ซุนต้าเต้าไม่ได้ยินเพราะเหตุนี้ เมื่อได้ยินน้ำเสียงของหลิวฉีซื่อไม่ได้ดังเหมือนเช่นตอนแรก จึงได้ใจ จริงตามคาด การรับมือกับพวกผู้หญิงเหล่านี้ต้องเหยียบหน้าเฒ่าๆ ให้มิดกับพื้น แล้วถ่มน้ำลายทับถม
“ครอบครัวข้านิสัยเช่นไรหรือ? ฮึ ก็ยังสู้ยายเฒ่าอย่างเ้าไม่ได้ วันๆ เอาแต่ทรมานลูกคนอื่น”
หวงจินเริ่มเห็นเขาพูดจาเหลวไหล จึงรีบกระแอมสองที “ข้าว่าซุนต้าเตา หากเ้าไม่ได้การอันใดแล้ว ก็รีบพาญาติมิตรของเ้าเหล่านี้กลับไปเถิด อาศัยตอนที่ตะวันยังไม่ลับฟ้า พวกเ้ายังสามารถเดินทางสว่างได้ รอฟ้ามืดพวกเ้าคงต้องคลำทางกลับบ้าน อีกอย่าง ญาติมิตรของเ้าทุกคนต่างก็พากันหิวโหยแล้ว เ้าพาพวกเขามาถึงตระกูลหลิว แล้วเ้ายังคิดจะให้นางเลี้ยงข้าวหรืออย่างไร? แม้ว่าเ้าจะพาลไปทั่ว แต่ก็หาได้มีหลักการเช่นนี้อยู่”
ซุนต้าเตาได้ยินดังนั้นยังคิดจะยืนกราน “เราไม่มีอะไรแล้ว ใช่สิ เรากินข้าวกันก่อน จูเอ๋อร์ จูเอ๋อร์ ยังไม่รีบไปเตรียมอาหารให้ลุงป้าน้าอาของเ้าอีก พวกเขาปกติก็เอ็นดูเ้าไม่น้อย”
หวงจินทนดูต่อไปไม่ไหว จึงเอื้อมมือออกไปกระตุกเขา “เ้าเรียกอะไรกัน บ้านตระกูลซุนของเ้าไม่อยากได้หน้าแล้วหรือ? มาบุกถึงบ้านแล้วยังขอข้าวเขากินอีกหรือ? อย่าได้ทำให้หลานสาวลำบากใจเลย”
เขาหยุดชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อ “มีธุระก็พูดมา หากไม่มีก็รีบกลับบ้านไป อย่าได้มาเหลวไหลที่นี่ เ้าก็รู้ เ้ามาอาละวาดเช่นนี้ข้าสามารถไปเรียกคนของที่ทำการมา แล้วให้มือปราบจับกุมเ้าไป แต่เห็นแก่เ้าคือคนของหมู่บ้านตระกูลซุน ข้าจึงปล่อยเ้าไปสักครั้ง”
ซุนต้าเตากลัวหวงจินจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นคือกลัวมือปราบเ่าั้มาถึงที่ แล้วบอกต้องจ่ายค่าต่างๆ
ตัวเขาคือคนเชือดหมู หาใช่โรงเบิกเงิน
เมื่อได้ยินหวงจินพูดแบบนี้ เขาก็เอ่ยว่า “ข้าไม่ขอกล่าวถึงเื่อื่น มีเพียงเื่น้องสาวของข้า เดิมทีการเคารพปรนนิบัติผู้ใหญ่ในบ้านเป็เื่สมควร แต่เหตุใดทั้งครอบครัวต้องให้นางล้างชามทำอาหาร? หมูที่เลี้ยงไว้หลังบ้านตระกูลหลิว นางเองก็ไม่ได้มีส่วนแบ่งแม้แต่แดงเดียว เื่อะไรต้องให้นางไปให้อาหารคนเดียว”
ในที่สุดหลิวซานกุ้ยก็ไม่สามารถทนรอต่อไปได้ เขาเดินออกมาจากด้านในแล้วกล่าวทักทายหลี่เจิ้ง จากนั้นจึงเอ่ย “หลี่เจิ้ง ท่านลุงต้าเตา คนสัตย์จริงไม่พูดลับหลัง เ้าบอกว่าน้องสาวเ้าลำบาก ข้าเองยังนึกอดสูแทนภรรยาของข้าที่ออกหน้าออกตาไม่ได้ น้องของเ้าเหนื่อยเพียงแค่สองเดือน แต่ภรรยาข้านั้น นับั้แ่แต่งเข้าบ้านหลังนี้มา ก็ต้องดูแลเื่ทุกอย่างในบ้าน ตอนนี้ท่านแม่เริ่มเห็นใจและเข้าใจภรรยาข้า แล้วก็กังวลว่าพี่สะใภ้รองจะทำอะไรไม่เป็ กระทั่งบ้านก็ดูแลไม่เป็ ถึงได้พยายามสั่งสอนนาง”
จุดประสงค์ของซุนต้าเตาไม่ได้้าถกเื่เหล่านี้กับหลิวซานกุ้ย จึงเอ่ย “เฮอะๆ เ้าเป็ผู้ชายที่ไม่ได้เื่เอง แล้วเื่อะไรต้องมาโทษน้องสาวข้า?”
