แสงจันทร์สว่างกระจ่างตา และผืนป่าต่างแต่งแต้มไปด้วยเงาตะคุ่มของแมกไม้
บรรยากาศละมุนละไมชวนวาบหวามในใจ
เนี่ยหลีช่วยเซียวหนิงเอ๋อร์นวดรอยจ้ำ มองเซียวหนิงเอ๋อร์ค่อยๆ สวมเสื้อกลับให้เรียบร้อย ทั้งคู่นิ่งเงียบไม่พูดจา
เซียวหนิงเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นมองเนี่ยหลี ใบหน้าของเนี่ยหลีสงบสุขุม ยังมีความอบอุ่นหลงเหลืออยู่ที่บริเวณรอยจ้ำ เซียวหนิงเอ๋อร์เต็มไปด้วยความรู้สึกตื้นตันขอบคุณจากใจจริง หากมิใช่เพราะเนี่ยหลี นางก็ไม่รู้ว่าตนเองยังจะต้องทนเ็ปต่อไปอีกมากเท่าไหร่ เป็เนี่ยหลีที่ช่วยดึงนางออกมาจากโคลนตมอันไม่สิ้นสุด
เนี่ยหลีถูกเซียวหนิงเอ๋อร์จ้องมอง เขาเขินอายอยู่บ้าง ไม่ว่าอย่างไร จุดที่ไม่ควรแตะต้องก็แตะต้องไปแล้ว ทั้งยังรู้สึกดีอย่างยิ่ง
“เนี่ยหลี เ้าขัดแย้งกับตระกูลเสินเซิ่ง เ้าต้องระวังตัวให้มาก” เซียวหนิงเอ๋อร์รู้ว่าตระกูลเสินเซิ่งนั้นต่ำช้าและไร้ยางอายยิ่ง ปีนั้นตระกูลปีกัอี้หลงของนางตกต่ำ เป็ตระกูลเสินเซิ่งนี่เองที่วางกับดักตระกูลอี้หลง การค้าและทรัพย์สินกว่าแปดสิบส่วนตกไปอยู่ในมือของตระกูลเสินเซิ่ง ทำให้ไม่มีทางเลือก ต้องถูกตระกูลเสินเซิ่งผูกมัดไว้
กระทั่งบัดนี้ตระกูลอี้หลงก็ยังไม่อาจฟื้นตัวขึ้นมาได้ กลายเป็ตระกูลชนชั้นสูงปลายแถว และอีกไม่นานก็คงต้องถูกตระกูลเสินเซิ่งกลืนกิน
“ข้าคำนวณไว้แล้ว ตระกูลเสินเซิ่งเป็ตระกูลที่มีชื่อเสียงจอมปลอม ดังนั้น่นี้พวกมันจึงไม่กล้าแตะต้องข้า เดาว่าอีกสักสองสามเดือน พอเื่เงียบลงแล้วจึงกล้ามาหาเื่ข้า” เนี่ยหลียิ้มเจื่อนๆ แต่รอถึงอีกสองสามเดือน ข้าก็มีปัญญาตอบโต้ได้แล้ว
สีหน้าของเนี่ยหลีเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น เซียวหนิงเอ๋อร์มีความรู้สึกบางอย่าง ไม่ว่าจะมีปัญหาใดๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าเนี่ยหลีล้วนไม่เป็ปัญหา ในใจนางเต็มไปด้วยความชื่นชมเนี่ยหลียิ่งนัก
