บทที่ 5 : ปาฏิหาริย์นายช่างตัวน้อย (และการปรากฏตัวของ...)
รถกระบะมาสด้าแฟมิเลียสีเขียวบุโรทั่งของโรงงานแล่นฉิวไปตามถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน ฝุ่นตลบฟุ้งกระจายตามหลัง แข่งกับเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า
รินรดานั่งกอดเฟืองเหล็กที่ห่อด้วยหนังสือพิมพ์เปื้อนน้ำมันไว้แน่น สายตาจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง หัวใจเต้นแรงผิดจังหวะ
ไม่ใช่เพราะตื่นเต้นเื่ซ่อมเครื่องจักร... เื่นั้นเธอ ‘เอาอยู่’ สบายมาก
แต่ที่ใจสั่น เพราะเธอกำลังจะได้เจอกับ ‘เขา’
‘สิงห์’ หรือ ‘สิงหราช’
ในชาติที่แล้ว เขาคือประธานบริษัทโลจิสติกส์ั์ใหญ่ที่เ็าและเข้าถึงยาก คู่ค้าธุรกิจที่เธอแอบปลื้มอยู่ห่างๆ แต่ไม่เคยกล้าสานสัมพันธ์เพราะตอนนั้นเธอมีพันธะ (สามีเฮงซวย) อยู่แล้ว
แต่ในตอนนี้... ปี 2538 เขาคือวัยรุ่นหนุ่มเ้าของอู่ซ่อมรถเล็กๆ ที่มีข่าวลือหนาหูว่า ‘ดุ’ และ ‘เถื่อน’ ที่สุดในย่านนี้
“ถึงแล้วคุณหนูริน” เสียงลุงหมาย คนขับรถวัยดึกร้องบอก พร้อมกับหักพวงมาลัยเลี้ยววูบเข้าซอย
ป้ายไม้เก่าๆ เขียนด้วยสีน้ำมันสีแดงหวัดๆ ว่า ‘อู่สิงห์คำ’ แขวนเอียงกระเท่เร่ต้อนรับผู้มาเยือน
บรรยากาศภายในอู่เต็มไปด้วยกลิ่นน้ำมันเครื่อง ควันเชื่อมโลหะ และเสียงเพลงร็อกหนักหน่วงของวง Hi-Rock ที่เปิดดังลั่นลำโพงแตกๆ รถมอเตอร์ไซค์แต่งซิ่งจอดเรียงรายอยู่นับสิบคัน ทั้ง Honda Nova Dash, Yamaha VR ไปจนถึงรถกระบะโหลดเตี้ย
“รออยู่บนรถนะจ๊ะลุง เดี๋ยวหนูมา”
รินรดาะโลงจากรถ กอดห่อเฟืองแน่น เดินฝ่าดงช่างวัยรุ่นผมยาวเฟื้อยที่หันมามองเธอเป็ตาเดียว เด็กนักเรียนหญิงมัธยมต้นหน้าตาจิ้มลิ้ม เดินเข้ามาในดงผู้ชายดิบเถื่อนแบบนี้... มันผิดที่ผิดทางชัดๆ
“น้องสาว! มาผิดที่ป่าวจ๊ะ? โรงเรียนอนุบาลไม่ได้อยู่แถวนี้นะ” ช่างลูกน้องคนหนึ่งแซวขึ้นมา ตามด้วยเสียงหัวเราะครืน
รินรดาไม่สนใจ เธอสวาดสายตามองหาเป้าหมาย
และเธอก็เจอ...
ลึกเข้าไปด้านในสุด ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ในชุดหมีช่างสีเขียวขี้ม้าครึ่งท่อน เผยให้เห็นเสื้อกล้ามสีขาวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อที่แนบไปกับมัดกล้ามเนื้อแน่นปึ้ก เขากำลังยืนหันหลัง ก้มหน้าก้มตาเชื่อมท่อไอเสียรถมอเตอร์ไซค์อยู่ แสงไฟจากการเชื่อม (Arc Welding) สว่างวาบๆ ตัดกับความมืดสลัว
“ขอโทษนะคะ!” รินรดาะโแข่งกับเสียงเพลง
ชายหนุ่มคนนั้นชะงัก หยุดมือจากการเชื่อม แล้วค่อยๆ หันกลับมา
เขาดึงหน้ากากเชื่อมขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าที่คมคาย คิ้วเข้มดกหนาพาดเฉียงเหนือรสยตาที่ดุดัน จมูกโด่งเป็สัน และริมฝีปากหยักลึกที่คาบบุหรี่มวนหนึ่งเอาไว้ (แต่ไม่ได้จุด)
‘พี่สิงห์...’
