ตอนที่ 4
“เป็อะไรลูกพี่ ทำไมหน้าบึ้งเชียว” ก้างเรียกตินเสียงดังจนหลุดออกจากภวังค์
“ไม่เสือกสักวันจะตายมั้ย?” ตินหันไปมองหน้าแล้วถามกลับอย่างไม่จริงจังนัก พร้อมเลิกคิ้วกวนๆ
“ไม่ตายครับ แต่จิตใจมันไม่สงบ แฮร่ !!” คำตอบโคตรกวนๆ จากก้างที่มาพร้อมรอยยิ้มทะเล้นเรียกตีน
“เดี๋ยวมึงจะโดนตีนไอ้ก้าง” ตินชี้หน้าคาดโทษลูกน้องด้วยความขบขัน
“ฮ่าๆๆ ก็มาดิค้าบ” ก้างพูดอย่างท้าทายส่ายก้นใส่แกล้งๆแล้วออกวิ่งทันที เพราะรู้ว่าเ้านายแค่พูดเล่น
“แน่จริงมึงอย่าวิ่งสิว่ะ” ตินเองก็บ้าจี้วิ่งไล่ตามเตะลูกน้อง ส่วนลูกน้องที่เหลือก็มองยิ้มๆ และมีบางกลุ่มที่มองมาอย่างเคืองๆ
“ลูกพี่ก็หยุดไล่ผมดิ แฮ่กๆ เหนื่อย” ก้างหยุดวิ่ง โค้งตัวลงเอามือจับเข่าหอบหายใจแรงๆ ด้วยความเหนื่อย เพราะโดนเ้านายไล่เตะั้แ่หน้าอู่จนถึงลานจอดรถซึ่งเป็ระยะทางที่ไกลพอสมควร
“เออๆ กูก็เหนื่อยเหมือนกัน แล้วมึงจะวิ่งหาเหี้ยอะไรว่ะ?” ตนเองก็หยุดวิ่ง หอบหายใจไม่ต่างจากก้างสักเท่าไหร่ แดดเปรี้ยงๆในตอนเที่ยงยังมาวิ่งไล่จับกันอีก เหงื่อผุดเต็มใบหน้าหล่อ เสื้อกล้ามที่ใส่เริ่มชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“ไม่หาเหี้ยค้าบ ผมแค่ไม่อยากให้ลูกพี่เตะเฉยๆ ฮ่าๆๆๆ” ก้างรีบเถียงกลับ แล้วหัวเราะลั่นอย่างอารมณ์ดี
“ไอ้ก้าง ถ้ายังกวนตีนมึงจะโดนตีนจริงๆ” ตินพูดเสียงดุแต่มุมปากกลับยกยิ้มขำ ดูความกวนตีนของลูกน้องเขาสิ
“เห็นลูกพี่ยิ้มแล้ว ผมกลับไปทำงานดีกว่าเน้อะ” ก้างพูดด้วยรอยยิ้มกว้างที่ดูจริงใจ แต่ก็ไม่ทิ้งความกวนตีน
ทุกครั้งที่เขาเหม่อหรืออารมณ์เสียจากอะไรก็ตาม ไอ้ก้างที่สนิทกับเขามากกว่าใครมักจะหาเื่หยอกล้อกวนตีนทำให้เขายิ้มได้เสมอ
“ไปให้ไวเลย ไม่งั้นเดียวมึงจะถูกหักเงินเดือน” ตินพูดขู่ ก่อนยกยิ้มร้ายตรงมุมปาก มองลูกน้องด้วยสายตาเ้าเล่ห์์
“แค่ได้ยินก็เจ็บจี๊ดไปทั้งสมองแล้วค้าบลูกพี่” ก้างพูดจบก็รีบวิ่งกลับเข้าอู่ด้วยความไว หยิบอุปกรณ์เครื่องมือแล้วเดินตรงไปยังรถคันที่รอคิวซ่อมทันที
“กวนตีนสุดๆ” ตอนได้แต่บ่นกับตัวเองแล้วยกยิ้มออกมา
ทำงานไปจนถึงเวลาปิดอู่ ตินขึ้นห้องนอนไปอาบน้ำ แล้วเผลองีบไปสองชั่วโมงกว่าๆ แล้วลุกขึ้นอาบน้ำอีกรอบเพื่อออกไปทานข้าวและท่องราตรี
เป็อีกคืนที่ตินมานั่งดื่มคนเดียวอย่างเช่นทุกๆ คืน ไม่ว่าเขาจะเอากับผู้หญิงมากมายกี่คนก็ตามแต่ก็ไม่สามารถลบลืมัันั้นได้เลย ได้เพียงปลดปล่อยแต่ก็ไม่เคยรู้สึกเต็มอิิ่มอีกเลย ล่าสุดที่หนักเลยก็คือ อารมณ์กำลังพุ่งแต่อยู่ดีๆ ก็ทำต่อไม่ได้ แก่นกายที่แข็งเป็ลำกลับอ่อนตัวลงเมื่อเผลอคิดถึงบทรักอันเร่าร้อนนั่น น่าอายชิปหาย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น ถ้าลูกน้องรู้เขาคงไม่กล้าสู้หน้าใคร
