เมื่อมาถึงด้านหน้าของมหาวิทยาลัยคุนิหลินเยว่จึงโทรศัพท์หาหลี่ชิงเมิ่ง
เพียงไม่นาน หลี่ชิงเมิ่งในชุดเสื้อยืดสีขาวและกระโปรงจีบรอบสีดำก็ปรากฏตัวขึ้นเธออยู่ในชุดเรียบง่ายแต่กลับทำให้รูปร่างอรชร สองขาเรียวยาวอวดโฉมอย่างโดดเด่นเธอสวยบริสุทธิ์แต่ก็ดูเ็าราวกับน้ำค้างแข็งในยามเหน็บหนาวไม่ว่าเธอจะเดินไปถึงที่ไหนก็จะมีคนเหลียวหลังหันมามองเธอ 100% อย่างแน่นอน
เมื่อหลินเยว่เห็นหลี่ชิงเมิ่งดวงตาของเขาก็เป็ประกาย
ช่างสวยจริงๆ!
แต่เขารู้สึกชื่นชมเพียงอย่างเดียวเท่านั้นเพราะเขาไม่กล้าคิดเกินเลยกับศิษย์พี่คนงามคนนี้อยู่แล้ว อีกอย่าง ตอนนี้เขาก็ยังมีฉินเหยาเหยาอยู่ด้วย
หลินเยว่เดินลงมาจากรถและเข้าไปต้อนเธอพร้อมพูดทักทาย“ศิษย์พี่”
เมื่อเห็นว่าหลินเยว่เดินลงมาจากรถเบนซ์หลี่ชิงเมิ่งจึงมองด้วยสายตาประหลาดใจ หลังจากนั้นจึงกลับมาเป็ปกติ เธอพยักหน้ารับด้วยสีหน้าราบเรียบ“อาจารย์รอคุณอยู่ด้านในน่ะ”
หลินเยว่พยักหน้ารับเขาเปิดประตูรถ แล้วทำท่าเชิญให้กับหลี่ชิงเมิ่งพร้อมพูดขึ้น“ศิษย์พี่ช่วยบอกทางหน่อย ทางมหา’ลัยคงไม่ได้ห้ามให้รถเข้าหรอกนะ?”
หลี่ชิงเมิ่งส่ายศีรษะเธอเดินขึ้นไปนั่งบนรถของหลินเยว่อย่างไม่ลังเล
เมื่อนักศึกษามหาวิทยาลัยที่อยู่แถวๆนั้นเห็นราชินีน้ำแข็งที่ไม่เคยมีใครทำลายความเ็านี้ได้เลย กลับยืนคุยอยู่กับชายหนุ่มคนหนึ่งที่หน้ามหาวิทยาลัยอีกทั้งยังขึ้นไปนั่งบนรถเบนซ์ของผู้ชายคนนั้นอีกด้วย ดังนั้นทุกคนที่เห็นเหตุการณ์นี้ต่างได้ยินเสียงสองอย่างดังขึ้นอย่างชัดเจน
เสียงหนึ่งคือเสียงแว่นตาตกแตกกระจายบนพื้นอีกเสียงคือเสียงหัวใจแตกละเอียด
ราชินีน้ำแข็งที่ตลอด 4 ปีมานี้ยังไม่เคยคุยกับนักศึกษาชายคนไหนเกิน 10 ประโยคในครั้งเดียว แต่วันนี้กลับคุยกับผู้ชายคนหนึ่งและดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะไม่ธรรมดาเสียด้วย ที่สำคัญที่สุดก็คือเธอนั่งในรถของผู้ชายคนนั้น!
ทุกคนที่แอบหลงรักราชินีน้ำแข็งต่างรู้สึกหัวใจสลายพวกเขาเคยแอบฝันไว้ว่าตนเองจะสามารถหลอมละลายรูปปั้นน้ำแข็งที่ห่อหุ้มเธออยู่ด้านนอกได้สักวันแต่ทว่าั้แ่ความฝันดับสลายไปแล้ว พวกเขาจึงหวังว่าเธอจะอยู่เป็โสดตลอดไปถึงแม้ว่าตนเองจะไม่ได้ แต่การได้มองเธอจากที่ไกลๆ ก็ถือเป็ความสุขอย่างหนึ่ง
แต่ทว่าตอนนี้เธอกลับเข้าไปนั่งในรถของผู้ชายคนหนึ่ง
ผู้ชายคนนี้เป็ใครกัน???
ผู้ชายทุกคนต่างตั้งคำถามนี้ในใจอย่างบ้าคลั่งดวงตาทั้งสองข้างของพวกเขาต่างจ้องมองท้ายรถเบนซ์สีบรอนซ์เงินที่ค่อยๆห่างออกไปคันนั้นด้วยสายตาโมโหจัด
ประกายสีบรอนซ์เงินหายไปเหลือทิ้งไว้เพียงความเ็ปของคนนับไม่ถ้วน
คืนนี้ไม่รู้ว่าจะมีนักศึกษาหนุ่มรักเดียวใจเดียวตั้งกี่คนที่จะต้องนอนไม่หลับและจะมีคนอีกสักกี่คนที่ปลอกหมอนจะต้องชุ่มไปด้วยหยดน้ำตา
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะผู้ชายคนหนึ่ง!
