ในยามค่ำคืนที่เงียบสงบ ประชาชนในเมืองหนึ่งกำลังหลับใหลในความมืดมิด ทว่าจู่ๆ พวกเขากลับรู้สึกถึงความร้อนแปลกๆ ที่ปกคลุมไปทั่ว เมื่อพวกเขาลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วออกไปมองข้างนอกบ้านก็ต้องตกตะลึงในทันที เมื่อคฤหาสน์ตระกูลหลินที่ตั้งตระหง่านอยู่ในเมืองกำลังสว่างไสว แต่ความสว่างนี้ไม่ได้มาจากโคมไฟหรือตะเกียงใดๆ แต่มาจากเปลวไฟที่กำลังแผดเผาคฤหาสน์อย่างรุนแรง
ทหารป้องกันเมืองรีบระดมกำลังพลทั้งหมดทันที พวกเขาเร่งรีบตรงไปยังคฤหาสน์ตระกูลหลินเพื่อควบคุมสถานการณ์ แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นเมื่อไปถึงกลับทำให้พวกเขาถึงกับหยุดชะงัก ท่ามกลางควันและเปลวไฟ ชายชุดขาวเก้าคนที่ดูเหมือนเป็สมาชิกของ นิกายดาบ์ ยืนอยู่ พวกเขาถือหัวของหัวหน้าตระกูลหลินและเหล่าขุนนางคนอื่นๆ เอาไว้ในมือ และร่างที่ไร้ิญญาของพวกเขานอนเรียงรายอยู่เบื้องล่าง
ชายชุดขาวคนหนึ่งก้าวออกมาและกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็า "วางอาวุธลงซะ เมืองนี้เป็ของนิกายดาบ์แล้ว"
ทหารที่เห็นภาพตรงหน้า พวกเขาต่างใ บางคนถึงกับตัวสั่นด้วยความกลัวและเลือกที่จะวางอาวุธลงโดยไม่คิดสู้ แต่ในหมู่ทหารยังคงมีบางส่วนที่ถืออาวุธอยู่ในมือ แม้จะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่พวกเขาไม่ยอมแพ้ต่อศัตรูที่ยืนอยู่ตรงหน้า
เงาทมิฬ ยิ้มเยาะ ก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าไปสังหารทหารที่วางอาวุธลงไปอย่างไม่ปรานี เืสาดกระเซ็นไปทั่ว ทหารเ่าั้ไม่มีโอกาสแม้แต่จะป้องกันตัวเอง ประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ต่างร้องะโด้วยความหวาดกลัว บางคนรีบหนีออกไป แต่ไม่มีใครสามารถหยุดเงาทมิฬได้
เมื่อการสังหารทหารจบลง เงาทมิฬกำลังจะเคลื่อนตัวไปยังประชาชนที่เหลืออยู่ ทันใดนั้น กองทัพทหารม้าัดำของหลี่หวง และหน่วยลับเงาทมิฬก็พุ่งตรงเข้ามา ช่วยเหลือประชาชนไว้ได้ทันเวลา
ทหารม้าัดำที่มาพร้อมกับความเร็วและพลังมหาศาลพุ่งทะลวงเข้าไปในกลุ่มศัตรู หน่วยลับเงาทมิฬเคลื่อนที่ อย่างรวดเร็วเหมือนเงา พวกเขาเข้าโจมตีศัตรูจากทุกทิศทางด้วยความแม่นยำและไร้ปรานี
ทหารม้าัดำะโด้วยความโกรธ "ไอ้นิกายดาบ์! พวกเ้าเป็เพียงนิกายปีศาจที่อ้างตัวว่าเป็ฝ่ายธรรมะเข่นฆ่าชีวิตคนอื่นตามใจชอบ! วันนี้ข้าจะฆ่าพวกเ้าทั้งหมด เพื่อเป็เครื่องหมายเตือนใจให้พวกนิกายขยะเช่นพวกเ้าเอง!"
การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด พลังของกองทัพม้าัดำและหน่วยลับเงาทมิฬนั้นแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ พวกเขาสามารถสกัดการโจมตีของนิกายดาบ์ได้อย่างง่ายดาย นิกายดาบ์ที่เคยเป็ฝ่ายรุกกลับกลายเป็ฝ่ายที่ต้องรับมือกับการโจมตีที่รวดเร็วและรุนแรงของกองกำลัง ทหารม้าัดำ และ หน่วยลับเงาทมิฬ
ในขณะที่ประชาชนที่อยู่บริเวณคฤหาสน์ตระกูลหลินมองดูการต่อสู้ที่เกิดขึ้นตรงหน้า พวกเขาต่างรู้สึกสับสนและตกตะลึง ชายคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแฝงไปด้วยความกังวล "พวกเขาเป็ใครกัน?"