คืนนี้เลือกนั่งหน้าบาร์สั่งเครื่องดื่มแรงๆ เพื่อที่คืนนี้จะได้หลับสบาย ไม่ต้องคิดวกวนเื่เดิม ๆ
“เอ่อ มาคนเดียวเหรอค่ะ ของขวัญขอนั่งด้วยได้มั้ย?” อยู่ดีๆ ก็มีหญิงสาวสเป็คที่ตินชอบเข้ามาทัก ตัวเล็กๆ ขาวๆ หน้าอกที่พอดี สะโพกงอนๆ ในชุดเดรชสีดำขับให้ผิวขาวออร่าขึ้นและดูมีเสน่ห์น่าดึงดูด
“เชิญนั่งครับ” ตินยกยิ้ม สุภาพบุรุษที่ดีไม่ควรปฏิเสธหญิงงาม
“นั่งคนเดียวไม่เหงาเหรอค่ะ?” ชองขวัญถามด้วยรอยยิ้มหวานโปรยเสน่ห์เต็มที่ เพราะคืนนี้เธอ้าหนุ่มหล่อตรงหน้าไปร่วมเตียง
“เมื่อกี้ก็เหงา แต่ว่าตอนนี้ไม่เหงาแล้วครับ” ตินเอ่ยอย่างหยอกเย้า สายตาที่ใช้มองสาวสวยตรงหน้าเป็ประกาย เห็นทีคืนนี้คงได้ออกกำลังกายก่อนนอนอีกแล้ว และหวังจะแก้มือจากเื่คราวก่อนด้วย
“ดีจังเลยน่ะค่ะ” ของขวัญยิ้มให้ก่อนจะหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์
“ตินครับ” ตินเอ่ยแนะนำตัวก่อนอย่างสุภาพ ยกเหล้าขึ้นดื่มอย่างอารมณ์ดี
“ของขวัญค่ะ” ของขวัญรับเครื่องดื่มจากบาร์เทนเดอร์มาจิบเบาๆ ยกยิ้มสวยให้ตินเล็กน้อย เป็การกระทำที่ดูมีเสน่ห์ไม่ได้อ่อยจนเกินงามตินมองริมฝีปากอวบอิ่มไม่วางตา
“ว่าแต่กลับจากที่นี่ตินจะไปต่อไหนรึเปล่า” ของขวัญถามอย่างมีเลศนัย ซึ่งตินเองก็เข้าใจความหมายนั้นดี
“คงกลับห้องครับ” ตินระบายยิ้มหล่อก่อนจะตอบอย่างสุภาพด้วยท่าทีสบายๆ จากนั้นเราทั้งคู่ก็นั่งดื่มกันเงียบๆ ต่างฝ่ายต่างสังเกตกันและกัน
“จะเป็การรบกวนตินเกินไปมั้ย ถ้าจะขอให้ไปส่งของขวัญที่ห้อง พอดีวันนี้มากับเพื่อน แต่เพื่อนหนีกลับไปแล้ว ไม่อยากกลับแท็กซี่คนเดียว ของขวัญกลัว” ของขวัญลูบแขนแกร่งของตินเบาๆ ก่อนจะเลื่อนมาจับมือหนา ช้อนตามองนิดๆ เผยอริมฝีปากหน่อยๆ
“ได้สิครับ” ตินตอบยิ้มๆ ล่วงตังในกระเป๋าออกมาจ่ายค่าเื่ดื่มทั้งของตัวเองและหญิงสาวแล้วพาหญิงสาวออกจากที่นั่นทันที
พอมาถึงคอนโดหญิงสาวก็ชวนตินขึ้นห้อง ซึ่งแน่นอนว่าตินไม่ปฏิเสธ เราเริ่มนัวกันั้แ่เปิดประตูห้องจนมาถึงที่เตียงนอน
“จุ๊บ จ๊วบ” ริมฝีปากของทั้งคู่ดูดดึงกันอย่างเร่าร้อน แลกลิ้นกันไปมาสร้างความเสียวซ่านให้แก่กัน มือหนาของตินบีบเค้นที่หน้าอกอวบอิ่มอย่างมันมือ มือเรียวลูบไล้กลางกายที่ตอนนี้เริ่มพองคับกางเกงสแล็คหนักสลับเบา ต่างฝ่ายต่างช่วยกันถอดเสื้อผ้าด้วยความรวดเร็ว
