การทำงานที่ช่างน่าเบื่อเสียจริงสำหรับกาวิน ทั้งๆ ที่บรรยากาศตอนนี้ห้อมล้อมไปด้วยสิ่งสวยๆ งามๆ ผู้คนมากหน้าหลายตาที่จ้องแต่จะเอาใจเขา แต่มันก็แสนน่าเบื่ออยู่ดี สมองตอนนี้ดันคิดแต่ว่า เ้าเด็กโง่นั่นทำอะไรอยู่ตอนนี้ มันไปทำธุระกับเพื่อนคนไหน ที่ไหน อย่างไร แล้วมันจะกลับบ้านอย่างที่เขาบอกหรือเปล่า หรือว่าไหลไปที่อื่นต่อ
กาวินยอมรับว่าหลายเดือนมานี้ เขาเองก็หาสาเหตุ หรือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่ตอนนี้ตัวเองเป็อยู่เรียกว่าอะไร เขาดูหงุดหงิดง่าย อารมณ์เสียบ่อยเมื่อต้องออกจากบ้านโดยที่ไม่มีหนุ่มน้อยอย่างทชามาด้วย ซึ่งมันก็เป็ไปไม่ได้อยู่แล้วละ ที่ทชาจะมาด้วยได้ทุกครั้งเพราะว่าเด็กมันติดเรียน และต้องทำรายงานกับเพื่อน แต่ถ้าวันไหนเป็วันหยุด เขาก็จะหนีบ ทชามาด้วย
บางคนที่ชอบแซวเขาว่าออกมาทำงานนอกบ้าน ก็มีทั้งเลขา และเด็กในบ้านตามมาดูแล เขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่กับคำว่าเด็กในบ้าน เพราะทชาไม่ใช่
ทชาไม่ใช่คนใช้อย่างที่ใครๆ คิด แต่เ้าเด็กนั่นก็ชอบบอกคนอื่นเหลือเกินว่าตัวมันเองเป็คนใช้ที่บ้าน บางทีก็อยากจะทุบมันสักที ที่ชอบยกตำแหน่งอันทรงคุณค่านั้นให้กับตัวเอง ในระหว่างที่นั่งรอการถ่ายทำ
เพราะฉากและทุกอย่างที่จัดยังไม่เรียบร้อย เขาแน่ใจว่ามีสายตาของใครคนหนึ่งที่แอบมองเขาอยู่แน่ๆ เซ้นส์แรงบอกเลยถ้าเป็เื่นี้ และก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็คู่พรีเซ็นเตอร์ด้วยกันนั่นแหละ
ออกัส หนุ่มรุ่นน้องสองปีที่เพิ่งได้ร่วมงานกันครั้งแรก หนุ่มหน้าตาดีสูงใหญ่กว่าเขานิดหน่อย สายตาที่หวานเชื่อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่มที่มองมา กาวินมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นมีใคร ก็น่าจะเป็ตัวเองนี่แหละที่ออกัสมันยิ้มให้
ด้วยความที่เป็คนที่ชอบบริหารเสน่ห์ตัวเองเป็ทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งชอบใหญ่ จากที่นั่งเครียดๆ คิดมากเื่เด็กทชา ก็เปลี่ยนท่านั่งใหม่ ไขว่ห้างเก๋ๆ เผยอปากหน่อยๆ เอียงแก้มพอได้องศาและปรายตาออกไป
ยั่วเพศสุดๆ!!!
ยิ้มเชื้อเชิญเล็กน้อยเหมือนส่งสัญญาณ ก็เข้ามาสิ!!!
ทุกอย่างไม่เคยมีคำว่าไม่ได้ผล ไม่ติดกับดัก เพราะกาวินระดับไหนแล้ว หว่านเสน่ห์ให้ใครไม่เคยมีคำว่าผิดหวัง ทุกอย่างมันดูกันออก ที่สำคัญฝ่ายตรงข้ามดูกาวินออกมั้ยไม่รู้ แต่เขานั้นอ่านเกม อ่านสายตาของอีกฝ่ายได้ทะลุปรุโปร่งเลยละ มันชอบกูแน่!!!