“เมื่อกลับไป เ้าหาผลึกิญญาที่ยังไม่เคยถูกผู้อื่นใช้มาไว้สักชิ้นหนึ่ง ข้าจะช่วยเ้าทดสอบพร์” เนี่ยหลีจ้องมองเซียวหนิงเอ๋อร์และพูด ดูแล้วต่างคนต่างมีความเข้าใจอีกฝ่ายดีขึ้น เนี่ยหลีรู้สึกว่าเซียวหนิงเอ๋อร์เป็เด็กสาวที่ดีคนหนึ่ง ใครจะรู้ว่าวันหนึ่งข้างหน้านางอาจจะกลายเป็ผู้ช่วยที่เข้มแข็งของเขาก็ได้ เนี่ยหลีจึงตัดสินใจที่จะสอนเคล็ดวิชาชั้นเลิศแก่นาง
“ผลึกิญญาที่ไม่เคยถูกใช้หรือ? ใช่สิ่งนี้หรือไม่?” เซียวหนิงเอ๋อร์เอ่ยถาม นางล้วงผลึกิญญาเบื้องต้นออกมาชิ้นหนึ่งจากแหวนมิติ “ข้ามีอยู่สามชิ้น”
“ที่แท้เ้าก็มีแล้ว เช่นนั้นดียิ่งนัก” เนี่ยหลียิ้มและหยิบชิ้นหนึ่งขึ้นมา “ถ่ายเทพลังิญญาของเ้าเข้าไปในนี้และให้ข้าตรวจดู”
“ได้” เซียวหนิงเอ๋อร์พยักหน้า นางถ่ายเทพลังิญญาเข้าไปในผลึกิญญา ผลึกิญญาก็พลันปลดปล่อยแสงสว่างสุกใสออกมา ภายในแสงสว่างนั้นค่อยๆ ก่อรูปเป็ลักษณะปีกัที่กำลังเหินบิน
เนี่ยหลีจ้องมองเซียวหนิงเอ๋อร์ด้วยสีหน้าอัศจรรย์ใจ “พลังิญญาแปดสิบสามจุด คุณลักษณะของอาณาเขติญญาเป็ธาตุสายฟ้าวายุ รูปร่างปีกั”
ไม่แปลกใจที่ความก้าวหน้าในการฝึกยุทธ์ของเซียวหนิงเอ๋อร์เป็ไปอย่างรวดเร็วยิ่ง ถึงแม้ว่าจะต้องนอนแนบอยู่บนเตียงถึงสองปี แต่การฟื้นตัวก็ยังเป็ไปอย่างรวดเร็วนัก ที่แท้ก็มีรูปแบบอาณาเขติญญาเป็ปีกัซึ่งนับเป็พร์ที่สุดยอดที่สุดนี่เอง มีรูปแบบิญญาเช่นนี้ ไม่ว่าจะฝึกเคล็ดวิชาแบบไหนก็มีความก้าวหน้าได้รวดเร็วยิ่ง หากนางได้ฝึกเคล็ดวิชาในหมวดธาตุสายฟ้าวายุ ก็เกินกว่าที่จะคิดไปถึงแล้ว
“คุณลักษณะสายฟ้าวายุ รูปแบบปีกั คือสิ่งใด?” เซียวหนิงเอ๋อร์ไม่เข้าใจในสิ่งที่เนี่ยหลีเพิ่งพูดออกมา ดวงตางดงามเต็มไปด้วยความสงสัย
“หมายความว่าเ้าเหมาะที่จะฝึกเคล็ดวิชาธาตุสายฟ้าวายุอย่างไรเล่า” เนี่ยหลีครุ่นคิดครู่หนึ่ง “ข้ามีอยู่เคล็ดวิชาหนึ่ง ข้าจะมอบให้เ้า”
เคล็ดวิชาธาตุสายฟ้าวายุชุดนี้เนี่ยหลีค้นพบได้จากเมืองโบราณที่หายสาบสูญไปแห่งหนึ่ง เป็เคล็ดวิชาที่เหมาะกับคนที่มีรูปแบบิญญาปีกัที่สุด หากเซียวหนิงเอ๋อร์ได้ฝึกเคล็ดวิชานี้ ฝีมือของนางจะต้องก้าวหน้าอย่างก้าวะโแน่นอน เกรงว่าคงเร็วยิ่งกว่าเนี่ยหลีและพวกเสียอีก
ิญญารูปร่างปีกั พร์นี้เยี่ยมยอดกระทั่งเนี่ยหลีก็ยังอิจฉาแล้ว!
