เขาสะบัดมือออกไปเพื่อสร้างอาณาเขตป้องกัน ชายชราร่างผอมมองไปยังชายร่างสูงใหญ่ด้วยสายตาที่เฉียบคมและกล่าว “เื่ของบุตรแห่ง์นี้ เ้าต้องปิดเป็ความลับให้สนิท อย่าได้แพร่งพรายให้ใครรู้เป็อันขาด เื่นี้ไม่เพียงแต่จะเกี่ยวพันกับอนาคตของสำนักิญญาเมฆาของเราเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวพันไปถึงอาณาจักรซินโยวและอาณาจักรอื่นๆ ด้วย หากคนจากพรรคมารหรืออาณาจักรอื่นๆ รู้เข้า เ้าลองคิดดูสิว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น!...”
ร่างกายของชายชราร่างสูงก็สะดุ้ง แล้วจากร่างที่สูงใหญ่ก็หดเล็กลงทันที กล่าวด้วยความเคารพ “ศิษย์เข้าใจแล้ว!”
“บังอาจ!” ทันใดนั้นจู่ๆ ชายชราร่างผอมก็ะโออกมาเบาๆ!
ชายชราร่างสูงใ! อาณาเขตป้องกันหายไป!
เสียงของชายชราร่างผอมดังเข้ามาในหูของเขา “ไปบอกเ้าโง่ชื่อถิงเทียนด้วย ก่อนพระอาทิตย์ตกดินพรุ่งนี้ จงไล่เ้าพวกโง่สามตัวนี่และผู้ที่อยู่เื้ัออกจากสำนักไปให้หมด หากเ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องเป็เ้าสำนักของสำนักนี้แล้ว!”
สิ้นคำจิตของชายชราร่างสูงก็แผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว!
ชั่วขณะต่อมา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป คำนับอีกฝ่ายด้วยความเคารพ “ขอรับ ท่านอาจารย์ลุง!” แล้วตัวเขาก็หายวับไปดั่งสายลม
...
สิบชั่วอึดใจก่อน!
ห้องพักของเ้าหนุ่มแซ่เซียวคนนั้นน่าจะอยู่ข้างหน้านี้!
ศิษย์ระดับสูงสามคนเงยหน้าขึ้นมองเบื้องหน้า!
นั่นมัน! เงาที่อยู่หน้าห้องนั่นคือจ้าวหนีอิ่งนี่นา นางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
ศิษย์ระดับสูงที่อยู่ห่างจากห้องพักของเซียวหลิงอวิ๋นประมาณห้าสิบถึงหกสิบเมตรกำลังจะเดินเข้าไปต่อ จู่ๆ ก็มีความหนาวเย็นะเืแผ่กระจายไปทั่วบริเวณนั้น ทั้งสามตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นราวกับหุ่น!
ในชั่วขณะต่อมา ร่างของชายชราร่างสูงก็ปรากฏตัวขึ้นที่กลางอากาศอีกครั้ง!
เมื่อมองไปยังศิษย์ระดับสูงสามคนที่อยู่ห่างจากจ้าวหนีอิ่งไม่ถึงหกสิบเมตรแล้ว แผ่นหลังของชายชราร่างสูงก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อกาฬ!
เ้าพวกเวรนี่!
หากท่านอาจารย์ลุงไม่ใช้จิตตรึงเ้าพวกเวรสามคนนี้เอาไว้ได้ทัน แล้วไปรบกวนเด็กสาวที่กำลังเข้าฌานอยู่ข้างล่างเข้า ผลที่ตามมา...
ชายชราร่างสูงไม่กล้าคิดต่อ สายตาของเขาจับจ้องไปยังทั้งสามคนที่ดูเหมือนกำลังจะแอบซ่อนตัวอยู่เบื้องล่าง ความโกรธที่ไม่รู้ที่มาที่ไปพุ่งพล่านขึ้นมาในใจ!
โชคดีไป...
ไม่อย่างนั้นต่อให้บดขยี้เ้าพวกเวรสามคนนี่จนกระดูกแหลกเป็ผุยผง ก็ยังไม่เพียงพอที่จะระบายความโกรธในใจของเขาได้!
ชายชราร่างสูงตัดสินใจได้ในทันที!
เซวียนหยวนเจิ้นตงและพรรคพวกคงไม่คาดฝันว่าการที่พวกเขา้าสอนบทเรียนให้กับเซียวหลิงอวิ๋นนั้น จะกลับนำมาซึ่งหายนะครั้งใหญ่! วันรุ่งขึ้นเซวียนหยวนเจิ้นตงและพรรคพวกถูกชื่อถิงเทียนไล่ออกจากสำนัก หายตัวไปอย่างลึกลับโดยไม่เหลือแม้แต่เส้นผม!