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก !!!!!!” เสื้อผ้าที่หลุดรุ่ยและสภาพที่เกือบพร้อม นิ้วยาวแหวกจีสตริงออกแล้วสอดนิ้วเข้าไปในร่องกลีบกุหลาบอย่างแ่เบา ในขณะเดียวกันริมฝีปากของเราทั้งคู่ยังคงไม่ห่างกันแต่ทั้งหมดนี้ต้องหยุดลงเพราะเสียงเคาะประตูแบบบ้าคลั่ง แค่ฟังจากการเคาะก็รู้แล้วว่าคนข้างนอกกำลังโมโห ทำให้ทั้งตินและของขวัญต่างมองไปยังประตู
“เดี๋ยวของขวัญมาน่ะค่ะ” ของขวัญรีบผละออกจากกายกำยำของตินแล้วรีบลุกขึ้นไปดูที่ที่ตาแมว
“ใครมาเหรอ ทำไมไม่เปิด ?” ตินถามขึ้นเมื่อเห็นของขวัญวิ่งมาหาเขาหน้าตาตื่น เหมือนใมากๆ กับคนที่อยู่หลังบานประตู หรือพ่อแม่เธอจะมาหา และเสียงเคาะก็ยังคงดังรัวๆ
“ผัวหนูมา” ของขวัญตอบเสียงสั่น ทำอะไรไม่ถูก ก็เสี่ยบอกเธอว่าสัปดาห์นี้จะไปทำงานต่างประเทศทั้งสัปดาห์แล้วทำไมถึงมาอยู่นี่ได้ แล้วมาจังหวะพอดีเหลือเกิน
“ห๊ะ?” ตินแทบะโออกมาด้วยความใดีที่เอามือปิดปากไว้ได้ทัน
“ผัวหนูมา ตินไปหาที่หลบก่อนเร็วเลย เดี๋ยวของขวัญจะถ่วงเวลาไว้ก่อน เร็วสิติน เก็บของไปด้วย เร็ว เดี๋ยวได้ตายกันหมดหรอก” ของขวัญพยายามคิดหาวิธีเพื่อให้หลุดพ้นจากสถานการณ์ตอนนี้ ในระหว่างที่กำลังหาทางออกประตูก็ถูกเคาะรัวจนแทบพัง รู้เลยว่าคนหน้าห้องอารมณ์ไม่ดีมากๆ
“แล้วจะให้ไปหลบที่ไหนว่ะ แล้วไหนตอนแรกเธอบอกไม่มีใครไง?” ตินพูดขึ้นอย่างหัวเสียที่อยู่ ๆ ตัวเองกำลังจะเป็ชู้โดยไม่รู้ตัว ตอนขับรถมาคอนโดเขาก็ถามย้ำไปแล้ว เธอก็ยอกเสียดิบดีว่าไม่มีใคร ทั้งยังยืนยันหนักแน่น แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้เป็แบบนี้
“ระเบียง ตินระเบียง ไปเร็วค่ะ ไปเลย” ของขวัญชี้ไปที่ระเบียงที่มีผ้าม่านผืนใหญ่ปิดอยู่ ตินก็รีบโกยเสื้อผ้าและของของตัวเองเข้าสู่อ้อมกอดแล้วไปหาที่หลบทันที ส่วนของขวัญหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำขึ้นมาสวมแล้วเดินไปที่ประตูจัดเสื้อผ้าหน้าผมของตัวเองให้เข้าที่ เสมือนว่าเธอกำลังจะอาบน้ำ
“ป๋าจะมาทำไมไม่บอกล่ะค่ะ ไหนว่าสัปดาห์นี้จะไปดูงานที่ต่างประเทศ” ของขวัญเปิดประตูแล้วถามเสี่ย เสียงหวาน กอดแขนเสี่ยอย่างออดอ้อน
“เธอซ่อนใครไว้ บอกฉันมา ?!” ไอ้เสี่ยตะหวาดใส่ของขวัญที่กอดแขนประจบออดอ้อนดังลั่นห้อง ตินที่หลบอยู่หลังม่านริมระเบียงเผลอสะดุ้งไปด้วย
“ไม่มีค่ะ หนูไม่ได้ซ่อนใครไว้และไม่เคยพาใครเข้าห้อง ป๋าก็รู้หนูเคยพามาเฉพาะเพื่อนผู้หญิงทั้งนั้น ป๋าก็เคยเจอนี่ค่ะ พวกเชอรี่กับคิตตี้ ป๋าไม่ไว้ใจหนูเหรอค่ะ? หนูเสียใจน่ะ หนูมีแค่ป๋าคนเดียว ป๋าต้องเชื่อใจหนูสิค่ะ ” ของขวัญเริ่มร้อนใจมากขึ้นเมื่อเสี่ยปัดมือเธอออกแล้วเดินหาทั่วห้องนั่งเล่น ไล่ไปห้องนอน ตู้เสื้อผ้า ห้องแต่งตัว ห้องครัว และสุดท้ายริมระเบียง ใจหายวาบเมื่อเสี่ยเปิดม่านระเบียงออกก็โล่งใจเมื่อเห็นตินไปนั่งหลบอยู่หลังโซฟาห้องนั่งเล่นแล้ว แต่หากเธอไม่ทำอะไรสักอย่างอย่าว่าแต่ตินเลย เธอเองก็ไม่มีโอกาสได้มีชีวิตเช่นกัน
