เมื่อโอวหยางเทียนหัวได้ยิน ในสายตาก็มีความเกรี้ยวกราด “อวิ๋นซี เ้ากล้า! ข้าเป็รัชทายาทนะ”
“มารดาเถอะ ตอนที่ท่านคิดจะทำตัวรุ่มร่าม มือไม้อยู่ไม่สุขกับข้านั้น เหตุใดจึงไม่คิดบ้างว่าข้าคือน้องสะใภ้ของท่าน ตอนนี้ทำมาเป็พูดกับข้าว่าตนเองเป็รัชทายาท...วันนี้ต่อให้เง็กเซียนฮ่องเต้มา ข้าก็ไม่มีทางปล่อยท่านไปแน่” วันนี้ขอแค่ได้คิดดอกสักหน่อยก็พอ วันหน้าหากได้เจอเขาในที่ลับอีก นางก็จะทำร้ายเขาเช่นนี้เรื่อยไป
เมื่อขบคิดดูอีกที นางก็รู้สึกว่า หากตนเองได้ลงมือเองย่อมต้องสะใจกว่าแน่ นางจึงเดินอ้อมไปด้านหลังของเขา โดยให้องครักษ์ลับช่วยกันจับตัวเขาไว้ จากนั้นก็เตะไปทีหนึ่งจากทางด้านหลัง นางควบคุมแรงตนได้เป็อย่างดี นอกจากการกรีดแทงครั้งนี้จะเ็ปมากแล้ว นางยังรับประกันด้วยว่า ขาข้างนี้ หากไม่ใช้เวลารักษาครึ่งปีถึงหนึ่งปีก็ไม่มีทางหายดีกลับมาเป็ปกติได้แน่
แน่นอน ตอนนี้นางยังไม่สามารถทำให้เขาขาด้วนจนใช้ชีวิตไม่เป็สุขไปจนตายได้ เพราะสิ่งที่นาง้ามากที่สุดก็คือ ได้เห็นเขาหมดสิ้นทุกสิ่งอย่าง ไม่ใช่การที่เขาได้ตายไปอย่างสบายเช่นนั้น
โอวหยางเทียนหัวเ็ปจนร้องะโออกมา ดวงหน้าซีดขาวน่ากลัว เหงื่อกาฬไหลหยดลงมาไม่หยุด ขณะนั้นอวิ๋นซีก็โบกมือส่งสัญญาณให้องครักษ์ลับและเว่ยหลานลากคนไปยังหลังเขา และเตะให้เข้าไปอยู่รวมกับผู้อื่นในลานล่าสัตว์
พวกเขาอุดปากโอวหยางเทียนหัวไว้ จากนั้นก็พาคนไป เพียงไม่นาน ที่นี่ก็เหลือแค่อวิ๋นซีคนเดียว ทว่า ตอนที่นางกำลังคิดจะจากไปนั้น เสียงที่แฝงไว้ด้วยกระแสรักใคร่สายหนึ่งก็ดังขึ้น “ข้ารู้อยู่แล้วว่าเ้าต้องมาที่นี่”
อวิ๋นซีหันกายไป สบเข้ากับดวงตาคู่นั้นที่คุ้นเคยเสียจนไม่รู้ว่าจะคุ้นเคยเช่นไรแล้ว นางยิ้ม ก่อนจะวิ่งไปหาอีกฝ่าย จากนั้นก็พุ่งเข้าไปในอ้อมแขนของาาจันทราเงิน นางยิ้มพูด “พี่รอง ท่านไม่ได้กลับไปแล้วหรือ? ”
นางจำได้ว่า พี่รองกลับไปพร้อมขบวนราชทูตของหลงชวีหยวนแล้ว แต่เหตุใดคนยังอยู่ที่นี่อีก?
“ข้ารู้ว่าพวกเ้าต้องมาล่าสัตว์ ก็เลยนึกถึงต้นท้อต้นนี้เข้า มิคาดวันนี้จะได้เจอเ้าที่นี่จริงๆ ” าาจันทราเงินยิ้มพลางลูบศีรษะของน้องสาว ถึงแม้รูปลักษณ์จะเปลี่ยนไปทั้งร่าง แต่นางก็ยังเป็เด็กน้อยที่เขารักใคร่มากที่สุด ยามที่ดีใจก็ยังคงพุ่งเข้ามาในอ้อมแขนเขา ร้องเรียกเขาว่าพี่รองเช่นเดิม
อวิ๋นซียิ้มบางๆ พูดว่า “ต้นไม้ต้นนี้เป็ข้าและท่านพี่ที่ช่วยกันปลูก ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมาดูอยู่แล้ว”
“เด็กน้อย...” าาจันทราเงินมองนางแล้วพูดต่อ “ข้าอยากจะพาเ้าไปหลงชวีหยวนด้วยกันจริงๆ เช่นนี้ พวกเราพี่น้องจะได้ไม่ต้องแยกจากกันอีกแล้ว”
อวิ๋นซีเบะปากพูด “ท่านพาพี่สะใภ้และหลานทั้งสองกลับไปอยู่ด้วยกันเถอะ พวกท่านสามีภรรยา บิดาและบุตรจะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าเสียที หลานทั้งสองและพี่สะใภ้จักต้องคิดถึงท่านมากเป็แน่”
คำของน้องสาว ทำให้าาจันทราเงินหวนนึกถึงเฉินซินหลาน เขาพูดเรียบๆ “ข้าไปเมืองเฟิงมารอบหนึ่งแล้ว”
สองพี่น้องหาพื้นหญ้าดีๆ ผืนหนึ่งแล้วพากันนั่งลงพูดคุย นางถาม “ท่านได้เจอพี่สะใภ้ของข้าแล้วหรือ? ”
าาจันทราเงินพยักหน้าตอบ “เจอแล้ว”
“เช่นนั้นพวกท่านเป็อย่างไรบ้าง? พี่สะใภ้ข้า ยินดีไปอยู่หลงชวีหยวนกับท่านหรือไม่? ” อวิ๋นซีถามด้วยความประหม่า
เขามองท่าทางนี้ของน้องสาว ก่อนจะส่งยิ้มให้แล้วตบๆ ไปที่ไหล่ของนาง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “บางที ชะตาชีวิตของพี่คงต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวกระมัง เ้าเองก็ไม่ต้องเป็ห่วงแทนพี่ ขอแค่นางและลูกๆ มีชีวิตอยู่อย่างดีก็นับว่าเพียงพอแล้ว”
สิ่งที่เขาติดค้างนาง เกรงว่าชั่วชีวิตนี้คงจะใช้คืนไม่หมด
“นี่มันเื่อะไรกัน? ” อวิ๋นซีดึงมือพี่ชาย นางถาม
าาจันทราเงินจมดิ่งเข้าสู่ห้วงความคิด เป็นานถึงได้ตอบ “ตอนที่ข้าไปเมืองเฟิง ไปตามหาร้านของนาง ข้าบังเอิญเห็นบุรุษท่าทางซื่อสัตย์ผู้หนึ่งคอยช่วยนางอยู่ในร้าน อีกทั้ง เด็กสองคนนั้นก็ดูเหมือนว่าจะสนิทสนมกับเขามากด้วย เ้าสามน้อย เ้ารู้หรือไม่? ชั่วขณะนั้น ข้ารู้สึกว่าตัวข้าต่างหากที่เป็คนนอก”
เมื่ออวิ๋นซีได้ยินคำตอบนั้นก็ลุกยืนมองพี่ชายตนด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว “ท่านได้เข้าไปถามพี่สะใภ้แล้วหรือยัง? ในเมื่อท่านยังไม่ได้ถาม เหตุใดจึงต้องคิดไปเองเช่นนี้ด้วย ท่านต่างหากที่เป็บิดาของเด็กทั้งสอง ท่านพี่ ท่านกำลังกังวลเื่ใด กังวลว่าพี่สะใภ้จะเปลี่ยนใจไปจากท่านแล้วอย่างนั้นหรือ? ”
าาจันทราเงินหันมองไปยังที่ห่างไกล อันที่จริงเขาเองก็ไม่รู้ว่าตนกำลังกังวลเื่ใดอยู่ คนเยี่ยงเขาจะมีวันพรุ่งนี้อีกหรือ? ตอนนี้ชีวิตของเฉินซินหลานกำลังไปได้ดี เด็กทั้งสองเองก็เชื่อฟังนางมาก ชีวิตที่สงบสุขเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะมอบให้นางได้
ตนไม่สามารถมอบให้ได้ แล้วจะให้ไปแย่งชิงมาอีกหรือไร?
อวิ๋นซีมองเขา พูดว่า “ท่านพี่ นั่นคือลูกหลานตระกูลเฉียวของเรา นั่นเป็เืเนื้อเชื้อไขของท่าน ในเมื่อพี่สะใภ้เฝ้ารอมาหลายปีเพียงนี้ นางย่อมไม่มีทางแต่งให้ใครง่ายๆ เช่นนั้นหรอก ยิ่งไปกว่านั้น ท่านจะรู้ได้อย่างไรว่าคนผู้นั้นไม่ได้กำลังจับจ้องเงินทองที่พี่สะใภ้สะสมมาหลายปี? ท่านจะรับประกันได้อย่างไรว่า ชายอื่นจะดีต่อหญิงที่มีลูกติดถึงสองคน? แล้วท่านจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ผู้อื่นจะดีต่อลูกชายของท่านอย่างแท้จริง? และหากว่าคนผู้นั้นมีเป้าหมายอื่นแอบแฝงจริงๆ เล่า พี่สะใภ้กับหลานทั้งสองจะไม่ใช่ว่าต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางน้ำลึกไฟร้อนหรือ”
คำพูดของอวิ๋นซีราวกับเป็ลมหนาวในฤดูหนาวที่บาดลึกเข้าหัวใจของาาจันทราเงินครั้งแล้วครั้งเล่า ดวงใจของเขาที่คล้ายจะลืมเลือนไปนานแล้วว่าสิ่งใดคือความเ็ปค่อยๆ ฟื้นคืนความเ็ปขึ้นมาอีกครั้ง อวิ๋นซีมองเขา พูดต่อ “บนโลกใบนี้มีเพียงพี่รองเท่านั้นที่จะดีต่อพี่สะใภ้และหลานทั้งสองอย่างจริงใจ ในเมื่อเป็ผู้หญิงของตน เหตุใดท่านจึงต้องถอยให้ผู้อื่นด้วย? ”
ในเมื่อเป็ผู้หญิงของตน เหตุใดจึงต้องถอยให้ผู้อื่นด้วย?