"นั่งด้วยได้มั้ยครับพี่กาวิน"
"อืม"
การพยักหน้ารับแล้วทำหน้าตาน่ารักสุดๆ เขาดูออกว่า ออกัส ตื่นเต้นแค่ไหนแต่แค่พยายามเก็บอาการเฉยๆ
"หยิบสมุดโน้ตให้พี่บ้างสิ โอ๊ะ! ไม่ต้องเดี๋ยวพี่หยิบเอง"
สายตาออกัสเลิ่กลั่ก และทำตัวไม่ถูกเมื่อกาวินโน้มตัวผ่านเขาเพื่อที่จะหยิบของ กลิ่นหอมอ่อนๆ จากผิวเนียนของกาวิน ทำให้หนุ่มรุ่นน้องแอบสูดดมเข้าเต็มปอดอย่างลืมตัว และกาวินเองก็ดูจะชอบใจเพราะรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็แบบนี้ การเคลื่อนตัวช้าๆ เพื่อยั่วอีกฝ่ายมันได้ผลมากๆ ออกัสถึงกับหลับตาเคลิ้มไปกับความหอมหวานนั้น
"เป็ไร"
หน้าดื้อมาก ถามขึ้นทำเป็ไม่รู้ไม่ชี้ในสิ่งที่ตัวเองทำ ออกัสก้มหน้าก้มตาเขินอาย เอามือลูบต้นคอตัวเองแก้เขิน
"ปะ...เปล่าครับ ผมชื่นชอบพี่มานานมากแล้ว ดีใจมากๆ ที่ทางบริษัทของพี่ให้โอกาสผม"
"เหรอ ชอบพี่ตรงไหน"
เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายชื่นชอบ กาวินไม่ปล่อยให้เขินนาน รุกต่อจนพรีเซ็นเตอร์คู่ไปไม่เป็ อาการท่าทางที่เอามือเท้าคางเอียงหน้าเล็กน้อยจ้องเข้าไปในดวงตาคู่สนทนา ออกัสเองมองว่ามันเป็เื่ที่ร้ายกาจ และมีพลังงานทำลายล้างสูงมากๆ
ตึกๆๆ
เสียงหัวใจที่ดังมาก ดังจนคนที่อยู่ด้วยได้ยิน กาวินยิ่งอยากแกล้ง เมื่อเห็นว่าออกัสหน้าแดงมาก
"หัวใจเต้นแรงจังครับ" คำพูดที่ไพเราะยิ่งทำให้ออกัสเขิน
"คือ...ผม"
ออกัสเอามือทาบที่อกตัวเองยิ้มหวาน มองหน้าพี่คนสวยเหมือนหลงเขาไปแล้ว แต่ทว่ากาวินก็กดเบรกความรู้สึกนั้นทันที เหมือนน้ำที่กำลังไหลผ่านอย่างแรง ไหลได้สะดวก แต่สักพักก็มีคนเอาผนังกั้นวางลง ฉึบ!!! ทันที กาวินทุบเข้าที่หลังอย่างแรง สายตาที่ยั่วเพศเมื่อกี้นี้หายไป แอบยิ้มอย่างพอใจเหมือน้าเช็กเสน่ห์ของตัวเองก็แค่นั้น
"ปะ ผู้กำกับเรียกแล้ว ลุกขึ้น"
ทำเอา ออกัสถึงกับงง สายตารอยยิ้มที่โปรยออกมาเมื่อกี้คืออะไร มันดูจริงมากสำหรับเขา แล้วกาวินทำหน้าอันยั่วยวนนั้นหายไปภายในวินาทีเดียวได้ไงกัน
หนุ่มพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ถึงกับเกาหัวแกรกๆ ยังงงไม่หาย เพราะเมื่อกี้นี้ก็คิดเข้าข้างตัวเองไปแล้วว่าพี่กาวินหน้าสวยน่าจะหลงเสน่ห์ตัวเองเหมือนกัน
ความเป็หนุ่มมือใหม่สมัครเล่นอย่างออกัส กาวินถึงกับส่ายหน้ายิ้มๆ รู้สึกดีขึ้นมานิดหนึ่งที่เช้านี้ได้ใช้เสน่ห์ของตัวเอง อย่างน้อยก็ได้รู้ว่ามันยังได้ผลอยู่มาก และทำให้คนที่สนใจเขานั้นหลงเข้ามาในดงกาวินได้ไม่ยากนัก
กาวิน หนุ่มเ้าเสน่ห์ ชื่อนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยแต่อย่างใด ไม่มีใครคนไหนที่พยายามเข้าหาเขาแล้วจะไม่ติดกับดักเสน่ห์ยั่วยวนนี้ เคยถึงขนาดทะเลาะ และมีเื่กันเพราะเขาก็เคยมีข่าวมาแล้ว แต่กาวินก็ดูจะชอบใจเสียมากกว่า กลับรู้สึกสนุกกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไร ใครจะมีปัญหาก็มีไป
กูไม่สน!!!
นั่นคือสิ่งที่กาวินคิด เขามักไม่ใส่ใจกับเื่พวกนี้ และคนที่เข้าหาบางคนก็เข้าข้างตัวเอง เพราะเห็นรอยยิ้มที่ยั่วเพศของกาวินนี่แหละ แต่ที่ไหนได้ ชายหนุ่มเททุกคนที่เข้าหา และทำเหมือนจะคบ แต่ก็ไม่เคยคบใครจริงจังสักคน
การที่กาวินทำแบบนี้มักจะโดนคนในครอบครัวตำหนิเสมอ แต่ก็หาได้ใส่ใจ เขาจะเฉยๆ แต่ก็จะมีอยู่คนเดียวที่เวลาดุด่าเขาแล้วเขารู้สึกเจ็บและงอนบ่อยๆ ก็จะใครล่ะถ้าไม่ใช่ ทชา!!!
