เย่เฟิงหงายหลังล้มเพราะไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ ไม่เพียงร่างกายเป็อัมพาตจากผลของยาพิษเท่านั้น แต่แขนยังได้รับาเ็จากมีดบินจนเืสีแดงสดไหลอาบ ทำให้เขาฝืนไม่ไหวอีก
ขณะนั้นชายหนุ่มคิดว่าตนต้องล้มศีรษะฟาดพื้นจนเห็นดาวแน่นอน คาดไม่ถึงว่าจะตกสู่พื้นที่นุ่มนิ่มราวล้มตัวลงบนหมอน จึงถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
“เสี่ยวเฟิง แขนของเธอ?”
แสงสลัวจากเปลวเทียนในห้องทำให้ชูชูเห็นมีดบินปักบนแขนของเย่เฟิงจำนวนมากจนเืไหลไม่หยุด ใบหน้าสวยใแทบผงะ ทำไมถึงาเ็หนักขนาดนี้?
เมื่อเย่เฟิงได้ยินเสียงของชูชูก็รู้ตัวทันทีว่าตนกำลังหนุนอะไรอยู่ ใบหน้าจึงแดงก่ำขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ รูปร่างของชูชูนั้นยอดเยี่ยม ทั้งนุ่มนิ่มและอวบอิ่ม ให้ัันิ่มสบายมาก แต่อย่างไรเธอก็เป็คุณน้าของหลงหว่านเอ๋อร์...
“ไม่เป็ไรครับ ช่วยพาเราเข้าไปข้างในก็พอ...” เย่เฟิงรีบตอบ
ชายหนุ่มพยายามลุกขึ้นแต่ไม่สำเร็จ เพราะยาพิษในเข็มล่องหนมีฤทธิ์รุนแรงมากจนทำให้เขาขยับตัวไม่ได้ ไม่เพียงเขาที่เป็เช่นนี้ แต่หลงหว่านเอ๋อร์ก็ไม่สามารถขยับเขยื้อนเช่นกัน จึงทำได้เพียงพิงตัวที่ระเบียง
เมื่อเห็นว่าเย่เฟิงอยู่ในอ้อมอกของชูชู หลงหว่านเอ๋อร์ก็ได้แต่สาปแช่งอีกฝ่ายในใจ ถ้าเป็เวลาปกติเธอคงลุกไปบิดหูเย่เฟิงและด่าอีกฝ่ายชุดใหญ่ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ เธอไม่คิดจะทำแบบนั้นเลย เมื่อมองเห็นาแน่ากลัวของเย่เฟิง หญิงสาวก็ะเืใจเล็กน้อย ใน่เวลาคับขัน เย่เฟิงยังจะใช้ตัวบังร่างเธอไว้ มิเช่นนั้นร่างของเธอคงเต็มไปด้วยมีดบินแล้ว ฉะนั้นสิ่งที่เธอ้าทำในตอนนี้ คือการกำจัดยาพิษพวกนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อใช้เคล็ดแสงศักดิ์สิทธิ์รักษาาแที่แขนของเย่เฟิง
ชูชูพาเย่เฟิงเข้าไปในตัวบ้านทันที แม้่เวลาจะไม่ยาวนานนัก แต่เย่เฟิงรู้สึกว่าเป็่เวลาที่รื่นรมย์เป็อย่างยิ่ง และทำให้ให้เขาเขินเล็กน้อย
แต่ชูชูกลับไม่ได้คิดเื่พวกนี้ เธอรีบพาหลงหว่านเอ๋อร์เข้ามาข้างในเช่นกัน จากนั้นหาเสื้อสะอาดมาฉีกเป็สองชิ้น
“เสี่ยวเฟิง อดทนหน่อยนะ” ชูชูพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ก่อนดึงมีดบินที่ปักแขนเย่เฟิงออก
การกระทำของชูชูทำให้เย่เฟิงรู้ว่าอีกฝ่ายมีประสบการณ์จัดการกับาแมาก หลังจากเธอดึงมีดบินออกจากแขนเย่เฟิงแล้ว ก็ใช้เศษผ้าทั้งสองชิ้นพันแขนเย่เฟิงไว้เพื่อห้ามเื
ชูชูเคลื่อนไหวรวดเร็วทว่านุ่มนวลและมือเบา ซึ่งช่วยบรรเทาความเจ็บของเย่เฟิงได้มาก
จึงทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย หลังจากนำเศษผ้าสองชิ้นพันที่แขนจนเืหยุดไหลไปแล้ว ชายหนุ่มก็เอ่ยปาก
“คุณน้าครับ ช่วยลงไปดูหนานฟางข้างล่างหน่อยครับว่าเป็ยังไงบ้าง?”
