“อืม...ทั้งสามด่านภายในูเาสุสานทวยเทพที่ข้าทะลวงผ่าน!”
เย่ชิงหานนิ่งเงียบไปชั่วครู่จึงเริ่มพูดขึ้น แต่เขากำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะเล่าเื่ราวทั้งหมดทุกอย่างออกไปดีหรือไม่ ทันใดนั้นภายในหัวของเขาพลันมีเสียงราบเรียบเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
“เื่เกี่ยวกับกระบี่เทพ อาวุธระดับเทพ และการดำรงอยู่ของข้าไม่ต้องเล่าออกไป เื่อื่นๆ สามารถเล่าออกไปได้! สมบัติล้ำค่าระดับวิเศษและระดับศักดิ์สิทธิ์นำออกไปได้ไม่มีปัญหา”
กระแสเสียงถูกส่งมาจากลู่ซีซึ่งความหมายบ่งบอกชัดเจน เย่ชิงหานครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่แล้วยื่นนิ้วลูบไปที่แหวนเซียวเหยา จากนั้นสมบัติของล้ำค่ามากมายปรากฏออกมาจากกลางอากาศกองอยู่ที่พื้นกองใหญ่ ทำเอาเย่เทียนหลงและเย่ชิงหนิวมองตาลุกวาว แล้วเย่ชิงหานจึงเอ่ยขึ้น
“ในเส้นทางเชื่อมหุ่นเชิดูเา... ข้าค้นพบความลับที่แท้จริงของเจ็ดกระบวนท่าเย่หวงจนทำให้พลังโจมตีเพิ่มสูงขึ้นเป็อย่างมาก และข้ามีสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์ชิ้นหนึ่งที่สามารถรักษาเยียวยาอาการาเ็บนร่างกายของข้าได้ ดังนั้นจึงทะลวงผ่านด่านย่อยต่างๆ มาได้ จากนั้นััรับรู้ได้ถึงพลังกฎเกณฑ์แห่งพื้นที่เหยียบย่างเข้าสู่ระดับขอบเขตาาจักรพรรดิ อาศัยวิชาต่อสู้ร่างอสูรจนสามารถเอาชนะผู้เฝ้ารักษาประจำด่านที่ลดระดับพลังฝีมือมาอยู่ที่ระดับขั้นที่สองขอบเขตาาจักรพรรดิจนผ่านมาได้... สุดท้ายเข้าไปภายในหอเทพแห่งนั้นหยิบเอากระบี่เทพที่เป็ของปลอมมาเล่มหนึ่ง ดาบยาวเล่มหนึ่ง และแหวนมิติวงหนึ่ง จากนั้นจึงถูกส่งออกมายังเส้นทาง์ เื่ราวก็ประมาณนี้แหละ สมบัติของล้ำค่าต่างๆ เหล่านี้มอบให้ทางตระกูลจัดการก็แล้วกัน ส่วนข้าเก็บไว้เองไม่กี่ชิ้นก็พอ...”
เย่ชิงหานพูดอธิบายออกมารอบหนึ่งอย่างละเอียด แน่นอนว่าปกปิดเื่ราวบางส่วนเอาไว้และเก็บซ่อนสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์เอาไว้หลายชิ้นเช่นเดียวกัน
“พลังกฎเกณฑ์แห่งพื้นที่? เ้าฝึกฝนท่าเท้าเคลื่อนย้ายไร้รูปลักษณ์?” เย่รั่วสุ่ยกลับไม่ได้สนใจสมบัติของล้ำค่าต่างๆ ที่กองอยู่บนพื้น แต่กลับถามขึ้นด้วยอาการคิ้วขมวด เมื่อเห็นเย่ชิงหานพยักหน้าตอบรับจึงได้พูดขึ้นอย่างอับจนปัญญา
“ในปีนั้นที่ข้าได้คิดค้นท่าเท้าเคลื่อนย้ายไร้รูปลักษณ์ เดิมทีไม่อยากที่จะถ่ายทอดออกไปเพราะว่าการฝึกท่าเท้าเคลื่อนย้ายไร้รูปลักษณ์จะสามารถััรับรู้พลังความลึกล้ำมหัศจรรย์ของพลังกฎเกณฑ์แห่งพื้นที่ได้ง่าย แต่พลังกฎเกณฑ์แห่งพื้นที่กลับใช้ประโยชน์อะไรได้ไม่มาก และที่สำคัญที่สุดคือพลังความลึกล้ำมหัศจรรย์ของพลังกฎเกณฑ์แห่งพื้นที่ััรับรู้ได้ง่ายแต่ทำการฝึกฝนให้เข้าใจได้ยากลำบากเป็อย่างมาก การจะกลายเป็เทพจึงยากลำบากมากขึ้นหลายเท่าตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านพลังโจมตีนั้นอ่อนด้อยมาก เฮ้อ...ยังดีที่เ้ามีวิชาต่อสู้ร่างอสูรที่แหกกฎ์ในด้านพลังโจมตีจึงไม่ได้เป็ปัญหา ในเมื่อเ้าเดินมาบนเส้นทางสายนี้แล้วก็จงเดินต่อไปเรื่อยๆ เถอะ!”
