เมื่อไม่ต้องออกไปตั้งแผงขายของ หลี่ชิงหลิงก็เรียกคนมาก่ออิฐ สร้างเล้าสำหรับเลี้ยงไก่
ผ่านไปไม่นานนัก ชาวบ้านก็รู้เื่ พวกเขาต่างก็อิจฉาหลี่ชิงหลิงที่เลี้ยงไก่เยอะขนาดนี้
หลี่ชิงหลิงไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ นางตั้งใจดูแลไก่ที่บ้าน ไว้พวกมันออกไข่แล้วจะเป็เงินจำนวนมาก นางต้องดูแลเอาใจใส่ให้ดี
วันนี้หลังจากที่หลี่ชิงหลิงให้อาหารลูกไก่แล้ว นางก็หยิบจอบ และอยากไปที่ไร่เพื่อดูว่ามันฝรั่งที่นางปลูกนั้นเป็อย่างไรบ้าง
ทันทีที่ออกจากประตูก็เจอกับป้าหวง หลี่ชิงหลิงยิ้มและเรียกทักทายป้าหวง
ป้าหวงเห็นหลี่ชิงหลิงแล้วพลันตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกจึงได้สติ "เสี่ยวหลิง จะไปที่ไร่หรือ?”
หลี่ชิงหลิงพยักหน้า "อืม จะไปดูหน่อย” หยุดพูดเล็กน้อย "ตอนแรกว่าจะไปดูก่อนแล้วค่อยไปหาท่านป้า ไม่คิดเลยว่าท่านจะมา แบบนี้ก็ดีเลย ไม่ต้องไปหาที่บ้านแล้ว” ตอนนี้นางร่วมมือกับฝูหมั่นโหลวแล้ว จึงไม่ต้องเก็บไข่อีกต่อไป คงต้องบอกป้าหวงเสียหน่อย
ป้าหวงถูสองมือ ถามหลี่ชิงหลิงด้วยความเกรงใจว่าจะไปหานางทำไม
หลี่ชิงหลิงไม่ได้อ้อมค้อม "ข้าแค่อยากบอกว่าข้าไม่ขายของแล้ว ไม่ต้องเก็บไข่แล้ว”
ทันทีที่พูดจบ ใบหน้าของป้าหวงก็แข็งไปชั่วครู่ นางฝืนหัวเราะและถาม "ทำไมไม่ขายแล้วล่ะ ขายไม่ดีหรือ?” นางได้ยินข่าวลือในหมู่บ้านว่าหลี่ชิงหลิงซื้อไก่มาหลายตัว หลังรู้ว่าไม่ขายของอีกรู้สึกไม่ชอบมาพากล จึงอยากจะมาสืบว่าเกิดอะไรขึ้น?
ไม่คิดเลยว่าจะเป็อย่างที่คาดไว้จริงๆ เฮ้อ…
นางเพิ่งได้ลิ้มรสการทำเงินเล็กน้อย ไม่คิดว่ามันจะหายไปเร็วขนาดนี้
แน่นอนว่าหลี่ชิงหลิงจะไม่บอกความจริงกับป้าหวงเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา นางลดเปลือกตาลง และพูดอย่างคลุมเครือ "เื่ค้าขายมันพูดยากจริงๆ บวกกับข้ากับพี่โม่ก็อายุน้อย ไม่ค่อยรู้ด้านนี้ ก็เลย…” นางพูดไม่จบ ปล่อยให้ป้าหวงคิดต่อเอง
ซึ่งก็อย่างที่คิด เมื่อป้าหวงได้ฟัง บวกกับมองสีหน้าหลี่ชิงหลิง แววตาก็ฉายความสงสาร นางเอ่ยปลอบโยน “เสี่ยวหลิงไม่ต้องเสียใจ ค้าขายหายไปก็หายไป ขอแค่ดูแลไร่ที่บ้านได้ดีก็ไม่อดตาย” การค้าขายไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ทุกเมื่อที่้า
หลี่ชิงหลิงตอบรับ พูดคุยกับป้าหวงอีกเล็กน้อย ป้าหวงจึงจากไป
ทันทีที่ป้าหวงจากไป หลี่ชิงหลิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก สันนิษฐานว่าข่าวของนางคงจะแพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้านในไม่ช้า แต่แบบนี้ก็ดี ชาวบ้านจะได้หยุดจ้องบ้านพวกนางสักที
พวกนางไม่มีผู้ใหญ่ในครอบครัว การโดดเด่นเกินไปไม่ใช่เื่ดี
ถ่อมตัวไว้ดีที่สุด ...
