การถอยหลังของมู่จื่อหลิงนั้นรวดเร็วเกินไป ประกอบกับพื้นลื่นๆ ส่งผลให้นางเสียการทรงตัว จนไม่อาจยืนหยัดอยู่ได้ นางจึงล้มลงด้วยความอับอาย
พื้นหินอ่อนสีขาวเรียบนั้นแข็งมาก หากล้มลงไปจริง จะกระทบกระเทือนจนสลบอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ยามร่างของมู่จื่อหลิงอยู่ห่างจากพื้นเพียงไม่กี่ชุน เงาร่างหนาทึบที่ยังคงมีกลิ่นอายเ็าและโเี้ได้พุ่งเข้ามาปกคลุมร่างของนาง
ใน่เวลาสำคัญนี้ หลงเซี่ยวอวี่เหยียดแขนเรียวของตนออกมาอย่างรวดเร็วพุ่งเข้าโอบรอบเอวเรียวบางของมู่จื่อหลิง เขาเหยียดมือออกและคว้าร่างของมู่จื่อหลิงเข้ามาในอ้อมแขน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มู่จื่อหลิงจะฟื้นคืนจากความตื่นตระหนก ก่อนที่นางจะสงบลงได้ ฝีเท้าของหลงเซี่ยวอวี่แม้ดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจ แต่เขากลับตั้งใจถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แล้วปล่อยร่างให้ลื่นลงไป
หลังจากนั้น เกิดเสียงดังตูม!
ในพริบตาเดียว เกิดเป็ระลอกน้ำ น้ำกระเซ็นออกไปรอบข้างสะท้อนเป็ประกายระยิบระยับ ทั้งสองตกลงไปในบ่อน้ำพุร้อนที่อยู่ด้านหลังพวกเขา
เนื่องจากระลอกน้ำที่กระจายออกมาเป็วงกว้าง ทำให้ไม่อาจเห็นร่างของทั้งสองบนผิวน้ำได้ สามารถเหตุได้เพียงแสงที่กระทบกับระลอกคลื่นซึ่งกระเพื่อมออกไปเป็วงกว้างเท่านั้น
แต่ก็ยังสามารถกล่าวได้ว่าน้ำในบ่อน้ำพุร้อนนั้นใสแจ๋ว
การตกลงไปในน้ำอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้น้ำพุ่งเข้าปากของมู่จื่อหลิงจนนางสำลัก ส่งผลให้นางรู้สึกอึดอัดอยู่พักหนึ่งจนเกือบไอออกมา
แต่ผู้ใดจะรู้ ในขณะเดียวกัน เมื่อนางสูดลมหายใจเข้าทางจมูกอีกครั้ง ดูเหมือนว่าน้ำจะพุ่งตรงเข้าสู่สมอง พุ่งตรงไปที่ขมับของนาง ศีรษะของนางเจ็บมากจนเกือบจะร้องไห้ออกมา
แต่ด้วยในยามนี้นางยังอยู่ใต้น้ำ มู่จื่อหลิงจึงต้องทนไม่ว่านางจะปวดหัวมากเพียงใด และไม่ว่าคอของนางจะรู้สึกอึดอัดมากสักเพียงใด นางก็ไม่กล้าไอออกมา
ในยามนี้ นางทำได้เพียงจ้องมองไปด้วยดวงตาที่แดงก่ำ กัดฟันแล้วปล่อยลมหายใจที่เหลืออยู่ในปากออกไปอย่างช้าๆ เพื่อบรรเทาอาการ หากนางอยากจะไอ นางต้องรอจนกว่าจะขึ้นฝั่งได้ก่อน
มู่จื่อหลิงรู้สึกว่านางกำลังได้รับความโชคร้ายแปดชั่วอายุคน [1] อย่างแท้จริง ปล่อยให้นางต้องตกลงไปในน้ำอย่างเ็ปถึงเพียงนี้ ไม่สู้ปล่อยให้นางเอาหัวโขกพื้นแข็งๆ ยังจะดีซะกว่า
แต่มู่จื่อหลิงไม่รู้ว่าหลังจากที่นางโล่งใจแล้ว สิ่งที่จะทำให้นางอึดอัดยิ่งกว่ากำลังคืบคลานเข้ามาจากเื้ั
ยามที่ตกลงไปในบ่อน้ำ หลงเซี่ยวอวี่ยังคงกอดมู่จื่อหลิงไว้อย่างแ่าด้วยแขนข้างหนึ่ง ไม่เพียงแต่เขาไม่ได้พานางขึ้นไปบนผิวน้ำ แต่กลับพานางนอนหงายหลังปล่อยให้จมลงไปที่ก้นบ่อ
เพราะไม่มีลมหายใจที่จะปล่อยออกมาได้อีกต่อไป เพื่อหยุดอาการสำลักน้ำ เพื่อให้จมูกไม่ต้องสูดน้ำเข้าไปอีก มู่จื่อหลิงจึงต้องเม้มริมฝีปากแน่น กลั้นหายใจ ดิ้นรนตามสัญชาตญาณ พยายามว่ายขึ้นไป้า
แต่ไม่ว่านางจะดิ้นรนเพียงใด ร่างกายของนางก็ไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย จนกระทั่งนางรู้สึกว่าถูกพามาก้นบ่อ ดวงตาของมู่จื่อหลิงเบิกกว้าง หัวใจของนางก็จมลงในทันที
เดิมทีนางคิดว่าหลงเซี่ยวอวี่ตกลงมาในบ่อกับนางเพราะพื้นลื่น แต่ยามนี้ดูเหมือน...จะไม่ใช่
หลงเซี่ยวอวี่จงใจพานางลงมาในน้ำ!