เพราะอยู่ๆ เย่เฟิงก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทำไมเขาไม่ได้ยินเสียงเ้าหนานฟางเลย?ชายหนุ่มจึงใช้ทักษะจิตหยั่งรู้กวาดมองทั่วบริเวณ และอดยิ้มออกมาไม่ได้
เพราะต้องลอบสังหารยอดฝีมือชั้นสูงจากสำนักอิ่นเซียน หนานฟางจึงซ่อนอยู่ในห้องน้ำชั้นล่างที่มีน้ำท่วมสูงถึงเอว และเพราะตอนนี้ยาพิษในเข็มล่องหนออกฤทธิ์จึงทำให้เขาขยับตัวไม่ได้ หากไม่มีใครเจอเขาล่ะก็ ชายหนุ่มคงจมน้ำตายไปทั้งแบบนั้นแน่นอน
“อืม”
ตอนนี้มีเพียงชูชูเท่านั้นที่เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ เธอพยักหน้าก่อนหยิบเชิงเทียนแล้วลงไปชั้นล่าง
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ลากหนานฟางขึ้นชั้นบน ตอนนี้ในสายตาชูชู หนานฟางเหมือนเป็ผู้ช่วยของเย่เฟิง แน่นอนว่าเธอไม่จำเป็ต้องปฏิบัติดีกับอีกฝ่ายเหมือนที่ทำกับเย่เฟิง
หนานฟางถูกลากขึ้นบันไดมาตลอดทาง จึงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บ “พี่สาว ช่วยลากผมเบาๆ หน่อย… โอ๊ย ไข่ผมจะแตกแล้ว…”
ไม่นานนักชูชูก็ลากอีกฝ่ายขึ้นมาชั้นบนได้สำเร็จ ทำเอาหนานฟางน้ำตาแทบไหลอาบหน้า
อยากพักผ่อนจะตายอยู่แล้ว
หลงหว่านเอ๋อร์นับว่ามีสภาพดีที่สุด จึงเป็คนแรกที่กำจัดผลของยาพิษและฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เสียเวลา เธอจึงรีบใช้เคล็ดแสงศักดิ์สิทธิ์เพื่อรักษาาแที่แขนของเย่เฟิง
ระดับพลังลมปราณสูงทำให้เห็นผลการรักษาได้ชัดเจน
ภายใต้รัศมีของแสงสีทอง แขนทั้งสองของเย่เฟิงกลับสู่สภาพปกติอย่างรวดเร็ว เหลือทิ้งไว้เพียงรอยแผลเป็เล็กน้อย ซึ่งมันสามารถจางหายไปได้เอง
หลังใช้เคล็ดวิชานี้ พลังชี่ของหลงหว่านเอ๋อร์จึงถูกใช้จนหมด เคราะห์ดีที่เย่เฟิงยังมีปะการังต้นเล็ก จึงส่งปะการังต้นเล็กให้หลงหว่านเอ๋อร์ เพื่อให้เธอฟื้นฟูพลังชี่ของตัวเอง
ในที่สุดสถานการณ์ก็เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ
ทันทีที่เย่เฟิงดีขึ้น เขาก็ลงไปชั้นล่างเพื่อนำศพยอดฝีชั้นสูงจากสำนักอิ่นเซียนขึ้นจากน้ำ
ผู้ชายคนนี้มีระดับพลังบ่มเพาะถึงห้าสิบปี ต้องเป็คนมีชื่อเสียงในยุทธจักรที่แม้แต่หลงหว่านเอ๋อร์ต้องรู้จักแน่นอน หลังจากรู้ว่าอีกฝ่ายเป็ใครเขาก็ได้รู้ข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมนิดหน่อย จึงถือวิสาสะค้นตัวว่าอีกฝ่ายมีมีดบินติดตัวเหลืออยู่กี่เล่ม
หนานฟางได้ฝึกเคล็ดอสูรร่ำไห้แล้ว แต่ยังกลุ้มใจเพราะตัวเองยังไม่มีอาวุธเลย
ทันทีที่เย่เฟิงพบศพของอีกฝ่ายก็พบว่าลูกธนูหน้าไม้ของหนานฟางยิงเข้าขมับของผู้ชายคนนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่เจาะลึกเข้าไปในขมับเท่านั้น เพราะหน้าไม้สังหารไม่ปล่อยให้ชายผู้นี้ได้มีลมหายใจต่อไปแม้แต่วินาทีเดียว
เมื่อเย่เฟิงเปิดหน้ากากสีดำออก ทันใดนั้นหลงหว่านเอ๋อร์ก็อุทานด้วยความใ
“นี่คือฉินเกอ มือปีศาจสังหารเทพเ้า!”
