“์ที่สาบสูญบ้าบออะไร? มาเจอกันซึ่งๆหน้ากับพวกข้าทหารสี่พี่น้องดูหน่อย! ลองชิม ‘เท้าพิฆาต’ ของข้าสิ!”พี่ใหญ่ยิ้มเยาะก่อนจะเตะใส่ผู้คุมคนหนึ่งซึ่งอยู่ในชุดเกราะลอยขึ้นไปในอากาศ
“เท้าพิฆาตของพี่ใหญ่สุดยอดมาก! น้องรองฉันก็ไม่ได้ฝึกเสียเวลาเปล่าๆ นะ!ลองดูแปดหมัดทะลวงสิบทิศของฉันดูบ้าง!” เ้าสองออกหมัดไปอย่างปรีดีหมัดหนึ่งฟาดเข้าที่ท้องของทหารหุ้มเกราะหนักอีกคน แม้จะมีเกราะหนักแต่พลังทะลุทะลวงของหมัดก็ทำให้ผู้ชายคนนั้นทรุดคุกเข่าลง
“ในที่สุดก็ถึงตาน้องสามแนะนำตัว (ออกโรง) แล้วใช่ไหม? เชิญลิ้มรสมีดสะท้านฟ้าท้าวายุคำรามได้!”ในมือของเ้าสามถือมีดเหล็กไว้สองเล่ม หวดตวัดใส่ผู้คุมที่ล้มลงอย่างบ้าคลั่งคมมีดฉวัดเฉวียนทำให้พื้นผิวของชุดเกราะหนักยับเยินชั้นเหล็กกันะุด้านในถูกเปิดออก
“ทำให้ทุกท่านรอนานแล้ว! อย่ามองว่าฉันเป็น้องเล็กสุดกระบวนดาบของฉันเจ๋งที่สุด! ลองดูนี่ดาบกะโหลกกลืนฟ้านภาหม่นของนายน้อยตระกูลถัง!!!”เ้าสี่ก็ฟันไปยังร่างของยามที่ร่วงอยู่บนพื้น
“พวกแกต้องตั้งชื่อแต่ละท่ายาวขนาดนี้เลยเหรอ?” พี่ใหญ่ไม่ค่อยชอบใจเห็นได้ชัดว่า ‘เท้าพิฆาต’ ของเขาถูกน้องๆ ตั้งชื่อแย่งซีนไปหมด
แม้จำอวดทั้งสี่ชีวิตนี้จะพูดมากแต่ฝีมือของพวกเขาก็ไม่เลวเลย พวกเขาเพิ่งมาถึง์ที่สาบสูญยังไม่ถึงหนึ่งเดือนความหยิ่งผยองนั้นยังไม่เลือนหายไป
“หมายเลข 403 ถึง 406 ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้คุมเปิด ‘เบรก’ ทันที” ผู้คุมรายงานลงไปในหูฟังอย่างเ็า
สี่คนที่เมื่อครู่ซึ่งยังกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวาพอวงแหวนทั้งห้าบนร่างกายของพวกเขาเปล่งประกายแสงสีแดง เสียงสัญญาณเตือนก็ดังขึ้น
ตูม!ตูม! ตูม! ตูม! วงแหวนเหล็กก่อตัวเป็พลังแม่เหล็กไฟฟ้ากำลังสูง ช็อตพวกเขาทั้งสี่ร่วงลงพื้นไปพร้อมๆกัน แม้ว่าพวกเขาจะมีพลังในการเปลี่ยนแปลงพื้นพิภพแต่ก็หมดทางจะยกกำปั้นขึ้นจากพื้นได้อีก
นี่คือสาเหตุที่ทำให้ไม่มีใครกล้าฏต่อ์ที่สาบสูญโลกทั้งใบทำจากเหล็กวงแหวนที่สวมอยู่บนร่างกายสามารถปล่อยแรงแม่เหล็กไฟฟ้ากำลังสูงได้ ไม่ว่าคุณจะเป็มนุษย์ปีศาจ หรือเทพเ้าที่ลงมาจุติบนโลก เมื่อแม่เหล็กไฟฟ้าถูกเปิดใช้งานคุณจะถูกตอกติดกับพื้นไม่สามารถเคลื่อนที่ได้
“เวร! เมื่อครู่นี้พวกแกแน่กันมากไม่ใช่เหรอ?” ผู้คุมทั้งสองตะคอกด้วยความเกรี้ยวกราดพวกเขาโบกแท่งไฟฟ้าช็อตพวกมัน ปราบพี่น้องตัวตลกสี่คนนี้ทันที
“อ๊าก!!!” เสียงกรีดร้องดังก้องภายใต้หลังคาเหล็กของ์ที่สาบสูญบริเวณใกล้เคียงได้กลิ่นหอมของบาร์บีคิวลอยมา
ไม่นานหลังจากนั้นทหารองครักษ์ 8 นายที่สวมชุดโครงกระดูกภายนอกก็ถือปืนะุจริงลงลิฟต์มาพาพวกเขาที่ใกล้ตายทั้งสี่เข้าไปในลิฟต์ ก่อนลิฟต์จะเคลื่อนลงไปยังชั้นล่างต่อไปพระเ้าเท่านั้นที่รู้ว่าพวกเขาจะได้รับการปฏิบัติเช่นไร?