เขาหันศีรษะมองไปทางหลิวฉีซื่อ แล้วเอ่ย “ข้าว่านางเฒ่าหงำเหงือก บ้านตระกูลซุนไม่ได้เหลียวแลเงินไม่กี่ตำลึงของเ้าหรอกนะ เ้าไม่ต้องทรมานน้องสาวข้า ถ้าจะให้ข้าพูด สู้เ้าแยกบ้านเถอะ อย่างน้อยหนึ่งปีก็ยังมีมาตอบแทนให้เ้าไม่น้อย หากว่าครอบครัวนางไม่มีให้ออก ข้าจะช่วยน้องข้าออกเอง”
“อะไรนะ?” ใบหน้าของหลิวฉีซื่อซีดขาว ร่างกายสั่นเทา เดินเซไปด้านหน้าหลิวซุนซื่อ ดวงตาชราคู่นั้นจ้องมองแล้วนึกอยากจะจับนางถลกเนื้อหนังออกมา
หลิวซุนซื่อถูกนางจ้องถมึงทึง จึงเริ่มร้องไห้กระซิกๆ
หากผู้ที่ไม่รู้สถานการณ์ คงต้องบอกว่าหลิวฉีซื่อคือแม่สามีที่โหดร้าย
หลิวฉีซื่อรู้ว่านางใช้ไม้แข็ง จึงยิ่งรู้สึกชิงชังนางเข้ากระดูกดำ
“ท่านแม่ เดิมทีข้าก็ไม่ได้คิดเช่นนี้”
“เ้าไม่ได้คิดอย่างนั้น ดังนั้นความหมายของเ้าคือโทษข้าสินะ!” หลิวฉีซื่อโมโหจนหายใจไม่ทัน เหตุใดจึงปล่อยให้เ้ารองไปสู่ขอนางตัวก่อเื่นี่เข้าบ้าน
“ท่านย่า ข้าเองก็เห็นทุกอย่างชัดเจน สาเหตุก็เป็เพราะท่านย่า ท่านแม่ข้าถึงได้รับความอดสูเช่นนี้!” หลิวจูเอ๋อร์ไม่พอใจที่หลิวเสี่ยวหลันได้รับความรักใคร่เอ็นดูมานานแล้ว อีกทั้งท่านลุงของตนอยู่ที่นี่ ยิ่งไม่เห็นหลิวฉีซื่ออยู่ในสายตา
หลิวฉีซื่อฟังคำพูดเช่นนี้ไม่ได้ ขณะนี้กำลังเอื้อมมือชี้ไปทางหลิวซุนซื่อแล้วด่า “นางหมูตัวเมียหน้าเหม็น ทำเอารากเน่าไปหมด เป็เพราะเ้า สั่งสอนหลานสาวตระกูลข้าให้กลายเป็นางจิ้งจอกตาขาวที่ญาติหกฝั่งก็ไม่อยากรับ”
หากในที่นี้มีเพียงสองแม่ลูกหลิวซุนซื่อ หลิวฉีซื่อด่าเช่นนี้คงไม่มีเื่ใหญ่โต แต่ขณะนี้ซุนต้าเตายังอยู่ เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็ไม่พอใจ คว้ามีดเชือดหมูมา มองตาขวาง แล้วเอ่ยอย่างเดือดดาล “เ้าว่าใครเป็จิ้งจอกตาขาว นางแก่ไม่ตายดี หากยังคิดผายลมออกจากปากอีก ข้าจะเอามีดนี่เฉือนปากโสโครกของแก!”