หลี่ชิงหลิงยกยิ้มมุมปาก ยกจอบตรงไปที่ทุ่ง นางมองมันฝรั่งที่โตสวยใช้ได้ และเริ่มขุดขึ้นมาด้วยจอบ
เมื่อนางเห็นผลมันฝรั่งที่ใหญ่ยิ่งกว่ากำปั้นตนก็ยิ้มด้วยความประหลาดใจและดีใจจนตาแทบปิด
มันฝรั่งนี้เติบโตเร็วมาก อาจเกี่ยวข้องกับน้ำจิติญญาของนาง ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถเติบโตได้เร็วขนาดนี้
น้ำจิติญญานี้ดีจริงๆ...
์ไม่ได้ใจร้ายกับนาง และมอบนิ้วทองคำให้นาง
หลี่ชิงหลิงขุดมันฝรั่งอีกสองสามลูก กวาดตามองที่ดินและรู้สึกว่าไม่มีอะไรผิดปกติจึงกลับบ้านพร้อมจอบ
นางกลับไปที่บ้านหลิวก่อน ทันทีที่เข้าไปในบ้าน นางก็หยิบมันฝรั่งออกมาให้เด็กๆ ในครอบครัวดู "ดูสิ ข้าขุดได้ของดี เดี๋ยววันนี้จะมีของอร่อยให้กิน เป็ของที่พวกเ้าไม่เคยกิน" คนที่นี่ไม่เคยกินมันฝรั่ง ดังนั้นได้กินของที่ไม่เคยกินต้องอร่อยจนอยากกลืนลิ้นลงไปด้วยแน่
เมื่อได้ยิน เด็กๆ ก็กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว พวกเขาเชื่อฝีมือทำครัวของหลี่ชิงหลิง
"พี่ นี่อะไรหรือ" หลี่ชิงเฟิงหยิบมันฝรั่งขึ้นมา พลิกดูซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาแน่ใจว่าไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน "นี่กินได้จริงหรือ?" ถามจบก็รู้สึกเป็คำถามที่ทึ่มพอตัว พี่สาวเขารู้อะไรเยอะแยะ ถ้านางบอกว่ากินได้ก็กินได้แน่
หลิวจือโม่หยิบมันฝรั่งลูกใหญ่ขึ้นมาดู จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองหลี่ชิงหลิง "ของที่ปลูกก่อนหน้านี้ ที่เรียกว่ามันฝรั่งน่ะหรือ" ไม่คิดเลยว่าของเล็กๆ จะสามารถใหญ่ได้ขนาดนี้
หลี่ชิงหลิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม นางไม่ได้กินมันฝรั่งมานานแล้ว นึกแล้วก็คิดถึงพอตัวเลย
"คืนนี้ข้าจะทำไก่ตุ๋นกับมันฝรั่งให้ เป็กับข้าวที่อร่อยมากเลยล่ะ" นางนึกถึงอาหารที่ทำจากมันฝรั่งแล้วน้ำลายสอ "ที่บ้านเ้ามีไก่ตัวผู้สองตัวไม่ใช่หรือ? เอาแต่สู้กันทั้งวัน ฆ่าหนึ่งตัวเพื่อความปลอดภัยของครอบครัว ดีไหม?” อย่างที่ว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวไม่ได้ ไก่สองตัวนั้นสู้กันทั้งวัน ไม่ใช่ตัวนี้ได้รับาเ็ก็ตัวนั้นได้รับาเ็ นางกลัวว่าหากปล่อยไว้ด้วยกัน ไก่สองตัวจะตายพร้อมกันในสักวันหนึ่ง ฆ่าตัวเดียวแล้วเก็บไว้สืบพันธุ์น่าจะดีกว่า
