“เจียงเส้าข่าย” ูเี่อันถามทันทีที่เดินเข้าห้องมา “ตกลงนายจะคุยอะไรกับฉัน”
“เื่ที่เกิดขึ้นเมื่อวานฉันได้ยินจากแม่มาหมดแล้ว” เจียงเส้าข่ายใช้สองนิ้วลูบแก้มเธอเบาๆ “เธอโดนซูหงเยวี่ยนตบหน้าจริงหรือเปล่า ทำไมหน้าไม่เห็นบวม”
ตานี่อยากเห็นหน้าเธอบวมฉึ่งเป็หมูมาทำงาน?
ูเี่อันปัดมือเจียงเส้าข่ายออกไป “เมื่อวานลู่เป๋าเหยียนช่วยประคบน้ำแข็งให้เลยไม่บวม ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณชายเจียงผิดหวังนะคะ”
เจียงเส้าข่ายกอดอกพลางยิ้ม “เธอเคยได้ยินว่าลู่เป๋าเหยียนเป็ห่วงคนอื่นถึงขนาดช่วยประคบน้ำแข็งให้หรือเปล่าล่ะ”
อยู่ๆ เขาก็เปลี่ยนเื่ซะงั้น ูเี่อันเริ่มคิดตามไม่ทัน เธอนิ่งไปสักพักแล้วจึงถามขึ้น
“นายอยากจะพูดอะไรกันแน่”
“พนันกันไหมล่ะ ว่าถ้าฉันโทรไปหาลู่เป๋าเหยียนว่าเธอได้รับาเ็ ดูสิว่าลู่เป๋าเหยียนจะรีบบึ่งมาที่นี่หรือเปล่า” เจียงเส้าข่ายหยิบมือถือของูเี่อันขึ้นมากดปลดล็อก “จะบอกเธอให้ก็ได้นะ ตอนนี้ลู่เป๋าเหยียนคงยุ่งน่าดูเลยล่ะ พ่อฉันบอกว่าตอนนี้เขากำลังเจรจาธุรกิจครั้งสำคัญมูลค่ากว่าร้อยล้าน เป็ไง น่าตื่นเต้นใช่ไหม”
“เจียงเส้าข่าย อย่าไร้สาระน่า” ูเี่อันทำท่าจะแย่งมือถือกลับคืนมา
“เธอจะกลัวอะไร” เจียงเส้าข่ายเปิดดูรายชื่อผู้ติดต่อของเธอ “โทรกริ๊งเดียวเพื่อพิสูจน์ว่า ลู่เป๋าเหยียนแคร์เธอจริงหรือเปล่าไง”
เมื่อวานแม่บอกเขาหลังกลับมาจากงานปาระมูลว่า หลังซูหงเยวี่ยนตบหน้าูเี่อัน ลู่เป๋าเหยียนทำท่าเหมือนจะกินเืกินเนื้อซูหงเยวี่ยนยังไงยังงั้น เห็นได้ชัดว่าเขาแคร์ภรรยามากขนาดไหน
ลู่เป๋าเหยียนคิดอย่างไรกับตัวเองกันแน่ ไม่ใช่สิ่งทีู่เี่อันอยากจะรู้หรืออย่างไร?