เมื่อคิดเกี่ยวกับเื่นี้ ทันใดนั้นมู่จื่อหลิงก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่เลวร้ายมากในใจนาง
ลางสังหรณ์ของนางแม่นยำเสมอ ยิ่งกว่านั้นก่อนที่จะตกลงมาในน้ำ นางยังทำให้หลงเซี่ยวอวี่โกรธ
เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อครู่นี้ทำให้ชายผู้นี้โกรธได้อย่างไร? มู่จื่อหลิงรู้สึกหงุดหงิดมากจนแทบจะร้องไห้ออกมา
จากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ มู่จื่อหลิงรู้ดีว่าความโกรธของชายผู้นี้ไม่ง่ายเลยที่จะสลายไป นางควรทำอย่างไร?
เมื่อคิดถึงเื่นี้ ร่างกายของมู่จื่อหลิงก็เริ่มรู้สึกไม่ดีขึ้นมาในทันใด
จบแล้ว จบแล้ว นี่คือจุดจบ!
เพื่อยืนยันการคาดเดาของนาง มู่จื่อหลิงตั้งสมาธิและกลั้นหายใจ ยกศีรษะเล็กออกจากหน้าอกของหลงเซี่ยวอวี่ มองตรงไปที่เขา...
แน่แล้ว! เป็ไปตามที่นางคาดไว้อย่างแน่นอน!
แม้ว่าจะตกลงมาในบ่อน้ำพุร้อน กลิ่นอายชั่วร้ายที่น่าสะพรึงกลัวบนร่างกายของหลงเซี่ยวอวี่ก็ยังไม่สลายไป แต่กลับดูเหมือนว่ามันจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ในเวลานี้ ใบหน้าหล่อเหลาและเรียบเนียนของเขาไม่ต่างไปจากพื้นผิวของทะเลสาบน้ำแข็งอายุนับพันปี มันสงบและเย็นเยียบ มีความหนาวเหน็บที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งส่งตรงมาจากก้นบึ้งของหัวใจ จนดูเหมือนว่าน้ำอุ่นในบ่อจะถูกความเย็นจัดกัดกินจนเริ่มเย็นเยียบ
แค่ชำเลืองมองเพียงครั้งเดียว ก็สามารถทำให้นางรับรู้ได้ถึงความสยดสยองอันเยือกเย็นที่ลามมาจากฝ่าเท้า ค่อยๆ ขยายไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
แต่ถึงอย่างนั้น แม้ในยามที่อยู่ก้นบ่อน้ำ เขาก็ยังหล่ออย่างไม่น่าเชื่อ ความงดงามแผ่ออกมาอย่างน่าทึ่ง
แต่ในขณะนั้น เพียงมองก็ทำให้หัวใจของมู่จื่อหลิงสั่นสะท้าน นางกัดฟันและเม้มริมฝีปากแน่น โบกมืออย่างไม่รู้ตัว พยายามดิ้นรนเพื่อขึ้นฝั่ง
ในยามนี้ หลงเซี่ยวอวี่จับเอวเรียวบางของมู่จื่อหลิงเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ทำให้มู่จื่อหลิงกับเขาต้องเผชิญหน้ากัน
เมื่อเทียบกับมู่จื่อหลิงที่มีสีหน้าอึดอัดและแดงก่ำแล้ว การแสดงออกของหลงเซี่ยวอวี่ยังไม่มีอะไรที่ผิดปกติเลย ราวกับว่าเขายังอยู่บนบก ราวกับว่าเขาสามารถหายใจได้อย่างอิสระ
ในเวลานี้ ดวงตาสีเข้มลึกล้ำของเขามีประกายเ็าอย่างน่ากลัว ระหว่างคิ้วแสดงออกถึงความเฉยชา ยังคงมีกลิ่นอายกดดันผ่านอากาศอย่างรุนแรง
กลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวและดุร้าย เต็มไปด้วยความกดดัน ความเป็ปรปักษ์กระหายเืดูเหมือนจะฆ่าคนได้ทุกที่ทุกเวลา ดวงตาที่ดูเหมือนใบมีดน้ำแข็งพุ่งตรงไปที่มู่จื่อหลิง
ด้วยสายตาที่รุนแรงเช่นนี้ มู่จื่อหลิงที่พยายามกลั้นหายใจอยู่ในขณะนี้ เริ่มเกิดความรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นทุกขณะ
แต่ในเวลานี้นาง้าว่ายน้ำขึ้นฝั่ง มู่จื่อหลิงยังคงตบหน้าอกของหลงเซี่ยวอวี่ พยายามจะหลุดพ้นจากการเกาะกุมของเขา แต่ไม่ว่านางจะพยายามอย่างหนักเพียงใด ท้ายที่สุดก็ไม่มีประโยชน์
หลังจากดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์ มู่จื่อหลิงก็ทอดถอนใจด้วยความเสียใจ แต่ไม่กล้าที่จะปล่อยมันออกมา ยามนี้นางทำได้เพียงกัดฟัน มองดูดวงตาที่ดุร้ายและดุดันของหลงเซี่ยวอวี่โดยไม่แสดงความอ่อนแอใดๆ
เวลาผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง สายตาของทั้งสองประสานกันอย่างดุเดือด
คนหนึ่งดูกล้าหาญและดื้อรั้นไม่ยอมอ่อนข้อ อีกคนดูดุร้าย ดวงตาฉายแววอาฆาตแค้น
ทั้งสองจ้องมองกันราวกับปลายเข็มแทงรวงข้าวสาลี [2] ไม่มีใครยอมใคร
แต่ภายในเวลาไม่นาน มู่จื่อหลิงก็ต้องยอมพ่ายแพ้ไป
เนื่องจากนางอยู่ในน้ำ ดวงตาของนางจึงเจ็บมากจนแทบลืมตาไม่ขึ้น
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะต้องสูญเสียอะไรก็ตาม นางก็จะไม่ยอมสูญเสียแรงผลักดันไป แต่แม้ว่าในยามนี้นางจะมีแรงผลักดันที่เต็มที่ในการต่อกรกับหลงเซี่ยวอวี่ แต่นางไม่มีกำลังพอที่จะต่อสู้กับเขาได้
ไม่ว่าจะก้าวร้าวเพียงใด ก็ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย ไม่มีค่าให้กล่าวถึง! มู่จื่อหลิงรู้สึกขุ่นเคืองจนเกือบสาปแช่งใครบางคนด้วยคำหยาบคาย
แต่สิ่งที่ทำให้มู่จื่อหลิงรู้สึกเสียใจที่สุดคือ เห็นได้ชัดว่าเป็สถานการณ์เดียวกัน เห็นได้ชัดว่าอยู่ภายใต้สายน้ำไม่ต่างกัน แต่หลงเซี่ยวอวี่กลับยังคงสงบสุขไม่ประสบปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น ยังคงจ้องมองนางอย่างเอาเป็เอาตาย
แต่ยามนี้มู่จื่อหลิงกลับไม่อาจเข้าใจได้ว่าเพราะเหตุใดหลงเซี่ยวอวี่ถึงสามารถอยู่ในน้ำและสามารถรักษาสภาพเดิมไว้ได้นานเพียงนี้ เพราะยามนี้นางไม่สามารถปกป้องตนเองได้แล้ว
มู่จื่อหลิงไม่รู้ว่าหลงเซี่ยวอวี่้าทำสิ่งใด นางรู้แค่ว่าหากนางยังคงถูกทรมานเช่นนี้ต่อไป ในท้ายที่สุดนางก็จะจมน้ำตายหรือไม่ก็หายใจไม่ออกตาย
