หลังจากไก่ต้มเมื่อครู่เหลือเพียงโครงกระดูกนางจึงเรอออกมาเสียงดัง แล้วเอนกายพักบนกองฟางอย่างมีความสุข มือบางวนลูบอยู่ที่ท้องน้อย แล้วตบทิ้งท้ายเบา ๆ
“อิ่มจัง!ฮึๆ หญิงผู้นั้นคงเจ็บใจจนอยากกลั้นใจตาย เสียดายที่ฝีเท้าของข้าเร็วกว่านาง คิดจะจับตัวข้าเช่นนั้นฤา ฝันไปเถอะ” หลันฮวานึกภูมิใจตัวเองพลางปล่อยยิ้มออกมา ก่อนจะนึกบางอย่างได้ แล้วรีบเด้งตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“วันนี้เป็วันดี ผู้คนในเมืองจะออกมามากกว่าที่เคย..ข้าจะมานอนเช่นนี้ไม่ได้ ต้องออกไปหาเสบียงมาตุนไว้สิถึงจะถูก” เมื่อคิดได้ดังนั้น หลันฮวาก็เดินกลับเข้าเมืองมาอีกครั้งหนึ่ง
หญิงสาวเดินฮัมเพลงมายังตลาด สายตาของนางส่อส่ายหาโอกาสขโมยสิ่งของที่พอจะหยิบฉวยได้ ก่อนนางจะเลื่อนสายตาไปเห็นถุงเงินของชายหนุ่มผู้หนึ่ง โผล่พ้นชายเสื้อออกมา หลันฮวาจึงยิ้มมุมปาก แล้วทำทีเป็เดินชนเขาแล้วใช้่ชุลมุนคว้าเอาถุงเงินนั้นมาด้วยความรวดเร็ว ไม่ทันที่เขาจะรู้ตัว
“อ๊ะ! ข้าซุ่มซ่ามที่ทำให้ท่านต้องเสียเวลา ขออภัยคุณชายอย่าได้ถือโทษข้าเลย” นางก้มหน้าก้มตาขอโทษเขา พลางเก็บถุงเงินเข้าไว้ในซอกเสื้อ แล้วรีบเร่งหันตัวเดินไปอีกทาง เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วนางจึงเปิดถุงเงินออก พบว่ามีอัดจำนวนมากอยู่ในนั้น ดวงตากลมโตเบิกกว้าง พลันอ้าปากค้างแล้วหยิบอัดขึ้นมานับดู ก่อนจะโยนถุงใส่เงินทิ้งแล้วเปลี่ยนถุงใหม่ในทันที
“เท่านี้ก็เรียบร้อย..ข้าจะมีกินมีใช้ไปได้อีกนาน ฮ่า ๆ” หญิงสาวยิ้มย่องออกมาอย่างมีความสุข พลันหันไปเห็นพุทธราเชื่อม ที่เสี้ยมไม้วางซ้อนเป็ชั้น ๆ ดึงดูดให้หลันฮวาเผลอเดินเข้าไป เลื่อนสายตาจับจ้องครู่หนึ่ง พร้อมกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ นางเช็ดปากแล้วหันไปหาเถ้าแก่สูงอายุที่กำลังเสี้ยมพุทธาเชื่อมอยู่
“เถ้าแก่ พุทธาเชื่อมสามไม้” คำพูดของนางทำให้ชายชราชะงักนิ่งเลื่อนสายตามองนางั้แ่ศีรษะจรดปลายเท้า
“เ้าจะมีเงินจ่ายข้าฤาไม่ ข้าขายของมิใช่ให้เ้ากินโดยไม่จ่ายเงิน” เขาถามหลังจากเห็นสภาพมอมแมมของหลันฮวา ก่อนนางจะแย้มยิ้มออกมาจนเห็นฟันซี่ขาว
“มีสิ มากพอจะซื้อได้อีกหลายไม้เลยล่ะ” หลันฮวาควักเงินออกมาแบให้เขาดู
“ได้ ๆ” พ่อค้ารีบหยิบพุทธาเชื่อมให้กับนางพร้อมกับรับเงินไป หญิงสาวเดินกินไปอย่างมีความสุข ก่อนจะหันไปเห็นชายหนุ่มคนเดิมเดินหาถุงเงินของเขาอยู่ตามพื้น ชั่วพริบตาหลันฮวาทำเป็ก้มหน้าหลบไปทางอื่น ทว่าเสียงเรียกของชายหนุ่มคนดังกล่าวจะดังขึ้นจนนางสะดุ้งตัวโหยง