...
หนึ่งชั่วก้านธูป สองชั่วก้านธูป หนึ่งชั่วยาม...
จ้าวหนีอิ่งยังคงอยู่ในท่าเข้าฌานโดยไม่ขยับเขยื้อนไปไหน!
ชายชราร่างผอมที่อยู่ในส่วนลึกของสำนัก ชายชราร่างสูงที่ลอยอยู่กลางอากาศ และเซียวหลิงอวิ๋นที่เฝ้าดูอยู่ที่หลังบ้าน ดวงตาของทั้งสามคนเต็มไปด้วยความยินดีเมื่อเวลาผ่านไปนาน
ยิ่งเวลาที่ใช้เข้าฌานยาวนานมากเท่าใด ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น!
“ศิษย์น้อง ข้าฝึกกระบวนดาบสองจุดนี้สำเร็จแล้ว!” หยางลู่ที่เหงื่อออกก็เดินเข้ามาพร้อมด้วยใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาเต็มไปด้วยความยินดีและความภาคภูมิใจ! ไม่เพียงแต่จะฝึกท่วงท่าที่ติดขัดทั้งสองจุดได้สำเร็จแล้ว ท่วงท่าดาบอื่นๆ ก็คล่องแคล่วขึ้นมากด้วย! ด้วยเวลาเพียงสองชั่วยาม นางสามารถเรียนรู้ในสิ่งที่ศิษย์น้องหลิงอวิ๋นสอนมาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ตัวนางที่มีความสามารถเช่นนี้จะต้องได้รับการชื่นชมจากศิษย์น้องหลิงอวิ๋นแน่ และจะต้องรู้สึกยินดีและภูมิใจในตัวนางอย่างแน่นอน!
แต่คำพูดต่อมาของเซียวหลิงอวิ๋น กลับทำให้ความรู้สึกยินดีและความภาคภูมิของหยางลู่หายไปในทันที “ขอแสดงความยินดีกับศิษย์พี่ด้วย!” หลังจากแสดงความยินดีสั้นๆ แล้วก็มีคำเตือนดังแ่ “ศิษย์พี่อย่าเพิ่งออกไปจะดีกว่า ตอนนี้ศิษย์พี่จ้าวหนีอิ่งกำลังเข้าฌานอยู่ที่หน้าห้อง”
“ศิษย์พี่อิ่งกำลังเข้าฌาน?” หยางลู่อ้าปากค้าง! จากนั้นทั้งความรู้สึกยินดีและความภาคภูมิก็ลดลงจนเหลือศูนย์ในทันที! เหตุใดหรูเยียนกับหนีอิ่งสามารถเข้าสู่สภาวะเข้าฌานได้ แต่นางกลับทำไม่ได้? เหตุใดถึงเป็แบบนี้? ทั้งๆ ที่นางเป็คนที่ได้รับคำชี้แนะมาจากศิษย์น้องหลิงอวิ๋นแท้ๆ เหตุใดจึงมีแค่นางที่ไม่สามารถเข้าสู่สภาวะเข้าฌาน!
ใบหน้าของหยางลู่มืดหม่นลง! ทำไมกัน? ทำไม?
...
หลังจากผ่านไปได้อีกครึ่งชั่วยาม เสียงดังคล้ายประทัดดังขึ้นมาเบาๆ ท่ามกลางความเงียบสงัดของยามค่ำคืน!
เสียงนี้มัน? ในขณะที่หยางลู่กำลังรู้สึกใ เซียวหลิงอวิ๋นก็ดวงตาเป็ประกาย ไม่เลว นางสามารถบรรลุได้ในระหว่างที่เข้าฌานจริงๆ ด้วย กลายเป็นักยุทธ์ระดับเก้าแล้ว!
หลังจากเฝ้ารออยู่หนึ่งร้อยชั่วอึดใจ เซียวหลิงอวิ๋นก็พาหยางลู่ไปที่ประตูอย่างเงียบๆ!
แทบจะในขณะเดียวกัน จ้าวหนีอิ่งก็ออกจากการเข้าฌานแล้ว! ดวงตาที่ลืมขึ้นนั้นทั้งเปล่งประกายและมีชีวิตชีวาราวกับดวงดาวในยามค่ำคืน ภายใต้แสงจันทร์ที่สว่างไสว นางแผ่ออร่าสง่างามภายใต้ก้อนเมฆที่สงบนิ่งและบางเบา!