“ถ้าเธอคิดจะมีชู้ เธอเตรียมเป็ศพได้เลย” ของขวัญรู้ว่าถ้าโดนจับได้เสี่ยคงฆ่าทิ้งจริงๆ แต่จะให้เธอทนอันเหี่ยวๆ จนกว่าเสี่ยจะตายก็คงไม่ไหว เธอเลยมักหาผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกันมาร่วมเตียงด้วยเสมอ แต่ครั้งนี้เธอพลาดที่ชวนตินมาคอนโดตัวเองแทนที่จะเป็โรงแรม หรือบ้านของติน
“ค่ะ ของขวัญไม่ทำแบบนั้นแน่นอนค่ะ เชื่อใจของขวัญน่ะค่ะ” ของขวัญพูดเสียงอ่อนออดอ้อนออเซาะ ลูบไหล่ของเสี่ยอย่างเอาใจ
“แล้วเมื่อกี้ทำไมเปิดประตูช้า?” หลังจากที่หาจนทั่วแล้วไม่เจอ เสี่ยเลยเปลี่ยนมาถามเสียงเข้มด้วยสายตาที่คาดคั้นจ้องมองใบหน้าสวยอย่างจับผิด
“พอดีของขวัญเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ค่ะ กำลังจะอาบน้ำค่ะ แล้วนี่ป๋ามาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำด้วยกันมั้ยค่ะ เดี๋ยวของขวัญถูหลังให้น๊าาาา” ของขวัญใช้มือเรียวลูบไล้ไปตามหน้าอกของเสี่ยอย่างยั่วยวน บีบๆ นวดๆ ไปด้วย
“ฉันอาบมาแล้ว” เป็อีกครั้งที่ใจเต้นรัวเมื่อ เสี่ยปัดมือเรียวทิ้งอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก แล้วเดินกลับมานั่งที่โซฟาห้องนั่งเล่นด้วยอารมณ์หงุดหงิด
“อาบน้ำมาแล้วแต่อาบคนเดียวใช่มั้ยเอ่ย แต่ถ้าอาบน้ำตอนนี้ของขวัญมีอะไรสนุกๆด้วยน๊าาาา ป๋าไม่สนใจเหรอค่ะ” ของขวัญพูดเสียงหวานพร้อมใช้มือแหวกเสื้อคลุมลงไปข้างหนึ่งจนเห็นเนินอกอวบอิ่ม นึกดีใจไม่น้อยที่ตินไม่ทันได้สร้างรอยรักเอาไว้ไม่อย่างนั้นคงได้ตายจริงๆ
“หึหึ เอาสิ ฉันอยากเล่นสนุกกับเธอ” ไอ้เสี่ยพูดด้วยน้ำเสียงหื่นกามจนตินอยากจะอ๊วก แก่หงําเหงือกยังไม่เจียมสังขารคิดเลี้ยงเด็กรุ่นลูก มันคงได้ช็อคตายคาอกเข้าสักวัน
“ป๋ารีบตามหนูมาเร็วๆ สิค่ะ หนูถอดแล้วน๊าาาา” ของขวัญลุกขึ้นแล้วเดินไปทางห้องน้ำแล้วค่อยๆ ถอดเสื้อคลุมช้าๆ เผยให้เห็นแผ่นหลังขาวทีละนิดจนถึงบั้นท้ายที่น่าตี
“เพี๊ยะ / อ๊ะ” เสี่ยอดใจไม่ไหวตามไปตีก้นงอนแรงๆ จนขึ้นสีระเรื่อตามรอยนิ้ว
ไอ้เสี่ยนี่ก็ไม่ยอมเดินเข้าห้องน้ำไปเสียที ทั้งหมอบทั้งคลานจนเมื่อยไปหมดแล้ว พอมันเดินเข้าห้องน้ำตามของขวัญไป เขาก็รีบหอบข้าวของแล้ววิ่งออกจากห้องไปทันที ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว มือขวาถือมือถือกับกระเป๋าตังค์ มือซ้ายถือเสื้อผ้า
“แกร๊ก!”