เมื่อหลิวซุนซื่อได้ยินคําพูดของพี่ชายคนโต นางถึงกับได้ใจยิ่งนัก ดังนั้นแล้ว คนเช่นหลิวฉีซื่อก็ต้องใช้วิธีที่อันธพาลกว่ามาปราบนาง
เมื่อเห็นว่าหลิวฉีซื่อถูกซุนต้าเตาด่าจนพูดไม่ออก หลิวซุนซื่อถึงค่อยเอ่ย “ท่านพี่ อย่าได้พูดอีกเลย ท่านพี่ด่าแล้วชอบใจ แต่ผู้เป็น้องสาวของเ้าสุดท้ายแล้วก็แต่งกับหลิวเหรินกุ้ยแล้ว”
นางกำลังเตือนซุนต้าเตาทางอ้อมว่า อย่าได้พูดอ้อมค้อมไปเรื่อย รีบเอ่ยเื่แยกบ้านกับนางเฒ่าตัวดีเสียที
ซุนต้าเตาไม่เข้าใจ เพียงแต่ข้างกายเขามีคนฉลาดหลักแหลมติดตามมาด้วย จึงกระตุกแขนเสื้อของซุนต้าเตาทันใด แล้วกระซิบบอกกับเขา
เขาจึงพักความโมโหไว้ แล้วถามเื่แยกบ้านขึ้นมา
หลิวฉีซื่อไม่ได้้าแยกครอบครัว ที่ก่อนหน้านั้นจงใจทำก็เพื่อ้าให้ผ่านพ้นวันนี้ไป ใครเล่าจะรู้ว่าข้างกายซุนต้าเตามีคนติดตามมา แล้วอีกฝ่ายยังอ่านจุดประสงค์ของนางออกจนหมด
“ผายลมอะไรของเ้า คิดว่านี่คือบ้านตระกูลซุนหรืออย่างไร? ผู้ชายในตระกูลหลิวยังไม่ตาย ถึงต้องให้ตระกูลซุนเช่นเ้ามาก้าวก่าย” หลิวฉีซื่อเอ่ย
นางเกลียดซุนต้าเตาเข้าไส้อย่างแท้จริง
“นี่ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ ข้าบอกว่าแยกบ้านก็แยกบ้าน ตระกูลหลิวของเ้าสมควรยกข้าวของครอบครัวน้องสาวข้าคืนให้หมด ห้ามขาดไปแม้แต่ชิ้นเดียว” ซุนต้าเตาไม่ชอบให้คนอื่นคัดค้าน เมื่อได้ยินว่าหลิวฉีซื่อไม่ตกลง จึงด่าอย่างไม่น่าฟัง เขาเริ่มมีความคิดอยากสังหารคน
หลิวฉีซื่อมีหลี่เจิ้งหนุนหลัง ย่อมไม่มีทางกลัวซุนต้าเตาผู้นี้
“ถุย เ้าลองกลับไปถามผู้าุโบ้านเ้าก่อนก็แล้วกัน บรรพบุรุษของตระกูลซุนมาเข้าร่วมกับบรรพบุรุษตระกูลหลิวั้แ่เมื่อไร เื่ของตระกูลหลิว ไม่ต้องให้คนแซ่ซุนหรือแซ่อื่นมายุ่ง หลี่เจิ้ง ท่านดูไว้ให้ดีนะ ซุนต้าเตาผู้นี้เป็อันธพาล รังแกชาวบ้าน ข่มเหงราษฎร ตระกูลหลิวของข้าสั่งสอนลูกสะใภ้ เขาที่เป็แซ่ซุนกลับมาก้าวก่ายเื่แยกบ้านตระกูลหลิวของข้า”
หลี่เจิ้งหวงจินถูกขานชื่อ จึงเอื้อมมือออกมาถูจมูกของตนแล้วเดินหน้าสองก้าว จากนั้นเอามือไพล่หลังและกระแอมลำคอ เมื่อเห็นสายตาของทุกคนต่างมองมาพร้อมเพรียงกัน เขาจึงเอ่ยปาก “ซุนต้าเตา เื่แยกบ้านหาใช่เื่ที่เ้าจะสามารถเอ่ยขึ้นมาตามใจ แม้นว่าจะแยกบ้าน นั่นก็เป็เื่ของลูกหลานตระกูลหลิว พวกเ้าตระกูลซุนไม่มีอำนาจที่จะไถ่ถาม อย่างมากก็ทำได้เพียงรอฟังอยู่ข้างๆ เพื่อไม่ให้น้องสาวของเ้าเสียผลประโยชน์ เพียงแต่ตระกูลหลิวในขณะนี้ยังไม่ได้มีความคิดที่จะแยกบ้าน เ้าก็ห้ามบีบบังคับ ยิ่งไม่สมควรก่อเื่”
