“ประมุข เมื่อไรที่จุนเอ๋อร์...” ผู้าุโทั้งสามถามแล้วจ้องหน้าหยวนฉางเทียนที่ประหลาดใจไม่ต่างกัน
หยวนฉางเทียนมองอย่างมึนงงแล้วส่ายหัว บอกว่าตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหยวนจุนซ่อนฝีมือทักษะกระบี่ขั้นสูงเอาไว้ ไม่เคยมีใครสอนเขา แล้วหยวนจุนเองก็ไม่เคยแสดงให้ผู้อื่นเห็นด้วย
สามารถบีบวั่นเฮ่าซิงให้ถอยจนไม่มีช่องโหว่ให้เขาโต้กลับ ทำให้รู้ว่าหยวนจุนเข้าใจทักษะกระบี่มากแค่ไหน!
เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เสิ่นเฟยเสวี่ยที่กำลังเบื่อหน่ายก็มีสีหน้าตกตะลึงทันที มือที่ถือถ้วยน้ำชาอยู่สั่น
หยวนจุนที่นางเพิ่งดูถูกไปเมื่อครู่ มีวิชากระบี่ที่แพรวพราวขนาดนี้เลยหรือ!?
นางได้เรียนเคล็ดกระบี่กับวั่นเฮ่าซิงเป็การส่วนตัว เรียกได้ว่าไม่มีจุดบกพร่อง! หากไม่ใช้ปราณดาราในร่างกาย นางก็ไม่มีทางสู้วั่นเฮ่าซิงได้!
ทว่ายอดฝีมือกระบี่ที่นางไม่สามารถเอาชนะได้นั้น กลับพ่ายแพ้ให้แก่หยวนจุน คนที่ไร้เส้นปราณแต่กำเนิด คนไม่เอาไหนในสายตาผู้อื่น
ด้วยเหตุนี้ความเข้าใจเพลงกระบี่ของหยวนจุนจึงเหนือกว่านางโดยปริยาย
เสิ่นเฟยเสวี่ยหน้าร้อนผ่าว นางยื่นมือออกมาปิดแก้มเบาๆ เพื่อสงบสติอารมณ์
“เป็ไปไม่ได้! มันเป็ไปได้อย่างไร! ปู่ข้าเป็คนถ่ายทอดวิชากระบี่ให้ ข้าฝึกฝนอย่างหนักมาตลอดสิบปี! ทำไมถึงถูกคนไม่เอาไหนทำ...”
วั่นเฮ่าซิงยกมือขึ้นด้วยความไม่เชื่อ กระบี่ในมือเขาหักกลางเล่ม รอยหักเรียบ ซึ่งเป็ผลจากการรับแรงหนักกะทันหัน ไม่ใช่เพราะใช้กระบี่นานจนเปราะหัก
เมื่อได้ยินเสียงกระซิบกระซาบจากทุกสารทิศ วั่นเฮ่าซิงก็เปลี่ยนสีหน้าทันที เขารวมปราณดาราในร่างกาย ถือกระบี่หักพุ่งตรงไปยังหยวนจุน
นักยุทธ์ระดับดาราวงแหวนขั้นแปด แค่พลังที่ออกมาก็ทำให้หยวนจุนใแทบแย่แล้ว ยิ่งเขาทุ่มพลังทั้งหมดไปที่กระบี่หักอย่างนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง!
“ตูม”
เมื่อเผชิญหน้ากับการทุ่มพลังอย่างเต็มที่ของวั่นเฮ่าซิง หยวนจุนไม่มีทางหลบได้แน่นอน ในขณะที่กระบี่หักกำลังจะถึงตัวเขา ผู้าุโใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้น เตะกระบี่หักของวั่นเฮ่าซิงออกไป
“หลานไม่รักดี! ข้าบอกให้เ้าหยุดเดี๋ยวนี้! เ้าพ่ายแพ้เพลงกระบี่ในการประลองแล้ว ยัง้าทำให้ตนเองขายหน้าอีกหรืออย่างไร!”