“นายอยู่ที่นี่เอง? ฉันหาจนทั่ว”ขณะที่ฝูงชนแยกย้ายกันไปนั้น ชางหลานตบไหล่เสิ่นิพร้อมยิ้มให้
“นาย ‘ทำงาน’ เสร็จแล้วเหรอ? เร็วจัง…”เสิ่นิเพิ่งจะออกมาเพียง 20 นาที
“อย่ามองว่าพี่เข้มตัวโต จริงๆ แล้วเขาอ่อนมาก นอกจากฉันจะได้กินดีอยู่ดีนอกนั้น 10 นาทีก็เรียบร้อยแล้ว!” ชางหลานกระซิบอีกทั้งใบหน้าเช่นนี้ดูเหมือนจะเป็ของฟุ่มเฟือยใน์ที่สาบสูญ“ดูเหมือนนายจะอยากขึ้นลิฟต์นั่น”
“ทำไมจะไม่อยากล่ะ? นั่นเป็ทางออกทางเดียว” เสิ่นิได้เดินทางไปทั่วทั้ง์ที่สาบสูญภายใน20 นาทีนั้น แต่ก็ไม่พบอุปกรณ์เชื่อมต่อไม่มีทางออกอื่นนอกจากลิฟต์นั่น
“ลิฟต์นั่นพวกเราเรียกมันว่า ‘หนทางสู่์’ความจริงแล้วนายไม่จำเป็ต้องเอาชนะผู้คุมเพื่อขึ้นลิฟต์เลย”
“ยังไง?” เสิ่นิประหลาดใจ
“ก็จ่ายยังไงล่ะ เงินเคอลาไง เงินเคอลา!”ชางหลานยิ้มอย่างสดใสและชี้ไปที่ยอดเงินในบัญชีที่ปรากฏอยู่บนสร้อยข้อมือ“ไปกันเถอะ ฉันจะพานายไปทานอาหารเย็นก่อน แล้วจะค่อยๆ เล่าให้ฟัง”
เกี่ยวกับ์ที่สาบสูญเสิ่นิไม่รู้อะไรเลยทั้งสิ้น แม้ว่ารูมเมทที่อยู่ตรงหน้าเขาจะมีนิสัยชอบขายตุ๋ยแต่เขาก็มีน้ำใจซึ่งเป็ทัศนคติที่ดี
และนั่นเองทั้งสองเดินไปไม่กี่ก้าวก็มาถึงร้านอาหาร เป็ไปตามที่ชางหลานอธิบายทุกอย่างที่นี่ใช้ “เคอลา” เป็หน่วยเงิน การเสิร์ฟมันฝรั่งบดพร้อมน้ำเปล่าราคา 9 เคอลาพอดี
น่าจะเป็เวลาอาหารมีผู้คนมากมายในร้านอาหารอันเรียบง่าย จริงๆ แล้วอาหารในร้านมีหลากหลายแต่ทุกคนมักจะทานมันฝรั่งบดกับน้ำเปล่า และช่างแปลกประหลาดห้องอาหารก็มีโต๊ะและเก้าอี้ไว้บริการ แต่คนส่วนใหญ่เลือกนั่งบนพื้นโดยถือจานและถ้วยพิงผนังเพื่อรับประทานอาหาร
จากคำของชางหลานคนที่นั่งเก้าอี้รับประทานได้ล้วนมีเงิน เพราะที่นั่งเก้าอี้ก็คิดเงิน...1 เคอลา
อย่าดูถูกว่าแค่1เคอลา ใน์ที่สาบสูญ 1 เคอลาปกติจะเท่ากับ1,000 ดอลลาร์สหรัฐ! ไอ้ก้อน “อึ” ที่ลืมใส่เกลือที่เสิ่นิกำลังรับประทานและน้ำเปล่าหนึ่งแก้วนั้นทั้งหมดนั่นมูลค่า 9,000 ดอลลาร์!