หากไม่ใช่หลิวฉีซื่อเรียกชื่อเขาออกมา เขาตั้งใจจะรอให้ซุนต้าเตาอาละวาดให้มากกว่านี้หน่อย จะได้มีเหตุผลให้เชิญมือปราบมา แล้วจับซุนต้าเตาไปเข้าห้องขังไม่กี่วัน เพื่อที่จะได้ระบายอารมณ์แทนหลานชาย
“ท่านแม่ พวกเราอาศัยตอนที่ท่านลุงช่วยพูดรีบแยกบ้านเถิด” หลิวจูเอ๋อร์ได้ยินอย่างชัดเจน คำพูดเหล่านี้ยืนกรานอยู่ต่อหน้าท่านย่าตนเอง ด้วยเหตุนี้จึงยิ่งร้อนใจ
นางรู้สึกเบื่อหน่ายกับการทํางานหนักและตั้งตารอที่จะออกจากบ้านเก่าทรุดโทรมแห่งนี้ ถึงตอนนั้นท่านย่า้าจะทรมานนางกับท่านแม่ก็คงยาก
ปากของหลิวซุนซื่อแสนขมขื่น นางเองก็้าอาศัยจังหวะที่พี่ชายอยู่แล้วแยกบ้านให้เรียบร้อย แต่ไฉนเ้าเฒ่าหวงจินมารู้เื่บ้านตนเองได้อย่างไร
“หลี่เจิ้ง ฮือๆ ท่านพูดเช่นนี้ได้อย่างไร ข้ากับจูเอ๋อร์จะถูกแม่สามีทรมานจนไม่มีชีวิตรอดแล้ว คนของบ้านแม่ข้าก็เพียงแค่มาช่วยข้าระบายอารมณ์ไม่สมควรหรืออย่างไร หลี่เจิ้ง ท่านเองก็อายุอานามพอสมควรแล้ว ตัวท่านเองกีมีลูกหลาน ควรจะเอาใจเขามาใส่ใจเรา ใครจะยินยอมให้ลูกสาวตนเองทนทุกข์กัน? ยามปกติข้าใช่ว่าจะไม่กตัญญูต่อพ่อแม่สามี เพียงแต่งานในบ้านล้วนมีคนทำ บวกกับข้าเองก็รู้ดีว่าตนเองมีเงินเท่าไร จึงไม่ได้ไปขอผู้ใด กลัวเสียแต่ว่าทำให้แม่สามีเคืองโกรธ นั่นคงเป็ความผิดของข้าเอง”
เมื่อพูดถึงตรงนี้นางก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับหัวตาเล็กน้อยแล้วเงยหน้าอีกทีน้ำตาก็คลอเบ้าแล้ว
“ไสหัวไปเลยนะ ตระกูลหลิวไม่้าเลี้ยงนางหน้าเหม็นที่เกียจคร้านทำมาหากินเช่นเ้า เ้านึกว่าบีบน้ำตาสองเม็ดแล้วจะได้รับความเห็นใจจากทุกคนหรือ ถุย เ้าเลิกมาทำตัวทุเรศทุรังเสียที ฮึ ลูกสะใภ้บ้านนอกแห่งนี้มีผู้ใดบ้างที่ไม่ต้องดูแลทุกอย่าง เ้าดูแลบ้านไม่ดี เื่งานข้างนอกยิ่งไม่เคยแตะ เ้ายังโอดครวญว่าลำบาก ถุย คิดว่าตนเองเป็คุณหนูร่ำรวยหรือ? ในเมื่อเป็เช่น่นี้ บ้านหลังนี้ไม่จำเป็ต้องแยก เ้าไสหัวออกไป!”