รินรดาเผลอกลั้นหายใจ ภาพจำของประธานหนุ่มใส่สูทเนี้ยบในอนาคต ทับซ้อนกับภาพช่างหนุ่มสุดเซอร์ตรงหน้า... เวอร์ชันนี้ดู ‘อันตราย’ ต่อหัวใจชะมัด
“มีอะไร?” เสียงทุ้มห้าวถามห้วนๆ สายตาคมกริบกวาดมองเด็กสาวหัวจรดเท้า “อู่ปิดรับงานแล้ว ถ้าจะปะยางไปร้านหน้าปากซอย”
“ไม่ได้มาปะยางค่ะ” รินรดาตั้งสติ เดินเข้าไปวางห่อเฟืองลงบนโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเครื่องมือ “ฉันอยากให้ช่วย ‘พอกผิว’ เฟืองตัวนี้ แล้วเจียรให้ได้ศูนย์... ด่วนที่สุด”
สิงห์เลิกคิ้วเล็กน้อย หยิบเฟืองเปื้อนน้ำมันขึ้นมาดู พลิกไปมา
“เฟืองเครื่องจักรโรงงาน? เหล็กเกรดแข็ง (Hardened Steel) นี่หว่า...” เขาพึมพำ ก่อนจะโยนมันลงบนโต๊ะดัง ตึง!
“กลับไปซะ ที่นี่อู่ซ่อมรถ ไม่ใช่โรงกลึงโรงงาน ฉันไม่มีลวดเชื่อมเกรดนี้ และไม่มีเวลามาเล่นขายของกับเด็ก”
เขาหันกลับไปจะหยิบหัวเชื่อมต่อ เป็การไล่ทางอ้อม
แต่รินรดาไม่ยอมแพ้
[เปิดใช้งานสกิล: วิเคราะห์โครงสร้าง (Structural Analysis) Lv.1 - เป้าหมาย: พื้นที่อู่]
สายตาของเธอสแกนไปทั่วอู่ แสงสีฟ้าในนิมิตชี้เป้าไปที่มุมหนึ่งที่มีผ้าใบคลุมอยู่
“มีสิ...” รินรดาพูดเสียงดังฟังชัด “พี่มีเครื่องกลึงยันม่าร์รุ่นเก่าที่ดัดแปลงหัวจับ (Chuck) แล้ว และพี่ก็มีลวดเชื่อมสเตลไลท์ (Stellite) เหลืออยู่ครึ่งกล่อง ตรงชั้นวางของชั้นที่สองนั่น”
สิงห์ชะงักกึก หันขวับกลับมามองหน้าเด็กสาวอีกครั้ง คราวนี้แววตาเปลี่ยนจากรำคาญเป็ประหลาดใจ
“เธอรู้ได้ไง?”
“ฉันรู้ก็แล้วกัน” รินรดาสบตาเขาอย่างท้าทาย “ฉันขอเวลาแค่ 30 นาที พี่แค่ช่วยเชื่อมพอกผิวให้ฉัน ส่วนเื่เจียรแต่ง... ฉันจะทำเอง”
“เธอเนี่ยนะจะเจียร?” สิงห์แค่นหัวเราะ “ยัยหนู เครื่องกลึงนั่นมันแรงบิดสูงนะ พลาดนิดเดียวนิ้วขาดไม่รู้ตัว กลับไปดูการ์ตูนช่อง 9 เถอะไป”
“ถ้าฉันทำไม่ได้ หรือทำเครื่องพี่พัง ฉันจะให้พ่อยกรถกระบะคันนั้นให้พี่ฟรีๆ เลย!”
รินรดาชี้ไปที่รถมาสด้าแฟมิเลียของโรงงาน (ลุงหมายที่นั่งรออยู่สะดุ้งเฮือก) “แต่ถ้าฉันทำได้... พี่ต้องคิดราคาฉันแค่ครึ่งเดียว ตกลงไหม?”
สิงห์มองหน้าเด็กสาวตัวเล็กที่ใจกล้าบ้าบิ่นเกินตัว เขามองลึกเข้าไปในดวงตากลมโตคู่นั้น... มันไม่มีแววล้อเล่น มีแต่ความมุ่งมั่นที่ร้อนแรงเหมือนไฟเชื่อม
เขายิ้มมุมปาก... รอยยิ้มที่ทำให้โลกสว่างไสวขึ้นมาทันตา
“ปากเก่งดีนี่... เอ้า! ลองดู ถ้าทำพังฉันยึดรถจริงๆ นะ”
...
