ฉินอวี่รู้สึกเหมือนตนเองได้ยินผิดไปจริงๆ
อาวุธชื่อเซียน นั่นคืออาวุธชื่อเซียนจริงหรือ อาวุธที่เหนือกว่าอาวุธเต๋าระดับที่ดีที่สุด ยอดอาวุธแข็งแกร่งภายใต้นามอาวุธแห่งเซียน แม้ในสำนักเทียนฉีในอดีตก็มีอยู่ไม่มาก
ในตอนนี้ มีคนกล่าวขึ้นมาว่ารางวัลของผู้ชนะตำแหน่งสามสิบหกขุนพล์จะได้รับอาวุธชื่อเซียน สิ่งนี้ทำให้หฉินอวี่รู้สึกเหมือนตนเองได้ยินผิดไป แต่ในใจกลับอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้
การถามกลับของฉินอวี่เป็ดั่งตัวแทนของเสียงในใจเหล่าอัจฉริยะทุกคน ซึ่งแต่ละคนกำลังจับจ้องโหมวจิ่นซิ่วเพื่อรอคอยคำตอบ
“มีสิ่งใดที่ตระกูลโหมวเอ่ยแล้วเชื่อถือไม่ได้ด้วยหรือ? ขอเพียงได้เป็สามสิบหกขุนพล์ ก็จะได้รับอาวุธชื่อเซียนไป!” โหมวจิ่นซิ่วพูดอย่างเรียบเฉย
“ว้าว!”
ทั่วทั้งลานวุ่นวายขึ้นมาทันที ชายหนุ่มจำนวนนับพันต่างเต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดี แม้ว่าการทดสอบของสามสิบหกขุนพล์จะทรหดยิ่ง แต่ในความยากลำบากก็ยังมีโอกาสและความหวัง หากสามารถเป็สามสิบหกขุนพล์ได้ ก็จะสามารถอาวุธชื่อเซียน!
ทันใดนั้น เืลมแต่ละคนต่างพลุ่งพล่านด้วยความตื่นเต้นจนอดใจไม่ไหวที่จะเข้าร่วมการทดสอบของสามสิบหกขุนพล์!
“ไม่ได้สิ หากจะเข้าร่วมทดสอบสามสิบหกขุนพล์ จำเป็ต้องได้เข้าเป็หนึ่งในเจ็ดสิบสองอสูรธรณีเสียก่อน!”
“ในการประลองเจ็ดสิบสองอสูรธรณี ข้าจะต้องชนะให้ได้!” มีศิษย์บางคนถึงขั้นกัดฟันแน่นและพึมพำกับตัวเอง
ต้องบอกเลยว่าอาวุธชื่อเซียนได้กลายเป็แรงกระตุ้นความเป็นักสู้ของเหล่าผู้ฝึกตน การท้าประลองเจ็ดสิบสองอสูรธรณีในครั้งนี้คงจะต้องดุเดือดอย่างมากแน่นอน!
ฉินอวี่ถือจอกเหล้าเอาไว้ในมือ สีหน้าของเขาดูเอาแน่นอนไม่ได้ เขาพยายามระงับความตื่นเต้นในใจอย่างสุดความสามารถ บอกตามตรง ในตอนนี้เขาอยากจะทำเพียงสิ่งเดียวคือการหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
นี่เป็เื่น่ายินดีที่เหนือความคาดหมายอย่างยิ่ง
สามสิบหกขุนพล์ เขาจะต้องคว้ามันมาให้ได้ เพื่อจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป เพื่อวิชาลับทั้งเก้าแห่งจูเทียน และในตอนนี้... ยังมีอาวุธชื่อเซียนเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งอย่าง แล้วจะไม่ให้ฉินอวี่อยากหัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมาได้อย่างไร?
