ดาบเล่มนั้นอยู่ไม่ไกลจากเหนียนยวี่แม้ว่าจะปลิดชีวิตของนางไม่ได้ ทว่าก็ยังทำให้นางาเ็สาหัสและสถานการณ์พลิกผันได้
"ยวี่เอ๋อร์ ระวัง..."
มีเสียงร้องเตือนดังขึ้นในอากาศ
ชั่วขณะนั้น ดาบในมือของเหนียนยวี่กำลังแทงเข้าไปในร่างของชายที่กำลังพุ่งเข้าหาฮองเฮาอวี่เหวินฮองเฮาอวี่เหวินไม่ได้รับาเ็อะไรและยามที่เหนียนยวี่ได้ยินเสียงร้องเตือนของฉู่ชิงนางรีบหันกลับไป ทว่าร่างสูงใหญ่ของบุรุษพลันเข้าบดบังสายตานาง...
“อึก...”
เสียงร้องอู้อี้ดังออกมาจากปากของชายหนุ่มพร้อมกับเสียงดาบเสียดแทงเข้ากายเนื้อ ดังเข้ามาในหูของเหนียนยวี่...
ทันใดนั้น ชายหนุ่มดูเหมือนจะฝืนกายไม่ไหวเขาโซเซไปข้างหน้า สองแขนโอบกอดเหนียนยวี่
“ฉู่ชิง...”ครั้นเหนียนยวี่ตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง นางเงยหน้ามองหน้ากากสีเงินฉู่ชิงเขา...
ทว่าในตอนนั้นเอง ฉู่ชิงกลับถอยหลังหนึ่งก้าว เขาหันกลับไปต่อสู้กับชายชุดดำที่อยู่รายล้อม
เหนียนยวี่จ้องมองดาบที่เสียบอยู่บนหลังของชายหนุ่มในใจนางรู้สึกปั่นป่วน เหนียนยวี่กำดาบในมือแน่นดวงตาแดงก่ำลุกโชนอย่างโกรธเกรี้ยว พุ่งตรงเข้าไปต่อสู้เคียงข้างฉู่ชิง
คนสองคนต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่การต่อสู้ฟาดฟันที่เข้าขากันโดยมิต้องเอ่ยคำใดแม้แต่บุรุษที่เฝ้ามองอยู่นอกวงการต่อสู้ยังลอบขมวดคิ้ว
เขาไม่นึกเลยว่า...การโจมตีเมื่อครู่นี้นอกจากจะไม่คร่าชีวิตของเหนียนยวี่แล้ว กลับกันยิ่งทำให้ทั้งสองคนนี้ลงมืออย่างโเี้กว่าเดิม
เหนียนยวี่ตาแดงก่ำ เพียงครู่เดียวคนชุดดำต่างล้มลงกับพื้น ยกเว้นแต่...
เหนียนยวี่จ้องมองบุรุษที่ยืนอยู่ตรงข้ามนางเมื่อครู่นี้...เป็เขาที่ทำร้ายฉู่ชิงหรือ?
ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกถึงความอันตรายที่แผ่ออกจากร่างกายของเหนียนยวี่รวมถึงการตัดสินใจของนางเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้ ดวงตาของเขาพลันหรี่ลงและหายไปอย่างรวดเร็ว
เหนียนยวี่ััได้ถึงจุดประสงค์ของเขา คิดหนีหรือ? นางจะยอมปล่อยให้เขาสมหวังได้อย่างไร
ทว่าเหนียนยวี่ที่กำลังไล่ตามบุรุษผู้นั้นจนเกือบจะทันแล้วพลันได้ยินเสียงร้องอู้อี้ของคนข้างหลังดังขึ้นมา เหนียนยวี่รีบหันกลับไปมองครั้นเห็นฉู่ชิงล้มลงกับพื้น ฝีเท้าที่กำลังก้าวออก รีบวิ่งกลับไปอย่างรวดเร็ว
“ฉู่ชิง...”เหนียนยวี่คุกเข่านั่งลงข้างกายฉู่ชิง นางเอ่ยเรียกเขาเสียงเบา ดาบเล่มนั้นยังคงเสียบอยู่บนหลังเขาตำแหน่งดาบใกล้กับไหล่ขวา ดูเหมือนชุดสีดำบนตัวเขายังมิอาจปกปิดเืที่ไหลออกมาได้และความลึกของดาบนั่น...
เหนียนยวี่อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วตอนนี้นางต้องรักษาาแของฉู่ชิงให้เร็วที่สุดหากไม่รีบดึงดาบนี้ออกมาให้ได้โดยเร็ว ผลที่ตามมาคง...
เหนียนยวี่ที่คิดว่าฉู่ชิงเป็ลมหมดสตินางจึงพยายามพยุงตัวฉู่ชิงขึ้นจากพื้น ทันทีที่คิดจะแบกเขาขึ้นบนหลังตัวเองเสียงของชายหนุ่มด้านหลังพลันดังขึ้น...
