ตรงหน้าของฉินโจ้ว
หลุมศพถูกปกคลุมไปด้วยวัชพืชดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับการดูแลมานานแล้ว มีเพียงป้ายหลุมศพที่ทำจากไม้ซึ่งผุพังไปเสียจนแทบไม่เห็นข้อความที่เขียนอยู่บนนั้นอ่านได้เพียงว่าผู้ตายชื่อ หวังเอ้อซาน เคยเป็ทหาร เสียชีวิตเมื่อเดือนธันวาคมอายุ 52 ปี
ทันทีที่เข้าไปใกล้ป้ายหลุมศพก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ที่แห่งนี้คือสุสานที่ถูกทิ้งร้าง ต้นหญ้าขึ้นรกชัฏแถมยังมีดวงไฟิญญาสองสามดวงกะพริบวูบวาบอยู่อีกต่างหากไหนจะยังอีกาที่แผดเสียงร้องอยู่บนซากต้นไม้อีกทำเอาผู้คนที่ได้ยินต้องขนลุกเกรียวไปตามๆ กัน
ทันใดนั้นเื่พิลึกพลันอุบัติหลุมศพะเิขึ้น หลังจากดินพุ่งกระจายออกมาซอมบี้กระโจนเข้าใส่ฉินโจ้วอย่างดุร้าย
ฉินโจ้วผงะไปแต่เขาก็คาดไว้แล้วว่าจะต้องเจอเหตุการณ์ประมาณนี้เขาจึงก้าวออกไปด้านข้างเพื่อหลบการโจมตี พร้อมจ้องไปยังซอมบี้อีกครั้งมันช่างน่าเกลียดจริงๆ ร่างไร้โลหิตปรากฏเป็สีเขียวคล้ำ ซอมบี้ส่วนใหญ่มีร่างกายที่ไม่สมประกอบ ร่างส่วนใหญ่ถูกพันด้วยผ้าพันแผล มีหนอนชอนไชยั่วเยี้ยทั่วตัว และมีกลิ่นเหม็นสาบคละคลุ้งอยู่ในอากาศ
ซอมบี้ตัวนี้สวมเสื้อผ้าขาดๆอาจเป็เพราะมันอยู่ใต้ดินนานเกินไป จนไม่อาจเห็นสีเสื้อเดิมได้เล็บยาวแหลมคมคล้ายมีดพก ตอนที่กลิ้งหลบอย่างเฉียดฉิวฉินโจ้วได้เปิดดูคุณสมบัติของศัตรูไปด้วย
ซากศพเน่าเปื่อย : เลเวล 13 พลังชีวิต 1,950 ปล่อยก๊าซพิษจากศพที่เน่าเปื่อยลดพลังชีวิต 13 หน่วยต่อวินาที
นี่มันไม่ใช่ซอมบี้ เป็แค่ซากศพเน่าเปื่อยจึงไม่แปลกใจเลยที่มันน่าเกลียดเสียเหลือเกิน ซอมบี้ที่เห็นในทีวียังดูดีกว่าเยอะฉินโจ้วลอบเอ่ยขึ้นในใจ เฮ้!พี่ชาย พิษของพี่ชายน่ะ ไม่มีผลกับผมหรอกน่าใช้เวลาไม่นานในการหลบหลีกฉินโจ้วก็ประเมินได้แล้วว่าความเร็วของซากศพเน่าเปื่อยยังคงช้ากว่าเขาอยู่
เขาสงบใจชั่วครู่จากนั้นเริ่มร่ายเวท ''ทักษะการหน่วงเหนี่ยว'' ออกไป
หลังจากชี้ไม้เท้าออกไปแสงสีเทาพุ่งเข้าใส่ซากศพเน่าเปื่อยอย่างแม่นยำและเห็นได้ชัดว่าการเคลื่อนไหวของซากศพเน่าเปื่อยช้าลงทันที
ทักษะ"หนามกระดูก"
กระดูกสีขาวขนาดเท่าตะเกียบพุ่งไปปักใส่อกของซากศพเน่าเปื่อยปรากฏตัวเลขความเสียหายลอยขึ้น -24 ฉินโจ้วอดเขินจนหน้าแดงไม่ได้การโจมตีดังกล่าวดูท่าคงอ่อนแอเกินไป โจมตีด้วยมีดสั้นน่าจะดีกว่าเป็ไหนๆ
"เทคนิคดาบลม"
ใบมีดรูปพระจันทร์เสี้ยวขนาดเท่ากำปั้นพุ่งเข้าใส่ซากศพเน่าเปื่อยก่อนจะปรากฏค่าความเสียหายขึ้น-27 ฉินโจ้วกลอกตามองบนไปหนึ่งที ไม้เท้าช่วยเพิ่มพลังโจมตีให้อีก 20%เขาคงไม่มีปัญญาโจมตีได้ถึง 20 ครั้งแน่
