“พลังอะไรกันนี่?”
“เป็ไปได้อย่างไร? ผู้หญิงคนนี้...”
หลินนั่วและอีกสามคนใจนเนื้อเต้น
เปลวเพลิงสีแดงเปี่ยมรัศมีทำลายล้างและดับสูญอยู่ทุกอณูิญญา ทำให้ศิษย์จากหงส์ฟ้าบังเกิดความกลัวเหมือนจะกลายเป็ผุยผง นี่มันพลังแข็งกล้ามากและน่ากลัวยิ่ง ไม่ควรจะบังเกิดในกายแห่งมนุษย์ได้ แม้พลังเช่นนี้จะยังไม่บังเกิดสุดตัว ทว่าในอำนาจกดดันของมัน หลินนั่วและอีกสามคนก็รู้สึกเหมือนตนเป็เปลือกข้าวในลมพายุ จะถูกขยี้แหลกเมื่อไหร่ก็ได้
สมรภูมิทิศอุดรทั้งหมดราวกับมีเทพมารมาเยือน
บรรยากาศน่าสะพรึงม้วนตัวสาดแสงไปสี่ทิศทาง เมฆาบนเวหากลิ้งหลุนไม่เป็ท่า แสงอาทิตย์ดูจะมืดดับลง ถึงขนาดนักรบหรือปีศาจอักขระที่ไร้ปัญญายังรู้สึกไม่ดี จนต้องหยุดการเข่นฆ่าอันยาวนานลง
ฉินอู๋ซวงนิ่งค้าง
เซี่ยโหวอู่และรอยยิ้มของเขาก็ค่อยๆ แข็งทื่อ
่เี่ิเป็อัจฉริยะที่แข็งแกร่งยิ่งนักในปีหนึ่ง ระดับการพัฒนาพลังก็เร็วมาก ไม่เช่นนั้นแล้วไม่มีทางเข้าเป็หนึ่งในสิบรายชื่อได้แน่ ไม่มีทางมีโอกาสเข้ามาในสมรภูมิหุบเขาปัดป้อง ทว่าถึงแม่หญิงตัวเล็กนี้จะแข็งแกร่งยังไง ก็ไม่มีทางแกร่งถึงขั้นนี้แน่ๆ...
เซี่ยโหวอู่รู้สึกไม่โสภาบางๆ ในความคิด
เขาดูเหมือนจะทำผิดพลาดบางอย่างไป ยั่วโมโหสิ่งที่ไม่ควรจะยั่วโมโห
ทันใดนั้นเอง...
“เ้าสมควรตาย!”
ราวกับว่าเมื่อเด็กน้อยดั่งปีศาจในร่างมนุษย์เปิดปากพูด เสียงเย็นเยียบเหมือนเหล็กเสียดสี ไม่มีเศษเสี้ยวความเป็มนุษย์หลงเหลือ ราวกับมาจากขุมนรกอเวจี มิใช่ใสแจ๋วเหมือนก่อนเก่าอีกแล้ว ประหนึ่งกษัตริย์ปีศาจเทพแห่งความตายกำลังยิ้มร้ายรดต้นคอ เป็ความน่ากลัวที่หาคำอธิบายไม่ได้
ตามสุรเสียงมาติดๆ ด้วยลำแสงสีแดงชาดพวยพุ่งจากร่างกายของนาง
“บ้าเอ๊ย!”
เซี่ยโหวอู่หลบหนีเป็พัลวันอย่างว้าวุ่น
ตูม!
ลำแสงสีแดงตรงเข้าจู่โจมเซี่ยโหวอู่ ไปถูกเทวรูปปกปักฝั่งกวางขาว เสียงพังพินาศขนาดั์ดังไม่ขาดสาย โขดหินพังทลายราบคาบ ฝุ่นควันเต็มฟ้า เทวรูปปกปักพังทลายในสิ้นเชิง!