ถ้าอยู่ที่โลกภายนอกราคานี้คงได้เป็แขกวีไอพีในภัตตาคารหรู มีแต่ที่์ที่สาบสูญเท่านั้นที่ต้องนั่งกอดเข่าพิงกำแพงรับประทาน
จริงๆแล้ว์ที่สาบสูญแบ่งออกเป็สามชั้น ชั้นที่พวกเขาใช้ชีวิตนี้เรียกว่า“ชั้นชีวิตสัตว์” เป็จุดเริ่มต้นสำหรับผู้มาใหม่ทุกคนใน์ที่สาบสูญมีสัตว์เลี้ยงอยู่ประมาณ 500 ตัว ขึ้นไปอีกชั้นคือ“ชั้นโลกมนุษย์” สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยนั้นเหนือกว่าชั้นชีวิตสัตว์มากมีผู้อยู่อาศัยประมาณ 400 คน ชั้นสูงสุดเรียกว่า“ชั้นสุขาวดี”ว่ากันว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นไม่จำเป็ต้องสวมวงแหวนแม่เหล็กไฟฟ้านอกจากจะจากไปไม่ได้แล้ว ที่เหลือคือสามารถใช้ชีวิตที่มีความสุขราวกับนางฟ้าแต่ไม่ทราบจำนวนผู้อยู่อาศัยที่แน่ชัด
ตามกฎของ์ที่สาบสูญผู้อยู่อาศัยชั้นบนสามารถลงมาชั้นล่างได้ตาม้าเพื่อ‘ระลึกถึงความขมขื่นและความหอมหวาน’แต่คนชั้นล่างที่อยากจะมีชีวิตแบบชนชั้นสูงนั้น มีทางเดียว...
“ต้องจ่าย 1,000 เคอลาถึงจะสามารถซื้อตั๋วไปชั้นโลกมนุษย์ได้ ไม่จำเป็ต้องเป็สัตว์เลี้ยงกินอาหารหมูอันน่าขยะแขยงนี้!” สิ่งที่ชางหลานพูดเกือบจะเป็สิ่งที่อยู่ในใจของคนทั้งหมดบนชั้นชีวิตสัตว์
“1,000เคอลา น่าจะเก็บได้ไม่ยากใช่ไหม?” เสิ่นิสงสัยว่าด้วยการที่ได้ 10 เคอลาต่อวัน กินข้าววันเว้นวัน ไม่ถึง 1ปีก็น่าจะเก็บได้แล้ว
“ฮ่าๆ คุณเสิ่นิช่างไร้เดียงสา ์ที่สาบสูญน่ากลัวกว่าที่คุณคิด” ณขณะนั้น ประตูไม้ของร้านอาหารถูกผลักเปิดออกชายคนหนึ่งสวมเสื้อหนังสวมรองเท้าบูตสีดำเดินเข้ามาชายสี่คนที่อยู่ข้างหลังเขาสวมรองเท้าทุกคนไม่จำเป็ต้องคิดก็รู้ว่านี่คือคนใหญ่คนโตในชั้นชีวิตสัตว์
“วิคเตอร์! เอาเหมือนอย่างเคย!” ชายผิวดำสูง 2 เมตรดีดนิ้วและนั่งบนที่นั่งเฉพาะตรงกลางร้านราวกับเ้าถิ่นเ้าสี่คนที่เหลือนั่งรายล้อมอยู่รอบโต๊ะ
“ผู้ชายคนนั้นมีชื่อว่า ‘เสือดำ’ เป็าาของชั้นชีวิตสัตว์นี้เขารับหน้าที่ดูแลเสือดำเพื่อช่วยผู้คุมดูแลวงการพนันมวยที่นี่ วันหนึ่งๆสร้างรายได้ได้หลายร้อยเคอลา มี 10 คนที่กินข้าวร่วมกับเขาทั้งหมดเป็นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของชั้นชีวิตสัตว์ นอกจากการพนันแล้วพวกเขายังปล้น ปล่อยกู้ บางคนพยายามประหยัดเงินโดยไม่กินข้าวถือโอกาสลดน้ำหนักไปด้วย เ้านั่นชื่อ ‘หัวเราะก๊าก’ น้ำหนักลงไป 15 กิโลกรัมใน 3 เดือน ตอนเข้ามายังอ้วนตุ๊ต๊ะ ตอนนี้เหลือแต่กระดูกลมพัดก็ล้มอดนานเกินไป ร่างกายไร้เรี่ยวแรง เลยถูกเสือดำปล้น เงินที่เก็บไว้ก็ถูกฉกไปด้วย”ชางหลานถอนหายใจ