หยางลู่เก็บซ่อนความอิจฉาไว้ในดวงตา แสดงรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้า นางวิ่งไปข้างหน้าและกล่าว “ขอแสดงความยินดีกับศิษย์พี่อิ่งด้วย! บรรลุสู่นักยุทธ์ระดับเก้าได้!”
จ้าวหนีอิ่งพยักหน้าให้หยางลู่ แล้วสายตาของนางก็จับจ้องไปที่เซียวหลิงอวิ๋น และคารวะ “ข้าได้ฟังคำพูดของเ้าหนึ่งครั้ง ให้ผลดีกว่าการบำเพ็ญเพียรเป็สิบปี ข้าจ้าวหนีอิ่ง ขอขอบคุณคำชี้แนะนำของศิษย์พี่!”
“เส้นทางแห่งการบำเพ็ญเพียรนั้นยากลำบากและมีอุปสรรคมากมาย การแสวงหาความเป็ะนั้นขึ้นอยู่กับพร์ ความเพียรพยายาม โชคลาภ และโอกาส สิ่งที่ข้าพูดออกไปนั้นเป็เพียงประสบการณ์ที่ข้าได้จากผู้อื่นเท่านั้น การที่เ้าสามารถเข้าใจได้นั้นถือเป็โอกาสของเ้าเอง ไม่จำเป็ต้องขอบคุณข้า!” ตัวเซียวหลิงอวิ๋นในเวลานี้ ไม่เพียงแต่ในสายตาของสองสาวเท่านั้น แต่ในสายตาของชายชราร่างสูงที่ลอยอยู่กลางอากาศด้วย ราวกับว่าพวกเขาได้เห็นเทพแห่งโลกเบื้องบนที่กำลังเทศนาและสั่งสอนอยู่!
...
พร์ ความเพียรพยายาม โชคลาภ และโอกาส! ชายชราร่างผอมที่อยู่ในส่วนลึกของสำนักก็พูดพึมพำกับตัวเอง และพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง! ใช่แล้ว พูดได้ถูกต้อง!
สำหรับผู้บำเพ็ญเพียรแล้ว พร์นั้นสำคัญมาก แต่ไม่ว่าจะมีพร์มากเพียงใดแต่ไร้ซึ่งความเพียรพยายาม ความมุ่งมั่นอันแรงกล้า ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก และฝ่าฟันด้วยจิติญญาทั้งหมดที่มีแล้ว อย่าว่าแต่จะบรรลุความเป็ะเลย แม้แต่การจะไปอยู่ที่จุดสูงสุดของแผ่นดินก็ยังยาก ถึงจะมีความเพียรพยายามอย่างมาก แต่หากยังขาดโชคลาภก็ยังเป็เื่ยากอยู่ดี และหากมีโชคลาภแต่ไร้ซึ่งโอกาส ก็ยากที่จะบรรลุความเป็สูงสุดได้ ต้องมีเพียงทั้งสี่อย่างนี้ครบเท่านั้น จึงจะมีหวังที่จะก้าวขึ้นไปยังจุดสูงสุดของแผ่นดิน ทะยานสู่โลกเบื้องบน แล้วกลายไปเป็เทพเซียน!
ในหัวของชายชราปลอดโปร่งขึ้น เขาถอนหายใจออกยาวๆ! รู้สึกได้ว่าจิติญญาทั้งกายของเขาเต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่าอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน!
จู่ๆ ในดวงตาของเขามีทั้งความประทับใจ ความเชื่อ และความหวังเกิดขึ้น ชายชรารู้สึกราวกับมีลางสังหรณ์บ่งบอกว่าพรหมแดนที่ตัวเขาไม่สามารถก้าวข้ามไปถึงได้ในอดีต ไม่ได้เป็แค่ภาพลวงตาที่สูงเกินเอื้อมอีกต่อไปแล้ว แต่มันเป็ความฝันอันงดงามที่ตัวเขาสามารถเอื้อมถึงได้ หากตัวเขาพยายามและยืนหยัดด้วยปลายเท้าของตัวเอง!
บุตรแห่ง์ ตามตำนานกล่าวเอาไว้ว่าพวกเขามีพลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของผู้ที่ติดตามได้!
ชายชราร่างผอมในเวลานี้รู้สึกได้ถึงน้ำตาที่ไหลพราก ร่ำไห้ด้วยความปลื้มปีติ ์ลืมตาแล้ว ์ลืมตาแล้วจริงๆ นี่จะต้องเป็พระประสงค์จาก์ที่สั่งให้ข้าคอยช่วยเหลือบุตรแห่ง์เป็แน่ และให้บุตรแห่ง์ผู้นี้เป็ผู้ชี้นำและนำพาสำนักิญญาเมฆาของเราไปสู่แสงสว่าง!