“แม่นาง เ้าเห็นถุงเงินของข้าบ้างฤาไม่ ่เวลาที่ข้าชนกับเ้า มันอาจหล่นหายเวลานั้น” ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด ทว่าหลันฮวารีบปั้นหน้าทำไม่รู้ไม่ชี้
“ข้าจะเห็นได้อย่างไร ถุงเงินของเ้า เ้าไม่เห็นแล้วข้าจะเห็นของเ้าได้อย่างไร” หญิงสาวแสร้งทำน้ำเสียงแข็งกระด้าง พลางคลุมเครือด้วยสายตาล่อกแล่ก ก่อนชายหนุ่มจะจับสังเกตได้ พลันขมวดคิ้วเลื่อนจับสังเกตนางอีกครั้ง
“เ้าไม่เห็นถุงเงินของข้าแน่...ใช่ฤาไม่”
“ข้าไม่เห็น!” หลันฮวาเถียงใส่พร้อมแววตาล่อกแล่กเช่นเดิม พร้อมชายหนุ่มพุ่งเข้ามาจับมือนางไว้แน่นด้วยความสงสัย
“หรือเป็เ้า..ที่เอาถุงเงินข้าไป”
“ข้าจะเอาไปได้อย่างไร อย่าปรักปรำข้านะ ถุงเงินอยู่กับท่าน ท่านทำหายเอง เหตุใดจึงมาปรักปรำข้า” หลันฮวาทำขึ้นเสียงแล้วชี้หน้าเขาเพื่อกลบเกลื่อนความผิดของตัวเอง ชายหนุ่มหรี่ตาลงเล็กน้อย พลันเลื่อนสายตามองนางั้แ่ศีรษะจรดปลายเท้า
“เช่นนั้นข้าจำเป็ต้องค้นตัวเ้าแล้ว” เขาถือโอกาสค้นที่ตัวของนางอย่างไม่ยำเกรง ในขณะที่หญิงสาวพยายามปัดป้องอย่างเต็มที่
“ปล่อยข้านะ เ้าจะทำอันใด ปล่อยนะ” นางร้องลั่นพลางหมุนตัวหนี ทว่าไม่อาจต้านทานแรงของเขาได้ จึงจำนนยอมให้เขาค้นตัวแต่โดยดี หลังจากใช้เวลาครู่หนึ่งในการค้นตัวนางอย่างละเอียด ชายหนุ่มจึงถอนหายใจแล้วทอดสายตามองนางด้วยความรู้สึกผิด
“เจอฤาไม่ ถุงเงินเ้าน่ะ” หลันฮวาตะคอกใส่ เมื่อเขาหาไม่พบ ก่อนนางจะเชิดหน้าขึ้นพลางกอดอก ทำท่าไม่พอใจนัก พลางสลัดตัวเขาออกทันที
“ข้าขอโทษแม่นางด้วย ที่ล่วงเกิน” เมื่อชายหนุ่มค้นไม่พบหลักฐาน จึงค้อมตัวขอโทษนาง ก่อนจะเดินจากไป หลันฮวานึกยิ้มในใจ แล้วพูดออกมาอย่างบางเบา
“หน้าโง่ ใครจะเก็บไว้เป็หลักฐานกันเล่า ข้าโยนถุงใส่เงินของเ้าทิ้งไปนานแล้วต่างหาก ฮึฮึ” หลังจากนั้นหลันฮวาจึงเดินต่อไปเรื่อย ๆ นางเอาเงินที่ขโมยมา ไปซื้อรองเท้า พร้อมกับธัญพืชชนิดต่าง ๆ เพื่อตุนเป็เสบียงไว้กินตอนหลบซ่อนตัว
“เงินข้าเหลืออีกไม่มากแล้ว” หญิงสาวแบมือดูเงินก่อนจะคิดบางอย่างได้
“ข้ายังอยากได้อะไรอีกตั้งหลายอย่าง แต่ต้องเก็บเงินไว้ใช้ในยามอื่น ส่วนยามนี้ข้าต้องหาวิธีอื่นเอาสิ่งของพวกนั้นมา” เมื่อคิดได้ดังนั้น นางจึงหาจังหวะเพื่อขโมยสิ่งของต่าง ๆ จากเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้า สายตากวาดสายตามองหาร้านที่้าก่อนใช้ความว่องไวฉวยสิ่งของติดมือมา โดยที่พวกเขาไม่ทันรู้ตัว เมื่อได้ของจนพอใจ นางจึงตัดสินใจเดินทางกลับโดยเลี่ยงทางเดิม
