“ว่าไง” กวิวัชร์เคาะปลายนิ้วกับโต๊ะทำงาน รอคำตอบอย่างคนใจเย็น
“ตอนนี้ท่านประธานทำดิฉันเครียดมากค่ะ” พลอยดาวสารภาพไปตามตรงแล้ววางต้นไม้เล็กๆ ลงที่เดิม “ถ้าท่านไม่ชอบดิฉันจะเอาออกไป”
“อุตส่าห์เอามาแล้วก็ตั้งไว้ที่ตรงนั้นเถอะ” ปกติเขาไม่คุยเล่นหัวกับพนักงาน ไม่ได้ทำตัวเย่อหยิ่งแต่เว้นระยะห่างไม่สนิทสนมจนเกินไป แต่วันนี้เขารู้สึกว่าตัวเองพูดเยอะ ทั้งที่ปกติเลขาคนใหม่จะเป็คนพูดเก่งจนเขานึกปวดหัว
“ค่ะ” พลอยดาวรับคำเบาๆ ไม่รู้ทำไมเขาจ้องขนาดนี้ หรือเขาจะรู้ว่าเธอไม่ใช่พราวมุก ไม่จริงน่า เธอสองคนเคยสลับตัวไปสอบด้วยซ้ำ อาจารย์ยังแยกไม่ออกเลย
“ผมไม่เข้าบริษัทเกือบเดือนคิดว่าคงมีงานที่รออยู่ก็เลยเข้ามาดูก่อน วันจันทร์จะได้ไม่ยุ่งมาก” กวิวัชร์พูดไปแล้วก็แปลกใจตัวเอง ทำไมต้องอธิบายให้เลขาฟัง มันไม่ใช่หน้าที่ที่เขาต้องรายงานเธอนี่นะ
“ค่ะ ดิฉันเตรียมไว้แล้ว” พลอยดาวเลื่อนแฟ้มเอกสารไปตรงหน้าเขา งานพวกนี้พราวมุกจัดการไว้ก่อนแล้ว เธอแค่เรียงลำดับวางตามความสำคัญ
“โอเค.” เขาพยักหน้ารับ “อาหารเช้าผมล่ะ”
“อาหารเช้า?” พลอยดาวทำหน้างุนงง แต่เขาขมวดคิ้วใส่
“เป็เลขาภาษาอะไร คุณน่าจะรู้ว่าผมกินข้าวเช้าที่ออฟฟิศ”
“เอ่อ...ขอโทษค่ะ ประเดี๋ยวดิฉันสั่งให้นะคะ ไม่ทราบว่าท่านประธานจะรับประทานอะไรดี”
กวิวัชร์สูดลมหายใจลึก รู้สึกไม่พอใจการพูดจาเป็ทางการนี้เสียเหลือกิน “ผมรู้ว่าคุณมาทำงานได้แค่สองเดือน แต่ผมคิดว่าสองเดือนนี้คุณน่าจะเรียนรู้งานเป็อย่างดีแล้วนะ”
“ค่ะๆ พลอย เอ๊ย! ดิฉันจะไปจัดการให้ค่ะ”
ถ้าวิ่งได้ เธอคงวิ่งออกมาแล้วแต่ยังต้องทำใจเย็นเชิดหน้าก้าวเดินอย่างมั่นคงตามสไตล์ของพราวมุก ทว่าเมื่อปิดบานประตูลง เธอก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ รีบหยิบโทรศัพท์มือถือโทรหาพราวมุกทันที
“ยัยมุก ไหนบอกว่าเ้านายไม่เข้าออฟฟิศไง”
“อ้าว เขามาทำงานเหรอ”
“ใช่! ถามหาอาหารเช้า!”
“อ้อ! ได้ เดี๋ยวฉันสั่งแกรปไปส่งให้เอง ไม่ต้องตื่นเต้นไป”
“ช้าไปแล้ว กำลังตื่นเต้นอยู่”
“เอาน่า ไม่มีอะไรหรอก บอสหน้าตาตายไม่ชอบผู้หญิง พลอยสบายใจได้”
“จริงเหรอ?”