...
หลังจากผ่านไปครึ่งถ้วยชา ชายชราร่างสูงก็ใ “ท่านอาจารย์ลุง จะ...จะให้ข้าพาเ้าหนุ่มหลิงอวิ๋นไปที่สำนักหลักของเราเลยอย่างนั้นหรือ ระ...เื่เช่นนี้สำนักเราไม่เคยทำมาก่อน!”
“ก็เพราะไม่เคยทำมาก่อนนี่แหละ ข้าถึงต้องกลับไปที่สำนักเสียก่อนเพื่อแจ้งเื่นี้ ไม่อย่างนั้นข้าคงจะพาเขาไปที่นั่นด้วยตัวเองแล้ว!”
“ขอท่านอาจารย์ลุงโปรดวางใจ ข้าขอรับรองว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเ้าหนุ่มหลิงอวิ๋นอย่างแน่นอน! จริงด้วย ท่านอาจารย์ลุง ศิษย์น้องอิ่งก็บรรลุขึ้นสู่นักยุทธ์ระดับเก้าได้สำเร็จ หลังจากงานประลองใหญ่ครั้งนี้ เราควรจะพานางกลับไปที่สำนักหลักด้วยหรือไม่!”
“ต้องพากลับสำนักหลักของเราแน่นอน ข้าเห็นแล้วว่านางสามารถเข้าถึงเจตจำนงดาบสายลมได้ถึงสามส่วนเป็อย่างน้อย ถิงเทียนการที่เรามาที่นี่ครั้งนี้เป็เื่ถูกต้องแล้วจริงๆ! ยังไม่ต้องพูดถึงเ้าหนุ่มหลิงอวิ๋นเลย ลำพังแค่หรูเยียน และเด็กสาวจากตระกูลจ้าวคนนี้ เมื่อทั้งสองคนนี้เติบใหญ่ขึ้น สำนักิญญาเมฆาของเราจะไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่อาณาจักรซินโยวอีกต่อไป! ยิ่งมีเ้าหนุ่มหลิงอวิ๋นอยู่เคียงข้างพวกนางด้วยแล้ว ความสำเร็จของทั้งคู่ก็จะทะยานสูงขึ้นไปถึงระดับที่ไม่เคยมีใครไปถึงมาก่อน สำนักิญญาเมฆาของพวกเราภายใต้การนำของพวกเขาก็จะย่างก้าวไปในจุดที่สูงขึ้น ออกไปสู่โลกอันกว้างใหญ่! ในระหว่างที่ข้ากลับไปยังสำนักหลัก เ้าจะต้องคอยระแวดระวังตลอดสิบสองชั่วยาม จะปล่อยให้มีอะไรผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด หากเื่นี้เสร็จเรียบร้อยดี ข้าขอรับรองได้เลยว่าเคล็ดวิชาหลักของสำนักเราสองวิชา เ้าและเหวินจัวจะได้มีโอกาสร่ำเรียนมันอย่างแน่นอน!”
“ขอบคุณท่านอาจารย์ลุง ความปลอดภัยของพวกเขา ปล่อยให้เป็หน้าที่ของข้าเอง!” ชายชราร่างสูงกล่าวรับรองด้วยความยินดี!
ไม่คาดคิดว่าท่านอาจารย์ลุงของเขา นอกเหนือจากเซียวหลิงอวิ๋นแล้ว จะคาดหวังอย่างมากกับหรูเยียนและหนีอิ่งด้วย!
ออกจากอาณาจักรซินโยว แล้วไปสู่จุดที่สูงขึ้นและโลกอันกว้างใหญ่! นอกอาณาจักรซินโยวแล้ว ยังมีอาณาจักรอื่นๆ ในโลกกว้างใหญ่นี้อีกตั้งมากมาย เื่นี้แม้จะเคยได้ยินมาบ้างในอดีต แต่เมื่อได้ยินจากปากของอาจารย์ลุงด้วยตัวเองแล้ว ก็ทำให้ชายชราร่างสูงผู้นี้รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาชั่วขณะ...
เป็อีกหนึ่งวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสและสวยงาม!
แสงแดดอันอบอุ่นในฤดูหนาว เมื่อส่องกระทบผู้คนก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นยิ่งขึ้น!
การประลองรอบสิบคนในวันสุดท้ายนี้มีผู้เข้าชมมากมาย!
