คำพูดของเยวี่ยเจาหรานค่อนข้างทิ่มแทงใจจริงๆ เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วก้มหน้าลง รู้สึกลึกๆ ว่าบทสนทนาในวันนี้ไม่ควรจะเริ่มต้นขึ้นเลย หากบทสนทนานี้ไม่เริ่ม เช่นนั้นก็คงไม่มีสถานการณ์ที่ถูกคนด่าเช่นตอนนี้หรอก นอกจากนี้เมื่อใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนแล้ว คนที่ไม่พอใจเยวี่ยเจาหรานมากขนาดนั้นก็มีแค่สวี่ชิวเยวี่ยคนเดียวไม่ใช่หรือ ดังนั้นบทสนทนาที่ชี้ตัวคนร้ายชัดขนาดนี้ คิดดูแล้วก็ไม่จำเป็ต้องเริ่มเลยนี่นา!
สรุปแล้ว เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วถูกด่าแทนสวี่ชิวเยวี่ยอย่างไม่มีเหตุผล แถมยังไม่สามารถตอบโต้ได้อีกด้วย
“เช่นนี้แล้ว เื่นี้นางเป็คนทำนั้นไม่ผิดแน่ แต่ว่า...” เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วถูมือไปมาที่ใต้จมูกอย่างลังเลเล็กน้อย แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองเยวี่ยเจาหรานเอ่ย “แต่พวกเราจะทำอย่างไรได้เล่า?”
พูดตามตรง ปัญหาของเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วก็เป็ปัญหาที่คอยก่อกวนเยวี่ยเจาหรานมาตลอดเช่นกัน ถึงอย่างไรเยวี่ยเจาหรานที่เปรียบว่าตนเป็คนมีศีลธรรม สวี่ชิวเยวี่ยยั่วยุและใส่ร้ายตนหลายต่อหลายครั้ง แม้เยวี่ยเจาหรานจะสามารถตอบโต้กลับไปได้ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้นึกอยากจะทำ เขามักจะคิดว่า บุรุษผู้หนึ่ง จะให้ใช้วิธีการแปลกประหลาดเหล่านี้มาต่อสู้ด้วยชั้นเชิงกับเด็กสาวผู้หนึ่ง มันไม่ใช่สิ่งที่สุภาพบุรุษพึงกระทำ
ทว่าสวี่ชิวเยวี่ยเล่า นางไม่ได้มีความคิดที่จะหยุดาในครั้งนี้ลงเลยแม้แต่น้อย เยวี่ยเจาหรานที่ไม่อยากจะรับเคราะห์ก็ทำได้เพียงถูกบีบให้ตอบโต้ครั้งแล้วครั้งเล่า ช่างเหนื่อยเหลือจะทน ทั้งยังต้องทนทรมานกับความบีบคั้นของศีลธรรมในหัวใจตัวเอง เขาเหนื่อยหน่ายที่จะต่อกรด้วยมานานแล้ว ไม่อยากที่จะพูดให้มากความอีก
ดังนั้น ตอนที่เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วเซ่อซ่าถามออกมาว่าพวกเราจะทำอย่างไรได้เช่นนั้น เยวี่ยเจาหรานเองก็ดูเหมือนจะจนปัญญาเช่นกัน เขายกมือขึ้นเท้าคาง แล้วส่ายหัวให้กับเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วอย่างเลื่อนลอย
“พูดตามตรง ข้าเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรเหมือนกัน”
เยวี่ยเจาหรานถอนหายใจอย่างพูดไม่ออกทั้งเอือมระอา รู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้าจริงๆ โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว เขาก็นึกถึงคำพูดอันสมเหตุสมผลที่นักปราชญ์ขงจื่อกล่าวไว้ประโยคนั้นขึ้นมาอีกครั้ง
ภายในบ้านเงียบสงัดลง เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วและเยวี่ยเจาหรานมองสบตาอีกฝ่ายไปมา ต่างคนก็ต่างไร้ความคิดเห็น
หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง ท้ายที่สุดเยวี่ยเจาหรานก็เอ่ยหยั่งเชิงขึ้นมาก่อน “เช่นนั้น... ข้าเห็นว่าเปี่ยวเม่ยของเ้าคงจะหลงใหลได้ปลื้มพี่ชายเช่นเ้ามากทีเดียว...” เยวี่ยเจาหรานหยุดชะงักไปเล็กน้อย แล้วมองไปยังเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วอีกครั้ง “นางคงจะไม่ทำให้พี่ชายอย่างเ้ามีอันตรายอะไรขึ้นมาแน่...”
แม้จะบอกว่าคำพูดของเยวี่ยเจาหรานนั้นดูคลุมเครือ แต่ยามนี้เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วเองก็ดูไม่เหมือนคนโง่เขลา นางตอบสนองต่อความหมายในคำพูดของเยวี่ยเจาหรานอย่างรวดเร็ว พลันเอ่ยขึ้น “แบบนั้นไม่ได้! ไม่ได้เด็ดขาด!”