อีกคนเอ่ยตามมา "ใช่ พวกเขาเป็ใครกันแน่?"
ท่ามกลางความสับสนของฝูงชน หญิงสาวคนหนึ่งะโออกมาจากแถวผู้คน "ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาเป็ใคร แต่พวกเขาเคยมอบอาหารข้าและลูกชายของข้ามาก่อน!"
เสียงของชายอีกคนดังขึ้นตามมาอย่างรวดเร็ว "ข้าจำได้แล้ว นั่นคือกองกำลังของจักรพรรดิหลี่หวง! ข้าเคยเห็นภาพวาดของพวกเขามาก่อน!"
เมื่อประชาชนได้ยินคำว่า จักรพรรดิหลี่หวง ทุกคนต่างแสดงสีหน้าตกตะลึง บางคนที่เคยได้ยินเื่ราวเกี่ยวกับหลี่หวงมาบางทั้งเื่ที่เขาต้องแบกรับความกดดันมหาศาลั้แ่อายุยังน้อย ทั้งการถูกดูิ่และเกลียดชัง เื่ที่เขาต่อสู้กับขุนนางที่ทุจริตโกงกินบ้านเมือง และข่าวที่ว่าเขาเป็จักรพรรดิที่ใจดีมีเมตตา เขาเคยลงมือแจกจ่ายอาหารให้ประชาชนด้วยตัวเองมาแล้ว และข่าวเหล่านี้แพร่สะพัดไปทั่วราชวงศ์เพลิง์มาสักพักแล้ว
เสียงซุบซิบของประชาชนเริ่มแ่เบาลง แต่ไม่ช้า เสียงเชียร์ก็เริ่มก่อตัวขึ้นในหมู่คนเ่าั้ “จักรพรรดิหลี่หวง! จักรพรรดิหลี่หวง!” เสียงของประชาชนเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาะโเชียร์ด้วยความหวังและความชื่นชม
การต่อสู้ระหว่างกองกำลังม้าัดำและหน่วยลับเงาทมิฬ กับกองกำลังของนิกายดาบ์ปลอม ยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด สนามรบเต็มไปด้วยเสียงกระทบของดาบและการต่อสู้นี้ไม่มีใครยอมใคร แต่ตอนจบของเื่นี้มันถูกกำหนดเอาไว้แล้ว
ไม่นาน การต่อสู้ก็จบลงในที่สุด ทหารม้าัดำและหน่วยลับเงาทมิฬเป็ฝ่ายที่ยืนหยัดอยู่บนสนามรบ พวกเขาชูมือขึ้นพร้อมร่างกายที่อาบไปด้วยเืของศัตรู ประชาชนที่มองอยู่ต่างส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ เสียงแห่งการชื่นชมและความยินดีดังขึ้นไปทั่วทั้งเมือง
หนึ่งในเงาทมิฬก้าวออกมายืนหน้าประชาชน เขากล่าวด้วยน้ำเสียงทรงพลัง "ท่านจักรพรรดิทรงมีพระประสงค์ที่จะงดเว้นภาษีให้ประชาชนเป็เวลา 1 ปี และต่อจากนี้ จะมีการแจกจ่ายอาหารให้แก่ทุกคน หากใคร้าอาหาร ก็สามารถมาต่อแถวได้"
ทันทีที่เงาทมิฬพูดจบ เสียงร้องไชโยของประชาชนก็ดังขึ้นอีกครั้ง แม้จะเป็่กลางคืน แต่ความมืดมิดกลับไม่อาจกลบเสียงแห่งความยินดีที่แผ่ไปทั่วเมืองได้ หลายคนก้าวออกมาต่อแถวเพื่อรับอาหาร หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความสุข ความหวังใหม่ในราชวงศ์เพลิง์ของพวกเขาที่ถูกจุดขึ้นโดยจักรพรรดิหลี่หวง
ในค่ำคืนนี้ ไม่ใช่แค่เปลวไฟที่ลุกไหม้คฤหาสน์ของตระกูลหลินเท่านั้นที่ส่องแสงสว่าง แต่มีเปลวไฟแห่งความหวังที่ถูกจุดขึ้นในหัวใจของประชาชนในเมืองทุกคน และเื่ราวดีๆ แบบนี้ก็เกิดขึ้นอีกใน 26 เมืองที่เหลือทั่วทั้งภาคกลางของราชวงศ์เพลิง์เช่นกัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้