เขาก็แค่อยากใหู้เี่อันทำเื่ทุกอย่างให้ชัดเจน ตัวเขาเองจะได้ถือโอกาสนี้เข้าใจหัวใจตัวเองเสียที
มือที่กำลังจะแย่งมือถือกลับคืนมาหยุดชะงัก เธอมองหน้าเจียงเส้าข่ายอย่างตื่นๆ ทว่าในสายตากลับเต็มไปด้วยความคาดหวังปนหวาดกลัว
ใช่ หลังจากเมื่อวานที่ลู่เป๋าเหยียนจูบเธอ เธอก็ยิ่งอยากรู้ว่าที่จริงแล้วลู่เป๋าเหยียนคิดอย่างไรกับเธอกันแน่
แต่ว่า ถ้าเธอคิดไปเองล่ะว่าเขามีใจให้จะทำอย่างไรดี
เธอยอมสงสัยในคำตอบไปตลอดชีวิต ดีกว่ายอมรับความจริงที่ไม่อาจคาดเดา
“อย่าหลอกตัวเองอีกเลย เธออยากรู้คำตอบ”
เหมือนเจียงเส้าข่ายจะอ่านใจเธอออก เขากดมือถือโทรหาลู่เป๋าเหยียนทันที
เสียงสัญญาณดังขึ้นอยู่สักพักก็มีเสียงตอบรับจากปลายสาย
“เจี่ยนอัน?”
หัวใจของูเี่อันเต้นแรงจนเหมือนจะะเิออกมา
“ฉันเอง เจียงเส้าข่าย” เขาพูดพลางมองูเี่อันสีหน้าระอา “เจี๋ยงเสวี่ยลี่มาหาูเี่อันที่นี่ ูเี่อันได้รับาเ็ ทางที่ดีคุณควรมาดูสักหน่อย”
ลู่เป๋าเหยียนไม่พูดอะไรสักคำแล้วตัดสายไป ไม่แม้แต่ถามว่าูเี่อันเป็อะไรมากหรือเปล่า
เจียงเส้าข่ายเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังของูเี่อันอย่างชัดเจน เขาจิ้มหน้าผากเธอพลางหยอกล้อ
“หลังแต่งงานกับลู่เป๋าเหยียน ศักดิ์ศรีเธอหายไปไหนหมดเนี่ย เื่แค่นี้เอง ตอนนี้ก็เหลือแค่รอว่าเขาจะมาหรือเปล่า”
ูเี่อันรับมือถือกลับคืนมา พลางนึกไปถึงคำพูดที่ลู่เป๋าเหยียนเคยบอกเธอ
‘คนเราต้องรู้สถานะตัวเอง’
เธอเป็อะไรสำหรับเขากัน? ก็แค่ภรรยาในนามเท่านั้น ตอนนี้เขากำลังคุยธุรกิจร้อยล้าน ไม่มีทางที่จะมาหาเธอเพียงแค่เพราะเธอาเ็อยู่แล้ว
เธอยิ่งคิดยิ่งรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ห้ามเจียงเส้าข่ายไว้ ว่าแล้วจึงพูดขู่
“เจียงเส้าข่าย ต่อไปถ้านายยังทำแบบนี้อีก ตอนนายแต่งงานฉันจะฟ้องเ้าสาวนายว่านายคบผู้หญิงมาแล้วกี่คน!”
“ไม่เห็นเป็อะไร” เจียงเส้าข่ายหัวเราะเสียงเย็น “เพราะถึงยังไงก็มีอีกหลายคนที่เธอไม่เคยรู้ว่าฉันคบด้วย!”
ูเี่อัน “...”
เธอยอมแพ้ แล้วจึงก้มหน้าก้มตาเล่นมือถืออยู่สักพัก ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจได้ว่าจะโทรหาลู่เป๋าเหยียน เพื่อบอกเขาว่าเมื่อกี้เจียงเส้าข่ายแค่ล้อเล่น
เจียงเส้าข่ายนั่งหัวเราะเยาะูเี่อันอยู่ข้างๆ
“ยัยขี้ขลาด! กลัวเขาไม่มาล่ะสิ”
ใช่น่ะสิ เธอกลัวเขาไม่มา เพราะฉะนั้น สู้บอกเขาเองว่าไม่ต้องมาจะดีกว่า
แบบนี้เธอยังจะปลอบใจตัวเองได้บ้าง
นิ้วเรียวปัดผ่านหน้าจอ แล้วจิ้มปุ่มสีเขียวลงไปเพื่อโทรออก
จากนั้น เธอก็ได้ยินเสียงเรียกเข้าที่คุ้นเคยดังขึ้นอย่างแ่เบาอยู่ตรงหน้าที่นั่ง
ูเี่อันเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นลู่เป๋าเหยียนยืนกุมมือถืออยู่หน้าโต๊ะของตน หน้าอกขยับขึ้นลงอย่างเหนื่อยหอบเหมือนเพิ่งรีบวิ่งมาจากที่ไหน จนเหงื่อเริ่มไหลออกจากหน้าผาก
เธอลืมหายใจไปชั่วขณะ หัวใจเต้นตึกตักด้วยจังหวะที่เร็วขึ้น
ใจเธอเต้นแรงเสียงยิ่งกว่าตอนพบเขาครั้งแรกเมื่อตอนสิบขวบเสียอีก
ลู่เป๋าเหยียนเดินอ้อมโต๊ะเข้ามาหาูเี่อันพลางจับเธอลุกขึ้น
“เจ็บตรงไหน เป็อะไรมากหรือเปล่า?”