ขณะที่หลินเยว่ขับรถพาหลี่ชิงเมิ่งเข้าไปในบริเวณมหาวิทยาลัยคุนินั้นข่าวลือที่ว่าหลี่ชิงเมิ่งมีแฟนแล้วจึงถูกลือสะพัดไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็วราวกับถูกติดปีก
ทุกหนทุกแห่งในมหาวิทยาลัยคุนิจะสามารถได้ยินเสียงซุบซิบ......
“ศิษย์พี่อาจารย์เรียกผมมาทำไมหรือ?”
หลังจากหลินเยว่จอดรถและลงจากรถพร้อมกับหลี่ชิงเมิ่งแล้วเขาจึงถามเธอขึ้นมา เวลานี้ ปลายจมูกของเขาก็ดูเหมือนจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ หลงเหลืออยู่มันเป็กลิ่นหอมที่กระจายออกมาจากร่างของหลี่ชิงเมิ่งตอนที่นั่งอยู่ในรถ
“จะให้คุณพูดบรรยายให้กับนักศึกษาปี1 น่ะ”
หลี่ชิงเมิ่งพูดตอบเรียบๆเธอเดินตรงไปยังตึกเรียนตึกหนึ่ง
พูดบรรยาย?
หลินเยว่ตกตะลึงไปทันทีอาจารย์จะให้เขาพูดบรรยายเื่อะไรล่ะ?
เมื่อเห็นว่าหลี่ชิงเมิ่งเดินนำไปไกลแล้วเขาจึงรีบซอยเท้าตามขึ้นไป
“ศิษย์พี่อาจารย์จะให้ผมพูดบรรยายเื่อะไรหรอ?” เมื่อเดินตีคู่กับหลี่ชิงเมิ่งแล้วหลินเยว่จึงถามขึ้นมาอย่างร้อนใจ ตอนนี้เขารู้สึกว่ากำลังจะเกิดปัญหาใหญ่ขึ้น มันเป็ปัญหาหนักที่เขาคาดไม่ถึงจริงๆ
“ถึงแล้วเดี๋ยวคุณก็รู้เอง”
ขณะที่พูดหลี่ชิงเมิ่งก็เลี้ยวไปทางหนึ่งแล้วก็เดินตรงไป
หลินเยว่จึงได้แต่เดินตามอย่างจนปัญญา
ตอนนี้เป็่ต้นเดือนมิถุนายนแล้วนักศึกษาชั้นปี 4 ที่กำลังจะจบการศึกษาก็ต้องเตรียมตัวจากมหาวิทยาลัยแล้วทำให้บรรยากาศรอบๆ มหาวิทยาลัยจึงมีความเศร้าโศกที่เกิดจากการจากลาอยู่บ้าง
ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของบริเวณมหาวิทยาลัยก็จะเห็นนักศึกษาชั้นปี4 สวมชุดรับปริญญาหาสถานที่ต่างๆถ่ายรูปเก็บไว้ ดูเหมือนว่าพวกเขา้าจะเก็บทุกๆ มุมของมหาวิทยาลัยไว้ในภาพถ่ายแต่ทว่าในความเป็จริงนอกจากจะมีมหาวิทยาลัยอยู่ในความทรงจำแล้วก็ไม่เหลือสิ่งอื่นๆ อีกเลย
หลินเยว่มองนักศึกษาที่ใกล้จะจบการศึกษากำลังหัวเราะหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานเขาจึงคิดถึงตนเองในเวลานั้น เขาก็เหมือนกับพวกเขาเหล่านี้ ไม่มีความกังวลใดๆแต่เมื่อผ่านไปเพียงหนึ่งเดือน เขาถึงได้รู้ว่าสังคมภายนอกมันมีความซับซ้อนมากและตนเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยชั่วพริบตาเวลาก็ผ่านไปถึง 3 ปีแล้วตอนนี้เขาก็ถือว่าประสบความสำเร็จในด้านการงานส่วนนักศึกษาที่กำลังจะจบเหล่านี้จะมีสักกี่คนที่จะสามารถตั้งตัวได้อยู่ในสังคมปัจจุบัน
ขออวยพรให้พวกเขาโชคดีละกัน!
หลินเยว่ได้แต่รำพึงในใจ
ไม่ว่าจะเป็นักศึกษาชั้นปี4 ที่กำลังจะเรียนจบหรือว่าจะเป็นักศึกษาชั้นอื่นๆ ที่ผ่านไปผ่านมา เมื่อพวกเขาเห็นหลินเยว่อยู่ด้วยกันกับหลี่ชิงเมิ่งพวกเขาก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ
ราชินีน้ำแข็งอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง?
มันเป็ไปได้อย่างไร?