ไม่ว่าจะมีความสามารถในการว่ายน้ำที่ดีเพียงใด ก็ไม่สามารถทนต่อการทรมานเช่นนี้ได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าความสามารถในการว่ายน้ำของนางเป็เพียงระดับปานกลาง และยามนี้มันก็ถึงขีดจำกัดแล้ว
ในเมื่ออยากหลุดพ้นแต่ไม่อาจทำได้ แต่ยามนี้นางยังสามารถเปิดปากออกเพื่อพูดโดยไม่มีเสียงได้ แต่นางจะสำลักน้ำอีกอย่างแน่นอน นางกลัวว่าหากนางสำลักน้ำอีกครั้ง ประกอบกับหลงเซี่ยวอวี่ไม่พานางขึ้นไป มันจะเกิดการสูญเสียมากกว่าจะได้รับ
แม้ว่ามู่จื่อหลิงจะรู้ว่าหลงเซี่ยวอวี่จะไม่ปล่อยให้นางตาย แต่ยามนี้นางรู้สึกอึดอัดและกำลังจะตายจริงๆ หัวใจของมู่จื่อหลิงกำลังบ้าคลั่ง
ในยามนี้หลงเซี่ยวอวี่ต้องสังเกตเห็นว่านางรู้สึกทุกข์ทรมาน แต่เขาก็ยังไม่ไหวติง ความเคร่งขรึมในดวงตาของเขาไม่ได้หายไปเลย หมายความว่าความโกรธของเขายังไม่หายไป
เมื่อคิดถึงเื่นี้ มู่จื่อหลิงจึงรู้สึกขาดความมั่นใจเล็กน้อย หลงเซี่ยวอวี่ไม่อยากจะทำให้นางจมน้ำตายจริงๆ ใช่ไหม?
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่อาจปล่อยให้นางต้องขาดอากาศตายในน้ำได้จริงๆ ใช่ไหม?
แม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมหลงเซี่ยวอวี่ถึงยังคงสบายดีอยู่ในน้ำได้ แต่เนื่องจากหลงเซี่ยวอวี่ยังคงสบายดีอยู่ จะต้องมีวิธีที่จะเอาตัวรอดได้นอกเหนือจากการขึ้นฝั่ง...มู่จื่อหลิงคาดเดาในใจของนาง
มู่จื่อหลิงหลับตาแน่น ไล่ความขมขื่นออกไปจากดวงตา
ทันใดนั้น ก็มีสิ่งหนึ่งแวบเข้าในจิตใจของนาง ดูเหมือนว่านางจะคิดหาหนทางที่จะช่วยตนเองให้รอดได้แล้ว
ไม่ว่าหนทางนี้จะได้ผลหรือไม่ก็ตาม ในยามที่มีสติและเรี่ยวแรงหลงเหลืออยู่ นางก็ควรลองเสี่ยง! มู่จื่อหลิงแอบให้กำลังใจตนเองอยู่ในใจของนาง
หลงเซี่ยวอวี่จ้องมองที่ผู้หญิงตัวเล็กที่ดื้อรั้นต่อหน้าเขา ดูเหมือนนางจะถึงขีดจำกัดของความอดทนแล้ว นางไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ในเวลานี้เองที่เขาเห็นว่าเปลือกตาของมู่จื่อหลิงเคลื่อนไหว ราวกับว่านางกำลังจะลืมตา
แน่นอนว่ามู่จื่อหลิงข่มกลั้นใบหน้าที่แดงก่ำของนาง กัดริมฝีปาก ทำให้ความสับสนในจิตใจของนางคลี่คลายลง ฝืนลืมตาเป็ครั้งสุดท้ายเพื่อมองไปที่หลงเซี่ยวอวี่
ในยามนี้ดวงตาของมู่จื่อหลิงแดงก่ำราวกับว่านางกำลังร้องไห้ ซึ่งมันทำให้หัวใจคนที่มองมาอดรู้สึกอ่อนลงไม่ได้
นางร้องไห้หรือ? สมควรตาย!