พลังโจมตีเฉลี่ยตอนนี้อยู่ที่ 25 แต้มต้องใช้ประมาณ 78 ครั้ง ในการฆ่าซากศพเน่าเปื่อยเวลาร่ายเวทคือ 3 วินาทีต่อครั้ง ต้องใช้เวลาทั้งหมด 234 วินาทีเท่ากับว่าต้องใช้เวลาราว 4 นาที ในการจัดการซากศพเน่าเปื่อย1 ตัว
เห็นได้ชัดว่าฉินโจ้วไม่พอใจกับวิธีการจัดการมอนสเตอร์แบบนี้เมื่อนึกถึงความแข็งแกร่งของอาชีพซ่อนของหนานกงเสี่ยวแล้ว ฉินโจ้วจึงร่ายเวทอัญเชิญขึ้นทันที
หลังจากร่ายคาถาอัญเชิญขึ้นในใจได้ปรากฏข้อความแนะนำคุณสมบัติของสัตว์ที่จะอัญเชิญทุกชนิดั้แ่ทหารโครงกระดูกเลเวลต่ำสุด ไล่ไปจนถึงโครงกระดูกที่เลเวลสูงขึ้นของทหารโครงกระดูกและอัศวินโครงกระดูก อัศวินโครงกระดูกนั้นฉินโจ้วแทบจะอัญเชิญไม่ไหวแถมเวลาการคงอยู่ก็สั้นเอามากๆ และพลังทางจิตที่เหลืออยู่ก็ไม่พอใช้อัญเชิญเสียอีกยังมีข้อมูลระดับสูงขึ้นปรากฏเป็สีเทาซึ่งมองไม่เห็นแสดงว่าเลเวลของเขาในปัจจุบันยังไม่สามารถอัญเชิญได้ฉินโจ้วจึงเลือกอัญเชิญทหารโครงกระดูก
ทันใดนั้นท้องฟ้าพลันปรากฏรอยแยกจากนั้นทหารโครงกระดูกถือเคียว ร่างกายเป็กระดูกสีขาวก็ร่วงลงมาจากรอยแยกแม้ว่ามันจะเป็เพียงโครงกระดูก แต่มีความสูงเกือบสองเมตร สูงกว่าฉินโจ้วถึงหนึ่ง่ศีรษะการทรงตัวและเคลื่อนไหวดูน่าเกรงขาม
ทหารโครงกระดูก :นักรบแห่งความตายที่มาจากต่างมิติ มีความแข็งแกร่งเหมาะแก่การต่อสู้เนื่องจากเกิดจากการอัญเชิญ จึงต้องใช้พลังชีวิต 15 แต้มต่อวินาทีอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะตาย
ฉินโจ้วถึงกับใช้พลังชีวิตในการอัญเชิญ
เพราะเวลาคือชีวิต ฉินโจ้วไม่ลังเลอีกต่อไปเขาสั่งให้ทหารโครงกระดูกโจมตีซากศพเน่าเปื่อยทันที ด้วยพลังชีวิตของเขาสามารถอัญเชิญทหารโครงกระดูกได้ถึง 67 วินาที ซึ่งมากกว่าหนึ่งนาทีโดยไม่ต้องกินยาทว่าหากเป็ผู้เล่นธรรมดา พลังชีวิตของเลเวล 10 ควรอยู่ระหว่าง 200-300 แต้ม ซึ่งเพียงพอที่จะเรียกใช้ได้แค่20 วินาที ดังนั้นจะไม่อาจเสียเวลาได้แม้แต่น้อย
ทหารโครงกระดูกก้าวขาพุ่งไป เหมือนเงาตัดผ่านอากาศก่อนที่จะปรากฏตรงหน้าซากศพเน่าเปื่อย ฉินโจ้วมองตามไม่ทันเสียด้วยซ้ำความเร็วของเขาเทียบกับทหารโครงกระดูกไม่ติด เมื่อเคียวถูกฟันลงบนซากศพเน่าเปื่อยก็มีตัวเลขค่าความเสียหายจำนวนมากลอยขึ้น -356
ความเร็วในการโจมตีของทหารโครงกระดูกน่าทึ่งมากพวกมันสามารถโจมตีได้ 5 ครั้งใน 1 วินาทีใช้เวลาเพียง2 วินาที แสงสีเทาจะปรากฏขึ้นบนซากศพเน่าเปื่อยก่อนที่ร่างกายจะะเิและดรอปเหรียญทองแดงหลายเหรียญ
สวบ...สวบ... สวบ...