ขอแค่มีอาหารเข้ามาเกี่ยวข้อง เด็กๆ ในครอบครัวจะไม่คัดค้าน พวกเขาพยักหน้ารับสิ่งที่หลี่ชิงหลิงพูด
หลิวจือโม่ยักไหล่และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ข้าก็คิดเห็นเหมือนกับพวกเด็กๆ" เขาโดนฝีมือการทำอาหารของหลี่ชิงหลิงซื้อไปนานแล้ว เขาจึงไม่คัดค้านสิ่งที่นางพูด
เมื่อการลงเสียงเป็ที่เอกฉันท์ หลี่ชิงหลิงก็ไม่เกรงใจ เรียกให้หลิวจือโม่ไปจับไก่กับนาง
เด็กๆ อยากจะตามไปด้วย แต่หลี่ชิงหลิงหันกลับมามองพวกเขา "ไก่ตัวนั้นดุมาก ไม่กลัวโดนมันจิกก้นหรือ?” ไก่ตัวผู้ตัวหนึ่งดุจริงๆ ชอบรังแกเด็กเป็พิเศษ ครั้งหนึ่งเคยไล่จิกก้นหลิวจือเยี่ยนจนเขาใกลัวไปเลย
นางกลัวว่าไก่ตัวนั้นจะทำร้ายเด็กๆ จึงเก็บไว้ที่สวนหลังบ้าน
ทันทีที่ได้ยินคำว่าจิกก้น หลิวจือเยี่ยนก็จับก้นโดยไม่รู้ตัวและส่ายหัวอย่างรวดเร็ว บอกว่าจะไม่ไป
การถูกไก่จิกก้นไม่เพียงแต่น่าอายเท่านั้น แต่ยังเจ็บสุดๆ เลยด้วย เขาไม่อยากทรมานแบบนั้นอีก
เมื่อหลิวจือเยี่ยนไม่ไป หลี่ชิงเฟิงและหลิวจือโหรวก็ส่ายหน้า
หลี่ชิงหลิงชมว่าเชื่อฟังดีมาก จากนั้นไปที่สวนหลังบ้านกับหลิวจือโม่
“แล้วเ้าไม่กลัวว่าไก่จะจิกข้าหรือ” หลิวจือโม่มองหลี่ชิงหลิงแล้วถาม
หลี่ชิงหลิงจ้องไก่ตัวผู้ที่ดุร้ายโดยไม่หันกลับมามอง “พี่ไม่ใช่เด็กแล้วนี่ ไก่ไม่รังแกพี่ แล้วอีกอย่าง ข้าก็อยู่ พี่จะกลัวอะไร" พลางพูดพลางเข้าไปในเล้าไก่
ดวงตาของหลิวจือโม่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาเข้าไปในเล้าไก่อย่างรวดเร็ว
"มาจับตัวนี้กัน ตัวนี้ดุเกินไป รังแกเด็กๆ ที่บ้านตลอด" หลี่ชิงหลิงชี้ไปที่ไก่ตัวผู้ตัวหนึ่ง “พี่ไปทางนั้น ข้าจะอยู่ทางนี้ ล้อมมันไว้"
หลิวจือโม่ตอบรับและเดินไปอีกด้าน
พวกเขาใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการจับไก่
หลี่ชิงหลิงจับปีกไก่ พ่นขนไก่ที่ติดริมฝีปาก "ในที่สุดก็จับได้" ต้องใช้ความพยายามอย่างมากจริงๆ
หลิวจือโม่พยักหน้า เอื้อมมือไปเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก จับไก่ตัวนี้ใช้พลังไปไม่น้อยจริงๆ
"ไปต้มน้ำแล้วฆ่าไก่กัน" หลี่ชิงหลิงอุ้มไก่ที่ดิ้นทุรนทุราย เดินไปที่สนามหน้าบ้านเหมือนแม่ทัพผู้ได้รับชัยชนะ หลิวจือโม่เห็นแล้วก็เดินตามไปพลางหัวเราะเงียบๆ