ูเี่อันไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร ได้แต่อ้ำๆ อึ้งๆ
“เอ่อ ที่จริง...”
ที่จริงเธอก็แค่ถลอกนิดหน่อย ไม่ถึงกับเรียกว่าาเ็ด้วยซ้ำ แต่เขากลับมาหาเธอจริงๆ...
ตอนนี้เธอร้อนตัวเสียยิ่งกว่าพวกหัวขโมยตอนถูกจับได้เสียอีก
ลู่เป๋าเหยียนนึกว่าเธอาเ็หนัก จึงมองสำรวจเธอั้แ่หัวจรดเท้า สุดท้ายจึงพบรอยแดงเล็กๆ ตรงบริเวณข้อเท้า
“ตรงนี้เหรอ”
ูเี่อันยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ เธอยกมือปาดเหงื่อทั้งๆ ที่ไม่มีแล้วจึง “อืม” ตอบรับกลับไป
“ที่จริงฉันไม่ได้าเ็หนักอะไร ฉัน...เจียงเส้าข่ายแค่ล้อเล่นกับนายน่ะ”
ไม่รู้ว่าเธอมองผิดไปหรือเปล่า แต่สีหน้าลู่เป๋าเหยียนดู...โล่งอก
เฮ้อ นี่เท่ากับเธอหลอกเขา จะถูกเขาโกรธไหมนะ
“คุณชายเจียง” ลู่เป๋าเหยียนหันไปมองเจียงเส้าข่าย ูเี่อันนึกว่าเขาคิดจะทำอะไรจึงรีบดึงแขนเขาเพื่ออธิบาย แต่กลับได้ยินคำว่า
“ขอบคุณที่บอกผมเืู่เี่อันาเ็”
เจียงเส้าข่ายนั่งพาดขาลงบนโต๊ะทำงาน ยิ้มตอบอย่างคนกันเอง
“ไม่เป็ไรครับ”
ลู่เป๋าเหยียนหันกลับมาถามูเี่อันเสียงเบา
“ถึงเวลาพักเที่ยงแล้วหรือเปล่า”
ูเี่อันพยักหน้า ลู่เป๋าเหยียนกุมมือเธอทันที
“ไปที่อื่นกัน ฉันมีเื่จะคุยกับเธอ”
หลังออกมาจากสถานีตำรวจ ลู่เป๋าเหยียนก็พาเธอเข้าไปนั่งในรถ จากนั้นยืนถามเธออยู่ด้านนอก
“เธอมีเศษเหรียญติดตัวบ้างหรือเปล่า”
“นายจะเอาเท่าไร”
ูเี่อันเปิดกระเป๋าสตางค์ออก แต่แล้วก็เห็นลู่เป๋าเหยียนทำหน้างงๆ
“ไม่รู้เหมือนกัน” เขาตอบ
สุดท้ายเขาจึงหยิบกระเป๋าสตางค์เธอ แล้วเดินเข้าไปในร้านขายยาข้างสถานี
ไม่นานก็เดินออกมาพร้อมกับถุงเล็กๆ เขายื่นมันมาให้เธอพร้อมกับกระเป๋าสตางค์
“จัดการแผลตัวเองซะ”
ูเี่อันเปิดถุงออกดู ข้างในมียาฆ่าเชื้อกับพาสเตอร์ปิดแผล
เขาเอาเศษเหรียญไปซื้อของพวกนี้? มิน่าถึงไม่รู้ว่าต้องใช้เท่าไร...