ฉินโจ้วก้มเก็บเหรียญทองแดงขึ้นมาทันใดนั้นซากศพเน่าเปื่อยอีกสามตัวก็ลุกขึ้นและพุ่งเข้าใส่เขาฉินโจ้วถอยกลับมาด้านหลัง ก่อนที่เขาจะสั่งให้ทหารโครงกระดูกโจมตีใส่ซากศพเน่าเปื่อยตัวที่ใกล้ที่สุดและในเวลาเดียวกันเขาก็ร่ายเวท ''อ่อนแรง'' ใส่ตัวที่อยู่หลังสุดจากนั้นพุ่งหลบไปทางซ้ายและโจมตีใส่ซากศพเน่าเปื่อยตัวที่สอง
เมื่อดาบลมของเขาพุ่งไปถึงซากศพเน่าเปื่อยตัวที่อยู่ไกลที่สุดทหารโครงกระดูกก็จัดการซากศพเน่าเปื่อยตัวแรกเสร็จเรียบร้อยแล้วและพุ่งไปจัดการซากศพเน่าเปื่อยตัวที่สองต่อ ดาบแห่งแสงส่องประกายวาบพลันซากศพเน่าเปื่อยตัวที่สองก็ปลิวออกไป จากนั้นทหารโครงกระดูกก็เข้าไปจัดการซากศพเน่าเปื่อยตัวสุดท้ายโดยไม่หยุดพักความเร็วนี้ถึงกับทำเอาฉินโจ้วหน้าแดงซากศพเน่าเปื่อยไม่ใช่คู่มือของทหารโครงกระดูกแม้แต่น้อยทั้งหมดถูกจัดการในเวลาเพียง 2วินาทีเท่านั้น
ดูเหมือนว่าหลุมศพที่ไร้ระเบียบพวกนั้นจะเริ่มโมโหดินจำนวนมากเริ่มพุ่งออกมาพร้อมซากศพเน่าเปื่อยที่กระโจนออกจากหลุม ซากศพเน่าเปื่อยเต็มไปด้วยพลังชี่แสงสว่างของท้องฟ้าพลันมืดลง ราวกับว่ายามวิกาลใกล้เข้ามาแล้ว
ฉินโจ้วนับซากศพเน่าเปื่อยคร่าวๆ ได้ราว 30 ศพเป็อย่างน้อยและยังมีซากศพเน่าเปื่อยข้างหลังที่กำลังกระโจนออกมาเพิ่มอีก เริ่มขวางทางออก จนเขาเริ่มมองไม่เห็นและเริ่มกลัวว่าจะถูกล้อมดังนั้นเขาจึงสั่งให้ทหารโครงกระดูกโจมตีพวกซากศพเน่าเปื่อยเต็มกำลังจากนั้นเขาก็เริ่มร่ายเวทอัญเชิญ เพื่อเรียกทหารโครงกระดูกออกมาอีกหนึ่งตัวทหารโครงกระดูกสองตัวก็เปรียบเหมือนฝูงพยัคฆ์เข้าโจมตี แสงสีเทาลอยฟุ้งขึ้นมาศพแล้วศพเล่า
ฉินโจ้วซ่อนตัวอยู่ด้านหลังคอยปล่อยหนามกระดูกและดาบลมเขาพยายามฝึกทักษะและมุ่งมั่นเพิ่มเลเวลของทักษะให้สูงสุดโดยเร็วที่สุดไม่อย่างนั้นด้วยพลังโจมตีอันตำเตี้ยเรี่ยดินนี้ เขาก็กระดากปากเกินกว่าจะเรียกตัวเองว่านักเวทเขาดื่มยาแดงหนึ่งขวด ทุก 6-7 วินาที เพื่อทดแทนพลังชีวิตที่หายไปในขณะเดียวกันก็คอยหลบเลี่ยงการโจมตีของพวกที่หลุดจากฝูงมาได้ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังสามารถเก็บไอเทมและเงินที่หล่นอยู่ได้อยู่ดีการฆ่ามอนสเตอร์ในสภาพแวดล้อมแบบนี้นับเป็การฝึกปฏิกิริยาตอบสนองชั้นยอด