“เคล็ดวิชาชุดนี้แข็งแกร่งกว่าเคล็ดวิชาที่เ้ากำลังฝึกอยู่!” เนี่ยหลีพูด ถ่ายทอดเคล็ดวิชาทั้งหมดให้แก่เซียวหนิงเอ๋อร์
เซียวหนิงเอ๋อร์จดจำเคล็ดวิชาและบันทึกเก็บไว้ ขณะท่องจำซึมซับเคล็ดวิชา ช่างเป็ดังที่เนี่ยหลีบอก เคล็ดวิชาสายฟ้าวายุชุดนี้ไร้เทียมทานยิ่งนัก! บรรดาเคล็ดวิชาที่นางเคยฝึกมาก่อนทั้งหมดล้วนกลายเป็ขยะเมื่ออยู่ต่อหน้าเคล็ดวิชาชุดนี้!
“เคล็ดวิชาชุดนี้มีชื่อว่าเคล็ดวิชาปีกัสายฟ้าวายุ!” เนี่ยหลียิ้มแย้มพูด “เป็เคล็ดวิชาที่ดีที่สุดสำหรับเ้า!”
“ขอบคุณ” เซียวหนิงเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นจ้องมองเนี่ยหลีด้วยความสำนึกรู้คุณในความกรุณาของเนี่ยหลีที่มีต่อนาง นางไม่ทราบจะตอบแทนอย่างไรดี อย่างแรกคือช่วยนางให้พ้นจากความเจ็บป่วย ต่อมาก็ยังมอบเคล็ดวิชาอันล้ำเลิศเช่นนี้ให้แก่นาง นางขบริมฝีปาก ใบหน้าก็เริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา “ข้าไม่ทราบว่าจะตอบแทนเ้าอย่างไรดี ไม่ว่าเ้า้าให้ข้าทำสิ่งใด ข้าก็ยินดีจะทำทุกอย่าง”
ได้ยินคำพูดนุ่มนวลอ่อนโยนจากเซียวหนิงเอ๋อร์ ในใจของเนี่ยหลีสะท้านไหว เขามองๆ เซียวหนิงเอ๋อร์ผู้เปี่ยมเสน่ห์ชวนมอง ยิ้มเจื่อนๆ และพูดว่า “พวกเราล้วนเป็เพื่อนกัน ย่อมต้องช่วยเหลือกัน ต่อไปหากข้ามีปัญหา เ้าก็ต้องช่วยข้าอยู่แล้วใช่หรือไม่?”
“อืม” เซียวหนิงเอ๋อร์พยักหน้า ดวงตาดำขลับงดงามเจือแววผิดหวังเล็กน้อย หากเวลานี้เนี่ยหลีขอให้นางเป็เพื่อนหญิงของเขา นางจะต้องตอบตกลงอย่างไม่ลังเล
ทั้งสองฝึกยุทธ์ต่อไปอีกสองสามชั่วโมง เซียวหนิงเอ๋อร์ฝึกเคล็ดวิชาปีกัสายฟ้าวายุที่เนี่ยหลีมอบให้อยู่ครู่หนึ่ง พลังยุทธ์ของนางเพิ่มพูนขึ้นอย่างฉับพลันจนยากจะจินตนาการถึงได้ ผู้มีรูปร่างอาณาเขติญญาแบบปีกัถือว่าเป็ผู้มีพร์ที่ไร้เทียมทานซึ่งจะมีโอกาสปรากฏขึ้นหนึ่งในหมื่นคนเพียงเท่านั้น ประกอบกับได้ฝึกเคล็ดวิชาที่เยี่ยมยอดอันเหมาะสมกับร่างกาย ความก้าวหน้าในการฝึกยุทธ์ย่อมก้าวะโไปเป็พันลี้
แม้เคล็ดวิชาเทียนเต้าจะมีความล้ำเลิศกว่าเคล็ดวิชาปีกัสายฟ้าวายุในท้ายที่สุด ทว่า่ต้นของการฝึก เคล็ดวิชาปีกัสายฟ้าวายุกลับมีอัตราก้าวหน้าที่รวดเร็วกว่าเคล็ดวิชาเทียนเต้า