"ร่างกายผอมบางของเ้าจะแบกข้าขึ้นหลังไหวหรือ?"
ลมหายใจแ่เบาทำให้ร่างกายของเหนียนยวี่สะดุ้งเล็กน้อย นางยังไม่ทันได้รู้สึกตัว มือยาวข้างหนึ่งพาดลงบนบ่านาง“พยุงข้า”
ถ้อยคำสามคำนี้ แม้นน้ำเสียงจะราบเรียบทว่ากลับไม่มีช่องว่างให้ขัดขืน
“อืม” เหนียนยวี่ขานตอบมือข้างหนึ่งจับแขนของฉู่ชิงที่วางลงบนบ่านาง แขนโอบประคองข้ามแผ่นหลังเขามืออีกข้างวางลงบน่เอวแข็งแกร่ง แนบชิดสนิทชุดสีดำบาง ััอันสนิทสนมเช่นนี้ทำให้บรรยากาศของระหว่างคนทั้งสองคลุมเครือขึ้นมาอย่างมิอาจบรรยาย
เขาพูดได้อย่างมีเรี่ยวแรงเช่นนี้ หมายความว่าสภาพของเขาคงไม่ได้แย่นักใช่หรือไม่?
ถึงแม้จะเป็เช่นนั้น เหนียนยวี่ก็ยังไม่วางใจนางจับมือเขา พยายามให้เขาเทน้ำหนักตัวเองมาที่ตัวนางให้มากที่สุด
ขณะที่เหนียนยวี่กำลังพยุงตัวฉู่ชิงทว่าดูเหมือนนางจะตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่างนางหันกลับไปมองฮองเฮาอวี่เหวินที่ยืนอยู่ตรงที่โล่งแจ้งคนเดียว...
“เสด็จแม่...”เหนียนยวี่เอ่ยเรียกนางอย่างแ่เบา
เสียงนี้ทำให้ฉู่ชิงขมวดคิ้วลมหายใจโรยแรงที่ปะทะบนหน้าเหนียนยวี่ ประหนึ่งแฝงอารมณ์สงสัย
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือหลังจากได้ยินเสียงะโเบาๆ ของเหนียนยวี่ ฮองเฮาอวี่เหวินกลับรีบเดินเข้ามาและมองเหนียนยวี่ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข “จี้เยวี่ย...ในที่สุดแม่ก็หาเ้าเจอแล้ว”
เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว หลังจากพบเจอเื่ราววุ่นวายเมื่อครู่นี้ดูเหมือนอาการของฮองเฮาอวี่เหวินจะยิ่งรุนแรง
และตอนนี้...
“เสด็จแม่ ตามจี้เยวี่ยมาเถิดเพคะอย่าเดินหลงทางเล่า” เหนียนยวี่เอ่ยอย่างอ่อนโยนฮองเฮาอวี่เหวินเหลือบมองฉู่ชิงที่เดินพิงเหนียนยวี่ ครานี้นางพยักหน้าเดินตามเหนียนยวี่อย่างเชื่อฟังเป็พิเศษ เหนือความคาดหมายยิ่งนัก
ภาพนี้ยิ่งทำให้ความสงสัยของฉู่ชิงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆฮองเฮาอวี่เหวิน นาง...
“ฮองเฮานางมองข้าเป็องค์หญิงจี้เยวี่ย ส่วนเพราะเหตุใดนั้น...”เหนียนยวี่นึกคิดถึงผลที่ตนเองได้รู้ ตอนจับชีพจรของฮองเฮาอวี่เหวินอดไม่ได้ที่จะลอบถอนหายใจ “ไว้ค่อยพูดจาแล้วกัน”
สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือ การกลับไปที่ถ้ำ
ฉู่ชิงไม่ได้เอ่ยถามอะไรอีก ทั้งสามคนเดินอย่างเชื่องช้ามากเหนียนยวี่รู้สึกถึงความอ่อนแรงของฉู่ชิง ทว่าเขากลับยังฝืนยืนหยัดแม้แต่น้ำหนักตัวของเขายังทิ้งลงมาที่นางไม่มาก ราวกับว่าไม่อยากเพิ่มภาระให้นาง
ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในสายตาของเหนียนยวี่ตอนที่มาถึงถ้ำ เวลาก็ล่วงเลยไปหนึ่งก้านธูปแล้ว
เหนียนยวี่จัดแจงที่ทางให้ฮองเฮาอวี่เหวินจากนั้นนางจึงหยิบสมุนไพรที่หยิบกลับมาระหว่างทาง นำมาบด แล้วเดินไปข้างหลังฉู่ชิง
“ท่านจะรู้สึกแสบเล็กน้อย แม่ทัพหลวงโปรดอดทนสักหน่อยเถิด”
ฉู่ชิงขานรับแ่เบา มิได้เอ่ยสิ่งใด
เหนียนยวี่ยื่นมือออกมาและปลดเสื้อผ้าของฉู่ชิงลงชุดผ้าไหมสีดำร่วงลงมาจากแผ่นหลัง มือััิัใต้ชุดสีดำมือของเหนียนยวี่สั่นเทาเล็กน้อยอย่างมิอาจสังเกต
ครั้นมองดูาแบนสะบักหลังสีหน้าของเหนียนยวี่เคร่งขรึมทันใด หากดาบเล่มนี้แทงเข้าไปลึกกว่านี้ชีวิตของแม่ทัพหลวงผู้นี้คงมิอาจรอด และเมื่อครู่นี้...
