รถม้าขนาดใหญ่ที่มั่นคงวิ่งไปข้างหน้าโดยไม่มีการกระแทกใดๆ หากไม่ใช่เพราะเสียงลม หานอวิ๋นซีคงไม่รู้ว่ารถม้าวิ่งเร็วมากขนาดไหน
ในรถม้า มีเพียงนางและหลงเฟยเยี่ย ในตอนที่นางขึ้นมาบนรถม้า หลงเฟยเยี่ยก็มองมาที่นางโดยไม่ได้พูดอะไร แล้วก็หลับตาอีกครั้ง
หานอวิ๋นซีเกิดมาพร้อมกับความกล้าหาญ แม้แต่ต่อหน้าฮ่องเต้ นางก็กล้าที่จะโต้เถียง แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เวลาที่ต้องเผชิญกับความเ็าของชายผู้นี้ นางมักจะขี้ขลาดตาขาวอยู่เสมอ
เดิมทีนางอยากจะถามเขาเกี่ยวกับหุบเขางู แต่เมื่อเห็นว่าเขาปิดตา นางยิ่งไม่กล้าที่จะถามโดยไม่รู้ตัวและมองเขาอย่างขี้ขลาด
รูปร่างหน้าตาของเขาดูเหมือน์ปั้นมาโดยเฉพาะ ดวงตาเรียวเล็ก จมูกโด่ง ริมฝีปากบาง สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
หานอวิ๋นซีไม่เคยคิดเลยว่าจะมีผู้ชายที่ไม่แยแสเช่นนี้อยู่ในโลกนี้ แม้แต่ตอนที่เขาเงียบ ร่างกายของเขาก็ยังแผ่ความเย็นะเืออกมาถึงผู้คนที่อยู่ห่างไปหลายพันลี้ ทำให้ผู้คนรู้สึกเคารพอยู่อย่างห่างๆ
ตอนเด็กๆ เขาเป็แบบนี้หรือไม่? กับอี้ไท่เฟยก็เ็าใส่เสียขนาดนี้ แล้วกับฮ่องเต้คนก่อนล่ะ?
ในโลกนี้ จะมีใครเคยเห็นด้านอบอุ่น ด้านยิ้มแย้มของเขาบ้างไหมนะ?
เมื่อคิดถึงเื่นี้ นางก็อดสงสัยไม่ได้ว่าจะมีสตรีสักคนที่เขาสัญญาว่าจะรักไปตลอดชีวิตหรือไม่?
เพียงแต่ในไม่ช้า หานอวิ๋นซีก็ยิ้มออกมา นางคิดมากเกินไปจริงๆ ผู้ชายที่เ็าและใจร้ายแบบนี้ เขาจะมีความรู้สึกด้วยหรือไร?
เพื่อที่จะกำจัดความคิดที่ทำให้เสียสมาธิเหล่านี้ หานอวิ๋นซีจึงมองไปทางอื่นและพิงไปข้างๆ อย่างเฉื่อยชา นางยังคงครุ่นคิดว่าหุบเขางูเป็สถานที่แบบไหนกัน
มักจะรู้สึกอยู่เสมอว่าเมื่อชายผู้นี้พานางออกมา จะมีแผนอะไรหรือไม่?
ขณะเดียวกัน หลงเฟยเยี่ยก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น มองไปที่หานอวิ๋นซี เพียงเหลือบมองเท่านั้น แล้วก็หลับตาลงอีกครั้ง
รถม้าที่เคลื่อนตัวตลอดทั้งคืน ในวันรุ่งขึ้น ทันทีที่หานอวิ๋นซีลืมตา นางก็เห็นดวงตาที่เ็าของหลงเฟยเยี่ยทันที
“อ๊าย…”
นางใสะดุ้งโหยงและรีบลุกขึ้นนั่ง
“ตื่นแล้วหรือ?” หลงเฟยเยี่ยถามอย่างเ็า
“ท่านจะทำอะไร?” หานอวิ๋นซีถามอย่างดุร้าย ทำไมชายผู้นี้ถึงอยู่ใกล้ขนาดนี้?
หลงเฟยเยี่ยผละออกไป ดวงตาของเขาฉายแววรังเกียจ “ข้าจะปลุกเ้า”
เอ่อ…
เอาเถอะ หานอวิ๋นซีสงบลง “มาถึงแล้วหรือ? หุบเขางูอยู่ที่ไหนกัน? มีงูมีพิษมากมายเลยใช่หรือไม่? แล้วท่านจะพาข้ามาที่นี่ด้วยทำไม?”