เมื่อรุ่งอรุณใกล้มาเยือน ร่างของเซียวหนิงเอ๋อร์กระจายรัศมีแสงสีฟ้าออกมาเรืองรอง
“ความเร็วของการฝึกเคล็ดวิชาปีกัสายฟ้าวายุช่างน่ากลัวจริงๆ ใช้เวลาเพียงไม่นานก็แตะเขตแดนของระดับทองแดงหนึ่งดาวแล้ว” เนี่ยหลีอดที่จะคร่ำครวญมิได้ เทียบกันแล้ว พร์ของเขา ตู้เจ๋อ ลู่เพียวและพวกถือว่าเหมือนพวกธรรมดายิ่งนัก
เมื่อเซียวหนิงเอ๋อร์ลืมตาขึ้นมาเนี่ยหลีก็จากไปแล้ว ดวงตาของเซียวหนิงเอ๋อร์ฉายแววผิดหวัง แต่เล็กจนใหญ่ นางแทบไม่เคยพูดคุยกับเด็กผู้ชาย เนี่ยหลีเป็เด็กผู้ชายเพียงคนเดียวที่ทำให้นางมองเขาในมุมที่ต่างออกไป เมื่อครุ่นคิดถึงเนี่ยหลี หัวใจของเซียวหนิงเอ๋อร์ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น
หากนางไม่ได้พบเนี่ยหลี ชีวิตนางก็ไม่รู้ว่าจะมืดมนเพียงใด? จะเป็เหมือนเช่นเวลานี้ได้อย่างไร เวลาที่เต็มไปด้วยความหวัง?
นางตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าเนี่ยหลีจะชอบนางหรือไม่ นางจะอยู่ข้างกายเนี่ยหลีเสมอ จนกว่าจะถึงวันที่เนี่ยหลีจะสนใจในตัวนาง
หากเวลานี้พวกเด็กผู้ชายที่ชื่นชอบหนิงเอ๋อร์ทราบการตัดสินใจของนาง ไม่ทราบว่าจะช้ำใจถึงเพียงใด
“พลังิญญาเก้าสิบสองจุด อีกไม่นานก็จะถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวแล้ว!” ร่างของเซียวหนิงเอ๋อร์ชุ่มโชกด้วยเหงื่อไคล เหนียวตัวจนรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว แต่ผิวพรรณของนางกลับยิ่งเปล่งปลั่งและอ่อนเยาว์กว่าเดิม
หลังจากเฝ้ามองไปยังทิศทางที่เนี่ยหลีจากไปได้ครู่หนึ่ง เซียวหนิงเอ๋อร์จึงเริ่มเก็บข้าวของของตนและเดินตรงไปทางประตูสนามฝึก
หลังฟ้าสาง
ร้านค้าสมุนไพรต่างๆ ทั้งร้านเล็กร้านใหญ่ในเมืองกวงฮุยต้อนรับบุคคลลึกลับกลุ่มหนึ่ง พวกเขาบอกว่าเป็บ่าวรับใช้จากตระกูลใหญ่แห่งหนึ่ง สนใจซื้อหญ้าจื่อหลันในร้าน มีเท่าไหร่ก็ซื้อหมด บางร้านขายไม่ออกมานานปีก็ยังถูกกว้านซื้อไปจนหมดเกลี้ยง
“พวกเขาจะซื้อหญ้าจื่อหลันไปทำไมกันตั้งมากมาย?”
“ข้าว่าข้ารู้จักคนพวกนั้นนะ มันเป็บ่าวรับใช้ของคุณหนูเซียวหนิงเอ๋อร์แห่งตระกูลอี้หลง!”
“คุณหนูเซียวหนิงเอ๋อร์จะซื้อหญ้าจื่อหลันไปทำไมกัน? นึกไม่ออกจริงๆ!”