เยวี่ยเจาหรานยังไม่ทันได้พูดจบก็ถูกบีบให้ยอมแพ้ ในใจย่อมไม่ปรีดานัก “ไม่ได้อะไรกันเล่า ข้ายังพูดไม่จบเลย เ้าก็รีบบอกว่าไม่ได้เสียแล้ว...” พูดดังนั้น เขาก็ยกมือขึ้นรินชาให้ตนเองถ้วยหนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยอีกครั้ง “อย่างน้อยเ้าก็ฟังข้าพูดให้จบก่อนสิ?”
“เ้าไม่ต้องพูดแล้ว ความหมายของเ้า ข้าเข้าใจแจ่มแจ้ง!” เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วกลอกตา หมุนตัวหนีไม่มองเยวี่ยเจาหราน แล้วเอ่ยอย่างโมโหฟึดฟัดอยู่กับตัวเองคนเดียว “ความหมายของเ้า ไม่ใช่อยากให้ข้าสารภาพตรงไปตรงมากับสวี่ชิวเยวี่ยหรอกหรือ? ข้าจะบอกเ้า เื่นี้เป็ไปไม่ได้เด็ดขาด ต่อให้คนที่สวี่ชิวเยวี่ยชอบจะเป็พี่ชายข้าก็ตาม ข้าก็ไม่สามารถเอาชีวิตทั้งผู้น้อยผู้ใหญ่กว่าร้อยปากของจวนเยี่ยนเรามาล้อเล่นได้หรอกนะ!”
“แต่เ้าเองก็พูดแล้วนี่นา ว่าสวี่ชิวเยวี่ยผู้นี้ชอบพอพี่ชายของเ้าเสียขนาดนั้น นางคงไม่ทำให้พี่ชายของเ้าและจวนเยี่ยนเกิดเื่ขึ้นมาหรอก เ้าว่าถูกหรือไม่?” เยวี่ยเจาหรานยังคิดอยากจะเกลี้ยกล่อมต่อไปอีก ถึงอย่างไรก็นับว่าเป็วิธีการหนึ่งไม่ใช่หรือ?
ทว่าเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วนั้นกลับปฏิเสธแน่วแน่อย่างยิ่ง ไม่มีความหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย “บอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้ เ้าไม่เข้าใจหรือ หญิงที่มาจากตระกูลยากจนเล็กๆ พวกนี้น่ะ ล้วนเป็คนอำมหิตไร้เมตตา เ้าบอกว่านางชอบพี่ชายข้า เช่นนั้นเ้าคงไม่รู้ ว่าที่นางชอบยิ่งกว่าก็คือฐานันดรและทรัพย์สมบัติของจวนเยี่ยนต่างหาก!”
คุณหนูตระกูลเยี่ยนผู้นี้ ช่างยกยอตระกูลของตนได้เก่งจริงๆ เยวี่ยเจาหรานแอบเบะปากเงียบๆ
“เ้าบอกว่า หากการกล่าวโทษจวนเยี่ยน จะสามารถนำผลประโยชน์ที่มากขึ้นมาให้สวี่ชิวเยวี่ยละก็ นางจะช่วยพวกเราปกปิดความลับนี้อย่างโง่เขลาอยู่หรือ? หากเป็เ้า เ้าจะสามารถอุทิศตนขนาดนั้นได้หรือ? ข้าไม่เชื่อหรอก!” เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วเบะปากพูดจบ ก็ถือโอกาสพรรณนาเยวี่ยเจาหรานจนกลายเป็ลักษณะของหญิงสาวตัวน้อยที่เห็นผลประโยชน์จนลืมคุณธรรมคนหนึ่ง
ยามนี้เยวี่ยเจาหรานเริ่มมีน้ำโหนิดหน่อยแล้ว เขารีบเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “เช่นนั้นตอนนี้ข้าไม่ได้ช่วยตระกูลของพวกเ้าปกป้องความลับอยู่หรอกหรือ? เหตุใดพูดไปพูดมาแม้แต่ข้าก็ยังถูกวิจารณ์เหมารวมไปด้วยเล่า ชิ!”
“นี่เ้าช่วยพวกเราปกป้องความลับอย่างนั้นหรือ? เ้าก็แค่ช่วยตัวเองในขณะที่ช่วยผู้อื่นไปด้วย!” เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วแทงใจดำ เอ่ยอย่างไร้ความปรานี “หากเื่นี้เปิดโปงออกไป เ้าคิดว่าตระกูลของเ้าจะสามารถรอดตัวไปได้จริงๆ หรือ? ข้าจะบอกเ้า หากถึงเวลาเ้าก็คือดาวเคราะห์อันดับหนึ่งของเยี่ยนเยวี่ยทั้งสองตระกูล!”