พลังกฎเกณฑ์แห่งพื้นที่?
เย่เทียนหลงและเย่ชิงหนิวต่างก็คิ้วขมวดขึ้นเล็กน้อยเช่นเดียวกัน พลังกฎเกณฑ์แห่งพื้นที่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้นี้พวกเขาก็พอรู้อยู่บ้าง เมื่อตอนที่เย่ชิงหานไปเข้าร่วมงานประลองาระหว่างเขตปกครองของผู้มีพลังฝีมือระดับหัวกะทินั้น ที่นำเอาเคล็ดวิชาท่าเท้าเคลื่อนย้ายไร้รูปลักษณ์ให้เขาไปฝึกฝนนั้น จุดประสงค์ก็เพียงแค่ว่าจะได้เพิ่มโอกาสในการเอาตัวรอดแก่เขามากขึ้นเท่านั้นเอง แต่กลับไม่คาดคิดว่าจับพลัดจับผลูกลับกลายเป็ว่าเป็เหตุให้เขาััรับรู้พลังกฎเกณฑ์แห่งพื้นที่ขึ้นมาเสียอย่างนั้น
เพียงแต่พวกเขาไม่รู้เท่านั้นเองว่าพลังความลึกล้ำมหัศจรรย์ของพลังกฎเกณฑ์แห่งพื้นที่ที่เย่ชิงหานััรับรู้ได้นั้น แม้แต่ลู่ซีเองยังรู้สึกอิจฉาเป็อย่างมาก
“อืม! ชิงหานเข้าใจแล้ว!”
เย่ชิงหานไม่ได้พูดอธิบายอะไรออกมามาก พลังความลึกล้ำมหัศจรรย์ที่เขาฝึกฝนอยู่นั้นยังไม่ถึงระดับทักษะขั้นสูง ความสามารถโดยรวมจึงไม่รู้ว่าจะอธิบายออกมาอย่างไรดี ดังนั้นจึงทำเพียงพูดตอบรับออกมาเพียงเท่านั้น
“เ้าเอาดาบเล่มนั้นมาให้ข้าดูสักหน่อย วางใจได้ข้าไม่เอาของเ้าแน่ เหอะๆ!” เย่รั่วสุ่ยนิ่งครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่จึงไม่ได้คิดอะไรอีก เส้นทางของการฝึกฝนพลังกฎเกณฑ์เมื่อได้เริ่มเดินแล้วก็ต้องเดินต่อไปให้ถึงที่สุด ถ้าหากเย่ชิงหานมีโอกาสกลายเป็เทพได้แล้วก็แค่เพียงเลือกทำการฝึกฝนพลังกฎเกณฑ์ประเภทอื่นก็แค่นั้น!
“อืม!” เย่ชิงหานไม่ได้คิดอะไรมากนำดาบสังหารเทพออกมาจากแหวนเซียวเหยายื่นไปให้ในทันที ดาบเล่มนี้ไม่มีรังสีพลังแสงเทพใดๆ เปล่งประกายออกมา คนทั่วไปอย่างมากก็คิดแค่ว่าเป็สมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์ที่ดีเยี่ยมชิ้นหนึ่งเพียงเท่านั้น ดาบเล่มนี้แม้แต่หุนตี้เองยังไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าอยู่ในระดับคุณภาพใด ดังนั้นเย่ชิงหานจึงไม่กลัวว่าเขาจะมองออกได้ เขารู้ดีเป็อย่างมากว่าดาบเล่มนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะแม้กระทั่งเสื้อเกราะป้องกันระดับศักดิ์สิทธิ์ที่เสว่อู๋เหินสวมใส่อยู่ยังถูกแทงทะลุได้อย่างง่ายดาย แล้วเช่นนี้จะให้ดาบเล่มนี้ธรรมดาได้อย่างไร
“ดาบถือว่าเป็ดาบที่ดี เพียงแต่ดูแล้วจะว่าเป็สมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่เห็นจะเหมือนสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์ จะว่าเป็สมบัติล้ำค่าระดับวิเศษก็ไม่เห็นจะเหมือนสมบัติล้ำค่าระดับวิเศษ รังสีพลังใดๆ ก็ไม่มีเปล่งออกมาดูแล้วแปลกประหลาดเป็อย่างมาก แต่ก็จงใช้มันต่อไปเถอะ!” เย่รั่วสุ่ยควงเล่นไปมาอยู่สักพักจึงยื่นดาบสังหารเทพกลับคืนมาให้เย่ชิงหาน จากนั้นคิ้วกระตุกขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างสงสัยใคร่รู้ก่อนที่จะถามขึ้น
“เ้าหนูหาน เ้ากับท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร?”