หานอวิ๋นซีที่คิดไปคิดมาเมื่อคืนนี้ นอกเหนือจากเหตุผลนี้แล้ว ชายผู้นี้ก็ไม่มีเหตุผลที่จะพานางออกมา
“งูพิษมีเพียงตัวเดียว และจินตานงูของมันเป็สิ่งที่กู่ชีชา้ามากที่สุด หากเอาสิ่งนี้ไปแลกเปลี่ยนกับยาเซิงเสวี่ยตาน เขาต้องให้แน่นอน” หลงเฟยเยี่ยอธิบาย
ปรากฏว่า...ชายผู้นี้มีอำนาจทุกอย่างจริงๆ ทั้งยังรู้เื่ทุกอย่างอีกด้วย
ด้วยข้อมูลนี้ การที่จะได้ยาเซิงเสวี่ยตานก็ไม่ใช่เื่ยากจริงๆ และแน่นอนว่ากุญแจสำคัญของเื่นี้อยู่ที่นาง
ความมั่นใจในตัวเองของหานอวิ๋นซีเพิ่มขึ้นเล็กน้อย งูพิษอะไรนั้น เป็สิ่งที่นางไม่กลัวที่สุด
“ไปเถิด พาข้าไปดูว่ามันเป็งูพิษชนิดใด”
หานอวิ๋นซีที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ะโลงจากรถม้า เมื่อกำลังจะเดินไปข้างหน้า ประโยคของหลงเฟยเยี่ยก็ทำให้นางหยุดฝีเท้าลงทันที “มันเป็คืองูเหลือมั์พิษ”
“อะไรนะ?”
หานอวิ๋นซีหันกลับมามองทันที พร้อมกับขมวดคิ้ว
“มันเป็งูเหลือมั์พิษ” หลงเฟยเยี่ยพูดอีกครั้งอย่างอดทน หากเป็งูพิษธรรมดา เขาคงไม่พานางมาที่นี่ การพาสตรีคนหนึ่งร่วมทางมาด้วย จะทำให้เกิดปัญหาทุกประเภท
“งูเหลือมั์พิษ...”
หานอวิ๋นซีพึมพำกับตัวเอง คราวนี้นางใอย่างมาก
ต้องรู้ว่างูเหลือมั์เป็ประเภทที่ไม่มีพิษ!
งูพิษมีเขี้ยวหน้าและเขี้ยวหลังซึ่งสามารถหลั่งพิษจากเส้นประสาทได้ มันจะฉีดพิษเข้าไปในเหยื่อทำให้เหยื่อตายแล้วกลืนเข้าไป อย่างไรก็ตาม งูเหลือมไม่มีความสามารถในใช้พิษโจมตี การโจมตีของพวกมันคือการเข้าไปพัวพันกับเหยื่อด้วยกำลังและรัดให้ตาย จากนั้นค่อยกลืนกิน
แต่ก็คิดไม่ถึงว่างูเหลือมที่นี่จะมีพิษจริงๆ แล้วยังเป็งูเหลือมั์อีกงั้นหรือ?
หานอวิ๋นซีที่กำลังงุนงง นางค้นหาในระบบการล้างพิษ แต่ไม่มีบันทึกที่เกี่ยวข้องเลย ไม่ต้องสงสัยเลยว่า งูเหลือมั์พิษนี้เป็สายพันธุ์ใหม่สำหรับนาง
เมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวของนาง หลงเฟยเยี่ยก็ถามว่า “มีปัญหาอะไรหรือไม่?”
“งูตัวนี้ใหญ่แค่ไหน?” หานอวิ๋นซีถาม
“ประมาณสามจั้ง[1] ยืดหยุ่นได้ สามารถพ่นพิษได้” หลงเฟยเยี่ยตอบตามความจริง
ตามความเข้าใจของเขา มีคนไม่น้อยพยายามที่จะโจมตีงูเหลือมั์พิษตัวนี้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครสามารถจับมันได้และจำนวนคนที่เสียชีวิตในหุบเขางูนี้ก็มีไม่น้อยเช่นกัน
สามจั้ง นั่นมันสิบเมตรเลยนะ ไหนจะยังยืดหยุ่นได้ แล้วก็พ่นพิษได้...มันได้หรือ?