“พอๆ พอแล้ว!” เยวี่ยเจาหรานโบกมือด้วยความรำคาญ แล้วเอ่ยอีกครั้ง “พอแล้วๆ ไม่พูดแล้วๆ ไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ ไม่พูดก็ไม่พูด เ้าจะพูดมากความอะไรขนาดนั้น”
แผนหนึ่งไม่สำเร็จก็แล้วไป ยังก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างทั้งสองคนอีก ยามนี้ไม่มีใครสนใจใครแล้ว เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วขมวดคิ้ว ท้ายที่สุดก็ยังมีมโนธรรม นึกถึงข้อดีของเยวี่ยเจาหรานขึ้นมาเล็กน้อย
ที่จริงแล้วการมีอยู่ของสวี่ชิวเยวี่ยนั้น สำหรับเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วเองไม่นับว่าความคุกคามที่แท้จริงแต่อย่างใด ถึงอย่างไรที่สวี่ชิวเยวี่ย้าจากตัวของเยี่ยนอวิ๋นเฟยตัวปลอมนี้ก็คือฐานะและเงินทอง หากทำร้ายเยี่ยนอวิ๋นหลิ่ว เช่นนั้นเป้าหมายของตนจะไม่ล้มเหลวไปด้วยหรอกหรือ? ดังนั้นสวี่ชิวเยวี่ยไม่เพียงไม่อาจทำร้ายเยี่ยนอวิ๋นหลิ่ว กลับกันยังไปประจบออดอ้อนเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วอีกด้วย
แต่ทางฝั่งเยวี่ยเจาหรานนั้นไม่เหมือนกัน ถึงอย่างไรเยวี่ยเจาหรานก็เป็คู่แข่งตัวฉกาจอันดับต้นๆ ของสวี่ชิวเยวี่ย หากไม่จัดการเยวี่ยเจาหรานละก็ น่ากลัวว่าสวี่ชิวเยวี่ยคงจะไม่อาจได้ในสิ่งที่ตน้าไปตลอดชีวิต เมื่อเป็เช่นนี้ สำหรับสวี่ชิวเยวี่ยแล้ว ทางที่ดีที่สุดก็คือทำให้เยวี่ยเจาหรานหายไปเสีย
ดังนั้น สวี่ชิวเยวี่ยจึงทำทุกวิถีทางกลั่นแกล้งเยวี่ยเจาหราน ถึงขนาดอาจจะเป็อันตรายต่อชีวิตของเยวี่ยเจาหราน... ดังนั้นเยวี่ยเจาหรานจึงร้อนใจ เพราะเขาได้รับการคุกคามที่อาจเป็อันตรายต่อชีวิต ดังนั้นหากเยี่ยนอวิ๋นหลิ่วสามารถเข้าใจได้ ก็ควรจะพยายามเข้าใจความลำบากของเยวี่ยเจาหรานอย่างเต็มที่
“เอาเถอะ ข้าเข้าใจว่าเ้าจิตใจสับสนวุ่นวาย เื่เมื่อครู่นั้น ข้าไม่คิดเล็กคิดน้อยก็เ้าหรอก เพียงแต่หลังจากนี้อย่าพูดขึ้นมาอีกเลย ตอนนี้พวกเราเองก็นับว่ามีชะตากรรมร่วมกัน ที่อยู่เื้ันั้นคือชีวิตผู้คนนับร้อยของเยี่ยนเยวี่ยทั้งสองตระกูลนะ!”
เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วผลักถ้วยชาไปทางเยวี่ยเจาหราน บางทีนี่อาจจะเป็การขอคืนดีของนาง
เยวี่ยเจาหรานรับถ้วยชามา แล้วจึงพยักหน้า “ได้ หลังจากนี้ข้าจะไม่พูดเื่นี้ขึ้นมาอีก แต่ว่าการมีอยู่ของสวี่ชิวเยวี่ย ถึงอย่างไรก็ยังเป็ะเิเวลา ข้าคิดว่า ตอนนี้ความคิดของท่านแม่เ้าเองก็ไม่ชัดเจนนัก จัดการได้ยากจริงๆ”
“ข้ารู้” เยี่ยนอวิ๋นหลิ่วหยุดไปเล็กน้อย แล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “เมื่อครู่ข้าคิดดูแล้ว เ้าคือศัตรูอันดับหนึ่งของสวี่ชิวเยวี่ย นาง้าจะเอาชนะเ้าเพื่อบรรลุเป้าหมาย วิธีการที่สะดวกที่สุดก็คือทำให้เ้าหายไป”
“ในทางกลับกัน หากพวกเรา้าจะให้สวี่ชิวเยวี่ยไม่มาก่อเื่สร้างปัญหาอยู่ที่นี่อีก ไม่สู้ให้พวกเราคิดวิธีการอะไรสักอย่าง ส่งนางกลับไปเจียงหนานเสียดีกว่า เ้าว่าอย่างไร?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้