“เสียงอะไร?” เสี่ยขมวดคิ้ว หยุดลูบไล้ร่างบางทันที มั่นใจว่าเสียงนั้นไม่ได้เกิดจากตัวเองหรือของขวัญแน่ มันเสียงเหมือนประตู แต่เป็ประตูไหนกัน ประตูนอกหรือประตูห้องนอน
“อะไรค่ะ ป๋าหูเพี้ยนรึเปล่า หนูไม่เห็นจะได้ยินอะไรเลย” ของขวัญทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ราวกับว่าเธอไม่ได้ยินทั้งๆ ที่เธอเองก็ได้ยินเต็มสองหู ตินน่าจะเปิดประตูแรงเกินไป ใจเธอต้องหล่นลงตาตุ่มอีกเครั้ง
“เธอรอนี่ของขวัญ! ไม่ต้องออกมา”เสี่ยสั่งเสียงเข้ม รีบหยิบเสื้อคลุมขึ้นสวมแล้วเดินออกจากห้องน้ำ เดินหาจนทั่วห้องเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรจึงลองเปิดประตูหน้าห้องดู
“ทำไงดีว่ะกู?” ในขณะที่กำลังวุ่นวายกับความคิด เสียงเปิดประตูก็เสือกดัง แล้วต้องทำไงดีว่ะ เจอเหตุการณ์นี้ถึงกับหายมึนเหล้าเลยทีเดียว ตินใช้ความคิดเพื่อหาทางออกอย่างหนัก คืนนี้เขาอยากเสียวซ่านไม่ใช่เสียวตาย
“โคตรเหี้ยเลยว่ะ ชีวิตกูต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยว่ะ!”
“ผละ! คุณๆ ผมขออาศัยแป๊ปนึง แป๊ปเดียวเดี๋ยวผมไป ขอบคุณครับ” และในระหว่างที่กำลังหาทางออก จะให้ไปหลบไหนต่อได้ว่ะ ชั้นนี้มีแค่สี่ห้องเท่านั้น จะวิ่งเข้าลิฟต์ก็คงไม่ทันเพราะลิฟต์อยู่ไกลสุดเสียด้วย ทางเดินเป็โถงทางยาวเป็เส้นตรง เห็นผู้ชายห้องข้างๆ กำลังเปิดประตูเข้าห้องพอดี รีบผลักเขาและพาตัวเองเข้าห้องอย่างไวโดยไม่รอให้เ้าของห้องอนุญาตสักนิด ยังไม่ทันได้ปิดประตู ประตูก็ถูกกระชากออกกว้างพร้อมไอ้เสี่ยที่ยืนจังก้าทำหน้าตาทมึงทึงด้วยความโกรธจัด
“เห้ย!!! มึงชู้กับเมียกูเหรอ ?” ไอ้เสี่ยกระชากคอเสื้อตินไปกุมเอาไว้แน่นแล้วตวาดถาม
“ห๊ะ ผมเนี่ยน่ะ?” ตินชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง อยากะโให้ลั่นว่าเออ กูนี่แหละ แต่ก็ทำไม่ได้ ดีน่ะที่เขาโยนเสื้อผ้าไปหลังประตูก่อนแล้ว
“ถ้าไม่ใช่มึงแล้วใคร กูเห็นหลังไวๆ เมื่อกี้” เสี่ยยังพูดด้วยอารมณ์ที่เดือดดาล ไม่เชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายนั้นปฏิเสธสักนิด
“เข้าใจผิดแล้ว ผมอยู่ห้องนี้กับแฟน คนนี้แฟนผม และเรากำลังจะ…” ตินผลักมือนั้นออกแล้วชี้ไปหาคนที่ยืนมองอยู่ข้างหลัง คือเอาตรงๆ สภาพเขาตอนนี้คือพร้อมมาก และอีกคนปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตลงมาสามเม็ดโชว์อกแกร่งกำยำ
“กูไม่เชื่อ” เสี่ยพูดเสียงดังอย่างไม่เชื่อจ้องมองทั้งคู่อย่างเกรี้ยวกราด ตินเลยตัดสินในหันตัวกลับไปหาเ้าของห้องผู้โชคร้ายแล้วโน้มหน้าไปประกบปากจูบอีกฝ่ายทันที