ขณะที่พูดเช่นนี้ หลิวฉีซื่อกวาดตามองรอบทิศ เดิมทีอยากจะเรียกจางกุ้ยฮัวให้ไปห้องปีกทิศตะวันออก จัดการขนเสื้อผ้าของหลิวซุนซื่อออกมาให้หมด แล้วบอกให้ซุนต้าเตาพาทั้งคนและข้าวของกลับบ้านไปให้หมด
ปรากฏว่าผ่านไปชั่วครู่ยังไม่เห็นคน จึงด่ากราด “มารดาเถอะ มีแต่พวกนางตัวดีไม่ได้เื่”
แต่จากนั้นก็ไม่ได้เอ่ยให้จางกุ้ยฮัวไปขนข้าวของออกมา
“ท่านย่า ท่านจะไล่ท่านแม่ไปไม่ได้ ข้าไม่ให้ท่านแม่ไป ฮือๆ! ท่านย่า หากว่าท่านจะขับไล่ท่านแม่ข้า ข้าจะให้น้องชายกับพ่อของข้าไปอยู่บ้านท่านยายด้วยกัน และไม่กลับมาที่นี่อีก” หลิวจูเอ๋อร์กอดหลิวซุนซื่อแล้วแหกปากร้องเสียงดัง
ความคิดของนางคือ ช่างมันปะไร ขอร้องโวยวายไม่ให้ท่านย่าเอ่ยเื่ปลดท่านแม่ของนางก่อน
“เ้าจะไสหัวไปก็ไปพร้อมกับแม่ของเ้า ให้ตายเถอะ กล้าข่มขู่ผู้ใหญ่ เ้าคิดว่าเ้ารวยมากนักหรือไง มาทำเบ่งอะไรกัน ไสหัวไป!”
จบกัน เหนือฟ้ายังมีฟ้า ลูกไม้ตื้นๆ ของหลิวจูเอ๋อร์สู้หลิวฉีซื่อไม่ไหวจริงๆ
หลี่เจิ้งมองขาดชัดเจน หนนี้หลิวฉีซื่อยอมตัดสินใจเด็ดขาด
“ต้าเตา ได้โปรดฟังคำของตาเฒ่าอย่างข้าเถอะ ท่านพ่อท่านแม่ของเ้านั้นปรองดองกับตระกูลหลิว การแต่งงานก็เพื่อเป็สิริมงคลแก่ทั้งสองครอบครัว เหตุใดจึงต้องทำราวกับเป็ศัตรูคู่แค้นกัน อีกอย่าง เ้า้าให้น้องสาวเ้าอยู่ที่ตระกูลหลิวต่อหรือ้าพาตัวนางกลับ? หญิงสาวที่ถูกปลดนอกจากกลับบ้านเกิดก็คงหมดหนทางไป”
จิตใจของซุนต้าเตาเต็มไปด้วยความสับสน เขาเองก็คิดไม่ตกในตอนนี้ ทั้งที่ตั้งใจว่าจะข่มขู่นางเฒ่าตัวดี เหตุใดจึงกลายเป็นางเฒ่าที่เป็คนกำหนด ฟังจากคำพูดของหลี่เจิ้งคือ ้าให้เขาพาน้องสาวกลับบ้านไป
เขาสับสน แต่เขาก็ยังเข้าใจว่าไม่อาจพาน้องสาวกลับไปเช่นนี้ได้
แต่เขาไม่้ามาเสียเที่ยวเช่นนี้ อย่างน้อยก็ต้องให้น้องสาวของตนได้ผลประโยชน์บ้าง
-----