นี่คือสุสานที่ไร้ระเบียบและมีหลุมฝังศพจำนวนมากหลังจากสังหารซากศพเน่าเปื่อยไปหลายสิบตัว แต่จำนวนศพไม่เพียงแต่ไม่ลดลงเท่านั้นแต่กลับดูเหมือนยิ่งเพิ่มขึ้นเสียด้วยซ้ำ เหมือนพวกมันตื่นขึ้นจากความฝันพวกมันเริ่มปีนออกมาจากหลุมฝังศพ หลุมอื่นๆ ก็เริ่มมีแขนพุ่งออกมาก่อนที่จะทยอยปีนออกมาทีละตัวพร้อมทั้งส่งเสียงดังบาดแก้วหู
สิบนาทีต่อมาเกือบ380 ศพถูกกำจัดและร่างของฉินโจ้วก็เพิ่มระดับขึ้น
ติ๊ง!ระบบแจ้งเตือน : ขอแสดงความยินดีด้วยผู้เล่นเมามายซบตักสาวงามได้เลื่อนระดับขึ้นหนึ่งขั้น เลเวล 11
เพราะว่าฉินโจ้วฆ่ามอนสเตอร์ได้ถึงสามทางจึงได้รับค่าประสบการณ์3 เท่าตัว ดังนั้นเขาสามารถเลื่อนระดับได้อย่างรวดเร็ว เขาเพิ่มแต้มสถานะฟรี 10แต้ม ในหมวดพลังชีวิตของเขาอย่างรวดเร็ว และทำให้พลังชีวิตของเขาเพิ่มเป็ 1120ทันที ในเวลานี้แม้จะเป็พลังชีวิตแค่เล็กน้อย ล้วนสำคัญอย่างยิ่งยวด
หลังจากเลเวล10 ในแต่ละเลเวลจะเพิ่มพลังชีวิตให้ 20 หน่วย แต้มสถานะฟรี 10 แต้ม
เมื่อเวลาผ่านไปกองทัพซากศพเน่าเปื่อยก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกที พวกมันเข้ามาจากทุกสารทิศในอีกไม่ช้าก็จะถูกปิดล้อมโดยสมบูรณ์ พื้นที่หลบหนีของฉินโจ้วจะลดลงและความกดดันก็เพิ่มขึ้นมหาศาลแม้ว่าความเร็วของซากศพเน่าเปื่อยจะช้ากว่าเขา แต่ก็ใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้วเช่นกันเขาต้องใช้เวลา 3 วินาทีในการร่ายเวท "อ่อนแรง" และ"ทักษะหน่วงเหนี่ยว"แต่นั่นก็ไม่อาจโจมตีใส่ได้ซากศพเน่าเปื่อยทุกตัวได้อยู่ดี
ในที่สุดก็พลาดจนได้ฉินโจ้วถูกซากศพเน่าเปื่อยโจมตีด้วยกรงเล็บ ตัวเลขลอยขึ้นมาจำนวน -128 ทันที
โชคดีที่ฉินโจ้วมีภูมิคุ้มกันต่อการโจมตีด้วยพิษไม่อย่างนั้นความเสียหายคงมากกว่านี้เมื่อเห็นซากศพเน่าเปื่อยเข้ามาจากทางซ้ายและขวา ด้วยปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วฉินโจ้วกลิ้งตัวหลบอย่างว่องไว ถึงทางที่เขากลิ้งไปจะยากไปหน่อยแต่ในที่สุดเขาก็หลบหลีกได้สำเร็จเนื่องจากซากศพเน่าเปื่อยมีร่างกายที่แข็งทำให้การเคลื่อนไหวมีจำกัดเมื่อเข้าใกล้ศัตรูที่อยู่ใกล้กับพื้นดิน พวกมันจึงตอบสนองได้ช้าก่อนที่ฉินโจ้วจะยืนขึ้นก็ร่ายเวท "ทักษะการหน่วงเหนี่ยว" ใส่ซากศพเน่าเปื่อยศพที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วเขาดีดตัวลุกขึ้นราวกับลูกธนู จากนั้นวิ่งไปอีกสองสามก้าวจัดการกับซากศพเน่าเปื่อยอีกตัวก่อนจะรีบวิ่งไปหลบหลังต้นไม้ใหญ่และเริ่มร่ายเวท