“ไม่มีใครสนใจเหรอ?” เสิ่นิกล่าวอย่างหดหู่์ที่สาบสูญแห่งนี้ก็คือ์ของอาชญากรรม
“ใครจะสน? ผู้คุมเ่าั้ต้องแน่ใจแค่ 2 เื่เท่านั้น 1. เรายังมีชีวิตอยู่ 2. เชื่อฟังและไม่ฏ เื่อื่นๆ พวกเราทำได้แค่ดูแลตัวเอง”ชางหลานรีบกินมันฝรั่งบดในจานและดึงเสิ่นิเดินไปยังทางออกร้านอาหาร
คนที่มาใหม่มักจะเป็เหยื่อตัวโปรดของเสือดำชั้นชีวิตสัตว์กว้างแค่นี้ สังเกตเห็นผู้มาใหม่ได้ง่ายมากชางหลานไม่อยากให้เสิ่นิตกเป็เป้า
แต่ก่อนที่พวกเขาจะออกไปเสิ่นิและเสือดำก็ได้สบตากันแล้วประสบการณ์ทำให้พวกเขาเข้าใจได้ถึงอันตรายของกันและกัน เหมือนเสือเห็นสิงโตััได้ถึงรังสีเพชฌฆาตของอีกฝ่ายโดยสัญชาตญาณเสมอ
“ดูเหมือนว่าจะมีผู้ชายที่น่าทึ่งอยู่ที่นี่?” ขณะที่เสือดำทานสปาเกตตีซอสเนื้อเขาก็ยิ้มขึ้นมา
“ความจริงแล้ว ขอแค่มีวิสัยทัศน์ ์ที่สาบสูญก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหนทางสู่์คือความฝันของทุกคน เพื่อไปยังชั้นโลกมนุษย์เมื่อไปที่นั่นได้ก็จะสามารถเริ่มสนุกกับชีวิตปกติได้ ไม่โดนคุกคามจากเสือดำทุกวันได้ค่าครองชีพขั้นพื้นฐาน 50 เคอลาสามารถทานอาหารธรรมดาๆ ได้นอนบนเตียงฟูก ได้ใส่เสื้อผ้าฝ้าย”นั่งอยู่ริมห้องใกล้กับทางเดินสู่์ ชางหลานวาดภาพอันงดงามสิ่งที่เขาพูดคือชีวิตที่ธรรมดาที่สุดของมนุษย์ทั่วไป แต่ใน์ที่สาบสูญชีวิตเช่นนั้นช่างหรูหรา
“ชางหลาน คุณอยู่ที่นี่มานานเท่าไรแล้ว?” เสิ่นิถามเบาๆ
“2 ปีได้แล้วล่ะมั้ง?” ชางหลานนับ
“ฉันมีเวลาแค่ 3 เดือน ภายใน 3 เดือนฉันจะต้องออกไปจากที่นี่อย่างแน่นอน”
“ฮ่าๆ ความจริงทุกคนที่ถูกคุมขังอยู่ที่นี่ก็มีแรงจูงใจเช่นเดียวกับคุณแต่คนที่สามารถรักษาความมุ่งมั่นนี้ได้หลังจากผ่านไปครึ่งปีแทบจะไม่หลงเหลืออยู่หลายคนพยายามโจมตีผู้คุม แม้กระทั่งการแหกคุก ในที่สุดพวกเขาก็ถูกจับกุมฉันได้ยินมาว่ารังมดชั้นใต้ดินใต้ชั้นชีวิตสัตว์ เป็นรกของแท้สัตว์เลี้ยงทั้งหมดที่ถูกทำลายในรังมด หลังจากออกมาได้ก็จะสงบเสงี่ยม คุณเป็คนดีอย่างน้อยคุณก็ไม่เคยพูดจาหยาบคายกับฉัน หรือดูถูกที่ฉันขายบริการ ฉันไม่อยากให้คุณกลายเป็‘มด’ ” ชางหลานมองเสิ่นิและเอียงศีรษะพลางอมยิ้มปลายนิ้วเรียวเสยผมม้าตรงหน้าอันเบาบางออกไป บ้าจริง!มีผู้ชายหน้าตาดีขนาดนี้ตกมาถึงที่นี่ได้ยังไง ตนออกปากชมเขาไปถึงสองครั้งแล้วพ่อหนุ่มคนนี้คงจะหวั่นไหวอยู่บ้างใช่ไหม?
