หัวคิ้วของหานโม่ขมวดเป็ปม "ข้าไม่้าของตอบแทนจากท่าน ถอยไปให้ห่างข้า"
ชายรูปงามมองท่าทางระมัดระวังของหานโม่ ทันใดนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงทุ้ม “ขนาดโกรธเช่นนี้ก็ยังน่ารักนัก”
หานโม่ "..."
เ้าคนมักมากบ้าตัณหา!
ในเมื่อไม่อาจทนได้อีกต่อไปแล้ว นางก็ไม่สนใจแล้วว่าตัวเองนั้นไม่อาจเอาชนะชายรูปงามที่อยู่เบื้องหน้าได้ หานโม่ยกเท้าขึ้นเตะไปหนึ่งครั้ง แรงลมจากเท้าพุ่งตรงเข้ามาที่หว่างขาของชายรูปงามอย่างรวดเร็วและดุดัน
ั์ตาของชายรูปงามไหววูบเล็กน้อย “ข้าไม่ได้บอกว่าจะพลีกายมอบทั้งชีวิตให้นี่ เ้าไม่จำเป็ต้องโหดร้ายเช่นนี้ก็ได้มิใช่หรือ?”
หานโม่ไม่สนใจเขา หลังจากที่เขาหลบการโจมตีของนางได้ เท้าอีกข้างก็โจมตีตามไปอย่างรวดเร็วทันที
เห็นได้ชัดว่าเขารับมือการโจมตีของหานโม่ได้อย่างสบายๆ และยังสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของหานโม่ได้ราวกับว่ากำลังเล่นสนุกไปด้วย ส่วนปากก็คอยพูดจาแทะโลมไม่หยุด
หานโม่อยากจะตบเขาให้สลบไปสักทีจริงๆ แต่หลังจากที่โจมตีมาครู่หนึ่ง นางก็พบว่าแม้แต่ชายเสื้อของเขาก็ยังไม่สามารถแตะได้ ฉับพลันนั้นนางรู้สึกอัดอั้นตันใจขึ้นมาบางๆ
นางฝึกฝนอยู่ในป่าไร้ิญญามาเป็เวลานาน และตอนนี้ฝีมือได้พัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวะโเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน แต่เห็นได้ชัดว่าสำหรับผู้มีวรยุทธ์สูงส่งเบื้องหน้าแล้วนั้นมันยังไม่เพียงพอ
นางอยากแข็งแกร่ง!
หานโม่มองสีหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มสนุกสนานของเขา ภายในใจคิดหมายมาดไว้แล้วว่านางจะต้องแข็งแกร่งขึ้นอีกให้ได้!
“มองข้าด้วยสายตาที่เร่าร้อนเช่นนี้ เ้ากำลังคิดเสียใจใช่หรือไม่ หวังให้ข้าพลีกายมอบให้ทั้งชีวิตหรือ?” ชายรูปงามเห็นประกายสว่างวาบในดวงตาของหานโม่ แล้วจึงเผยรอยยิ้มลึกลับออกมา
หานโม่กลอกตาโดยไม่ลังเลสักนิด
นางเคยเห็นคนหลงตัวเอง แต่ไม่เคยเห็นคนหลงตัวเองหนักเช่นนี้มาก่อน
หานโม่เพิ่มความรวดเร็วในการโจมตีให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น และสถานการณ์ช่างไม่เอื้ออำนวยต่อนางเอาเสียเลย แม้ว่านางจะรู้ว่าชายผู้นี้ไม่ทำร้ายนาง แต่นางก็้าเอาตัวเองออกไปจากที่นี่โดยเร็ว
หางตาเหลือบมองไปทางหน้าต่าง ดวงตาหานโม่ทอประกายสว่างวาบเล็กน้อย ในชั่ววินาทีต่อมาหานโม่ก็จ้องไปที่ด้านหลังของชายผู้นั้นและเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย
การกระทำของนางสามารถดึงดูดความสนใจของชายรูปงามได้อย่างรวดเร็ว อาจเป็เพราะว่าเขาเชื่อมั่นในตัวของหานโม่ จึงหันกลับไปมองด้านหลังของตนเอง โดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติเลย
หานโม่รอคอย่เวลาเช่นนี้อยู่ จึงอาศัยตอนที่เขาหันหน้ากลับไปชกเข้าที่หน้าอกของเขาหนึ่งที ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาสกัดกั้นกำปั้นของหานโม่อย่างรวดเร็ว หลังจากที่หานโม่โจมตีเสร็จก็ไม่อยู่อีกต่อไป กลับอาศัยแรงดีดกลับของชายหนุ่มช่วยในการก้าวถอยหลัง แล้วใช้ฝ่าเท้าถีบลงไปบนฝาผนัง ทำให้คนที่เคยถูกต้อนจนมุมอยู่พลิกตัวกลับออกมาได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่หลุดมาได้แล้วหานโม่ก็ก้าวเท้าเร็วๆ ไม่ยอมหยุด นางเปิดประตูอย่างแรงแล้วพุ่งออกไปราวกับลมพัดผ่านหอบหนึ่ง
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของหานโม่ที่รวดเร็วถึงเพียงนั้น ชายหนุ่มพลันชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหัว ก่อนจะหัวเราะออกมา
สาวน้อยผู้นี้ดูแล้วช่างเ็านัก แต่ฝีมือของนางเองก็ดุดันเช่นกัน
เมื่อมองไปที่ประตูไม้ที่ยังคงสั่นไหว ชายรูปงามก็บังเกิดความลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะไล่ตามหานโม่ไป เขากระโจนออกจากห้องแล้วอันตรธานหายไป
ในห้องที่อยู่ถัดไป ร่างกายทุกส่วนของหานโม่เกร็งแน่นตึงไปหมด ตราบใดที่ชายผู้นั้นยังคงไล่ตามนางไป หานโม่คงจะต้องใช้ความเร็วทั้งหมดที่มีในการหลบหลีกอย่างแน่นอน
โชคดีที่หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงเปิดหน้าต่างและเสียงลมพัดกระโชกแรงดังขึ้นในห้องข้างๆ ที่นางเพิ่งออกมา
ไม่รู้ว่าชายหนุ่มผู้นั้นจงใจทำหรือไม่ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หานโม่ก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวทั้งหมด
หลังจากที่หานโม่มั่นใจว่าชายผู้นั้นได้จากไปแล้ว ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
แม้จะไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดถึงได้มั่นใจว่าชายผู้นั้นจะไม่ทำร้ายนางอย่างแน่นอน แต่การสู้ด้วยสติปัญญาและใช้ความกล้าหาญเช่นนี้ก็ค่อนข้างยากลำบากเช่นกัน
ดวงตาของหานโม่กวาดมองไปรอบๆ ห้อง และหยุดชะงักลงเล็กน้อยบนร่างของชายที่นอนอยู่บนพื้นที่เพิ่งช่วยชายรูปงามจัดการมา จนนางเกือบลืมเื่สำคัญที่สุดไปแล้ว
ตามหาหานซินจากเหตุการณ์ลักพาตัวในครั้งนี้!
ดวงตาของหานโม่เย็นเยียบลงอีก มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
ภายในห้องราวกับมีเสียงลมพัดดังขึ้นวูบหนึ่ง และไม่นานจึงเหลือเพียงชายหนุ่มที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นห้อง
ผ่านไปครู่หนึ่งก็มี เสียงหนึ่งดังขึ้นภายในห้อง
หานโม่โยนร่างของหานซินที่ถูกมัดไว้ลงไปบนเตียงอย่างแรง