ฉากที่ถ่ายทำเป็ฉากที่ต้องลงอ่างเสมือนเพื่อนรักที่แอบชอบกัน อันนาที่ทำหน้าที่ดูแลกาวิน เข้าไปเช็กตรวจสอบห้องน้ำก่อนทุกครั้ง เมื่อกาวินต้องถอดเสื้อโชว์เรือนร่าง แล้วทีมงานทั้งหมดก็ต่างพร้อมใจกันอุทานตาลุกวาวเมื่อเห็นว่ากาวินถอดเสื้อออก
ว้าว!!!
โอ้ว!!!
ฟังจากน้ำเสียงก็พอจะดูออกว่าร่างอันแข็งแรงกำยำนั้นมันน่ามองแค่ไหน กล้ามเนื้อที่ไร้ไขมัน ผิวที่เนียนละเอียดขาวสวย ทำให้ทุกคนตรงนั้นมองตาค้าง กลืนน้ำลายตามๆ กัน ในขณะที่เ้าตัวเคร่งเครียดอยู่กับการบรีฟงาน
"อ้าวทีมงาน เช็ดน้ำลายกันด้วยจ้า หกท่วมกองหมดแล้ว"
ผู้กำกับะโบอกด้วยน้ำเสียงที่ขำขัน เพราะทุกคนเงียบมองไปที่คนคนเดียวอย่างกาวิน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็ถอดเสื้อโชว์มาก็หลายรอบแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ชินกับร่างที่แน่นน่าเย้ายวนนั้น
"เดี๋ยวนะอัน แป๊บหนึ่ง"
อันนาถึงกับงง เมื่อเพื่อนเหวี่ยงวีนของเขาทำท่าจะถอดเสื้อคลุม แต่ก็ใส่เหมือนเดิม วิ่งไปกดโทรศัพท์หาใครคนหนึ่งแบบรีบร้อน
ปลายสายที่รับไม่ใช่ใครอื่น ก็คือทชานั่นเอง
"ครับพี่กาวิน มีอะไรหรือเปล่าโทรมา"
"ไม่มีอะไร กูโทรหามึงไม่ได้ ใช่มั้ย"
ทันทีที่พูดตอบ เครื่องด่าก็รีรันทันทีเหมือนตั้งค่าไว้ด่าเด็กมันอย่างเดียว เพราะรู้สึกว่าเสียงที่ถามนั้นเหมือนจะรำคาญเขา กาวินก็เลยไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก
เสียงตอบกลับแบบอ่อยๆ พร้อมกับเสียงถอนหายใจที่ดังจนคนที่โทรหาได้ยิน
"มึงถอนหายใจใส่กูเหรอทชา"
"มีอะไรว่ามาครับพี่ ผมกำลังเร่งงานอยู่"
เสียงทุ้มต่ำกดลงต่ำอีกจนกาวินต้องเงียบปากไว้ เมื่อทำท่าจะด่า เจอน้ำเสียงแบบนี้เข้า เขาเองก็หงอเหมือนกัน เพราะคิดว่าปลายสายน่าจะเริ่มไม่พอใจและรำคาญเขามากๆ แค่นี้เองที่ทชาชอบทำใส่เขา แล้วไอ้เ้าก้อนเนื้อน้อยๆ ที่เรียกว่าหัวใจมันก็ดันใจน้อยตามรูปร่างมันนั่นแหละ
นี่เองที่กาวินไม่เข้าใจตัวเอง ว่าหมู่นี้มันช่างเป็บ่อยเหลือเกิน โดยที่เขาเองก็ไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไร ก็แค่ทชามันขึ้นเสียง หรือทำน้ำเสียงแบบนั้นใส่
เขาจะมีอาการเหมือนมีก้อนอะไรแข็งๆ กดจุกอยู่ให้รู้สึกพูดไม่ออก มันน่าจะเป็อาการที่เรียกว่าน้อยใจ
"พี่ครับ เงียบทำไม"
เหมือนทชาเองก็จะรู้ตัวว่าตัวเองทำน้ำเสียงที่ไม่พอใจใส่เ้าของบ้าน เลยรีบเปลี่ยนโหมดถามกลับมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนลงกว่าเดิม นุ่มนวลและอ่อนโยนกว่าเดิม นี่คือการดื้อรั้น และประท้วงแบบเงียบๆ ของกาวินเมื่อผมดุเขา
และผมก็ต้องเป็ฝ่ายที่ใจอ่อน และง้อก่อนตลอด พักนี้ดุไม่ได้เลย ดุหรือขึ้นเสียงเป็งอนใส่ เอากับเขาสิ ตัวโตซะเปล่า
"พี่ครับ"
"อือ...กูทำให้มึงเสียเวลาเหรอ"
กาวินยังคงไม่พูดธุระตัวเอง แต่ยังคงสนใจแค่ว่าเขาทำให้เด็กหนุ่มนั้นรำคาญ และเสียเวลาทำงานตัวเองหรือเปล่า