หญ้าจื่อหลันนอกจากใช้ไล่ยุงแล้วก็ไม่มีประโยชน์อื่นใดอีก บ้านตระกูลอี้หลงทั้งหลังใช้หญ้าจื่อหลันสักสิบกว่าจินก็เหลือเฟือแล้ว แต่บ่าวรับใช้พวกนั้นกลับซื้อไปเป็สิบหมื่นจิน จำนวนขนาดนี้ ทำให้ผู้คนใยิ่งนัก
หญ้าจื่อหลันทั้งหมดที่มี ล้วนถูกบ่าวรับใช้ของเซียวหนิงเอ๋อร์ซื้อไปจนหมดเกลี้ยง ร้านสมุนไพรบางร้านกระทั่งไปถอนหญ้าจื่อหลันออกจากแปลงเพาะปลูกของตนเพื่อนำออกมาขาย คาดว่าในอีกสามปีข้างหน้าเมืองกวงฮุยคงต้องขาดแคลนหญ้าจื่อหลันเป็แน่ แต่หญ้าจื่อหลันจะมีใช้หรือไม่ ไม่มีผู้ใดสนใจ
ในขณะที่เนี่ยหลีรับหญ้าจื่อหลันมาจากเซียวหนิงเอ๋อร์นั้น มันช่างน่าใที่มีจำนวนหญ้าจื่อหลันนับแสนจิน เกรงว่าคงต้องใช้เงินไปนับแสนเหรียญจิตอสูร เงินจำนวนมากมายปานนี้มิใช่น้อยๆ!
แต่เซียวหนิงเอ๋อร์ไม่ได้ใส่ใจ ขอเพียงเนี่ยหลีพอใจ จะให้นางทำสิ่งใดก็ย่อมได้ ยังไม่นับว่านี่เป็เงินแค่ไม่กี่แสนเหรียญจิตอสูร หากจะตีมูลค่า เงินแสนเหรียญจิตอสูรอาจมีค่าไม่ถึงหนึ่งในร้อยส่วนของเคล็ดวิชาปีกัสายฟ้าวายุด้วยซ้ำไป
เมื่อรู้ว่าการฝึกยุทธ์ของเซียวหนิงเอ๋อร์มีความก้าวหน้าเป็อันมาก เพียงไม่กี่วันพลังิญญาก็เพิ่มขึ้นถึงเก้าสิบกว่าจุด และกำลังจะทะลวงผ่านขึ้นเป็นักสู้ระดับทองแดงหนึ่งดาว ทั้งบ้านต่างก็ตื่นเต้น มอบเงินให้เซียวหนิงเอ๋อร์แสนเหรียญจิตอสูรและยังมีของล้ำค่าอีกหลายอย่างที่ช่วยส่งเสริมการฝึกยุทธ์ ดังนั้นเซียวหนิงเอ๋อร์จึงไม่ขาดแคลนเงินทอง
แม้อยู่ในภาวะตกต่ำ อูฐผอมโซตัวหนึ่งก็ยังใหญ่กว่าม้า ฐานะการเงินของตระกูลอี้หลงยังคงน่าพิศวงไม่น้อย และเพื่อส่งเสริมการฝึกยุทธ์ของเด็กรุ่นใหม่ในบ้าน สักนิดก็ไม่ขี้เหนียว
เมื่อได้หญ้าจื่อหลันมามากมายปานนี้ เนี่ยหลีพอใจอย่างยิ่ง แม้ยังไม่อาจคืนเงินให้แก่เซียวหนิงเอ๋อร์ได้ในเวลานี้ แต่ก็คงอีกไม่นานนัก
ไม่ว่าจะเป็ตู้เจ๋อหรือลู่เพียวต่างก็พากันสงสัยในใจยิ่งนัก พวกเขาล้วนไม่เข้าใจว่าเหตุใดเนี่ยหลีจึงจงใจซื้อหญ้าจื่อหลันมาเก็บตุนไว้มากมายถึงเพียงนี้ เนี่ยหลีได้ที่นั่งหนึ่งในห้องสมุดและไม่ทราบว่าเขากำลังเขียนสิ่งใดอยู่