“ท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่? เขาคือใคร? ข้าไม่เห็นเคยรู้จักคนชื่อนี้มาก่อน?” เย่ชิงหานรับดาบสังหารเทพกลับคืนมาพร้อมกับส่ายหน้าพลางตอบออกไป
“าาผู้ปกครองแห่งป่าดำมืด ท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพ! เ้าลองคิดดูดีๆ ว่าไม่รู้จักหรือมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเขาจริงๆ รึ?”
คำตอบของเย่ชิงหานยิ่งทำให้เย่รั่วสุ่ยงุนงงสงสัยมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง
“อืม...ข้าไม่รู้จักจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อนี้!” เย่ชิงหานครุ่นคิดชั่วครู่จึงส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นอย่างจริงจัง
“ถ้าอย่างนั้นก็แปลกประหลาดจนเกินไปแล้ว...หากไร้เหตุผลใดๆ ทำไมท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่ผู้นั้นจะต้องมอบผลึกเทวะแก่น้องสาวของเ้าด้วย? แถมยังเป็ผลึกเทวะของผู้มีพลังฝีมือระดับขั้นสูงสุดขอบเขตเทพ์อีกด้วย!”
“ผลึกเทวะ? มีส่วนเกี่ยวข้องกับพลังฝีมือที่เพิ่มสูงขึ้นมาอย่างน่าเหลือเชื่อของเย่ชิงอวี่?”
“อืม...หากไม่ใช่ผลึกเทวะ น้องสาวของเ้าไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้แน่ และเนื่องจากผลึกเทวะเม็ดนี้น้องสาวของเ้าอีกเพียงไม่กี่ปีก็จะเหยียบย่างเข้าสู่ระดับขอบเขตเทพ์แล้ว...”
หลังจากพูดคุยทำความเข้าใจอยู่สักพักเย่ชิงหานถึงได้เข้าใจในเื่ราวทั้งหมด ความจริงแล้วั้แ่ตอนที่อยูู่เาสุสานทวยเทพเขาก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเย่ชิงอวี่แล้ว เพียงแต่ว่าไม่มีเวลาในการสอบถามเท่านั้นเอง ตอนนี้เมื่อได้ฟังจึงเข้าใจทุกอย่างได้อย่างกระจ่างชัด ในขณะเดียวกันก็รู้สึกยินดีและตกตะลึงที่อีกเพียงไม่กี่ปีน้องสาวก็จะกลายเป็เทพที่ผู้คนต่างเล่าลือกันนั้นแล้ว
“เอาละ ชิงหนิวเ้าพาเ้าหนูหานและเย่ชิงอวี่กลับไปพักผ่อนก่อน รอผ่าน่นี้ไปก่อนสักพักข้าจะพาเ้าหนูหานไปเยี่ยมคารวะท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่แห่งป่าดำมืดสักหน่อย ถึงเวลานั้นเื่ราวทุกอย่างคงจะกระจ่างขึ้นมาแน่ ตอนนี้คิดมากไปก็เปล่าประโยชน์!” เย่รั่วสุ่ยไม่ได้ถามสิ่งใดออกมาอีก จากนั้นสั่งให้เย่ชิงหนิวพาเย่ชิงหานและเย่ชิงอวี่กลับออกไปพักผ่อน
“ท่านปรมาจารย์บรรพบุรุษ ทำไมตอนที่อยูู่เาสุสานทวยเทพ...” เมื่อพวกเย่ชิงหานจากไปเย่เทียนหลงจึงรีบเอ่ยถามขึ้นด้วยความร้อนใจ เนื่องจากการท้าทายนครแห่งเทพเป็เื่ใหญ่ร้ายแรงในฐานะที่เป็หัวหน้าตระกูลเย่ เย่เทียนหลงจึงจำเป็จะต้องทำความเข้าใจเหตุผลความเป็มาของเื่ราวทั้งหมดให้กระจ่างจึงจะสามารถวางแผนหาทางรับมือได้อย่างถูกต้องรัดกุม