ความอึดอัดแวบเข้ามาในดวงตาของหลงเซี่ยวอวี่ เขาขมวดคิ้วทำหน้าบึ้งในแบบที่ไม่มีผู้ใดเคยเห็น ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถทนต่อความรู้สึกทรมานของมู่จื่อหลิงได้
ในยามที่หลงเซี่ยวอวี่กำลังจะพามู่จื่อหลิงขึ้นฝั่ง...แต่ว่า การเคลื่อนไหวต่อจากนั้นของมู่จื่อหลิงกลับทำให้เขาหยุดความคิดที่จะพานางขึ้นฝั่งโดยสิ้นเชิง
ในเวลาต่อมา มู่จื่อหลิงดึงพลังส่วนสุดท้ายที่มีออกมาใช้กับมือทั้งสองข้าง คว้าชุดคลุมอาบน้ำตรงหน้าอกของหลงเซี่ยวอวี่ไว้ด้วยท่าทางราวกับอันธพาล ราวกับว่านางกลัวว่าจะถูกผลักออกไปในภายหลัง มือของนางจึงจับยึดไว้แน่น
หลังจากนั้น มู่จื่อหลิงก็หลับตาลง ก้มศีรษะ เอนตัวเข้าใกล้ใบหน้าที่ตกตะลึงของหลงเซี่ยวอวี่
ในชั่วพริบตา ริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของมู่จื่อหลิงได้กดทับริมฝีปากบางของหลงเซี่ยวอวี่อย่างแ่า ลิ้นที่อ่อนนุ่มดูเหมือนจะ้าแงะริมฝีปากของเขาให้เปิดออก พยายามอย่างเต็มที่เพื่อดูดซับลมหายใจจากปากของเขา
การเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันของมู่จื่อหลิงทำให้ร่างของหลงเซี่ยวอวี่แข็งทื่อไปครู่หนึ่ง
เพียงครู่เดียว ความโกรธที่เดือดพล่านและความโเี้ที่ไม่อาจดับได้ในร่างกายของเขาได้จางหายไปในทันทีอย่างไร้ร่องรอย
ดวงตาสีเข้มของหลงเซี่ยวอวี่ฉายแววดูลึกลับ เขารู้แล้วว่าหญิงตัวเล็กผู้นี้กำลังจะทำอะไร
แต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าหลังจากลงโทษผู้หญิงตัวเล็กจอมซนผู้ไม่เชื่อฟังผู้นี้แล้ว เขาจะยังได้รับผลประโยชน์เช่นนี้มาด้วย ไม่ว่านางจะเริ่มการกระทำนี้ด้วยเหตุผลใดก็ตาม เขาไม่จำเป็ต้องคำนึงถึงมัน
สรุปแล้ว ความรู้สึกเช่นนี้มันช่างเรียบง่ายและงดงาม!
หลงเซี่ยวอวี่เปิดปากของตนออกตามความ้าของตนเอง ส่งผ่านลมหายใจเข้าไปลึกๆ ภายในปากของมู่จื่อหลิง แต่ก่อนที่มู่จื่อหลิงจะทันได้สูดอากาศจากปากของเขาอีกครั้ง เขาก็กลั้นลมอีกครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้นางทำสำเร็จ
ใน่เวลานี้ มู่จื่อหลิงคิดว่าหลงเซี่ยวอวี่อยากจะช่วยนางจริงๆ
แต่ก่อนที่นางจะได้ดีใจ หลงเซี่ยวอวี่ก็หุบปากลงอีกครั้งทำให้ตอนนี้นางทำได้เพียงเกาะติดกับริมฝีปากของเขา ไม่อาจขยับเขยื้อนหรือถอยหนีได้
มู่จื่อหลิงร้อนรน ชายที่น่ารังเกียจผู้นี้ แบ่งปันให้นางเพียงแค่หนึ่งลมหายใจเท่านั้น
ลมหายใจเดียว? นางไม่ได้หายใจมานานขนาดนั้น หนึ่งลมหายใจไม่เพียงพอต่อการยัดช่องว่างระหว่างฟัน [3]
จิตใจที่สับสนของมู่จื่อหลิงกำลังหงุดหงิดอย่างรุนแรง ไม่ต้องพูดถึงว่ายามนี้นางใกล้จะขาดใจแล้ว หากยังเป็เช่นนี้ต่อไป นางจะขาดอากาศหายใจตายจริงๆ
---------------------------------------
เชิงอรรถ
[1] ความโชคร้ายแปดชั่วอายุคน (八辈子霉) เป็สำนวน มีความหมายว่า โชคร้ายจนถึงสุดขีด
[2] ปลายเข็มแทงรวงข้าวสาลี (针尖对麦芒) เป็สำนวน มีความหมายว่า สองฝ่ายที่มีอำนาจต่างไม่ยอมแพ้ต่อกัน และเผชิญหน้ากันแบบตัวต่อตัว
[3] ยัดช่องว่างระหว่างฟัน (塞牙缝) เป็คำอุปมา มีความหมายว่า สิ่งที่มีขนาดเล็กจนเกินไป จนทำให้เกิดความรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพอ