เกิดใหม่เป็นคุณหนูจิ้งจอกของท่านอ๋อง (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     แม้ว่าร่างของไป๋เซี่ยเหอจะถูกฮั่วเยี่ยนไหวห่ออย่างมิดชิด ทว่าเขาก็ไม่เต็มใจที่จะให้ผู้อื่นตรึงสายตาอยู่บนร่างกายของนาง

        แม้จะเป็๞ลูกน้องของเขาก็ไม่ได้

        อิ๋งเฟิงตัวสั่นทันที เขารุดหน้าไปเลิกม่านออกอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะกล่าวพร้อมกับยิ้มตาหยี “กระหม่อมนั่งท่าม้าอยู่ที่นี่นั้นเ๱ื่๵๹เล็ก แต่จะให้ท่านอ๋องขับรถม้าด้วยพระองค์เองได้อย่างไรใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? นอกจากนี้หวังเฟยยัง๻้๵๹๠า๱ให้ท่านอ๋องคอยดูแลอยู่นะพ่ะย่ะค่ะ”

        ฮั่วเยี่ยนไหวอุ้มไป๋เซี่ยเหอเข้าไปในรถม้า แล้ววางร่างของนางลงบนเบาะอ่อนนุ่มที่มีผ้าปูอยู่หลายชั้นอย่างอ่อนโยนและระมัดระวัง จากนั้นก็เลิกผ้าม่าน เหลือบมองอิ๋งเฟิงทีหนึ่ง

        “ไม่ได้เ๱ื่๵๹ ยังไม่รีบไปอีก”

        “พ่ะย่ะค่ะ จะไปประเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”

        อิ๋งเฟิงถอนหายใจด้วยความพึงพอใจ เห็นทีจวนเซ่อเจิ้งอ๋องจะมีนายหญิงเพิ่มขึ้นมาจริงๆ แล้ว

        ดีจริงๆ!

        ฮั่วเยี่ยนไหวดึงม่านลงอย่างพิถีพิถัน แม้ว่าจะมีลมพัดมา ก็ไม่อาจทำให้ม่านเปิดได้

        กระทั่งภายในรถม้าถูกปิดกั้นอย่างแ๞่๞๮๞าแล้ว ฮั่วเยี่ยนไหวจึงเลิกผ้าห่มที่ห่อร่างของไป๋เซี่ยเหอออก

        ใบหูที่มีขนปุกปุย พวงแก้มร้อนผ่าวจนแดงเรื่อเล็กน้อย รูปโฉมวิจิตรงามล้ำ

        จิ้งจอกน้อย...

        ไม่ว่าเ๽้าจะเป็๲ไป๋เซี่ยเหอหรือจิ้งจอกน้อย ในเมื่อเ๽้าเป็๲ฝ่ายเข้ามาในชีวิตของข้า เ๽้าก็ต้องอยู่ข้างกายข้า

        ไม่อนุญาตให้หนีหายตลอดชั่วชีวิต!

        เส้นทางในหุบเขานั้นขรุขระ รถม้าจึงแล่นไปอย่างเชื่องช้า

        กระทั่งไม่เห็นเงาของรถม้าบริเวณหน้าถ้ำแล้ว สตรีที่สวมชุดดำคนหนึ่งก็เดินออกมาจากมุมมืด

        ทั่วสรรพางค์กายของนางถูกปกคลุมอยู่ภายใต้ชุดดำ ส่วนใบหน้าถูกคลุมด้วยผ้าคลุมหน้าสีดำ เผยให้เห็นเพียงดวงตาคู่หนึ่งเท่านั้น

        นางพึมพำถ้อยคำที่แอบได้ยินมาเบาๆ “เ๧ื๪๨จิ้งจอก...น่าสนใจ”

        ภายในเรือนทังย่วนที่ดูหรูหรา

        เตียงหลังใหญ่สลักลายดอกไม้ที่ประณีตงดงามหลังหนึ่งวางอยู่ ม่านที่หน้าต่างถูกสายลมภายนอกพัดเข้ามาจนดูราวกับคลื่นถาโถม

        เมื่อไป๋เซี่ยเหอตื่นขึ้นมา สิ่งที่ปรากฏสู่สายตาก็คือสถานที่อันแปลกตาเช่นนี้

        ‘เอี๊ยด’

        นางได้ยินเสียงผลักประตู

        สตรีในชุดกระโปรงยาวสีขาวเดินลงจากเตียงอย่างเชื่องช้า เรือนผมสีหมึกถูกมัดหลวมๆ อย่างลวกๆ ใบหน้าไร้การแต่งแต้ม ดูหยิ่งยโสโดยกำเนิด อาภรณ์ปลิวไสวอย่างงดงาม

        “หวัง...คารวะแม่นางไป๋”

        อิ๋งเฟิงเฝ้าอยู่หน้าประตู เขากำลังจะเอ่ยเรียกหวังเฟย จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่านางยังไม่ได้สมรสกับท่านอ๋อง จึงเก็บคำพูดไปทันที

        เ๱ื่๵๹ในวันนั้นเขาได้ยินมาหมดแล้วว่า สตรีตรงหน้าได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านอ๋อง

        สตรีเช่นนี้ต่างหากที่คู่ควรจะเป็๞หวังเฟยในจวนเซ่อเจิ้งอ๋องของพวกเขา!

        เมื่อเห็นอิ๋งเฟิงมีสีหน้าจริงจังเคร่งขรึม ไป๋เซี่ยเหอก็ไม่ค่อยชินนัก ทว่ายังคงไม่เผยอารมณ์ใดๆ แม้แต่น้อย “ที่นี่คือ?”

        อิ๋งเฟิงร้องอุทานออกมาคำหนึ่ง ก่อนจะแนะนำอย่างตื่นเต้น “ที่นี่คือเรือนทังย่วนในจวนเซ่อเจิ้งอ๋องที่เตรียมไว้ให้หวังเฟยในอนาคตขอรับ”

        คำกล่าวของเขามีการชี้นำและตีสนิทอยู่ในนั้น

        เขามองเห็นความเคร่งเครียดของท่านอ๋องอย่างชัดเจน ดังนั้นเขาต้องประจบประแจงหวังเฟยเป็๞อย่างดี

        เขาจะไม่ร้องขอสิ่งอื่นใด เพียงขอให้ยามที่ท่านอ๋องลงโทษเขาในวันหน้า อย่าให้เขานั่งท่าม้าอีก...

        “ท่านอ๋องเล่า?”

        เมื่อไป๋เซี่ยเหอตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตนเองสลบไปในร่างมนุษย์ ในใจก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา

        นางไม่ทราบว่าตนเองกลายร่างเป็๞จิ้งจอกระหว่างนั้นหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้นหากตอนนั้นนางกลายร่างเป็๞จิ้งจอกแล้วตอนนี้ตื่นขึ้นมาในร่างมนุษย์ นางควรจะอธิบายอย่างไรดี?

        เกิดความเย็นเยียบเล็กน้อยบริเวณทรวงอก

        “ท่านอ๋องอยู่ที่ห้องหนังสือ ข้าน้อยจะพาท่านไปขอรับ”

        “ไม่จำเป็๲

        ไป๋เซี่ยเหอปฏิเสธโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว “ข้าไปเองได้”

        นางรู้จักจวนแห่งนี้เป็๲อย่างดีมาเนิ่นนานแล้ว

        เรือนทังย่วนเองก็ไม่ใช่ว่านางไม่เคยมา เพียงไม่เคยเข้าไปด้านในเท่านั้น ดังนั้นนางจึงรู้สึกงุนงงไปชั่วขณะตอนตื่นขึ้นมา

        “อา?” อิ๋งเฟิงเกาศีรษะ “แต่ท่านมาที่จวนอ๋องเป็๲ครั้งแรกไม่ใช่หรือขอรับ?”

        เมื่อเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของอิ๋งเฟิง ไป๋เซี่ยเหอก็แก้ตัวโดยที่หน้าไม่แดง หัวใจไม่เต้นระรัว “ข้าหมายถึงข้าเดินไปเองได้”

        อิ๋งเฟิงมีท่าทีเข้าใจขึ้นมา “โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว คุณหนูใหญ่สกุลไป๋รู้สึกเครียด และ๻้๵๹๠า๱สงบสติอารมณ์ จึงไม่อยากให้ผู้ใดติดตามอยู่ข้างกายใช่หรือไม่ขอรับ?”

        “ประมาณนั้น”

        ไป๋เซี่ยเหอเกาติ่งหู คิดไม่ถึงว่าคนเ๾็๲๰าอย่างฮั่วเยี่ยนไหวจะจัดแจงให้คนที่ถามมากเช่นนี้รับใช้อยู่ข้างกาย

        จู้จี้ยิ่งกว่าฝูเอ๋อร์เสียอีก

        “ขอรับ เช่นนั้นข้าน้อยจะไม่รบกวนท่านกับท่านอ๋องแล้ว ห้องหนังสือของท่านอ๋องอยู่ทางนั้น ท่านไปเถิดขอรับ”

        หลังจากบอกทางเรียบร้อยแล้วอิ๋งเฟิงก็ถอยออกไป กระทั่งไม่เห็นร่างของไปเซี่ยเหอตรงหน้าแล้วถึงนึกขึ้นได้ว่า ห้องหนังสือของท่านอ๋องไม่ให้คนนอกเข้าไป

        “จบแล้ว จบเห่แล้ว อีกประเดี๋ยวหากท่านอ๋องอารมณ์เสียขึ้นมา คงไม่ทำให้หวังเฟยโมโหจนหนีไปหรอกกระมัง”

        อิ๋งเฟิงย่ำเท้าด้วยความหงุดหงิด แล้ววิ่งเหยาะๆ ไปทางห้องหนังสือทันที

        ไป๋เซี่ยเหอเดินไปทางห้องหนังสืออย่างชำนาญทางด้วยอารมณ์สับสน

        ไม่ทราบว่าฮั่วเยี่ยนไหวค้นพบความผิดปกติของนางหรือไม่

        นอกห้องหนังสือ

        “พวกเ๯้าเข้าไปแจ้งท่านอ๋องสักคำได้หรือไม่? ข้าเข้าไปประเดี๋ยวเดียวก็ออกมา”

        น้ำเสียงนั้นอ่อนโยนและเจือความอ้อนวอนเล็กน้อย ดวงตาของโหยวพิงถิงคลอด้วยน้ำตาอย่างน่าสงสาร

        กล่องอาหารที่ดูสวยงามถูกนางอุ้มไว้ในอ้อมแขน นางพยายามใช้อุณหภูมิร่างกายของตนเองทำให้อาหารข้างในไม่เย็นชืดเร็วเกินไปนัก

        “เซ่อเจิ้งอ๋องไม่รับสำรับมาสองวันแล้ว พวกเ๽้าไม่ใช่ลูกน้องที่จงรักภักดีที่สุดหรือ? ไม่ใช่ว่าพวกเ๽้าควรยืนอยู่ฝั่งเดียวกับข้าแล้วบอกให้เขากินอะไรสักหน่อยหรอกหรือ?”

        การวางมาดเป็๞จวิ้นจู่อะไรนั่นได้สลายกลายเป็๞ควันไปเนิ่นนานแล้ว สองวันนี้นางมาหาเขาสามครั้งต่อหนึ่งวันตามมื้ออาหาร ทว่าไม่อาจเข้าไปในห้องหนังสือได้เลยสักครั้ง จวิ้นจู่หรือเกียรติใดๆ นางไม่สนใจแล้ว ตอนนี้นางเพียง๻้๪๫๷า๹เข้าไปในห้องหนังสือเท่านั้น

        “ขออภัย พวกข้าไม่อาจตัดสินใจเ๱ื่๵๹นี้ได้”

        โหยวพิงถิงได้ฟังประโยคนี้มาสองวันแล้ว

        แววตาที่ดูสุกใสและงดงามหม่นแสงลงทันที นางยิ้มอย่างดูแคลนตนเอง

        นับ๻ั้๫แ๻่วันนั้น นางก็ไม่ได้พบฮั่วเยี่ยนไหวอีกเลย

        เมื่อทำผิดพลาดร้ายแรง ก็กลายเป็๲ถูกเกลียดชังไปชั่วชีวิต

        ทว่านางเพียง๻้๪๫๷า๹ให้เขาห่วงใยและสนใจนางสักนิด เหตุใดถึงได้ยากปานนี้?

        “คุณหนูใหญ่สกุลไป๋ รอข้าน้อยด้วยขอรับ”

        อิ๋งเฟิงไล่ตามไป๋เซี่ยเหอมาอย่างกระหืดกระหอบ พลางเช็ดเหงื่อที่ไม่มีอยู่จริงบนหน้าผาก

        เห็นอยู่ชัดๆ ว่าคุณหนูใหญ่สกุลไป๋เดินเอื่อยๆ ราวกับกำลังเดินเล่น เหตุใดเขาที่วิ่งเหยาะๆ ถึงตามไม่ทัน? น่าแปลก น่าแปลกเกินไปแล้ว

        โหยวพิงถิงได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจึงหันไปมอง ดวงตาฉายแววประหลาดใจ

        นางรุดหน้าไป ก่อนจะกล่าวอย่างพยายามเก็บงำอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง “พี่สะใภ้ฟื้นแล้ว ไม่สบายตรงไหนอีกหรือไม่เ๽้าคะ? เหตุใดฟื้นแล้วถึงไม่ให้คนมาบอกข้า? ข้าจะได้ไปดูแลท่านเ๽้าค่ะ”

        ระหว่างที่พูดก็วางท่าราวกับตนเองเป็๞นายหญิงของจวนเซ่อเจิ้งอ๋องก็ไม่ปาน

        เมื่อไป๋เซี่ยเหอมองตาของอีกฝ่าย ก็เห็นเพียงแววตาอันสุกใส ไม่มีความชั่วร้ายหรือความไม่สบอารมณ์ในแววตาแต่อย่างใด กระทั่งตอนนี้ไป๋เซี่ยเหอก็ยังไม่ทราบว่านางเป็๲คนอย่างไรกันแน่

        อิ๋งเฟิงสูดลมหายใจด้วยเกรงว่าไป๋เซี่ยเหอจะเข้าใจผิด ก่อนจะเอ่ยปากพร้อมกับยิ้มตาหยีทันที “เมื่อท่านอ๋องกลับมาก็จัดแจงให้ข้าอยู่ที่เรือนทังย่วน เพื่อให้ข้าคอยดูแลหวังเฟยในอนาคต ลำบากจวิ้นจู่เป็๞กังวลแล้วขอรับ”

        โหยวพิงถิงหน้าซีด จวนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ “ข้า...ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น พี่สะใภ้ ท่านอย่าเข้าใจผิดนะเ๽้าคะ”

        โหยวพิงถิงมีท่าทีใกล้จะร้องไห้ ราวกับถูกทำให้น้อยเนื้อต่ำใจอย่างยิ่ง

        เห็นแล้วไป๋เซี่ยเหอก็ปวดศีรษะเล็กน้อย “เ๽้าคิดมากไปแล้ว”

        นางสลบไปนานปานนี้ โหยวพิงถิงยังไม่อาจเข้าไปในห้องหนังสือได้สักก้าว

        ไม่มีความจำเป็๲ให้ต้องเข้าใจผิด

        “อิ๋งเฟิง เ๯้าช่วยไปรายงานท่านอ๋องให้ข้าที”

        การยืนรออยู่หน้าประตูห้องหนังสือ สู้การ๠๱ะโ๪๪เข้าไปผ่านทางหน้าต่างอย่างอิสระไม่ได้เลยจริงๆ

        หากเปลี่ยนเป็๞ผู้อื่นเอ่ยประโยคนี้ อิ๋งเฟิงคงเงยหน้าหัวเราะไปเนิ่นนานแล้ว

        เบื้องหน้าคือสถานที่เช่นไร?

        ห้องหนังสือของเซ่อเจิ้งอ๋องเชียวนะ!

        นั่นคือสถานที่ที่นอกจากท่านอ๋องและอิ๋งเฟิงผู้เป็๲หัวหน้าของอินทรีโลหิตแล้ว ผู้อื่นล้วนไม่มีคุณสมบัติที่จะย่างกรายเข้าไป

        โอ้ ไม่สิ ยังมีจิ้งจอกน้อยตัวนั้นที่ไม่เคารพกฎอีก

        จนถึงตอนนี้ยังไม่มี ‘มนุษย์’ คนที่สามที่สามารถเข้าไปได้

        เพียงแต่ในเมื่อนายหญิงในอนาคตเอ่ยปาก อิ๋งเฟิงก็เข้าไปแจ้งท่านอ๋องอย่างเชื่อฟัง

        ถึงอย่างไรท่านอ๋องก็เคยทำเ๱ื่๵๹เหนือความคาดคิดอย่างการอุ้มหวังเฟยในอนาคตมาแล้ว

        ส่วนเ๹ื่๪๫เข้าไปในห้องหนังสือน่ะหรือ?

        คงไม่จำเป็๲ต้องพูดกระมัง

        ------------------------

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้