เย่รั่วสุ่ยยิ้มขึ้น “เหอะๆ ที่พวกข้าทำเช่นนี้แน่นอนว่าจะต้องมีเหตุผล ที่ทำเช่นนี้มีเหตุผลอยู่สามประการ ประการแรก...กระบี่เทพปรากฏออกมา จ้าวเทวะไม่มีเวลามาสนใจเื่ราวเหล่านี้ ประการที่สอง...พวกเรายืนอยู่ข้างเหตุผลถ้าหากเกิดการต่อสู้ขึ้นมาจริงๆ พวกข้าสามารถลงมือได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนั้นจ้าวเกาะเร้นลับก็อยู่ใกล้ๆ ละแวกนั้นแล้ว ประการที่สาม...พวกข้าอยากจะดูปฏิกิริยาของจ้าวเทวะและท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่! และยังมีเหตุผลอื่นอีกที่พวกเ้าไม่จำเป็ต้องรู้ ส่วนผลลัพธ์ที่ได้ เหอะๆ...ถือว่าน่าพอใจไม่เลวเลยทีเดียว!”
“แล้ว...ก้าวต่อไปเทียนหลงควรจะทำอะไร?” เย่เทียนหลงฟังเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างจึงไม่คิดให้ปวดหัวอีกทำการเอ่ยถามขึ้นโดยตรงทันที
“สิ่งที่เ้าควรทำในตอนนี้มีอยู่สามเื่ เื่แรก...ทำการเสาะหากระบี่เทพให้ได้เยอะที่สุดยิ่งเยอะยิ่งดี จริงเท็จไม่ต้องสนใจ เื่ที่สอง...นำสมบัติล้ำค่าที่เ้าหนูหานได้มานั้นแบ่งออกมาส่วนหนึ่งมอบให้ตระกูลเฟิง ตระกูลฮวา ตระกูลเยว่ และเมืองั แต่ละตระกูลให้สมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์หนึ่งชิ้นระดับวิเศษสิบชิ้น ของอื่นๆ ค่อยมอบให้ตามสมควร แต่เ้าก็อย่าไปยึดติดกับของเหล่านี้มาก สำคัญที่สุดคือการฝึกฝนพลังกฎเกณฑ์ให้ดี เื่ที่สาม...รอจนกระทั่งการเสาะหากระบี่เทพผ่านไปได้สักพักจงไปยังตระกูลเยว่เพื่อจัดการเื่งานแต่งของเย่ชิงหานกับนางหนูเยว่ชิงเฉิงให้เรียบร้อย”
“ขอรับ เทียนหลงจะรีบไปเตรียมการโดยทันที!” ในเมื่อเย่รั่วสุ่ยพูดออกมาเช่นนี้เขาจึงไม่กล้าที่จะถามอะไรมากไปกว่านี้ แม้จะรู้สึกปวดใจที่ต้องแบ่งสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์ออกไป แต่เมื่อนึกถึงประโยชน์ที่ตระกูลเย่ได้รับอย่างมากมายในครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูลอื่นๆ ก็ออกแรงกันอยู่ไม่น้อย แต่แน่นอนว่าสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์ที่มอบออกไปจะต้องคัดเลือกชิ้นที่ไม่ดีที่สุดให้เท่านั้น
ไม่ว่าอย่างไรตระกูลเย่ในครั้งนี้ได้รับประโยชน์เป็อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็เย่ชิงหานที่ปลอดภัยกลับมาพร้อมกับพลังฝีมือที่พัฒนาขึ้นมาอย่างสูงล้ำ เย่ชิงอวี่ก็อยู่กับตระกูลเย่อย่างมั่นคงขึ้นไม่จากไปไหนแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชื่อเสียงบารมีความน่าเกรงขามของตระกูลเย่ยิ่งขจรขจายไปทั่วทั้งทวีปและยังได้รับสมบัติล้ำค่ากลับมามากมาย เฉพาะแค่สมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์ก็มีจำนวนถึงยี่สิบกว่าชิ้นแล้ว เรียกได้ว่าเป็เื่มงคลยิ่งใหญ่น่ายินดีในรอบร้อยปีอย่างแท้จริง...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้