ติ๊ง...ติ๊ง...ติ๊ง ...ติ๊ง...ติ๊ง...ติ๊ง... ...ติ๊ง...ติ๊ง...ติ๊ง..
เตง...เตง...เตง ...เตง...เตง...เตง ...ติ๊ง...ติ๊ง...ติ๊ง...
ตึง...ตึง...ตึง ...ตึง...ตึง...ตึง ...ติ๊ง...ติ๊ง...ติ๊ง...
ฮา...ฮื้อ...ฮา... ฮ้า...ฮื้อ...ฮือ อ้า...อา...อา อ้า...อา...อา
... ... ... ...
โจ วรสุทธิ เปิดดนตรีที่โหลดลงบนมือถือ เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย เขาได้ไปเข้าคอร์ส อบรมเมื่อหลายวันก่อน แล้วได้รับดนตรีระดับอัลฟ่านี้กลับมาเปิดกล่อมสมองให้หลับได้ลึกขึ้น
เสียงน้ำลึกในลำธาร...ดังปุดปุด ปนเสียงบับเบิ้ล...เป็จังหวะ ผสานเสียงโซปราโน กับแบ็คกราวนด์ของคีย์เปียโนขึ้นลง...สะท้อนก้องเบา เหมือนกำลังจมอยู่ในห้วงลึกของวังน้ำ...ที่กำลังหมุนวนอยู่รอบกาย
โสตประสาทของเขากำลังหมุนดำดิ่งจากอารมณ์เปล่าเปลี่ยว เหงา เศร้า ซึม รันทด ท้อ จมอยู่ในห้วงแห่งทุกข์แสนสาหัส สู่การปล่อยวาง เงียบสงบ เบาโล่งโปร่ง ถึงระดับฌาน
เสียงหนึ่งหวีดหวิวเพรียกหาจากแดน...อันแสนไกลโพ้น ทะลุแก้วหูของเขาเข้าสู่จิตใต้สำนึก ...
“โจ... ฉันคอยเธออยู่ที่นี่...” เสียงแหลมสูงของหญิงสาวคนหนึ่งพลิ้วเบา
ชายหนุ่มฝันถึงเสียงหญิงสาวคนเดิมไม่เห็นรูปร่าง ซ้ำๆ มานานเกือบเดือนหลังกลับจากซีแอตเทิล คืนนี้อีกเช่นกัน
โจชอบเดินทางท่องเที่ยวยามว่างจากภารกิจค่อนข้างรัดตัว ปีนี้ค่าคอมมิชชั่นการเป็นายหน้าเทรดหุ้นทองคำของเขา มากพอสำหรับเดินทางไปไกลถึงอเมริกา
เขามีชีวิตส่วนตัวที่ใครหลายคนมองว่าแปลกสุดโต่ง ไม่ชอบสุงสิงกับใคร ไม่ชอบวิถีคนหมู่มาก ชอบหมกตัวอยู่กับกองตำรับตำราเกี่ยวกับความสำเร็จ ความใฝ่ฝันที่ยิ่งใหญ่
“เฮ้ย...ปีนี้ไปมันไกลเลยเหรอ” มิ้ง เพื่อนนักเทรดด้วยกันถามอย่างอิจฉา
“อยากไปดูนางในรูปนั่น...” เขาชี้ไปที่แก้วกาแฟใบหนึ่งที่ใช้อยู่เป็ประจำ
“อะไรของเอ็งวะ...” มิ้งส่ายหน้าไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้ถามต่อ
ความใฝ่ฝันอยากไปดูภาพนางฟ้าสวมมงกุฎดาวบนพื้นเขียว คือปลายทางฝันตลอดมาของชายหนุ่ม
ทุกคนมองว่าเขาเป็คนพิถีพิถัน ทำอะไรต้องวิเคราะห์วางแผนไปหมดทุกเื่ก่อนลงมือ แม้เื่การมีครอบครัว เขายังไม่ตัดสินใจคบใคร
“ฉันรอเธออยู่ที่นี่...” เสียงของหญิงสาวคนเดิม...เบาหวีดหวิวล่องลอยในอากาศ
คืนนี้มีอะไรแปลกมากกว่าหลายวันก่อน
“ฉันเข้ามาหานานแล้ว... ทำไมยังไม่รู้ว่าเป็ฉัน” เสียงหวิวๆ ตัดพ้อถามขึ้น
โจไม่เคยรู้จักเสียงที่ล่องลอยอยู่ในภวังค์ เขาไม่เคยคบผู้หญิงคนไหน จึงไม่อาจตอบคำถามนี้กลับไปได้
เสียงดนตรีที่เปิดกล่อมยังคงดังเบาๆ จากเครื่องมือถือบนโต๊ะมุมซ้ายของหัวเตียง เสียงของเธอยังอยู่ในห้วงภวังค์ มีแต่คำเดิมๆ วนเวียน
เช้าวันใหม่เขายังรู้สึกติดค้างอยู่ในจิตใจ คำถามผุดขึ้นมาตลอด... นางคือใคร เสียงของผู้หญิงคนนี้ได้สร้างความคุ้นชินตอนเขากำลังตกภวังค์