เมื่อถูกผู้าุโใหญ่เรียกสติ วั่นเฮ่าซิงก็รีบปีนขึ้นลานประลอง คุกเข่าแล้วพูดว่า “หลานมิกล้า! เมื่อครู่หลานบุ่มบ่ามเกินไป”
เสียงอื้ออึงในการประลองกระบี่สงบลง หยวนฉางเทียนและหยวนจุนก็ออกไปแล้ว แต่แววตาอาฆาตของวั่นเฮ่าซิงยังอยู่ แววตานั้นเยือกเย็นจนทำให้ผู้คนแทบหายใจไม่ออก
“ฝีมือเพลงกระบี่ขั้นสูงั้แ่อายุยังน้อย เ้าไม่คิดว่ามีอะไรผิดปกติบ้างหรือ? หรือพูดได้ว่าหยวนจุนแสร้งเป็คนไม่เอาไหน หลอกเราทุกคนได้สำเร็จ”
เสิ่นเฟยเสวี่ยขมวดคิ้ว มองหยวนจุนจากไป จากนั้นค่อยพูดขึ้นเบาๆ
“ถึงข้าจะไม่รู้ว่าหยวนจุนเริ่มเรียนทักษะกระบี่เมื่อใด แต่การที่เขาไร้เส้นปราณแต่กำเนิดนั้นเป็เื่จริงแน่นอน!”
วั่นเฮ่าซิงปากแห้งผาก พูดด้วยเสียงเรียบว่า “เขาไม่สามารถรวมปราณดาราออกมาได้ หากการประลองในวันนี้ไม่มีข้อจำกัด เพียงสองนิ้วข้าก็ทำให้เขาตายได้แล้ว!”
“แต่สุดท้ายเ้าก็แพ้” เสิ่นเฟยเสวี่ยหันกายและพูดด้วยน้ำเสียงเ็า บางทีวั่นเฮ่าซิงอาจไม่ได้มีความสามารถอย่างที่นางคิด ส่วนหยวนจุนก็ไม่ใช่คนไม่เอาไหนอย่างที่ผู้อื่นพูด
เขาต้องมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ในร่างกายแน่นอน!
กลิ่นหอมโชยพัดผ่าน วั่นเฮ่าซิงที่สีหน้าไม่สบอารมณ์มองร่างงามตรงหน้า ความอัดอั้นตันใจถูกขุดขึ้นจนพรั่งพรูออกมา
“ช้าก่อนแม่นางเฟยเสวี่ย! ถ้าเ้ายอมร่วมแสดงละครตบตากับข้า ข้าจะมอบคัมภีร์ลับค่ายกลกระบี่ให้เ้าเป็การแลกเปลี่ยน!”
เสิ่นเฟยเสวี่ยหยุดเดิน เอี้ยวตัวเล็กน้อยแล้วกล่าวเบาๆ ว่า “ค่ายกลกระบี่สำนักิเจี้ยนสามารถเพิ่มปราณกระบี่ได้ ทั่วทั้งจักรวรรดิถ่าก้ง มีเพียงสำนักใหญ่ที่มีอำนาจอย่างสำนักิเจี้ยนเท่านั้นที่มี”
“แต่สำหรับสำนักแล้ว การฝึกค่ายกลกระบี่คือการเพิ่มความสามารถในการใช้ปราณกระบี่ ซึ่งเป็ความลับของสำนัก ใช่สิ่งที่อยากดูก็ดูได้อย่างนั้นหรือ?”
เสิ่นเฟยเสวี่ยดูเหมือนจะสนใจค่ายกลกระบี่มาก แววตาวั่นเฮ่าซิงเป็ประกายและกล่าวว่า “อีก 7 วันจะเป็วันคล้ายวันประสูติของหวังเทียนจี๋ กษัตริย์แห่งจักรวรรดิถ่าก้ง ผู้มีชื่อเสียงทุกคนจะได้รับเชิญไปงาน”
“ประมุขกับผู้าุโทั้งสามก็ได้รับเชิญไปด้วย ถึงเวลานั้นข้าจะหาวิธีให้ค่ายกลกระบี่สำนักิเจี้ยนแก่เ้า!”