เดิมทีดาบเล่มนี้พุ่งตรงมาหานางหากไม่ใช่เพราะเขา เกรงว่าตอนนี้นางคงสิ้นลมไปแล้วอย่างแน่นอน!
ครั้นนางนึกถึงร่างกายที่แนบชิดกับเขาระหว่างทางในใจของเหนียนยวี่ราวกับมีอะไรบางอย่างก่อตัวขึ้นมา ทว่าเพียงครู่หนึ่งความสงบนิ่งของการเป็หมอพลันเข้าปกคลุมจิตใจนาง
เหนียนยวี่สูดหายใจลึก นางจับดาบไว้ในมือใช้แรงทั้งหมดดึงดาบนั่นออกมาคราเดียว เืของฉู่ชิงพลันไหลทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตกก็ไม่ปาน...
ความเ็ปอย่างรุนแรงแผ่ซ่านทั่วร่างกายคิ้วเข้มภายใต้หน้ากากของฉู่ชิงขมวดแน่น ทว่ากลับมิมีเสียงร้องเล็ดลอดออกมาจากปากเขาเลยและด้านหลัง...วินาทีที่เืไหลทะลักออกมาจากปากแผล เหนียนยวี่รีบใส่ยาสมุนไพรที่บดไว้ก่อนหน้านี้ลงไปบนปากแผลอย่างรวดเร็วยามที่ยาสมุนไพรััลงบนิั ความเ็ปนั้นยิ่งรุนแรงสุดขั้วหัวใจ...
“แผลลึกเกินไปสมุนไพรที่พอจะมีประโยชน์ที่ข้าหาได้ที่นี่มีแค่พวกนี้เท่านั้น ประสิทธิภาพไม่เลวแต่จะทำให้ความเ็ปของแผลรุนแรงขึ้น เพราะเช่นนั้น...ท่านแม่ทัพหลวงหากทนไม่ไหวก็ส่งเสียงร้องออกมาได้ ที่นี่ไม่มีผู้ใด ไม่มีคนหัวเราะเยาะท่านอย่างแน่นอน”เสียงของเหนียนยวี่ดังขึ้นจากด้านหลัง
เวลาผ่านไประยะหนึ่ง ชายหนุ่มยังคงไม่ส่งเสียงทว่าลมหายใจของเขาหนักหน่วงกว่าเมื่อครู่นี้เล็กน้อย
ชาติก่อนในค่ายทหาร ตอนที่หมอทหารต่างพากันยุ่งมากนางเองก็จะเข้าไปช่วย นางเคยเห็นผู้คนมากมายที่ร้องลั่นจนแทบขาดใจเพราะโดนแทงมาก่อนทว่าแม่ทัพหลวงผู้นี้กลับไม่ร้องแม้สักแอะ...
สายตาของเหนียนยวี่ที่จ้องมองเขาอดไม่ได้ที่จะแสดงความชื่นชม
หลังจากใส่ยาสมุนไพรเรียบร้อยแล้วเหนียนยวี่จึงฉีกเสื้อผ้าด้านในของตัวเองออก เพื่อพันาแให้ฉู่ชิง
บุรุษตรงหน้าแทบจะเปลือยท่อนบนทั้งหมดเหนียนยวี่ยื่นมือทั้งสองข้างออกไป ทำได้เพียงโอบไหล่ของเขาอย่างฝืนๆกังวลว่าจะโดนาแของเขา เหนียนยวี่จึงทำได้แค่พันแผลโดยวนรอบตัวเขาจากด้านหลังมาข้างหน้าการกระทำเช่นนั้น ดูเชี่ยวชาญและเป็มืออาชีพอย่างยิ่ง
บรรยากาศในถ้ำ เริ่มแปลกประหลาดขึ้นทันใดโชคดีของเหนียนยวี่ที่ฉู่ชิงหลับตาอยู่นางจึงสามารถสงบสติอารมณ์และจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ในมือนางได้
“เหนียนยวี่...”เสียงของฉู่ชิงดังขึ้นเหนือหัวนางอย่างกะทันหัน ยามนี้เหนียนยวี่อยู่ตรงหน้าฉู่ชิงศีรษะนางใกล้กับแผ่นอกของเขา
เหนียนยวี่ขานรับตามสัญชาตญาณทว่าครั้นเงยหน้ามอง พลันสบสายตาเข้ากับดวงตาสีนิลขลับ ประหนึ่งบ่อน้ำลึกคู่นั้น