ลมโหมกระหน่ำ ลมพัดหินและทรายกระจายออกไป...
แววตาหลงอีดูตื่นเต้นมาก จ้องไปยังชายหนุ่มที่ปรากฏตัวบนหลังคาสูง เห็นเพียงเขาจับชายวัยกลางคน ดวงตาของชายผู้นั้นทำให้หลงจ้านเห็นแล้วสิ้นหวัง
สายตาที่เฉียบแหลมของเขากวาดมองผู้คนด้านล่างรอบหนึ่ง ร่างกายมีรังสีที่น่าเกรงขามกระจายออกมา ลำแสงที่แยงตาล้อมรอบกาย
ทันใดนั้น ชายหนุ่มจับชายวัยกลางคน โค้งตัวะโลง ร่วงหล่นหลายเมตร มือผละออกจากร่าง ชายถูกทิ้งกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ส่วนเขาม้วนตัวกลางอากาศ ร่วงลงท่ามกลางผู้คน ประดุจสายฟ้าที่ว่องไว
“ท่านปู่ รีบมอบตำราสองเล่มนั้นให้ข้า” หลงอวี่ซีร้อนใจ ไม่รู้ว่านางกำลังกลัวอะไรอยู่
ผู้าุโแห่งตระกูลหลงมองชายหนุ่ม “นึกไม่ถึงว่าจะได้เ้าเด็กหนุ่มนี่กลับมา... แถมพละกำลังยังเพิ่มขึ้นไม่น้อย” ตำราที่อยู่ในมือค้างกลางอากาศ ไม่ยอมวางลงในมือของหลงอวี่ซีสักที
หลงเหยียนพุ่งแยกผู้คนออกเป็ทาง เดินตรงไปที่สนามประลองยุทธ์ บนตัวปกคลุมไปด้วยลำแสงที่สว่างไสว
หลงจ้านและคนอื่นๆ เห็นเพียงแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเขาฝึกวิชาอะไรมา แถมยังเป็วิชาที่แข็งแกร่งมากด้วย
เดินผ่านตัวหลงหยุนฉี ยื่นมือไปเช็ดน้ำตาที่หางตาของเธออย่างทะนุถนอม
“เด็กน้อย ดูเหมือน่ที่พี่ไม่อยู่แค่ไม่กี่วัน เ้าก็ถูกคนอื่นทำร้ายแล้ว ช่างเถอะ ตอนนี้ข้าจะเอาคืนให้เอง ช่วยข้าจับตาดูคนเมื่อครู่ไว้ให้ดี”
ไม่เพียงแค่หลงหยุนฉีเท่านั้น ใครก็นึกไม่ถึง คนที่ถูกตระกูลมองว่าเป็คนไร้ประโยชน์ เวลานี้กลับสร้างชื่อเสียงและความยิ่งใหญ่ได้ถึงเพียงนี้
ทุกคนจับจ้องมาที่หลงเหยียน ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์สนั่น หลงเหยียนไร้ซึ่งความกลัว กวาดสายตามองทุกคน ในใจยิ้มอย่างเยือกเย็น ภายใต้แรงกดดันที่มหาศาล เขายืดอกเดินขึ้นเวทีประลอง
เมื่อมองหลงเหยียน หลงจ้านและคนอื่นๆ ประหลาดใจมาก ยิ่งไปกว่านั้น เซียวกงเป้าและผู้คนที่อยู่ข้างหลังเกิดรังสีสังหาร ทว่าหลงอีกลับดูสับสน เขากำลังจะเดินไปหยุดหลงเหยียน ทว่าถูกหลงห้าวที่อยู่ข้างกายจับไว้ก่อนแล้วกระซิบข้างหู “น้องสาม อย่าเพิ่งร้อนใจไป พวกเรารอดูก่อนว่าเหยียนเอ๋ออยากทำอะไรกันแน่? ได้ยินมาว่าครั้งก่อนเขาถูกเ้าบีบออกจากตระกูล ไม่แน่ในใจอาจรู้สึกแค้นเ้าก็ได้”
หลงอีเก็บพลัง นั่งลง ทว่าจิตใจกลับเต็มไปด้วยความกังวล
บัดนี้ หลงเหยียนกลับหันไปทางหลงอี แววตาเต็มไปด้วยสายตาที่ไม่ยอมแพ้ ความมั่นใจที่มหาศาล เขากระตุกยิ้มมุมปาก คล้ายกำลังหัวเราะเยาะอะไรบางอย่าง?