หลี่ชิงหลิงเชี่ยวชาญในการฆ่าไก่มาก เด็กสาวไม่้าความช่วยเหลือจากหลิวจือโม่เลย จัดการสองสามครั้งก็ทำสำเร็จ ล้างเืออก และโยนไก่ไว้ข้างๆ
อาหวงวิ่งมาอย่างตื่นเต้น ะโตะครุบ อ้าปากอยากกัดไก่
เมื่อหลี่ชิงหลิงเห็นก็ะโทันควัน "อาหวง อย่าขยับ" ถ้าอาหวงกินแล้ว แล้วพวกเขาจะกินอะไรอีกล่ะ “ตอนนี้ยังกินไม่ได้ กินตอนค่ำนะ เชื่อฟังนะ ไปนั่งข้างๆ”
อาหวงหยุดฝีเท้า มองหลี่ชิงหลิงด้วยสภาพน่าสงสาร ส่งเสียงร้องและวิ่งไปนั่งข้างๆ อย่างเศร้าสร้อย แต่ดวงตายังจับจ้อง น้ำลายแทบไหลจากมุมปากแล้ว
หลี่ชิงหลิงมองอาหวงต่อไปไม่ไหวจึงหันไปมองหลิวจือโม่ที่กำลังต้มน้ำ "อาหวงเริ่มตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เลี้ยงในบ้านเหมือนจะไม่เหมาะ เอามันกลับไปปล่อยดีกว่าไหม มันเป็าาแห่งขุนเขา ต้องคืนสู่ป่า" หากกักขังไว้ มันจะสูญเสียสัญชาตญาณในการล่า ซึ่งไม่เป็ผลดีต่อมัน
หลิวจือโม่ชำเลืองมองอาหวง เห็นด้วยกับสิ่งที่หลี่ชิงหลิงพูดในใจ "ถ้างั้นหาเวลาส่งมันกลับูเาซง มันเกิดที่นั่นก็ควรจะกลับไปที่นั่น" ถ้าส่งกลับไป เด็กๆ อาจจะโวยวายกันใหญ่โต
อาหวงดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่หลี่ชิงหลิงพูดกับหลิวจือโม่ มันส่งเสียงครางหงิงใส่หลี่ชิงหลิงสองครั้ง เมื่อเห็นว่านางเพิกเฉย มันก็วิ่งมากัดขากางเกงของนางแทน
หลี่ชิงหลิงย่อตัวลงอย่างช่วยไม่ได้ กอดหัวโตๆ ของอาหวงและอธิบายอย่างอดทน "อ้อนก็ไม่มีประโยชน์ ข้าจะไม่ใจอ่อนหรอก เดี๋ยวอีกหน่อยข้าจะส่งเ้ากลับไป ต้องกลับไปนะ” น้ำเสียงของนางหนักแน่นมาก ทั้งหมดทำไปเพื่อมัน ยิ่งโต มันจะยิ่ง้าเนื้อดิบมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาแทบเลี้ยงมันไม่ไหวแล้ว แถมกลัวว่าชาวบ้านจะรู้อีก ถ้ารู้ขึ้นมามันจะตกอยู่ในอันตราย
อาหวงผละจากลี่ชิงหลิง หันหลังจากไปด้วยความโกรธ ไปขอคำปลอบโยนจากเด็กๆ แทน
หลี่ชิงหลิงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ นางเองก็ไม่อยากแยกกับมัน แต่ก็ต้องใจแข็งไว้
นางถอนหายใจ ลุกขึ้นยืนแล้วเห็นว่าน้ำกำลังเดือดจึงตักน้ำใส่อ่าง โยนไก่เข้าไปผ่านน้ำสองรอบ
ไก่ที่โดนน้ำร้อนลวกจะจัดการขนง่าย นางรีบทำความสะอาดไก่ทันที
นางขอให้หลิวจือโม่ปอกมันฝรั่ง ในขณะที่นางสับไก่เป็ชิ้นเล็กๆ