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหานอวิ๋นซีก็ยิ่งดูไม่ดีมากขึ้น นางตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่า “ข้าจัดการเื่นี้ไม่ได้หรอก ข้าไม่สามารถแก้พิษของงูเหลือมั์ ท่านคิดหาวิธีอื่นเถอะ”
นางไม่มีอาวุธ หากกำจัดพิษไม่ได้ แล้วเข้าใกล้งูเหลือมั์พิษ อาจจะถูกพิษจนตาย หรือไม่ก็ถูกรัดคอจนตาย?
“ทำไมล่ะ?” หลงเฟยเยี่ยงงงวย
“มีพิษนับหมื่นในโลก และข้าก็ไม่สามารถจัดการได้ทุกอย่าง” หานอวิ๋นซียอมรับโดยตรง
หลงเฟยเยี่ยไม่เคยมาที่นี่มาก่อน เดิมทีคิดว่าพาหานอวิ๋นซีมาด้วย ก็คงจะเป็เื่ง่าย แต่ตอนนี้เขาเริ่มไม่แน่ใจ
โดยไม่คาดคิด ในขณะเดียวกัน ม้าที่อยู่ข้างๆ เขาก็ยกเท้าหน้าของมันขึ้นและร้องด้วยความตื่นตระหนก
“แย่แล้ว!” หลงเฟยเยี่ยพูดด้วยน้ำเสียงเ็า แต่ก่อนที่จะพูดจบ ก็เห็นหัวงูขนาดใหญ่ชูขึ้นมาจากป่าทางด้านขวา พร้อมกับพ่นพิษออกมา
หลงเฟยเยี่ยคว้าตัวหานอวิ๋นซีไว้อย่างรวดเร็วและถอยห่างจากหุบเขาทันที ทว่าในไม่ช้า หางงูั์ก็ถูกเหวี่ยงมาทางพวกเขาราวกับแส้
หลงเฟยเยี่ยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากถอยหลังกลับ มุ่งหน้าเข้าไปในหุบเขา และในไม่ช้า ร่างของงูเหลือมั์ก็ปรากฏออกมาราวกับดาบยาวขนาดใหญ่ ไล่ตามพวกเขาอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่หลงเฟยเยี่ยจับตาดูการเคลื่อนไหวรอบๆ เขาก็ควบม้าไปข้างหน้าด้วย
หานอวิ๋นซีถูกกอดไว้ในอ้อมแขนแน่น อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ในตอนที่ได้ยินสิ่งที่หลงเฟยเยี่ยพูด นางยังไม่ทันที่จะได้สังเกต แต่ตอนนี้นางเห็นแล้วและใอย่างมาก
งูตัวนี้น่ากลัวมาก!
หลายครั้งที่พิษงูเกือบพ่นมาโดนร่างกายของนาง แต่ระบบการล้างพิษของนางไม่แจ้งเตือน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าไม่คุ้นเคยกับพิษนั้น
หากอวิ๋นซีมีเวลาเพียงพอในการเก็บตัวอย่างกลับไป เพียงพอที่จะพัฒนายาแก้พิษได้ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้มีเวลาทุกนาทีเป็เดิมพัน!
ยิ่งเข้าไปในหุบเขาลึกมากเท่าไร พุ่มไม้ก็ยิ่งหนาแน่นขึ้นและพวกเขาก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น
หลงเฟยเยี่ยยังคงมุ่งไปข้างหน้า ความเร็วนั้นเร็วมากจนน่าใ หานอวิ๋นซีคิดอยู่ในใจว่า ในเมื่อเข้ามาในหุบเขา ชายผู้นี้คงคิดที่จะหนีออกจากหุบเขาโดยผ่านทางออกอื่นให้เร็วที่สุด
แต่!
ทันใดนั้น หลงเฟยเยี่ยก็หันกลับมาและวิ่งไปทางป่าทางด้านขวาพร้อมกับหานอวิ๋นซีที่อยู่ในอ้อมแขน
“ท่านไม่ได้คิดที่จะออกจากหุบเขาหรอกหรือ?” หานอวิ๋นซีใ
“ข้ามาที่นี่เพื่อจินตานงู!” หลงเฟยเยี่ยพูดอย่างเ็า
เมื่อเทียบกับงูเหลือมั์พิษนี้ กู่ชีชาแห่งหุบเขายาผีนั้นรับมือได้ยากกว่า เขาไม่มีเวลาว่างมากนักที่จะร้องอ้อนวอนขอยา ในเมื่อตอนนี้เข้ามาในหุบเขางูแล้ว เขาไม่มีทางกลับไปมือเปล่าอย่างแน่นอน
งูเหลือมั์พิษก็ดูเหมือนจะประหลาดใจกับพฤติกรรมของหลงเฟยเยี่ย มันหยุดชั่วขณะหนึ่ง ทว่าก็ยังซ่อนตัวอยู่ในป่าทึบ
เมื่อเห็นเช่นนี้ หานอวิ๋นซีก็ไม่ใส่ใจที่จะเกลี้ยกล่อมหลงเฟยเยี่ยและะโว่า “มันหายไปแล้ว”
หลงเฟยเยี่ยพุ่งไปข้างหน้าอย่างเด็ดขาด ในขณะเดียวกันที่เขาก็พุ่งไปข้างหน้า งูเหลือมั์พิษก็พุ่งออกมาและเหาะขึ้นไปในอากาศ น่าตื่นเต้นเหลือเกิน!