“เ้าหมอนี่บังอาจถึงเพียงนี้เชียว?” หลงจ้านคำรามในใจ ทว่าสายตากลับจ้องไปยังคนที่เพิ่งถูกโยนลงมาเมื่อครู่
ไม่นานหลงเหยียนก็ตกเป็เป้าสายตาของทุกคน เขาสบตาผู้าุโแห่งตระกูล ร่างที่ปกคลุมด้วยรังสีน่าเกรงขาม ทว่าไม่อาจทำให้หลงเหยียนรู้สึกกลัว
ผู้าุโแห่งตระกูลหลงมองประเมินเ้าหมอนี่ั้แ่หัวจรดเท้า ในสถานการณ์นี้ หลงเหยียนไม่มีท่าทีหวาดกลัว ยิ่งไปกว่านั้น แววตาเขากลับเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว โมโห และโกรธแค้น
ท่าทางของเขาในตอนนี้ ผู้าุโไม่เพียงแค่ไม่โมโหเท่านั้น กลับยังนับถือในความกล้าอีกด้วย เริ่มชื่นชอบ คล้ายเห็นเงาของตนจากร่างชายหนุ่มผู้นี้ ราวกับผู้าุโกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง
“นี่... เ้าหมอนี่คือหลงเหยียนที่ถูกไล่ออกไปไม่ใช่หรือ เพราะอะไรวันนี้ยังกล้ากลับมาอีก หรือว่าเขาอยากมาชิงตำราสองเล่มนั้น” คนที่อยู่ด้านล่างวิพากษ์วิจารณ์
หลงเซ่าโหยวมองหลงเหยียนอย่างหยามเหยียด แล้วพูดกับหลงห่าวเทียน “เ้าว่าเ้าหมอนี่เพี้ยนไปแล้วหรือไม่ ถึงได้กล้าออกมาเวลานี้?”
“ข้าว่าวันนี้เขาต้องถูกกำจัดแล้วจริงๆ” เมื่อหลงห่าวเทียนเอ่ยประโยคนี้จบ คนเกือบครึ่งในตระกูลหลงที่อยู่ด้านหลังพวกเขาก็หัวเราะ
ทันใดนั้น หลงเหยียนรวบรวมพลังปราณไว้ที่นิ้วมือ หินก้อนหนึ่งลอยออกไป เพียะ... ฟาดหน้าหนึ่งในคนที่กำลังหัวเราะ ฟันร่วงลงมาหนึ่งซี่
ก่อนจะกวาดสายตาที่โกรธเคืองผ่านตัวพวกเขา “พวกเ้าฟังไว้ให้ดี วันนี้ ข้า หลงหยียน จะทำให้พวกเ้าได้เห็นว่าข้าเหยียบหลงอวี่ซีไว้ใต้แทบเท้าอย่างไร นัดกันไว้ว่าสิบวัน และวันนี้ก็มาถึง พวกเ้าทุกคนจงแหกตาดูให้ดี”
“ตกตะลึงงั้นหรือ โมโหมากใช่ไหม นับแต่วันนี้ไป ข้าจะทำให้เห็นว่าศักดิ์ศรีข้าแลกมาด้วยพละกำลังที่มี”
หลงเหยียนคำรามเสียงดัง ท่าทางที่ไม่ยอมย่อท้อของเขาทำให้คนพวกนั้นชะงักไป วินาทีนี้ เขาแสดงท่าทางคล้ายคนกำลังผยองไม่มีผิด
เขาหันขวับกลับมา แววตาดูหมองหม่น เขาคุกเข่าลงกับพื้นแล้วพูดด้วยความนอบน้อม “ท่านปู่ ข้าเป็คนตระกูลหลง หลานกลับมาแล้ว เมื่อครู่หลานกำลังจัดการเื่ที่สำคัญมาก จึงมาช้าไปหน่อย หากท่านยังเห็นข้าเป็หลาน ขอท่านโปรดให้โอกาสข้าเข้าร่วมประลองด้วยเถิด”
ทุกคำพูดของหลงเหยียน ผู้าุโได้ยินอย่างชัดเจน
“นี่เ้ากลับมาเพราะตำราสองเล่มนั้นจริงๆ” หลงอีะโด้วยความโมโห “เหยียนเอ๋อ อย่ามาวุ่นวาย เ้าจะลงมือต่อหลงอวี่ซีได้อย่างไร รีบถอยไปเสีย”