“จุ๊บ จ๊วบ” เ้าของห้องก็ให้ความร่วมมือมากเลยทีเดียวกัน แทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปากเขาด้วยความเร็ว แต่ด้วยความที่ไอ้เสี่ยมองอยู่ทำให้ตินเผยอปากรับอย่างจำใจ พอโดนรุกมากๆ ตินก็ไม่อาจอยู่เฉยได้อีกต่อไป สองลิ้นเกี่ยวพันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ผลัดกันรุกผลัดกันรับ แต่คนแปลกหน้าจูบเก่งมากตินเชื่อว่าถ้าเป็คนอื่นคงอ่อนระทวยไปทั้งตัว
“อ่อ ที่แท้ก็พวกเกย์ ไอ้พวกผิดเพศ” ไอ้เสี่ยเดินออกไปอย่างหัวเสีย จับชู้ก็ไม่ได้ยังต้องมาเจอพวกผิดเพศจูบกันโชว์ให้ดูอีก
ตอนแรกว่าแค่ประกบปากตบตาเฉยๆ แล้วไหนถึงได้จูบกันดูดดื่มแบบนี้ว่ะ ไอ้เสี่ยนั่นกลับไปแล้วแต่เขากับคนแปลกหน้าก็ยังจูบกันอยู่ และมันก็เร่าร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ มือหนาของเ้าของห้องเริ่มลูบไล้ไปตามร่างกาย จนเขาเริ่มเผลอไปกับความหวาบหวามที่กำลังเกิดขึ้น และเป็เขาเองที่เริ่มขาดอากาศหายใจ อีกฝ่ายก็เหมือนรู้ว่าเขากำลังจะไม่ไหวเลยยอมถอนริมฝีปากตัวเองออกช้าๆเหมือนเสียดาย
“ไม่ต่อเหรอ?” คนแปลกหน้าที่เพิ่งช่วยชีวิต และเพิ่งจูบเขาไปถามขึ้นด้วยรอยยิ้มเ้าเล่ห์ที่มองมุมไหนก็ดูดีแต่อดขนลุกไม่ได้ จูบกับผู้ชายด้วยกันมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด ตินรีบยกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำลายหกเลอะตรงมุมปากอย่างเขินๆ
“จะบ้าเหรอคุณ แต่ยังไงก็ขอบคุณมาก ถ้าไม่ได้คุณช่วยเอาไว้ผมคงตายแน่ ๆ แล้วก็ขอโทษด้วยสำหรับเื่ที่เกิดขึ้นด้วยน่ะ” ตินไม่ลืมขอบคุณคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้เมื่อครู่อย่างจริงใจ แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้เมื่อคนตรงหน้าดูจะเต็มใจจูบเขาตอบอย่างไม่รังเกียจ
“เดี๋ยว!” ตินหมุนตัวยังไม่ทันที่จะก้าวเท้าออกจากห้องเสียงของเ้าของห้องก็ดังขึ้น
“ห๊ะ?” ตินหันกลับมาถามอย่างงงๆ ไม่เข้าใจ ว่าอีกฝ่ายเรียกเขาทำไม
“ชื่อตินใช่มั้ย?” คนตรงหน้าถามเสียงเรียบ มุมปากยกขึ้นแค่เล็กน้อย โคตรหล่อ
“ครับ?” ตินทำหน้างงๆ คนตรงหน้า รู้สึกหน้าตาคุ้นๆ แต่จำชื่อไม่ได้ เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อนและไม่รู้ด้วยว่าคนตรงหน้ารู้จักชื่อเขาได้อย่างไร
“จำไม่ได้เหรอ? กูชื่อ ดิน เพื่อนธารา ที่เคยนั่งดื่มโต๊ะเดียวกันที่คลับธีร์เมื่อหลายวันก่อน” ดินถามแล้วยกยิ้มมุมปาก เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าจำเขาไม่ได้จริงๆ แต่ปากยังหวานเหมือนเดิม
“เอ่อ โทษที พอดีว่าคืนนั้นเมาหนักไปหน่อยเลยจำอะไรไม่ได้เลย” ตินตอบยิ้มๆ เกาท้ายทอยด้วยความเขิน
“ก่อนไปกูว่ามึงใส่เสื้อผ้าหน่อยมั้ย? ตอนนี้มึงเหมือน…. ” ดินจงใจเว้นคำพูดสุดท้ายไว้เพื่อให้อีกฝ่ายคิดเอาเอง แต่ไม่ว่าคิดแบบไหนผลก็ออกมาเป็ลบอยู่ดี ทั้งยังมองร่างกายอีกฝ่ายด้วยแววตาเ้าเล่ห์
“ขอบคุณ” อีกฝ่ายแนะนำตัวก็นึกออกทันทีเพราะเราเคยเจอกันครั้งสองครั้งที่คลับธีร์ และร้านเหล้าแถว XX แต่ก็ไม่ได้รู้จักกันเป็การส่วนตัว