ขณะเดียวกัน
กายเนื้อของเด็กหญิงที่จ่อมจมกับไอแสงสีแดง ในที่สุดก็สลายเป็ผุยผง
การะเิพลังที่แข็งกล้าเกินไป มิใช่สิ่งที่นางควบคุมได้ บวกกับร่างกายที่ได้รับาเ็สาหัสแล้ว นางไม่มีทางบังคับทุกสิ่งทุกอย่างได้ ร่างกายกลายเป็ธุลีล่องลอย สายิญญาลอยขึ้นม่านฟ้าและล่องกลับแท่นฟื้นคืนชีพ
เซี่ยโหวอู่หน้าเขรอะฝุ่นผงปีนป่ายขึ้นมาจากในกองหิน
ร่างเขาได้แผลเสียส่วนมาก ใจนหน้าขาวซีด ทว่าสุดท้ายก็ยังหลบหลีกการฆ่าสีแดงฉานนั้นได้
ฉินอู๋ซวงเองก็เนื้อตัวเปรอะฝุ่น หัวคิ้วถูกหินที่พังทลายบาดเป็แผลเืซิบ เืสดพรั่งพรู สีหน้าใไม่แปรเปลี่ยน เขารู้สึกได้บางเบาว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกาย่เี่ินั้น มิใช่เื่ง่ายดายแน่ น่าหวั่นว่าจะนำพาคลื่นแห่งหายนะมากลืนกินในภายหลัง...มากพอจะทำให้เขตหุบเขาตัดกวางทั้งหมดเข้าสู่กระแสคลื่นั์โหมแรงน่าตระหนก
อีกด้าน
“โจมตีครั้งเดียวทำลายเทวรูปปกปักได้?”
“มีแต่พลังระดับอาณาทะเลระทมขึ้นไปเท่านั้นแหละที่จะทำได้...”
“ในร่างของผู้หญิงคนนั้นแอบซ่อนความลับอะไรเอาไว้กัน?”
หลินนั่ว ตู่ชา เจิ้งข่ายและติงหลีโยวสี่หน่อล้วนมองหน้ากัน หวาดหวั่นในความเปลี่ยนผันของ่เี่ิ
ตอนนั้นเองที่สุรเสียงหนึ่งดังขึ้นแก่ใบหูคนทั้งสี่ “มัวนิ่งอยู่ทำไม เทวรูปปกปักพังลงแล้ว รีบลงมือไวๆ ฆ่าศิษย์กวางขาวสองคนที่เหลือนั้นให้สิ้น ลั่นกลองศึกโหมโรง ถล่มทับเสีย...นี่เป็โอกาสสุดท้ายของเราแล้ว”
หลินนั่วรู้ถึงตัวตนของผู้พูด
ฟิ้ว!
เขากลายเป็ภาพหลอกตา ตรงเข้าสังหารไม่ลังเล
ตู่ชาและติงหลีโยวรีบตามไป
ถูกต้อง การเปลี่ยนแปลงพวกนี้ทำให้คนไม่นึกไม่ฝันก็จริง แต่นี่เป็โอกาสของสำนักหงส์ฟ้า ขอเพียงฆ่าฉินอู๋ซวงและเซี่ยโหวอู่สำเร็จ ถือสิทธิ์ลั่นกลองรบจู่โจมเสีย ก่อนที่สี่คนของอีกฟากจะฟื้นคืนชีพมาใหม่ ต้องสามารถเข้าถึงกองบัญชาการกวางขาวได้แน่ เมื่อถึงตอนนั้นต่อให้เ่ิูโผล่มาเอง หัวเดียวกระเทียมลีบหรือจะสู้ห้าคนของหงส์ฟ้าได้...ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม!
อีกด้าน
ใต้เทวรูปที่พังพินาศ
ฉินอู๋ซวงมองปราดเดียวก็รู้เจตนาของพวกหงส์ฟ้า สีหน้าเปลี่ยนกะทันหัน
ทว่าตอนที่เขายังไม่รู้จะตอบโต้เอาอีท่าไหนนั่นเอง สายฟ้าสีดำพลันฟาดฟันลงมากลางอากาศเยี่ยงไร้ที่มาที่ไป ดั่งดาวตกสีทมิฬ เพียงแค่โยนแสงสีดำเส้นหนึ่งแลบแล่นบนฟากฟ้า บนพสุธาก็ปรากฏเป็หอกยาวสีดำ
ฟิ้ว!