และในขณะนั้นที่ชั้นบนสุดชั้นสุขาวดีของ์ที่สาบสูญ ในห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่มูชิชิในชุดคลุมสีขาวยืนอยู่หน้ากล้องจุลทรรศน์เขาใช้มีดผ่าตัดขนาดเล็กเท่าไมโครมิเตอร์ในมือ ทำการผ่าตัดทรวงอกมดและชูหัวใจดวงน้อยขึ้นต่อหน้า มันยังคงเต้นอยู่
คู่ขากรรมการในที่ประชุมของซากุระร่วงโรยอายุ 50ปี ผมสีเทามีแผลเป็การผ่าตัดจากหน้าผากข้ามดั้งจมูกไปยังถึงใบหน้าด้านข้าง เหมือน“แบล็กแจ็ก หมอปีศาจ” ในผลงานของเทซูกะ โอซามุ
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นในหูฟังบลูทูธของมูชิชิมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถโทร.หาเขาตอนอยู่ที่นี่ได้
"สหายเก่า คุณกำลังทำอะไรอยู่?” กรรมการในที่ประชุมยิ้มแฉ่ง
“ยุ่งนิดหน่อย คุณโทร.หาผมมีเื่อะไร?” มูชิชิถามในขณะที่ทำการผ่าตัด
“ผมส่งหนูตะเภาที่แสนดีให้คุณ เป็วิวัฒนาการโครงสร้างทางพันธุกรรมคุณสามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้ เพียงส่งสำเนาเอกสารการวิจัยมาให้ผมอีกฉบับด้วย”
“ได้รับแล้ว หนูตะเภาที่คุณส่งมาก็บอกว่าน่าสนใจทุกตัวไม่ใช่หรือแต่พอเล่นไม่นานก็พังหมดแล้ว ผมไม่ได้รีบร้อน ถ้ามันยอดเยี่ยมจริงรอให้มันไต่ระดับขึ้นมา ‘ชั้นโลกมนุษย์’ ก่อน แล้วผมค่อยเริ่มลงมือ”มูชิชิกล่าวอย่างไม่เห็นคุณค่า
“คุณน่ะ ช่างเอาแต่ใจ แต่ก็ไม่เป็ไร ผมเชื่อว่าเขามีความสามารถขนาดนั้นเอาล่ะ ไม่รบกวนคุณแล้ว อย่างไรก็ตามคะแนนการทดสอบของลูกคุณอยู่ในเกณฑ์ดีได้รายงานตัวกับ ‘โทได’ แล้ว ลอยลำมาเห็นๆ”
“หลายปีมานี้ ผมต้องขอบคุณที่ช่วยดูแลพวกเขา…” พอพูดถึงครอบครัวในที่สุดมือของมูชิชิก็หยุดชะงัก
“คุณกับผมเป็คนอื่นคนไกลที่ไหน? ยังต้องพูดคำว่า‘ขอบคุณ’ ทำไมกัน? วางสายก่อนล่ะ คุณไปทำธุระเถอะ”กรรมการในที่ประชุมหัวเราะเอิ๊กอ๊าก