“จริงสิ เอาล่ะ แค่นี้ก่อนนะ นั่งสวยๆ เดี๋ยวฉันสั่งข้าวกล่องให้บอส”
ปลายสายตัดสัญญาไปแล้ว พลอยดาวถอนหายใจอีกครั้ง เธอเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานหน้าห้องทำงานของท่านประธาน
สงบใจไว้พลอยดาว ยิ่งเครียดจะยิ่งถูกจับผิด เธอสูดลมหายใจลึกแล้วจัดการพิมพ์เอกสารสรุปการประชุม จะว่าไปพราวมุกก็ทำงานได้ยอดเยี่ยม เมื่อคืนเธอนอนคุยกับน้องสาว แม้ว่าวันนี้ต้องแอบหนีงานไปทำอย่างอื่น แต่งานประจำก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่องเลยสักนิด
‘นี่มุกคิดจะทำงานประจำจริงๆเหรอ’
‘พลอยก็คิดว่ามุกทำงานประจำไม่ได้สินะ’
‘ไม่ใช่แบบนั้น แค่คิดว่ามุกจะรับงานฟรีแลนซ์อะไรแบบนั้นมากกว่า’
‘มุกอยากเป็เ้าของกิจการ จะทำอะไรอีกเื่หนึ่งนะ แต่ว่ามุกอยากลองเรียนรู้งานหลายๆ อย่าง อยากรู้ว่าตัวเองจะทำอะไรได้แค่ไหน’
‘แล้วนี่คิดจะทำงานที่นี่นานแค่ไหน’
‘ถ้าผ่านทดลองงานสามเดือนก็จะทำต่อให้ครบปี แต่พลอยอย่าพูดไปนะ เดี๋ยวคนอื่นมองมุกไม่ดี ว่ามาทำงานเอาประสบการณ์ปีเดียว’
‘เข้าใจแล้ว’
พลอยดาวถอนหายใจครั้งที่เท่าไรไม่รู้ แล้วเผลอมองเวลาบนหน้าจอมือถือ ทำไมวันนี้เหมือนเวลาเดินช้าเหลือเกิน
.......
“แล้วยังไงต่อ”
“ก็ไม่มีอะไรแล้ว”
พลอยดาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะนั่งเป่าผมให้พราวมุก วันนี้ผ่านมาได้อย่างทุลักทุเลจริงๆ เธอรู้สึกว่ากวิวัชร์จ้องมองเธอตลอดเวลา
“เล่ามาให้หมด ไม่งั้นโดนจับได้แน่ๆ” พราวมุกหมุนตัวมาจ้องหน้าแฝดผู้พี่ หลังจากเสร็จงานแล้วเธอก็รีบกลับมาที่คอนโดและพบว่าพลอยดาวกลับมาก่อนแล้ว
“ก็ไม่มีอะไรจริงๆ พลอยก็แปลเอกสารสั่งซื้อไว้ให้เรียบร้อยดีทุกอย่าง ท่านประธานก็อ่านแล้วไม่ได้ให้แก้ไขอะไร”
“หือ? พลอยเรียกบอสว่าท่านประธานเหรอ”
“แล้วไม่เรียกท่านประธานจะให้เรียกอะไรล่ะ เรียกชื่อเขาเฉยๆ เหรอ”
พราวมุกทำหน้ายู่ “ปกติมุกเรียกบอสไง”
“ไปเรียกแบบนั้นได้ยังไง เขาเป็เ้านายนะ”
“ก็เป็เ้านายไง” พราวมุกยักไหล่ แล้วดึงไดร์เป่าผมออกจากมือของพลอยดาว “แต่ยังไงวันนี้ก็ต้องขอบใจพลอยมากเลยนะ”