หลงเหยียนไม่สนใจ มองผู้าุโแห่งตระกูลแล้วพูดเสียงดังอีกครั้ง “ท่านปู่ โปรดให้โอกาสข้าเข้าร่วมประลองยุทธ์ด้วยเถอะ”
หลงเซ่าโหยวพูดด้วยความโมโห “หลงเหยียนบ้าไปแล้ว อยากล้มพี่ใหญ่ ช่างไม่เจียมตัวเอาเสียเลย”
“นั่นสิ ต่อหน้าผู้คนมากมาย กลับเอ่ยปากขอเื่ที่ไร้เหตุผลสิ้นดี น่าขันยิ่งนัก” หลงห่าวเทียนหัวเราะเบาๆ
ส่วนแขกที่อยู่รอบสนามประลองกลับไม่คิดเช่นนั้น พวกเขานับถือความกล้าของหลงเหยียน
เมื่อเห็นหลงเหยียนกลับมาพร้อมความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม ผู้าุโก็อดใจรอไม่ได้ พูดกับหลงเหยียน “เหยียนเอ๋อ ไม่ใช่ปู่มิอยากรับปากเ้า แต่เ้ามาช้าเกินไป มันผิดกฎของตระกูลเรา ก่อนได้รับรางวัลต้องผ่านการคัดเลือกทั้งสิ้น เ้าจะมารับชัยชนะอย่างเดียวไม่ได้ เช่นนั้น อีกหน่อยพ่อเ้าจะปกครองตระกูลอย่างไร”
ผู้าุโพุดจบก็มองไปทางหลงอวี่ซี ความหมายนั้นชัดเจนอยู่แล้ว
หลงเหยียนเป็คนฉลาด เงยหน้าขึ้นมองไปทางหลงอวี่ซี
“สิบวันก่อน ข้ามีนัดกับท่านว่าจะประลองกันในวันนี้ หากท่านไม่ยินยอม เช่นนั้นก็จัดให้ข้าประลองกับคนอื่นก็ได้ ทักษะการต่อสู้คือสิ่งที่ผู้แข็งแกร่งในตระกูลควรได้รับ ข้ายอมเข้าสู่ลำดับท้าประลอง”
หลงอวี่ซีแสดงสีหน้าเยือกเย็น จ้องหลงเหยียน “ไม่ต้องหรอก ในเมื่อเ้าอยากประลองกับข้า ข้าย่อมตกลง เรายังไม่ต้องพูดเื่ที่เ้าฆ่าหลงเอ้าอวี เมื่อสิบวันก่อนเ้าทำร้ายเซียวปิงหลานาเ็ ข้ายังไม่ได้สั่งสอนเ้าเลย วันนี้เ้าถือโอกาสนี้กลับมา ไม่จำเป็ต้องเสแสร้งขอความเห็นใจจากท่านปู่หรอก... เ้าเตรียมใจเถอะ วันนี้ข้าไม่ปล่อยเ้าไปแน่”
หลงอวี่ซีพูดจบ ผู้าุโก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีก เพียงแค่ยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วเอ่ยว่า “งั้นก็ดี ในเมื่อพวกเ้าต่างก็เรียกร้องกันเอง งั้นข้าที่เป็ปู่ก็คงมิอาจขวาง ถึงกระนั้นข้าก็ขอพูดไว้ก่อน งานประลองยุทธ์ไม่ใช่การเข่นฆ่า เื่ของเอ้าอวียังสืบสาวหาคนร้ายไม่เจอ หากใครลงมือสังหาร อย่าโทษข้าใจร้าย”
เมื่อพูดจบผู้าุโแห่งตระกูลหลงก็ทะยานขึ้นไปอยู่บนแท่นสูงสามเมตร เวลานี้ความสนใจทั้งหมดอยู่บนตัวหลงเหยียนและหลงอวี่ซี ทั้งคู่จ้องฝ่ายตรงข้ามด้วยความโกรธเคือง เื่ในวันนี้ หากไม่ใช่เพราะหลงเหยียนเข้ามาก่อกวน นางคงได้ตำราทั้งสองเล่มไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไร แค้นนี้นางต้องชำระ
--------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้