ทั้งหมดมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว! ไม่นาน งูเหลือมั์พิษก็หายไปอีกครั้ง
หลงเฟยเยี่ยร่อนตัวลงบนต้นไม้ที่สูงที่สุด มือข้างหนึ่งจับเอวบางของหานอวิ๋นซีไว้และอีกข้างจับต้นไม้ไว้ เขายืนอยู่บนที่สูงที่สามารถมองเห็นหุบเขาทั้งหมด
แม้ว่าหานอวิ๋นซีจะหวาดกลัวอยู่ในใจ แต่นี่เป็ครั้งแรกที่นางยืนอยู่ที่สูงและมองลงมาบนโลก รู้สึกเพียงหัวใจเต้นแรงและตื่นเต้น
การออกมาข้างนอกกับชายผู้นี้ แม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ก็น่าตื่นเต้นทุกครั้ง
นางรู้ว่ามันเป็ไปไม่ได้ที่เขาจะหนี ถ้าเขา้าหนี ก็คงหนีไปนานแล้ว ในเมื่อมาถึงที่นี่ บางทีการออกไปสู้กับงูเหลือมั์พิษ เขาอาจจะได้จินตานงูมาจริงๆ
“ดูนั่น อยู่ทางนั้น!”
หานอวิ๋นซีที่สายตาเฉียบคม ในไม่ช้านางก็เห็นการเคลื่อนไหวในป่า เนื่องจากการมีอยู่ของงูเหลือมั์พิษในหุบเขางู สัตว์อื่นๆ หากไม่ตาย ก็หนีไป และการเคลื่อนไหวใหญ่เช่นนี้จึงมีเพียงแค่งูเหลือมั์พิษเท่านั้น
หลงเฟยเยี่ยที่มองไปก็พาหานอวิ๋นซีไปที่กิ่งไม้ขวาล่าง
“ยืนนิ่งๆ” เขาพูดอย่างเ็า
หานอวิ๋นซีกอดลำต้นของต้นไม้แน่นทันที ต้องยอมรับว่าทันทีที่เขาปล่อยมือ ความรู้สึกปลอดภัยของนางก็หายไป
หลงเฟยเยี่ยไม่ได้ค้ำต้นไม้ไว้ แต่ยืนอย่างมั่นคงที่ตรงกลางของกิ่งไม้ ลำตัวตั้งตรงราวกับต้นสน พร้อมกับถือคันธนูไว้ด้วยมือทั้งสอง สายตาที่เ็าจดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวมัน
หานอวิ๋นที่มองจากด้านข้าง รู้สึกว่าชายคนนี้เท่สุดๆ ไม่ว่าจะมองอย่างไร เขาก็ดูเหมือนนักฆ่าแห่งความมืดชั้นยอด
ทันใดนั้น การเคลื่อนไหวในพุ่มไม้ก็หยุดกะทันหัน งูเหลือมั์พิษก็หยุดลง
หลงเฟยเยี่ยค่อยๆ หรี่ตาลง คันธนูที่กำลังเคลื่อนที่ก็จดจ่อไปในทิศทางเดียว ลูกธนูที่อยู่บนสายธนูก็สามารถยิงออกไปได้ทุกเมื่อ
หานอวิ๋นซีรู้สึกประหม่าอย่างมากจนกลั้นหายใจ แต่ใครจะรู้ว่า ในตอนที่นางกำลังคิดว่าหลงเฟยเยี่ยจะยิงธนูออกไป จู่ๆ เขาก็หันกลับมา เล็งไปที่ทิศทางหนึ่งด้านหลังและด้านล่าง แล้วยิงธนูออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียง “ซิ่ว” ที่ดังขึ้น
เห็นแค่เพียงลูกธนูที่แหลมคมราวกับสายฟ้า ทรงพลังและมีความเร็วที่น่าทึ่ง
แม้ว่าลูกธนูจะพุ่งออกไปแล้ว แต่หานอวิ๋นซียังคงรู้สึกถึงพลังอันทรงพลังบนลูกธนูที่แหลมคม
ไม่คาดคิดว่าผู้ชายคนนี้จะใช้กำลังภายในใส่เข้าไปในลูกธนู เพียงแต่ทำไมเขาถึงเปลี่ยนทิศทางล่ะ?