่บ่ายวันนี้โจมีนัดกับลูกค้ารายหนึ่ง ซึ่งให้ไปพบที่บ้านแถวย่านพุทธมณฑล เขาขับรถไปถึงหมู่บ้านระดับพรีเมี่ยม ราคาบ้านแต่ละหลังราคาหลายสิบล้านบาท ยามหน้าหมู่บ้านสอบถามข้อมูลขณะแลกบัตร
“บ้านเลขที่ 108/6 ซอย 5 ครับ” ยามมองหน้าชายหนุ่มแปลกๆ
เขาขับรถผ่านซอยเลขคี่เรื่อยไปจนพบซอย 5 เลี้ยวซ้ายเข้าไปและมองหาเลขที่บ้านแต่ละหลัง จนมาถึงบ้านเลขที่ดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่สุดซอย
ชายหนุ่มกดกริ่งที่รั้วบ้านแบบซี่กรง คนข้างในแหวกม่านสำรวจว่าใครอยู่ตรงประตูรั้ว จากนั้นประตูอัตโนมัติจึงเคลื่อนตัวออก เขาเข้าไปสตาร์ทรถขับเข้าไปยังลานจอดภายใน
แม่บ้านคนหนึ่งโผล่หน้าออกมาต้อนรับเชิญให้เข้าไปด้านในซึ่งเป็ห้องรับรอง
ตัวตึกภายในเป็อาคารโอ่โถ่งประดับประดาตกแต่ง โทนสีเหลืองดำสไตล์เวอร์ซาเช่ ทั้งเฟอร์นิเจอร์และหมอนอิงเป็โทนสีเดียวกันหมด
“คุณ...รอคุณผู้หญิงสักครู่นะคะ” แม่บ้านกลางคนเอาน้ำเย็นมาบริการ เขาถามคำถามที่ทำให้นางขมวดคิ้ว
“ผมมาพบคุณผู้ชายนะครับ ไม่ทราบผิดคนหรือเปล่า”
“ที่บ้านนี้มีแต่คุณผู้หญิง...” คำตอบของแม่บ้านยิ่งทำให้เขาสงสัย
“ผมมาพบคุณวรินทร์” เขาได้ชื่อจากหัวหน้าฝ่ายการตลาดเมื่อวานให้มาพบลูกค้าระดับวีไอพีรายนี้
“คุณผู้หญิง ชื่อวรินทร์ ค่ะ” แม่บ้านอมยิ้มให้ชายหนุ่ม
โจแปลกใจมากที่เมื่อวานไม่ได้สอบถามรายละเอียด คิดอยู่ในใจว่าเป็ลูกค้าผู้ชาย เพราะชื่อแบบนี้ในร้อยคน คงจะมีเธอคนนี้
เขากวาดตามองสำรวจไปรอบห้อง ในสมองประเมินถึงสถานะการเงินและการลงทุนว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา ข้อมูลที่ได้มาคือพอร์ตการลงทุนในวงเงินสิบล้านบาท
สายตาของชายหนุ่มกวาดตาไปเรื่อย ...จนมาถึงมุมผนังด้านซ้ายเป็หลืบก่อนถึงประตูซึ่งเปิดเข้าไปตัวบ้านด้านใน ภาพวาดสีอะคริลิกแขวนบนผนังในกรอบทองลวดลายเวอร์ซาเช่ขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง
‘หน้าหญิงสาวสวยสะคราญยิ้มละไมสวมมงกุฎดาวบนศีรษะ ลงเส้นลายแบบโลโก้ ลอยอยู่บนพื้นสีเขียว… เฮ้ย... นี่มัน...!!!’
เขาจ้องมองตาค้างตะลึง เมื่อหน้าของนางกำลังลอย...เลื่อนออกมาจากกรอบรูปราวภาพสามมิติ เขาตบหน้าตัวเองเบาๆ พึมพำ
“เฮ้ย... สมองเป็อะไรหรือเปล่าวะ”
จากนั้นเสียงเบาแหลมหวีดหวิวโซปราโน ประสานคีย์เปียโนเข้ากันเป็จังหวะดังขึ้นในโสตประสาท
“นี่มันเพลงไซเรน ที่เปิดทุกคืน... โจ...เอ็งเป็อะไรไปวะ” เขายังสะบัดหน้าไปมาไม่เชื่อสายตาและหูของตนเอง
ชายหนุ่มตกอยู่ในภวังค์ราวถูกสะกดจิต และแล้วเสียงซ้ำๆ เช่นทุกคืนที่ได้ยิน ดังออกจากประตูที่เปิดเข้าไปยังด้านใน
โจตาค้างใ
“ฉันรอเธออยู่ที่นี่...”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้