ประโยคนี้ช่วยปลุกาาจันทราเงินให้ตื่นขึ้น ทำให้เขาพร้อมที่จะยืนหยัดอีกครั้ง ใช่แล้ว ใครจะรับประกันได้ว่าคนผู้นั้นจะดีต่อเฉินซินหลาน และดีต่อลูกชายทั้งสองของเขา เด็กสองคนนั้นคือสายเืตระกูลเฉียว เดิมทีควรจะได้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อย่างสุขสบายพรั่งพร้อม แต่กลับเป็เพราะเขาที่ทำให้เด็กทั้งสองต้องผจญโลกอย่างลำบากลำบนกับมารดามาั้แ่เกิด
คิดถึงตรงนี้ สีหน้าของาาจันทราเงินก็ไม่เป็มิตรเท่าไรแล้ว เขามองไปยังอวิ๋นซี พูดว่า “ข้าจะไปเมืองเฟิง”
พี่รองพูดแค่ประโยคเดียวก็จากไปในทันที อวิ๋นซีอดขำไม่ได้ “รีบร้อนจริงๆ นะ” คิดถึงตรงนี้ นางก็รู้สึกรอคอยฉากการพบกันของพี่รองและพี่สะใภ้ขึ้นมาหน่อยๆ แล้ว
ตอนนี้สายเืของตระกูลเฉียวก็เหลือเพียงสายของพี่รองแล้ว นางหวังจริงๆ ว่าพี่รองและพี่สะใภ้จะสามารถกลับมาดีกันได้ จากนั้นก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างดี ให้กำเนิดเด็กอีกสักสองสามคนให้ตระกูลเฉียว เมื่อเป็เช่นนี้ รอกระทั่งนางส่งตัวการที่ทำลายตระกูลเฉียวไปยังปรโลกได้ บิดามารดาพี่ชายและพี่สะใภ้ก็จะได้ตายตาหลับเสียที...
อวิ๋นซีนำหวานหว่านขุดสมุนไพรกลับไปมากมาย แต่เพิ่งกลับมาถึงเรือนพักชั่วคราวก็เห็นเกาหมัวมัวรั้งอยู่ที่นี่แล้ว หมัวมัวเดินเข้ามา พูดเสียงเบาที่ข้างหูอวิ๋นซี “พระชายาเพคะ มีข่าวมาจากลานล่าสัตว์ว่า รัชทายาทตกหน้าผาขณะกำลังล่าสัตว์ ตอนที่ถูกพบ คนก็าเ็สาหัสอยู่ก่อนแล้ว”
อวิ๋นซีทำเพียงพยักหน้าด้วยสีหน้าท่าทางเรียบเฉย “ในเมื่อเกิดเื่ขึ้นกับรัชทายาท พวกเราก็ควรจะไปดูเสียหน่อย”
นางเข้าห้องไป เปลี่ยนเป็ชุดตุ้ยจินกระโปรงยาวสีเขียวไผ่ จากนั้นจึงได้เอ่ยถาม “ท่านอ๋องเล่า กลับมาแล้วหรือยัง? ”
“กลับมาแล้วเพคะ ตอนนี้คาดว่าคงอยู่ที่ลานเช่นกันเพคะ” หมัวมัวพยักหน้าพูด ฝ่าายังอยู่ที่นั่น แล้วใครจะกล้ากลับมาที่พักก่อน หากท่านอ๋องกล้าทำเช่นนั้นจริง ไม่แน่อาจถูกกล่าวโทษว่าไม่เห็นโอรส์อยู่ในสายตา ไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์พี่น้องก็เป็ได้
แน่นอนว่า อวิ๋นซีเองก็คิดเื่นี้ได้เช่นกัน นางไม่พูดอะไรมากมาย เพียงแต่นำหวานหว่านมุ่งหน้าไปยังลานล่าสัตว์ และตอนที่ไปถึงกระโจมในลานล่าสัตว์ก็เห็นคนมากมายรออยู่ด้านนอก
อวิ๋นซีที่เตรียมจะเข้าไปก็บังเอิญเห็นถงไห่เลิกม่าน เดินออกมาพอดี