เสิ่นเฟยเสวี่ยพอจะเดาออกว่าวั่นเฮ่าซิงคิดอะไรอยู่ในใจ หลังจากได้ยินเขาเอ่ยออกมาเช่นนี้ นางก็หรี่ตาลงอย่างเงียบๆ สักพักถึงจะพยักหน้าจริงจัง
หยวนจุนกลับมาที่ห้องแล้วนั่งเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย หยวนฉางเทียนก็เข้ามาพร้อมเขาด้วย
“จุนเอ๋อร์ เ้ามีทักษะกระบี่ขั้นสูงนี้ได้อย่างไร? ข้าเลี้ยงดูเ้ามาสิบกว่าปี ไม่เคยได้ยินว่าเ้าชอบฝึกกระบี่”
หยวนฉางเทียนถามด้วยสีหน้าร้อนใจ สิ่งที่หยวนจุนแสดงวันนี้ ทำให้เขาแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง
อย่างที่รู้ว่าผู้าุโใหญ่เป็ผู้ถ่ายทอดเคล็ดกระบี่ให้แก่วั่นเฮ่าซิงโดยตรง กระบวนท่าว่องไวเช่นนี้ ศิษย์ในสำนักิเจี้ยนทั้งหมดที่อาศัยเพลงกระบี่เอาชนะท่วงท่าเ่าั้ เกรงว่าจะมีไม่ถึงสามคน!
“เมื่อคมกระบี่ออกจากฝัก เราจึงจะสามารถหลบคมได้ ท่านปู่ ข้าจะมีความลับเื่การฝึกกระบี่ได้อย่างไร? ในเมื่อก่อนหน้านี้ข้าแทบไม่เคยฝึกเลย”
ร่างผอมของหยวนฉางเทียนถึงกับใ เขาตกอยู่ในความเงียบ
คำพูดนี้ของหยวนจุนไม่ใช่ไม่มีเหตุผล เขาเกิดมาไร้เส้นปราณ หากไม่ใช่เพราะวันนี้เขาชนะวั่นเฮ่าซิงต่อหน้าทุกคน บางทีถ้ามีผู้อื่นได้ยินว่าเขาฝึกกระบี่อย่างลับๆ ก็คงถูกหัวเราะเยาะ
แน่นอนว่าหยวนจุนโกหกหยวนฉางเทียน แต่ด้วยเหตุผลนี้ทำให้เขาดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
แม้หยวนฉางเทียนจะเชื่อเพียงแค่ส่วนหนึ่ง แต่ก็ต้องยอมรับว่าหยวนจุนเอาชนะวั่นเฮ่าซิงได้ด้วยเพลงกระบี่ นอกจากความประหลาดใจแล้ว ยังทำให้เขามีความหวังขึ้นมาด้วย
“จุนเอ๋อร์ นี่คือหญ้าหลงหยางสองต้น เ้านำไปต้มดื่มก่อนนอนนะ”
หยวนฉางเทียนยิ้มกริ่ม หยิบสมุนไพรสองต้นขนาดเท่าฝ่ามือออกมาแล้วมอบใส่มือหยวนจุนโดยไม่เสียดาย จากนั้นเขาก็ตบบ่าหลานชายแล้วหันหลังเดินออกไป
หยวนจุนรู้สึกโล่งใจขึ้นทันที เมื่อเห็นหญ้าหลงหยางอยู่ในมือ เขาก็รู้สึกกระชุ่มกระชวยมากขึ้น
“หญ้าหลงหยางเป็สมุนไพรหายาก หากเป็นักยุทธ์ระดับดาราทั่วไปใช้จะสามารถบรรลุผ่านวงแหวนขั้นหนึ่งได้สำเร็จ แต่ถ้าหากเป็นักยุทธ์วงแหวนใหญ่ขั้นเก้าใช้จะสามารถเข้าสู่ระดับจันทราได้อย่างแน่นอน!”
หยวนจุนตื่นเต้นดีใจ วางหญ้าหลงหยางอย่างระมัดระวังราวกับเป็สมบัติล้ำค่า
หากเป็เขาที่กำลังฝึกทักษะยุทธ์ในชาติที่แล้ว แน่นอนว่าหญ้าหลงหยางไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลย แต่สำหรับสภาพที่อับจนหนทางเช่นนี้ หญ้าหลงหยางถือเป็สิ่งล้ำค่ามาก!
“ต้มดื่มคืนนี้แล้วกัน กำลังอยากลองระดับดาราวงแหวนขั้นหนึ่งอยู่พอดี!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้