บนท้องฟ้าที่ดำมืดมีช่องว่างมิติขนาดเล็กเปิดออก พร้อมกับทหารโครงกระดูกร่วงลงมา ร่างสีขาวราวหิมะมาพร้อมกับเคียวสีดำอันแสดงถึงความแข็งแกร่งพร้อมลมหายใจที่พ่นออกมาอย่างรุนแรง
ทันทีที่ทหารโครงกระดูกลงถึงพื้นดินมันเริ่มโจมตีซากศพเน่าเปื่อยทันที ในขณะที่กรงเล็บซึ่งกำลังจะถึงตัวฉินโจ้วได้ปรากฏแสงเย็นวาบขึ้น แขนของศพเน่าเปื่อยแยกออกเป็สองส่วนและร่วงลงพื้นจากนั้นแสงแห่งคมมีดส่องเป็ประกาย พุ่งเข้าใส่อย่างละลานตาซากศพเน่าเปื่อยตัวล่าสุดที่คุกคามฉินโจ้วถูกแยกเป็ชิ้นๆ
ทหารโครงกระดูกไม่มีอากัปกิริยาดั่งที่มนุษย์ปกติควรมีมันเกิดมาเพื่อต่อสู้และไร้ซึ่งความเหนื่อยล้า ตราบใดที่มีการสนับสนุนพลังงานชีวิตอย่างต่อเนื่องทหารโครงกระดูกก็โจมตีได้ไม่มีที่สิ้นสุด
ทหารโครงกระดูกหกตัวยืนคุ้มกันเป็วงกลมซึ่งสามารถป้องกันกองทัพของซากศพเน่าเปื่อยได้ฉินโจ้วที่ยืนอยู่กลางวงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตอนนี้ยังคงอันตรายอยู่บ้างในตอนนี้ระยะเวลาในการร่ายเวทเป็อุปสรรคไม่น้อย เขาเพิ่งจะกินยาแดงไปอีกขวดก็เกิดความเ็ปขึ้นในใจ ทำเอาเขาแทบล้มโชคดีที่ความเ็ปเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่มันจะหายไปเมื่อเขายืนขึ้นก็พบว่ามีทหารโครงกระดูกหายไปหนึ่งตัวในเวลาเดียวกันระบบก็แจ้งเตือน
ติ๊ง!ระบบแจ้งเตือน : สิ่งมีชีวิตที่ถูกอัญเชิญของคุณตาย ทำให้มีการหักพลังชีวิต 150หน่วย
ฉินโจ้วจำได้ว่าสิ่งมีชีวิตที่ถูกอัญเชิญก็ตายได้เช่นกันเขาตรวจสอบสถานะพลังชีวิตของทหารโครงกระดูกที่เหลืออีกห้าตัวตัวที่สองมีพลังชีวิตมากกว่า 2,000 แต้ม คาดว่าคงมีเวลาอีกสักพักกว่าจะตายอีกสี่ตัวยังคงมีพลังชีวิตเต็มอยู่
สิ่งมีชีวิตอัญเชิญที่เสียชีวิตจะทำให้สูญเสียพลังชีวิต 150 หน่วย คิดเป็พลังชีวิต 10 เท่าของปกติ เวรเถอะระบบนี่มันน่าด่านัก ตอนแรกก็ไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรสักนิดโชคดีที่ยังถูกพบแต่เนิ่นๆ ไม่อย่างนั้นหากมีสิ่งมีชีวิตอัญเชิญ 7 ตัวตายไปทีเดียวเขาก็คงจะจบเห่ไปด้วย
ฉินโจ้วกัดฟันและเรียกทหารโครงกระดูกออกมาอีกสองตัวเมื่อทหารโครงกระดูกตัวที่สองเหลือพลังชีวิตต่ำกว่าหนึ่งร้อยเขาจะรีบส่งมันกลับไปยังอีกโลกหนึ่ง ซึ่งใช้เพียง 15 พลังชีวิตซึ่งดีกว่าปล่อยให้ตายอยู่แล้ว