ตินรีบหยิบเสื้อผ้าจากพื้นขึ้นสวมทีล่ะชิ้น ดินได้แต่มองสำรวจร่างกายของคนตรงอย่างพิจารณาด้วยรอยยิ้ม ผิวขาวเนียน รูปร่างค่อนข้างดี กล้ามแน่นแต่บางกว่าแค่เขาเล็กน้อยและดูเหมือนว่าจะมีกล้ามเนื้อมากกว่าเมื่อก่อน
“มึงจะนั่งเล่นห้องกูก่อนก็ได้น่ะ” ดินพูดเสียงเรียบแล้วเดินตรงไปยังตู้เย็น
“ไม่เป็ไร คือเกรงใจแค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้ว” ตินบอกอย่างรู้สึกเกรงใจ เพราะแค่อีกฝ่ายช่วยชีวิตเขาไว้ก็เกรงใจมากแล้ว
“อ่ะ มึงออกไปตอนนี้ถ้าเจอลูกน้องของคนเมื่อกี้กูว่ามึงน่าจะยุ่งจนเช้า” ดินพูดพร้อมยื่นเบียร์กระป๋องไปให้ตินที่ดูก็รู้ว่าตอนนี้ยังอารมณ์ไม่ดีนัก แล้วนั่งลงอีกฝั่งของโซฟา
“ขอบคุณ” สุดท้ายตินก็เดินไปนั่งดื่มเบียร์กับดินที่ห้องนั่งเล่น คือไม่กล้าปฏิเสธน้ำใจ และสมองกำลังคิดตามสิ่งที่ตินพูด ถ้าเจอพวกมันดักอยู่รอบนี้เขาได้ซวยจริงๆ แน่
“กูถามได้มั้ย?” ดินเลิกคิ้วถาม ทั้งที่ปกติเขาเป็คนไม่ชอบยุ่งเื่ของใครก่อน แต่กับคนนี้รู้สึกอยากยื่นมือเข้าไปยุ่งเสียอย่างนั้น
“จะถามเื่เมื่อกี้ใช่มั้ย?” ตินยกเบียร์ขึ้นดื่มพร้อมเลิกคิ้วถาม
“ถ้าให้เดา มึงคงไม่รู้ว่าเธอมีผัวอยู่แล้ว?” ดินพอจะเดาได้ไม่ยาก กับเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นว่าคนตรงหน้าไปเจออะไรมา
“อืม ก็ไม่รู้ แล้วก็เพิ่งรู้เมื่อกี้” ตินตอบอย่างเซ็งๆ ยกเบียร์ขึ้นดื่มจนเกือบหมด เขาเพิ่งเจอกันเธอที่ร้านเหล้า เธอเสนอขนาดนั้นใครจะปฏิเสธลง เกือบได้ตายก่อนเสียวแล้วไหมล่ะมึง คือจะนอนกับใครต้องเช็คให้ดีจะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง เพราะไม่รู้ว่าหากมีคราวหน้าเขาจะโชคดีแบบคืนนี้มั้ย
“หึ ไม่แปลกใจ” ดินยกยิ้มมุมปาก ลุกขึ้นไปหยิบเบียร์มาเพิ่มอีกสองกระป๋อง
“ทำไม?” ตินถามอย่างสงสัย พูดแบบแสดงว่าอีกฝ่ายต้องรู้อะไรมาแน่ ๆ
“มึงไม่ใช่คนแรก และกูก็ไม่เห็นคนก่อนหน้านี้อีกเลย เจออีกทีก็เป็ศพไปแล้ว” ดินตอบแล้วยกยิ้มมุมปาก พูดราวกับว่าเื่พวกนี้คือเื่ธรรมดาที่พบเห็นได้ทั่วไป เปิดเบียร์กระป๋องใหม่ที่หยิบมายื่นให้ติน และเปิดให้กับตัวเอง
“ดูเหมือนพวกมีอิทธิพลเลย อันตรายว่ะ” ตินยิ้มแห้งๆ คือถ้ารู้ว่าเขาเป็ชู้ไอ้เสี่ยนั่นคงส่งคนมาเก็บเขาแน่ ๆ
“ก็ถือว่ามีอิทธิพลระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรขนาดนั้น ส่วนเื่กล้องวงจรปิด กูจัดการให้เอง” ดินอดเอ็นดูและขำในใจไม่ได้ อีกฝ่ายคิดอะไรก็แสดงออกทางสีหน้าและแววตาจนหมด
“ทำไมถึงช่วย?” ตินถามอย่างแปลกใจ ไม่ใช่เื่ของอีกฝ่ายสักนิดจะยื่นมือเข้ามาช่วยให้ตัวเองยุ่งยากลำบากไปทำไม ถึงแม้เขาจะเป็เพื่อนมาร์คแฟนของธาราก็ตาม