“ถ้าเ้านายไม่เข้ามาจะดีมาก” พลอยดาวเผลอถอนหายใจอีกครั้ง เคยไปทำงานแทนพราวมุกก็ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ เธอเห็นเขาระยะไกล แต่ครั้งนี้ทำให้เธอตัวเกร็งจนจะเป็ไมเกรน
“แล้วงามล่ามภาษามือของมุกเป็ไงบ้าง ทำไมจู่ๆ ถึงต้องหยุดงานล่ะ” พลอยดาวรู้ดีว่าพราวมุกหวังใจว่าจะได้งานประจำที่นี่มากๆ ถ้าไม่จำเป็จริงๆ เธอไม่ยอมหยุดงานแน่
“พอดีพี่ที่ต้องเป็ล่ามวันนี้ไม่สบาย ไม่มีคนมาแทน มุกเลยต้องไป” พราวมุกตอบตามจริง เธอเคยเรียนภาษามือมา ตอนที่อยู่เมืองนอกเคยเป็อาสาทำกิจกรรมกับผู้พิการมาบ้าง พอมาเมืองไทยได้รู้จักกับเพื่อนที่ทำกิจกรรมกับเด็กๆ พิการทางการได้ยิน หากมีเวลาเธอก็มาช่วยงานตามสะดวก
“แล้วพลอยไม่อยากหางานทำเหรอ” พราวมุกลุกขึ้นเอาไดร์เป่าผมไปเก็บแล้วเดินไปหยิบนมกล่องใหญ่รินใส่แก้วสองใบ “เรียนจบแล้วอยากทำอะไรล่ะ”
“พ่ออยากให้พลอยเรียนปริญญาโท” พลอยดาวรับแก้วนมจากแฝดผู้น้องมาดื่ม
“นั้นเป็ความคิดของพ่อ แล้วพลอยล่ะ คิดอะไรยังไง” พราวมุกยกแก้วนมขึ้นดื่มรวดเดียวหมด วันนี้ใช้พลังงานไปมาก ต้องดื่มนมเพิ่มพลังงาน
“พลอยก็ชอบสายภาษานะ” พลอยดาวดันแว่นตาชิดใบหน้าด้วยความเคยชิน เธอไม่ค่อยชอบใส่คอนแท็กเลนส์ แต่วันนี้สวมรอยเป็พราวมุกจึงต้องใช้ “ถ้าเรียนต่อก็จบมาทำงานเป็ครูหรืออาจารย์เหมือนพ่อได้”
“นี่” พราวมุกวางแก้วนมแล้วใช้มือประคองหน้าพลอยดาว “พลอยเคยถามตัวเองไหมว่าอยากทำอะไร อยากใช้ชีวิตแบบไหน”
“ก็...”
“รู้ไหม มุกแอบคิดนะว่า ที่พ่อไม่แต่งงานใหม่เพราะเป็ห่วงพลอย แต่พลอยลองคิดดูสิ พ่อเรายังหนุ่มอยู่เลยนะ พ่อก็น่าจะมีใครสักคนอยู่ข้างๆ วันหนึ่งพลอยก็ต้องแต่งงานมีครอบครัว ถึงเวลานั้นพ่อจะอยู่กับใคร”
“เพราะพลอยเหรอ” พลอยดาวเองก็เคยคิดแบบนี้ เธอเคยคุยกับพ่อ ทำไมพ่อไม่แต่งงานใหม่ เพราะแม่เองก็แต่งงานมีคนรักใหม่แต่ไม่ได้ทอดทิ้งเธอกับน้องเลย ตอนที่แม่ยังอยู่เมืองไทยยังมารับเธอไปนอนค้างบ้านคุณยายบ่อยๆ
“มุกไม่ได้โทษว่าเป็ความผิดของพลอยนะ” พราวมุกรีบอธิบาย “แต่พลอยก็รู้ว่าพ่อเป็แบบนั้น พ่อไม่เหมือนแม่ที่มูฟออนออกมานานแล้ว”
“พลอยเข้าใจ” พลอยดาวพยักหน้า “แล้วมุกล่ะ มาอยู่เมืองไทยคนเดียวแม่ไม่บ่นเอาเหรอ”