่บ่ายมีคนมากมายเข้าๆ ออกๆ ห้องสมุด ตู้เจ๋อกับลู่เพียวกำลังอ่านหนังสือบางอย่างเกี่ยวกับยันต์และเคล็ดวิชาการต่อสู้ภายใต้การชี้แนะของเนี่ยหลี หาก้าฝึกยุทธ์เลื่อนสู่ระดับสูง ก้าวแรกย่อมต้องมีความรู้กว้างขวางเสียก่อน
หลังจากได้ฝึกเคล็ดวิชายุทธ์ สมองของพวกเขาพัฒนาไปมาก สามารถจดจำความรู้ทั่วไปได้ไม่ลืม และยังเรียนรู้ได้เร็วขึ้น
บริเวณหนึ่งไม่ไกลจากกลุ่มของเนี่ยหลีและพวก มีนักเรียนกลุ่มหนึ่งกำลังรวมตัวกัน ส่งเสียงคุยจ้อกแจ้ก
“ชุดเกราะในมือของข้าชิ้นนี้เรียกว่าชุดเกราะเหยียนิ มีระดับเงิน ต่อให้มีเงินแสนเหรียญจิตอสูรก็หาซื้อในตลาดไม่ได้” นักเรียนคนหนึ่งแสดงชุดเกราะสีแดงที่สวมใส่อยู่บนร่างกาย เขามีรูปร่างสูง กำลังสวมใส่ชุดเกราะ ท่วงท่ากลิ่นอายคล้ายชายชาติทหาร
เขาคือเฉินหลินเจี้ยน เป็บุตรสายเืตรงผู้หนึ่งของตระกูลเตียนเฟิง หนึ่งในตระกูลชนชั้นสูง อายุสิบห้าปี และเป็ถึงผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงห้าดาวแล้ว อีกไม่นานก็จะเลื่อนถึงระดับเงินหนึ่งดาว ในบรรดาตระกูลชนชั้นสูง ตระกูลเตียนเฟิงถือว่าร่ำรวยที่สุด เฉินหลินเจี้ยนเป็ที่นับถือในหมู่นักเรียนไม่น้อย มีพี่น้องร่วมกลุ่มขนาดใหญ่
“พอสวมชุดเกราะเหยียนินี้กับตัว ต่อให้เป็นักสู้ระดับเงินก็ไม่สามารถเอาชนะเ้าได้”
“เป็ชุดเกราะที่เยี่ยมยอดนัก!”
นักเรียนหญิงหลายคนด้านข้างเมื่อได้เห็นเข้า สีหน้าเต็มไปด้วยความอิจฉา หลายคนในหมู่พวกนางส่งสายตาหว่านเสน่ห์ชำเลืองมองไปทางเฉินหลินเจี้ยนเป็พักๆ
“ข้ามอบให้เ้า!” เฉินหลินเจี้ยนสะบัดมือ โยนชุดเกราะเหยียนิให้ลูกน้องคนหนึ่งในกลุ่ม
ชุดเกราะสำหรับการต่อสู้มีราคากว่าแสนเหรียญจิตอสูร มอบให้ง่ายๆ เช่นนี้? ทุกคนออกจะงุนงงไปหน่อย
หนึ่งแสนเหรียญจิตอสูรเท่านั้น เงินจำนวนนี้ถือว่าไม่มีความหมายสำหรับเฉินหลินเจี้ยน เขายิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “นี่เป็หญ้าเซิ่งิอายุห้าปีหกต้นที่ข้านำมาจากบ้าน หากพวกเ้ายอมติดตามข้า ขยันทำงาน รางวัลตอบแทนย่อมมีไม่ขาด!
--------------------------------------
*จิน (斤 Jīn) คือมาตราชั่งของจีน โดยที่ 1 จิน = 500 กรัม
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้