แต่เหตุการณ์เบื้องหน้ามันก็เกิดขึ้นจริงๆทำให้พวกเขาจำเป็ต้องเชื่อกับเหตุการณ์นี้
ขณะที่ทุกคนยังทำตัวไม่ถูกนั้นราชินีน้ำแข็งและผู้ชายคนนั้นก็ได้เดินเข้าไปในตึกเรียนตึกหนึ่งแล้ว
หลินเยว่เดินเลี้ยวซ้ายทีขวาทีอยู่ในตึกเรียนจนทำให้เขาเริ่มมึนงงแต่ทว่าเพียงไม่นานพวกเขาก็เดินมาถึงหน้าประตูห้องเรียนห้องหนึ่ง
“รอแป๊บนึงก่อน”น้ำเสียงของหลี่ชิงเมิ่งก็ยังคงดูเ็าเหมือนเดิม
หลินเยว่พยักหน้ารับเขาเห็นว่าอาจารย์ของตนกำลังพูดบรรยายอยู่
และเขาก็พบว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาตรงทางเดินต่างแอบมองเขากับหลี่ชิงเมิ่ง
หรือว่าเขาจะหล่อขึ้น?
หลินเยว่แอบคิดอย่างหลงตัวเองแต่ผลปรากฏว่าเขาพบว่าสายตาของคนจำนวนมากที่มองมายังเขากลับเต็มไปด้วยความเป็อริซึ่งก็ทำให้เขาข้องใจอย่างหนัก หรือว่าคนพวกนี้จะอิจฉาที่เขาหล่อเกินจนไป?
ขณะที่หลินเยว่ยังไม่เข้าใจอะไรนักออดเลิกเรียนก็ดังขึ้นมา
เมื่อท่านฉางไท่เดินออกมาจากห้องหลินเยว่จึงรีบโค้งตัวทำความเคารพอย่างนอบน้อมพร้อมกับพูดทักทายอาจารย์ของตน“อาจารย์ครับ”
ท่านฉางไท่พยักหน้ารับแล้วก็บอกวัตถุประสงค์ของตนเองออกมาทันที “มาก็ดีแล้วครั้งนี้ที่อาจารย์ให้คุณมาที่นี่ก็เพื่อให้คุณพูดบรรยายให้กับพวกเด็กปี 1 ฟัง ครั้งที่แล้วพวกเขารู้สึกไม่เชื่อในเื่ที่คุณลงมีด10 ครั้ง สามารถผ่าโดนธูป 9 ครั้ง ดังนั้นเพื่อให้พวกเขาตั้งใจเรียนในวิชานี้อาจารย์จึงให้คุณมาสาธิตต่อหน้าพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง”
หลินเยว่ไม่เห็นสีหน้าโมโหของท่านฉางไท่เลยแต่กลับเห็นรอยยิ้มเล็กน้อย ดังนั้นจึงทำให้เขารู้สึกว่าเขากำลังถูกหลอกให้มาเสียแล้วเพราะเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเหมือนกับคำพูดที่อาจารย์ของตนพูดออกมาเขารู้สึกว่าท่านฉางไท่เจตนาให้เขามาโชว์การผ่าธูปที่นี่มากกว่า
“เป็อย่างไรล่ะ?คุณคงไม่ตื่นสนามหรอกนะ?” ท่านฉางไท่ถามขึ้นมาอีกครั้ง
หลินเยว่ส่ายศีรษะแล้วพูดตอบ“ขอแค่อย่าให้ผมต้องพูดบรรยายก็พอ ส่วนเื่อื่นๆ ก็ไม่เป็ปัญหา” ขณะที่พูด เขาก็หยิบมีดแกะสลักจันทราหนาวเหน็บขึ้นมา
เขารู้ตัวดีอยู่เหมือนกันว่าตอนนี้เขายังไม่ได้เรียนการแกะสลักเลยแล้วเขาจะมีอะไรเอามาพูดบรรยายออกมาได้ล่ะ ขืนขึ้นไปพูดก็คงจะมีแต่ความขายหน้าเพียงอย่างเดียวการขายหน้าตัวเองก็ยังเป็เื่เล็ก แต่หากทำให้อาจารย์ของเขาต้องขายหน้าไปด้วยก็คงจะกลายเป็เื่ที่ใหญ่มาก
“พูดแนะนำตัวเองเท่านี้คงได้อยู่ใช่ไหมล่ะ”ท่านฉางไท่ถามขึ้น
“เื่นี้ได้ครับ”
“ให้เวลาคุณแนะนำตัวเอง15 นาที”
“...... เอ่อ...... ให้เวลานานเกินไปหรือเปล่าครับ?”
“อาจารย์ยังคิดว่าสั้นเกินไปเลยล่ะ”
และเวลานี้เองที่มีนักศึกษาที่เดินออกจากในห้องเรียนบางส่วนออกมาสูดอากาศข้างนอก และมีบางส่วนออกมาเข้าห้องน้ำสายตาของพวกเขาต่างแอบมองหลินเยว่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เมื่อััได้กับสายตาของพวกนักศึกษาเหล่านี้หลินเยว่จึงได้แต่ฝืนยิ้มออกมา ขณะเดียวกันเขาก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นและคาดหวัง
ดูจากสถานการณ์นี้แล้วอาจารย์ของตนก็คงพูดถึงเขาอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้