ตราบจนปลายคมกริบแหวกเวหาะเิ เมื่อนั้นถึงได้มีเสียง
หลินนั่วซึ่งบุกมาหน้าใครเพื่อนใจเต้นระส่ำ
มาแล้ว!
าาปีศาจผู้นั้น...คนที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักกวางขาว มาแล้ว
กระบวนท่าโจมตีแบบเดียวกันนี้ พวกเขาได้รับการสอนสั่งมานักต่อนัก
ถึงกระนั้น พริบตาต่อมา ราวกับภูผาไกลออกไปกำลังกู่ร้องโครมคราม คล้ายสายลมกรีดร้องโหยหวน ดั่งมหานทีกำลังปั่นป่วนและรวนเร เงาร่างสีดำจากไกลมาเป็ใกล้ พกพาแสงและฟ้า มาเร็วประหนึ่งฟ้าแลบและลมกรดในครรลองสายตา ในตอนที่สมองของหลินนั่วยังไม่ทันสั่งการหรือสนองตอบใดๆ ก็มาหาถึงที่แล้ว
กระบวนท่าเดียวกัน
หลินนั่วทบทวนและฝึกฝนในทะเลสำนึกมานับครั้งไม่ถ้วน เขาคิดว่าตนได้สอดแนมความลับและความลึกซึ้งของกระบวนศึกท่านี้แล้ว เขามั่นใจว่าเมื่อได้พบเ่ิูอีกเมื่อใด ต้องสามารถหลบการโจมตีมรณะนี้ได้แน่ และความเชื่อมั่นทั้งหมดก็ถูกขยี้จนแหลกลาญ
หลินนั่วถูกจู่โจมจนลอยละลิ่วอีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย
พลังอันน่าครั่นคร้ามทำให้เขารู้ว่ากระดูกของตนแหลกไปเรียบร้อยแล้ว ลำคอรู้รสชาติความหวานขม ปากพ่นเืกระฉูดออกมา ั์ตามืดบอด สูญสิ้นสติรู้ตน รู้เพียงว่าร่างกายกำลังลอยล่องไปไกลลิบ...
คนที่ถูกโจมตีจนลอยไปพร้อมๆ กัน ยังมีติงหลีโยวและตู่ชาที่ตามมาติดๆ
สองคนนั้นก็ลอยคว้างกลางอากาศ เืกระฉูดเป็สายอย่างบ้าคลั่ง ล้มตู้มอยู่บนพื้นใกล้กัน ขยับตัวไม่ได้ สูญสิ้นแรงจะต่อกร
“พระเ้า...ทำ...ทำได้อย่างไร?” เจิ้งข่ายที่อยู่ห่างออกไปร้อยเมตรครั่นคร้ามจนหยุดก้าว “เป็ไปไม่ได้...แม้แต่ติงหลีโยวกับตู่ชาก็ยังพ่ายหมดรูป...นี่มันเหนือขอบเขตพลังอำนาจคราวก่อนนี่ พลังของาามารคนนั้นเพิ่มพูนขึ้นอีกแล้วเรอะ?”
เจิ้งข่ายและผองเพื่อนมองและกะประมาณขอบเขตพลังของเ่ิูในคราวนี้ ที่เขาลงมือคราวก่อนๆ ระยะการจู่โจมอยู่ที่ประมาณหนึ่งจ้าง แต่ตอนนี้เล่า ติงหลีโยวกับตู่ชาที่อยู่ไกลออกไปหนึ่งจ้างกลับโดนไปด้วย?
แกร่งขึ้นหรือ?