เพราะเป็แค่แผลเล็กๆ ไม่นานูเี่อันก็จัดการเสร็จเรียบร้อย จากนั้นเธอก็หยิบทิชชู่เปียกออกมาจากกระเป๋าเพื่อเช็ดคราบเืที่ติดอยู่บนรองเท้า จากนั้นจึงถามลู่เป๋าเหยียนว่า
“นายมีอะไรจะคุยกับฉันเหรอ”
ลู่เป๋าเหยียนเอียงตัวมาช่วยูเี่อันรัดเข็มขัด แล้วขับรถออกไปโดยไม่พูดอะไร
ูเี่อันเองก็ไม่ถามต่อ หลังขับรถไปได้ประมาณสิบนาที พวกเขาก็มาถึงภัตตาคารสไตล์ยุโรปแห่งหนึ่ง
คนที่จะมาร้านแบบนี้ส่วนใหญ่เป็คู่รักมาออกเดตสวีทหวาน โดยเฉพาะภัตตาคารราคาแพงหูฉี่อย่างที่นี่ ูเี่อันมองลู่เป๋าเหยียนพลางถามอย่างตื่นเต้น
“นายพาฉันมาเดทงั้นเหรอ”
ลู่เป๋าเหยียนมองูเี่อัน “เธออยากได้ความโรแมนติก?”
ูเี่อันลองจินตนาการภาพลู่เป๋าเหยียนทำเื่โรแมนติกกับเธอแล้วส่ายหัว
“ช่างเถอะ นายคุยธุระที่นายอยากคุยก็พอ”
เมื่อพวกเธอเดินเข้าร้าน ผู้จัดการก็รีบออกมาต้อนรับ เขาเดินนำไปยังที่นั่งแล้วจัดการรินน้ำชาให้ด้วยตัวเอง “คุณลู่จะให้เสิร์ฟอาหารที่สั่งไว้เลยไหมครับ”
ลู่เป๋าเหยียน “อืม” ตอบกลับไป จากนั้นคลี่ผ้าเช็ดปากออกด้วยท่าทางสง่างามดูน่าหลงใหล เสน่ห์เหลือร้ายจริงๆ ูเี่อันเริ่มบ่นกับตัวเองในใจอีกครั้ง
ไม่นานพนักงานก็เข้ามาเสิร์ฟสเต๊กสองที่ ของลู่เป๋าเหยียนเป็สเต๊กเนื้อเซอร์ลอยด์ แบบมีเดียมเวล ส่วนของูเี่อันเป็เนื้อโกเบแบบเวลดัน
เธอถามอย่างแปลกใจ “นายรู้ได้ยังไงว่าฉันชอบกินเนื้อโกเบแบบนี้”
ลู่เป๋าเหยียนตอบเนิบๆ “เดาเอา”
“ที่จริงแต่ก่อนฉันก็กินแบบมีเดียมแรร์ได้นะ” ูเี่อันพูดพลางหั่นเนื้อสเต๊ก “แต่พอมาเป็แพทย์นิติเวช ฉันเลยเปลี่ยนมากินแบบสุกๆ ไปเลย ไม่งั้นเวลากินทีไรชอบนึกไปถึงภาพตัวเองตอนอยู่ในห้องทดลองผ่าแยกชิ้น...”
ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้ว แล้วป้อนเนื้อสเต๊กเข้าปากูเี่อันให้หยุดพูด
“ฉันต้องไปดูงานที่อเมริกา”
ูเี่อันกลืนสเต๊กลงคอ “งั้นเหรอ...แล้วจะไปเมื่อไร”
“ไฟล์ทคืนนี้ตอนสองทุ่ม”
“เดินทางโดยสวัสดิภาพนะ”
“ตอนฉันไม่อยู่ก็อย่าซนออกไปไหนมาไหนล่ะ” ลู่เป๋าเหยียนเตือนเธอ “ซูหงเยวี่ยนอาจจะมาหาเธอ”
เื่นี้ดึงความสนใจของเธอจากเนื้อสเต๊กตรงหน้าได้สำเร็จ เธอถามสีหน้าเครียด
“เขาจะมาหาฉันทำไม”
“เจี๋ยงเสวี่ยลี่ถูกจับข้อหาทำร้ายร่างกายเ้าพนักงาน”
ูเี่อันถึงกับชะงัก ตอนเช้าเธอไล่ให้เจี๋ยงเสวี่ยออกไปแล้วนี่
เธอจ้องหน้าลู่เป๋าเหยียน “นายจับเธอเข้าคุก? ก็ดี จะได้ไม่ว่างมารังควานฉันอีก” จากนั้นจึงถามขึ้นว่า “เอ่อ...แล้วนายจะกลับมาเมื่อไร”
พอคิดว่าเขาจะไม่อยู่ เธอก็รู้สึกเหมือนชีวิตขาดอะไรไป
ลู่เป๋าเหยียนนึกว่าเธอจะไม่ถามซะแล้ว หัวใจเขาเริ่มพองโตขึ้นมา
“พุธหน้าก็กลับแล้ว อยากได้อะไรหรือเปล่า เดี๋ยวฉันให้คนไปซื้อให้”
ูเี่อันส่ายหน้า “ฉันอยากกินไอติมวานิลลาโฮมเมดข้างมหาลัย แต่มันเอากลับมาไม่ได้นี่นา”
ผ่านไปสักพัก เธอจึงถามเขาอย่างสงสัย “ก่อนมาที่สถานี นายทำอะไรอยู่เหรอ”
“กำลังเจรจาธุรกิจบางอย่าง” ลู่เป๋าเหยียนมองูเี่อันพลางยิ้มบาง “ตอนที่เพื่อนเธอโทรมาบอกว่าเธอาเ็ ฉันทิ้งลูกค้าไว้แล้วรีบมาเลยนะ”
“แล้ว แล้วไงต่อ” ูเี่อันเริ่มสูญเสียความมั่นใจ
“แล้วไงเหรอ ทางนั้นก็คงคิดว่าฉันไม่จริงใจ อาจจะไม่ร่วมมือกับเครือเรา คงสูญกำไรไปสักร้อยล้านละมั้ง”
“ฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจ...”
ูเี่อันไม่เคยเห็นเงินเป็ร้อยๆ ล้านมาก่อน แค่คิดว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะหาเงินมาได้สักร้อยล้าน เธอก็เริ่มใจหาย
“ช่างมันเถอะ” น้ำเสียงของลู่เป๋าเหยียนดูอ่อนโยน ูเี่อันนึกว่าเขาคงมั่นใจว่าจะเจรจาต่อรองให้ลูกค้ากลับมาร่วมมือกับเขาได้อีกครั้ง จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก ทว่า...
“เธอรับผิดชอบค่าเสียหายด้วยละกัน”
ูเี่อันได้ยินดังนั้นถึงกับเกือบจะตกจากเก้าอี้
ต่อให้เธอขายบ้านทั้งหมดที่ซูอี้เฉิงซื้อไว้ให้ก็ยังได้ไม่ถึงร้อยล้านเลย แล้วเธอจะหาเงินที่ไหนมาคืนเขากัน
หรือว่า...จะขายตัวเองให้เขาเลยดีไหมนะ?