และการประลองของศิษย์ระดับกลางในเขตใต้ ก็ยังคงเป็ที่สนใจของทั่วทั้งสำนักเช่นเดิม!
ศิษย์สามคนที่ยังไม่เคยพ่ายแพ้ใคร ในวันนี้จะต้องมีคนที่แพ้บ้างแล้ว! ทำให้ผู้ชมหลายคนรู้สึกตื่นเต้นมาก!
“ผลการแข่งของสามอันดับแรกได้ถูกกำหนดแล้ว แน่นอนว่าจะต้องเป็เซียวหลิงอวิ๋น เยี่ยเฟิง และจ้าวิเจี้ยนแน่ ส่วนตำแหน่งนั้นอันดับหนึ่งคงเป็ของเซียวหลิงอวิ๋น ในขณะที่อันดับสองกับสามนั้นยังยากที่จะคาดเดา การต่อสู้ของักับพยัคฆ์ในวันนี้จะต้องดุเด็ดเผ็ดมันอย่างแน่นอน!”
“ข้าคาดหวังเอาไว้มากกับการประลองกันระหว่างเซียวหลิงอวิ๋นและเยี่ยเฟิง คนหนึ่งเป็สุดยอดอัจฉริยะที่ในรอบหมื่นปีจะมีสักคน ในขณะที่อีกคนก็เป็อัจฉริยะที่เอาแต่ต่อสู้กับเหล่าสัตว์อสูรในป่า การประลองของทั้งสองคนนี้ แค่คิดก็รู้สึกเนื้อเต้นแล้ว!”
“ฮ่าๆ ข้ากลับคาดหวังการประลองกันระหว่างเซียวหลิงอวิ๋นและจ้าวิเจี้ยนมากกว่า พวกเ้าไม่รู้หรือว่าเขาพูดกันว่าจ้าวิเจี้ยนไปแย่งคู่หมั้นของเซียวหลิงอวิ๋น เอาชนะใจว่านฮวน สาวงามที่สวยที่สุดในเขตใต้ของเราไปได้ เคยได้ยินมาว่าว่านฮวนเคยหมั้นหมายกับเซียวหลิงอวิ๋นก่อนที่จะเข้ามาที่สำนักของพวกเรา...”
“หา สิ่งที่เ้าพูดเป็ความจริงอย่างนั้นหรือ... ว่านฮวนเคยหมั้นหมายกับเซียวหลิงอวิ๋นมาก่อนจริงหรือ...หากนั่นเป็เื่จริง อัจฉริยะหมื่นปีจับคู่กับหญิงสาวที่สวยที่สุด นับเป็คู่ที่สมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง...”
“เป็เื่จริง แต่เป็ข่าวเก่าแล้ว จากข่าวล่าสุดที่ได้ยินมา ทั้งสองคนถอนหมั้นกันแล้ว และว่านฮวนเองที่เป็ฝ่ายขอถอนหมั้นก่อน ซึ่งเซียวหลิงอวิ๋นก็ตอบตกลง...”
“โอ้ มีเื่แบบนี้ด้วยหรือนี่ ไม่รู้ว่าว่านฮวนคนนี้หัวไปโดนประตูหนีบมาหรืออย่างไร นางถึงไม่เลือกสุดยอดอัจฉริยะที่ในรอบหมื่นปีจะมีสักคน แล้วเป็ฝ่ายไปขอถอนหมั้นก่อน...”
“ฮ่าๆ เื่นี้จะโทษว่านฮวนก็ไม่ได้หรอก ตอนที่เซียวหลิงอวิ๋นเป็ที่โด่งดังขึ้นมา เป็เื่หลังจากที่ว่านฮวนขอถอนหมั้นไปแล้ว หากนางรู้ั้แ่แรกว่าเซียวหลิงอวิ๋นทั้งแข็งแกร่งและมีพร์ที่น่าทึ่งเพียงนี้ ต่อให้ฆ่าตัวตาย ว่านฮวนก็คงไม่ทำอะไรแบบนี้แน่ ตอนนี้คงนั่งเสียดายจนไส้เขียวหมดแล้วเป็แน่...” ศิษย์คนหนึ่งที่รู้เื่ราวภายในเป็อย่างดีพูดขึ้น
ไม่ต้องเอ่ยถึงเลยว่า คนคนนี้พูดได้ถูกต้องมากจริงๆ
เวลานี้ว่านฮวนนั้นรู้สึกเสียดายอย่างยิ่งจริงดังคำนินทา เสียดายจนลำไส้จะขาดแล้วด้วยซ้ำ!