ในยุทธจักร ยอดฝีมือชั้นสูงมักมีฉายาของตัวเอง เช่น คู่หูเจียงไหว แต่มีเพียงบางคนที่เป็ที่ยอมรับในยุทธจักรเท่านั้น เช่น นักล่าิญญา และมือปีศาจสังหารเทพเ้า ซึ่งต่างเป็บุคคลที่มีชื่อเสียงในหมู่ผู้ฝึกวรยุทธ์
ผู้มีฝีมือชั้นสูงจนมีระดับพลังบ่มเพาะถึงห้าสิบปีเช่นนี้ มีศักยภาพพอที่จะยืนหยัดต่อสู้คนเดียวได้ แต่ตอนนี้ผู้มีฉายาว่ามือปีศาจสังหารเทพเ้ากลับถูกสังหารจากการร่วมมืออย่างยอดเยี่ยมของพวกเขาทั้งสามคน ซึ่งเป็เพียงเด็กหนุ่มสาว มันช่างเป็เื่น่าอับอายยิ่งนัก
คนในสำนักอิ่นเซียนต้องคิดไม่ถึงแน่ว่า ผู้มีฝีมือชั้นสูงที่น่าภาคภูมิใจของสำนัก ตอนนี้ถูกสังหารไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งยังถูกปล้นทุกสิ่งทุกอย่างไปจากตัวอีกด้วย
ถุงที่อยู่ข้างเอวของอีกฝ่ายยังเหลือมีดขนาดเล็กกว่ายี่สิบเล่ม ข้อเท้าซ้ายมีเข็มล่องหนที่มียาพิษอัมพาต นอกจากนี้ยังมีเข็มยาวแช่น้ำหมึกที่มองดูแล้วน่าจะเป็ยาพิษที่ทำให้ถึงตาย เพียงแต่เข็มยาพิษร้ายแรงถึงชีวิตที่ว่าไม่เหมาะกับการลอบโจมตี
สิ่งของเหล่านี้ล้วนเป็หนานฟางนำกลับมา จนทำให้เย่เฟิงฉีกยิ้มอย่างตื่นเต้น
การลอบโจมตีผู้มีฝีมือชั้นสูงที่มีระดับพลังบ่มเพาะถึงห้าสิบปีแบบนี้ หลงหว่านเอ๋อร์ไม่คิดมาก่อนเลยว่าพวกเขาจะสามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้สำเร็จ เธอลอบมองเย่เฟิงพลางคิดในใจว่า จากนี้ตนไม่ต้องสู้เพียงลำพังอีกต่อไปแล้ว
“พวกเรารีบไปจากที่นี่กันเถอะ”
หลังจากยึดอุปกรณ์ต่างๆ มาได้แล้ว เย่เฟิงก็ลุกขึ้นขณะตัดสินใจแล้วเรียบร้อย ตอนนี้คนเริ่มเข้ามามากขึ้น ดูท่าที่นี่จะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
“ตกลง...” หลงหวานเอ๋อร์ลุกขึ้น แต่ฉับพลันคิ้วของเธอก็ขมวดแน่น “มีคนกำลังมาที่นี่อีกแล้ว”
ตอนนี้ระยะการตรวจจับโดยทักษะจิตหยั่งรู้ของหลงหว่านเอ๋อร์อยู่ในระยะกว้างถึงหนึ่งร้อยแปดสิบเมตรซึ่งมากกว่าเย่เฟิง
“ใคร?”
เย่เฟิง หนานฟาง และชูชูเริ่มกังวล
“พวกเขาคือชายหญิงสองคนที่มาหานายที่โรงแรมตอนเช้า” หลงหว่านเอ๋อร์มองเย่เฟิงก่อนแสร้งยิ้มอ่อน “หนึ่งในนั้นเป็สาวสวยเสียด้วย บอกมานะว่าหล่อนจะตามหานายไปทำไม?”
“เซียวเยว่กับหวังเส้าตง?”
เย่เฟิงผงะชั่วครู่ก่อนจะฉีกยิ้ม