“ไม่รู้สิ อาจจะเป็เพราะมึงเป็เพื่อนของเมียไอ้ธารามั้ง มึงไม่ต้องพูดเพราะกับกูทุกคำก็ได้ มันฟังแล้วรู้สึกขัดๆหูว่ะ ไม่ชิน” ดินบอกยิ้มๆ สบายๆ
“ก็ยังไม่สนิทกันนี่ครับ แต่ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้ง” ตินยิ้มบางๆ ตอบตามตรง เขาก็ไม่ใช่คนที่พูดเพราะอะไรขนาดนั้นเรียกว่ารู้จักกาลเทศะถึงจะถูก คือถ้ากับมาร์คที่เป็เพื่อนรักเขาพูดกูมึงทุกคำ หาความสุภาพไม่ได้เลย
ดินคิดว่าคงต้องทำให้สนิทสิน่ะถึงจะได้เห็นตัวตนจริงๆ ของคนตรงหน้า อยากสนิทแบบเนื้อแนบเนื้อ หึ
“ตามสบายน่ะมึง กูไปอาบน้ำแปปป” ตินจะเรียกเพื่อบอกว่าจะกลับแล้วแต่ก็ไม่ทัน พูดจบดินก็เดินเข้าห้องไปแล้วปล่อยให้ตินนั่งเอ๋ออยู่คนเดียวที่ห้องนั่งเล่น
ทำไมชีวิตเขามันถึงได้ห่วยแบบนี้ว่ะ เจอแต่อะไรก็ไม่รู้ เหี้ยชิปหาย
นั่งดื่มเบียร์จนหมดกระป๋องที่สอง คิดว่าถ้าดินไม่ออกมาเขาจะเดินไปเคาะห้อง สองขาก็ไวเท่าความคิดเขาไปหยุดยืนอยู่หน้าประตูบานนั้น
ก๊อก ! ก๊อก ! ก๊อก ! / แกร๊ก !
ร่างกายกำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นๆ ที่ตอนนี้มีหยดน้ำเกาะแพรวพราวไปทั่ว่บน มองไล่ลงมามีเพียงผ้าเช็ดตัวพันเอวสอบเอาไว้ิ่ๆ โดนนิดเดียวก็น่าจะกองลงที่พื้น ถึงจะเป็ผู้ชายเหมือนกันแต่หุ่นของดินโคตรดี กล้ามเนื้อเรียงตัวสวยจนน่าอิจฉา ของเขาก็มีแต่มันไม่ได้ชัดแบบนี้ไง สายตาของตินทำให้ดินถึงกับหลุดยิ้มออกมา
“เอ่อ คือผมแค่จะมาบอกว่าจะกลับแล้ว ขอบคุณมากๆ” ตินพูดแต่สายตากลับยังคงจ้องมองไปที่มัดกล้ามไล่ลงมาที่ผ้าเช็ดตัวและเผลอกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว
“อืม ให้กูไปส่งมั้ย” ดินยกยิ้มมุมปากยืนอวดหุ่นให้อีกฝ่ายได้มองสำรวจจนพอใจ
“ไม่เป็ไร เอ่อ ผมขอเบอร์ไว้หน่อย อยากเลี้ยงข้าวขอบคุณ” ตินยื่นมือถือของตัวเองไปให้ ดินกดเบอร์แล้วยิงเข้าเครื่องของตัวเอง
“กลับดีๆ ล่ะกัน” ดินเดินออกมาส่งที่หน้าประตูห้อง
“ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” ตินพูดแล้วยกยิ้ม สายตาก็ยังคงมองหุ่นตรงหน้าด้วยความอิจฉา
“หึ” รอยยิ้มร้ายปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่อของดิน เมื่อตินเดินออกจากห้องไปแล้ว
เพราะคืนนั้นติดงานด่วน ลูกน้องคนสนิทโทรตามกลางดึก เขาเลยจำใจต้องปล่อยตินไป อดเสียดายไม่ได้เหมือนกัน รอยยิ้มร้ายปรากฏบนใบหน้าของดินเมื่อนึกถึงวันที่เขาต้องไปส่งตินที่ห้อง
ความจริงดินมีคอนโดสี่แห่งในกรุงเทพ แต่คืนนี้เขาเพิ่งเสร็จงานจาก XX ก็เลยเลือกที่จะนอนคอนโด XX เพราะอยู่ใกล้ที่สุดและเขาี้เีขับรถกลับไปนอนคอนโดอื่นหรือที่บ้าน เลยได้บังเอิญเจอตินอีกแล้ว ถือว่าเป็เื่ที่ดีของวันนี้ จูบหวานๆ ที่ทำให้เขาอยากจูบซ้ำๆ ริมฝีปากที่น่าบดขยี้นั่นทำเขาอดเสียดายไม่ได้
………………………………………………
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้