หานอวิ๋นซีกำลังไม่เข้าใจที่หลงเฟยเยี่ยยิงธนูที่แหลมคมออกไปนับไม่ถ้วน แต่ละลูกมีความเร็วราวกับดาวตกที่ตกลงมา ทั้งยังเหมือนกับสายฟ้าที่ฟาดลงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อหางงูขนาดใหญ่เหวี่ยงขึ้นจากพุ่มไม้ หานอวิ๋นซีจึงจะเข้าใจได้ว่าเมื่อครู่หลงเฟยเยี่ยเลิกเล็งไปที่หางงูและยิงไปที่หัวของงู หากนางเดาไม่ผิด หัวของงูเหลือมั์พิษน่าจะได้รับาเ็สาหัส และนี่เป็การทำให้มันเคลื่อนไหวได้ยากลำบาก
ด้วยอาการาเ็ที่หัวของงู และด้วยร่างและหางที่ใหญ่โตของงูตัวนั้น ทำให้มันยากที่จะหลบหนี
การยิงนี้ดูเหมือนง่าย แต่ถ้าเป็คนอื่น ประการแรก พวกเขาอาจไม่สามารถหลบหนีการไล่ตามของงูเหลือมั์พิษได้ และประการที่สอง แม้ว่าพวกเขาจะยืนที่สูง ชักคันธนูและยิงธนูได้ ก็อาจจะยิงไม่ได้ทุกดอก จนทำให้งูเหลือมั์าเ็สาหัสเช่นนี้
หานอวิ๋นซีรู้ว่าลูกธนูแต่ละลูกที่หลงเฟยเยี่ยยิงมีพลังมหาศาล มิฉะนั้นเมื่อเทียบกับร่างของงูเหลือมั์แล้ว ลูกธนูขนาดเล็กก็คงเป็ได้เพียงแมลงเม่าเขย่าต้นไม้เท่านั้น
หลงเฟยเยี่ยหยุดนิ่งแล้ว แต่เส้นเืสีน้ำเงินที่หลังมือของเขายังไม่หายไป
หางของงูตัวใหญ่เหวี่ยงไปมาในอากาศ ในไม่ช้าก็ทำให้ต้นไม้ที่อยู่รอบๆ ล้มเป็ระนาบเดียวกัน หานอวิ๋นซีประเมินด้วยสายตาว่าการแกว่งหางของงูจะไม่มาถึงต้นไม้ใหญ่ที่พวกเขาอยู่ ดังนั้นนางและหลงเฟยเยี่ยจึงมองไปที่หัวของงูด้วยความมั่นใจ
ตราบใดที่หัวงูตาย การเคลื่อนไหวของหางงูจะใหญ่ขนาดไหน มันก็แค่แรงเพียงอ้อยอิ่ง
ขณะที่พวกเขาที่กำลังรออยู่ หลงเฟยเยี่ยก็หยิบคันธนูออกมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกันก็มีการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันในทิศทางของหัวงู ราวกับว่าหัวงูกำลังต่อสู้ครั้งสุดท้าย แต่การเคลื่อนไหวก็ค่อยๆ หายไปหลังจากนั้นไม่นาน
“ตายแล้วใช่หรือไม่?” หานอวิ๋นซีถามอย่างหวาดกลัว
หลงเฟยเยี่ยไม่ตอบ ดวงตามืดมนมองด้วยความระมัดระวังและยังคงรอ ทว่ากลับมีร่างที่สวมชุดสีขาวะโลงมาจากต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล และมุ่งตรงไปที่หัวของงูเหลือมั์พิษ
หานอวิ๋นซีเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็ผู้หญิงในชุดขาว!
ช่างกล้าหาญเหลือเกิน คิดไม่ถึงว่าจะฉวยโอกาสต่อหน้าหลงเฟยเยี่ยเช่นนี้!
--------------------------
[1] จั้ง (丈) คือ หนึ่งในมาตราวัดความยาวของจีน ‘หนึ่งจั้ง’ หมายถึงความยาวประมาณ ‘สิบฟุต’ หรือประมาณ ‘3.3 เมตร’