ทหารโครงกระดูกทั้งหกตัวที่จัดการศัตรูไปพร้อมกันฉินโจ้วรับรู้ได้ว่าค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นเหมือนติดจรวดแต่พลังชีวิตก็กำลังลดต่ำลงด้วยเช่นกัน ใช้พลังชีวิต 90 แต้มต่อวินาที พลังชีวิต 360แต้มจะถูกใช้ใน 4 วินาที ยาแดงหนึ่งขวดเพิ่มพลังชีวิตได้200 แต้ม และพลังชีวิต 160 แต้ม จะเสียไปในทุกๆ 4วินาที
หลังจากผ่านไป20 วินาทีฉินโจ้วจะใช้ทักษะการรักษาชีพอย่างรวดเร็วสำหรับตัวเขาเองและกู้คืนพลังชีวิตได้500 แต้มทันที จากนั้น 4 วินาทีต่อมาฉินโจ้วใช้ ''การรักษาชีพ'' อีกครั้งและกินยาน้ำเงินหนึ่งขวด
ด้วยวิธีนี้ฉินโจ้วจำเป็ต้องใช้ ''การรักษาชีพ'' ทุก 4 วินาที หลังจาก 16 วินาทีในที่สุดพลังชีวิตของฉินโจ้วก็กลับมาเต็มอีกครั้ง จากนั้น ฉินโจ้วก็สามารถใช้ "ดาบลม" และ"หนามกระดูก" ได้
20วินาทีต่อมาฉินโจ้วใช้ ''การรักษาชีพ'' อีกสี่ครั้งติดต่อกัน 16 วินาทีต่อมาเมื่อพลังชีวิตกลับมาเต็มอีกหนเขาก็จะใช้ทักษะ "ดาบลม" และ "กระดูกแทง" ได้อีกครั้ง
ด้วยวิธีนี้เพียงหกนาทีให้หลังร่างกายของฉินโจ้วได้รับการอัพเกรดอีกครั้ง
ติ๊ง! ระบบแจ้งเตือน :ผู้เล่นเมามายซบตักสาวงามได้เลื่อนระดับขึ้นหนึ่งขั้น ระดับ 12
ความเร็วในการอัพเลเวลไวปานติดจรวด
ฉินโจ้วใช้เวลาในการเพิ่มแต้มคุณลักษณะให้กับพลังจิตซึ่งตอนนี้มีพลังจิตสูงถึง 540 แต้มแล้ว
ทหารโครงกระดูกใช้เวลาราว 2วินาทีในการจัดการซากศพเน่าเปื่อย โดยเฉลี่ยแล้วพวกมันจัดการซากศพเน่าเปื่อยได้ 20ตัวในหนึ่งนาที และทหารโครงกระดูกหกตัวสังหารได้ถึง 120 ศพความถี่ในการโจมตีและความเร็วนี้ใช้ได้เฉพาะกับซากศพเน่าเปื่อยเท่านั้นเวลาสำหรับผู้เล่นทั่วไปในการจัดการซากศพเน่าเปื่อย 120 ศพ ควรจะเป็ 4 ชั่วโมง โดยอิงจากการโจมตีสองครั้งของฉินโจ้วและเลเวล 11 ต้องใช้ค่าประสบการณ์ในการเลื่อนระดับเป็เลเวล 12 จากราว 500 ศพแน่นอนว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือศพเน่าเปื่อยเป็มอนสเตอร์ที่ปราศจากความเ็ปพวกมันไม่มีประสาทััความเ็ปดังนั้นพวกมันจึงใช้วิธีการโจมตีแบบแลกชีวิตกับการเคลื่อนไหวและการไม่หลบหลีก ไม่เช่นนั้นทหารโครงกระดูกคงไม่อาจโจมตีได้รุนแรงถึงสองเท่าและรวดเร็วได้ถึงเพียงนี้แน่
ไม่ว่าอย่างไรฉินโจ้วก็สรุปว่าอาชีพซ่อนนั้นแข็งแกร่งสุดขีด