เจิ้งข่ายไม่เหลือความกล้าจะต่อกรอีกต่อไป
เขาถอยหนีอย่างโซเซ
เ่ิูก็ไม่ได้คิดจะตามฆ่า
เขาหันหลังกลับ ย่างสามขุมไปหาเทวรูปปกปักที่มลายหมดสิ้น
“บอกข้ามา เกิดอะไรขึ้น?” น้ำเสียงของเด็กหนุ่ม ประหนึ่งกระบี่คมกริบตัดผ่าน มีจิตสังหารทิ่มแทงไปยันกระดูก
เซี่ยโหวอู่ใจไม่ดี เขามองฉินอู๋ซวงข้างกาย ส่วนลึกในั์ตาฉายแววเ้าเล่ห์เป็ริ้ว เขาถอยหลังช้าๆ พลางว่าประจบประแจง ปั้นแต่งว่ายินดี “เ้ามาก็ดีแล้ว พวกเรา...โชคร้ายเจอพวกมันลอบสังหาร...เสี่ยวจวินกับชิงหลัวตายในสนามรบไปแล้ว พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้...”
“ชั่วช้าอย่างเ้า สมควรตาย สมควรตายเป็หมื่นครั้ง”
เ่ิูปรี่เข้ามาหาอย่างว่องไว
แววตานั้นดังมีด ไอสังหารเอ่อล้นท่วมกาย กลิ่นคาวเืเตะจมูกลอยฟุ้ง
“เ้า...เ้าจะทำอะไร?” เซี่ยโหวอู่ชักลนลาน หน้าเริ่มร้อน “ไม่ได้เกี่ยวกับข้าเลย...พวกหงส์ฟ้าต่างหาก...ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมัน ข้าช่วยซ่งชิงหลัวกับ่เี่ิไม่ได้...อย่าโทษข้าเลย เ้าคิดจะทำอะไร ใครใช้ให้เ้ามาไม่ทันเวลากันล่ะวะ...”
“หุบปาก!” เ่ิูตวาดเกรี้ยว ดั่งอสนีบาตแผดลั่น
“สวะอย่างเ้า ทำระยำอะไรลงไป มองให้ดีสิ คิดว่าข้าไม่รู้ใช่ไหม? ไอ้ละโมบกลัวตาย กล้าฆ่าเพื่อนตัวเอง...เลวทรามได้เช่นเ้า ไม่สมควรเกิดมาเป็คน...วันนี้ต่อให้ต้องฝืนกฎของสมรภูมิ ข้าก็จะฆ่าเ้า!” เ่ิูลากหอกครูดมากับพื้น หอกหนักๆ เสียดสีพื้นหินเป็ประกายไฟ
คิ้วคมเลิกขึ้น ั์ตาลุกท่วมด้วยเปลวเพลิงที่ไร้ทางยับยั้ง
“เ้า...” เซี่ยโหวอู่ตระหนกถึงที่สุด
เ่ิูรู้เื่ที่เกิดขึ้นที่นี่ได้อย่างไร?
“อย่างไรก็ต้องให้ความสำคัญกับเื่ใหญ่ก่อน ที่จริงแล้วเื่นี้มัน...” ฉินอู๋ซวงขมวดคิ้ว อ้าปากจะไกล่เกลี่ย
“เ้าก็ไม่ใช่คนดีอะไรเลย...ไปตายพร้อมกันซะ!” เ่ิูเหลือบมองเขาด้วยแววตาเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็ง เสียงะเืนั้นดั่งมาจากขุมนรก เขาพลิกมือยื่นออกไป หอกอีกด้ามที่เดิมปักอยู่ไกลๆ ก็ส่งเสียงฟิ้ว พุ่งขึ้นบินเองกลายเป็ลำแสงสีดำ ตรงเข้าประหัตปะาฉินอู๋ซวง
“เ้า...” ฉินอู๋ซวงทั้งอึ้งทั้งโกรธ กระตุ้นดาบไร้ขอบเขตในมือแล้วฟดาเข้ารับการจู่โจมของหอกยาว
ตูม!