15 นาทีต่อมา
เสียง จี๊ดดดดด! ของหินเจียรดังสนั่นไปทั่วอู่
สิงห์ยืนกอดอกพิงเสา มองดู ‘การแสดง’ ตรงหน้าด้วยความทึ่ง
หลังจากที่เขาเชื่อมพอกผิวเฟืองให้เสร็จตามคำขอ (ซึ่งเขายอมรับในใจว่าเด็กนี่สั่งสเปกงานได้แม่นยำราวมืออาชีพ) รินรดาก็เข้าไปคุมเครื่องกลึงด้วยตัวเอง
ท่าทางขยับพวงมาลัยเครื่องกลึง (Handwheel) ของเธอนั้นคล่องแคล่ว สายตาจดจ้องอยู่ที่ชิ้นงาน เศษเหล็กไฟแลบกระเด็นเฉียดแก้มใสๆ แต่เธอไม่กะพริบตาแม้แต่น้อย
[ระบบช่วยเล็งพิกัด: ความคลาดเคลื่อน 0.05 มม... ปรับลดกินลึกอีก 0.02 มม.]
เสียงในหัวคอยกำกับ รินรดาขยับมือตามอย่างแม่นยำ
“เสร็จแล้ว!”
รินรดาปิดสวิตช์เครื่อง หมุนคลายหัวจับ แล้วหยิบเฟืองที่เงาวับเหมือนใหม่ขึ้นมาใช้เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์วัดขนาดโชว์
“ค่าความคลาดเคลื่อน (Tolerance) ไม่เกิน 0.1 มิลลิเมตร... พอใจไหมคะนายช่าง?”
สิงห์เดินเข้ามาใกล้ รับเฟืองไปส่องดู เขาใช้นิ้วลูบผิวงานที่เรียบเนียนกริบ... งานระดับนี้ ช่างกลึงประสบการณ์ 10 ปียังอาย
เขามองหน้าเด็กสาว ม.3 ที่ตอนนี้หน้าตามอมแมมไปด้วยคราบน้ำมันและเขม่าดำ แต่ทำไม... มันถึงดู ‘สวย’ กว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยเจอ
“ไม่เลว...” สิงห์พูดเสียงเรียบ พยายามเก็บอาการ “ชื่ออะไรเราน่ะ?”
“ริน... รินรดา”
“ฉันชื่อสิงห์” เขาหยิบผ้าขี้ริ้วโยนลงบนหัวเธอเบาๆ “เช็ดหน้าซะ มอมแมมเป็ลูกแมวตกถังน้ำมันแล้ว”
รินรดาหัวใจกระตุกวูบกับััห้วนๆ แต่อบอุ่นนั่น เธอรีบเช็ดหน้าแก้เขิน
“ตกลงค่าซ่อมเท่าไหร่คะ? ลดครึ่งราคาตามสัญญานะ”
“เอาไปเถอะ” สิงห์โบกมือไล่ “ถือว่าเลี้ยงค่าดูโชว์ลิงเล่นละครสัตว์”
“อ้าว! พี่สิงห์!”
“รีบกลับไปได้แล้ว เดี๋ยวโรงงานพ่อเธอจะเจ๊งซะก่อน... แล้วก็...”
สิงห์ชะงักนิดหนึ่ง ก่อนจะหันหลังกลับไปหยิบหน้ากากเชื่อม
“ว่างๆ ก็แวะมาอีกแล้วกัน... พอดีมีคู่มือเครื่องยนต์ภาษาอังกฤษที่อ่านไม่ออก อยากให้ช่วยแปลหน่อย”
รินรดายิ้มกว้างจนแก้มปริ เธอกอดเฟืองไว้แนบอก ยกมือตะเบ๊ะให้เขาอย่างน่ารัก
“รับทราบค่ะนายช่าง! ไว้เจอกันนะ!”
รินรดาวิ่งกลับไปขึ้นรถกระบะ หัวใจพองโตคับอก
เฟืองซ่อมเสร็จแล้ว... โรงงานรอดแล้ว
และที่สำคัญ... เธอได้ ‘ใบผ่านทาง’ เข้าสู่ชีวิตของสิงห์อย่างเป็ทางการแล้ว!
รถกระบะแล่นออกจากอู่ไปแล้ว แต่สิงห์ยังคงยืนมองตามไฟท้ายรถไปจนลับสายตา เขายกมือขึ้นลูบที่อกข้างซ้ายตัวเองเบาๆ
“เด็กบ้าอะไรวะ... ทำเอาใจสั่นชิบเป๋ง”