เสียงเหล็กกระทบกระทั่ง
ดาบไร้ขอบเขตกระเด็นหลุดจากมือ กลายเป็ไอสีรุ้งลับหายไปบนฟ้าสูง
ฉินอู๋ซวงง่ามนิ้วฉีกขาด เขาเสือกดาบออกไปเต็มแรงแต่กลับไม่อาจต่อต้านหอกนี้ได้เลย ดาบยาวถูกปะทะจนลอยออกไป หอกไน่เหอแทงร่างเขาเป็รูกลวงโบ๋ พลังมหาศาลในตัวหอกนั้นเกือบจะทำลายเขาจนแหลกในพริบตา ทั้งเนื้อทั้งตัวกลายเป็หมอกเืและกระดูกป่นปี้ จะพูดอะไรก็ไม่ทัน ตายลงกลางคัน
ิญญากลายเป็ลำแสง ลอยกลับสู่ทิศทางกองบัญชาการ
แววตาดั่งมีดมองตรงไปยังเซี่ยโหวอู่
ตุบ
เซี่ยโหวอู่แข้งขาอ่อนจนล้มลงไปคุกเข่า
ไม่รู้เพราะอะไร เมื่อเห็นแววตานั้นของเ่ิู ความโชคดีที่เขาเคยคิดว่าตนมีก็หายไปกับเมฆ จะหาเหตุผลหรือเจรจาต่อรองใดก็พูดไม่ออก กระทั่งคำอ้อนวอนก็ยังติดอยู่ที่คอ แม้แต่ความกล้าจะพูดยังไม่มี
เ่ิูเป็คนอย่างไรนั้น เขาเซี่ยโหวอู่รู้ดียิ่งชีพ
าามารเย่ในโทสะนั้น ไม่มีความเห็นใจใดให้เจรจาหรอก
“ตายสักครั้งถือเป็บุญของเ้าแล้ว!” เ่ิูหักข้อมือ ไอหอกบานสะพรั่ง ร่างเซี่ยโหวอู่ดั่งบุปผาโลหิตสาดกระเซ็น ชีพจรถูกทำลายแหลกลาญในทันที ก่อนที่ิญญาจะออกจากร่าง เขาก็ได้ยินเสียงเหมือนพิพากษาของเ่ิูดังแว่วมา “เื่นี้ไม่จบแค่นี้แน่ รอกลับโลกจริงก่อนเถิด ข้าจะให้เ้าได้ชดใช้สิ่งที่เ้าต้องชดใช้”
ตูม!
พลังภายในะเิ
กายเซี่ยโหวอู่ขาดสะบั้นกลายเป็หมอกเืกลุ่มหนึ่ง
ไม่ถึงสิบห้านาทีดี ฟากสำนักกวางขาวที่ถือไพ่เหนือกว่ามาตลอด สี่จากห้าคนก็กลับแท่นเก่าไปเสียก่อนแล้ว เหลือเพียงเ่ิูคนเดียวเท่านั้น
และบัดนี้ ฟากสำนักหงส์ฟ้า ยังมีอีกสี่คนรอคอยอยู่
นอกจากหลินนั่วที่ถูกกระบวนยุทธ์ธงรบแผ่นดินและโผัเกรี้ยวของเ่ิูเข้าเต็มรักจนตายกลางสมรภูมิแล้ว ติงหลีโยวและตู่ชาก็ได้แผลไม่น้อย ทว่ายังมีแรงมากพอจะยืนขึ้น รวมทั้งกำลังในการรบด้วย
ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับบุรุษดั่งเทพสังหารเ่ิูแล้ว เจิ้งข่ายอีกคนรวมเป็สามคนก็ไม่กล้าจะเป็ฝ่ายลงมือก่อน
เกศาดำของเ่ิูสะบัดพลิ้ว หอกนอนแน่นิ่งอยู่บนแผ่นหลัง ปลายหอกแหลมชี้สู่ท้องเวหา
อาภรณ์ดำ หอกยาวดำ
เกศาดำดั่งเปลวเพลิงทมิฬร่ายระบำ
“สวี่เกอ ออกมาเถอะ ข้ารู้ว่าเ้าอยู่ตรงนั้น” เ่ิูสูดลมหายใจลึก มองเห็นพงไพรหนาลึกเื้ั ว่าอย่างมาดมั่น “ที่นี่ ตอนนี้ พวกเ้ามาพร้อมๆ กันซะ ตัดสินแพ้ชนะให้มันรู้กันไป จบการแข่งใหญ่นี้ รีบสู้รีบรู้ผล ข้ายังมีเื่สำคัญยิ่งกว่าต้องไปทำ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้