ฉินอวี่ยกจอกเหล้าขึ้นซดจนหมดในอึกเดียว จากนั้นจึงเช็ดเหล้าที่ติดอยู่บนปาก ก่อนพูดขึ้นเสียงดัง “สหายโหมว เ้าพอจะเล่าเื่ที่เกี่ยวข้องกับหอคอยเทียนกังบ้างได้หรือไม่? ทำอย่างไรจึงจะผ่านการทดสอบสามสิบหกขุนพล์?”
ในเมื่อโหมวจิ่นซิ่วเป็สามสิบหกขุนพล์ นางจะต้องรู้เื่เกี่ยวกับหอคอยเทียนกังเป็อย่างดี เป้าหมายที่เขามาร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ก็คือการทำความเข้าใจเื่ของหอคอยเทียนกัง เพื่อเตรียมตัวในการทดสอบให้ดีที่สุด
โหมวจิ่นซิ่วชำเลืองมองฉินอวี่ และพูดอย่างเรียบเฉย “เื่ของหอคอยเทียนกังจัดว่าเป็ความลับ หากเ้า้าเป็สามสิบหกขุนพล์ เ้าจะต้องเป็หนึ่งในเจ็ดสิบสองอสูรธรณีให้ได้เสียก่อน!” ความหมายของคำพูดนี้ก็คือ เ้าไปเป็หนึ่งในเจ็ดสิบสองอสูรธรณีให้ได้เสียก่อนเถอะค่อยมาว่ากัน
“ขั้นกุมารทิพย์ระดับกลางก็เป็สามสิบหกขุนพล์ได้ด้วยหรือ? แม้ผู้เฒ่าร้องไห้ผู้แข็งแกร่ง ก็ยังไม่สามารถแทรกแซงหอคอยเทียนกังได้ ข้าว่าเ้าอยู่เป็พวกลูกผู้ดีมีเงินไปเรื่อยๆ จะดีกว่านะ” มีศิษย์บางคนที่เข้าใจความหมายของโหมวจิ่นซิ่วได้พูดเยาะเย้ยฉินอวี่
ใบหน้าของฉินอวี่กระตุกขึ้นทันที คนพวกนี้ช่างไม่เคยจำเลยทีเดียว เขาหันไปทางที่มาของเสียงทันที ก่อนจะใช้สายตาของเขามองไปทางชายหนุ่มชุดสีขาวในทันที “เ้าเป็ใคร?”
ชายหนุ่มชุดสีขาวดูเ็าและเย่อหยิ่ง เหลือบมองฉินอวี่เบาๆ และพูดขึ้น “อินิ”
“อินิ ลำดับที่ยี่สิบเก้าในรายนามของเจ็ดสิบสองอสูรธรณี! พละกำลังแข็งแกร่ง ผู้เป็หลานทวดของหยินหยางเต้าจวิน” ฉวีหย่งเซิงเกรงว่าฉินอวี่จะยั่วยุใครขึ้นอีก เขาจึงรีบส่งเสียงไปให้กับฉินอวี่ ล่วงเกินตระกูลเหลยของตี้หวังนับว่ามากพอแล้ว อย่าได้หาเื่หลานทวดของหยินหยางเต้าจวินอีกเลย
ฉินอวี่กะพริบตาเล็กน้อย และพูดขึ้น “เ้าคงมีความมั่นใจว่าจะได้เป็สามสิบหกขุนพล์สินะ?”
“ข้ามีความมั่นใจหรือไม่ข้าไม่รู้หรอก แต่ข้ารู้ว่าเ้าไม่มีวันได้เป็หนึ่งในเจ็ดสิบสองอสูรธรณีแน่นอน!” อินิกล่าวอย่างภาคภูมิ
“เหอะๆ เจ็ดสิบสองอสูรธรณีก็แค่นั้น ขนาดเ้าเองยังเป็อสูรธรณีได้มิใช่หรือ?” ฉินอวี่เยาะเย้ย
อินิโกรธอย่างมาก ในฐานะที่เป็หลานทวดของหยินหยางเต้าจวิน มีใครไหนบ้างที่ไม่เคารพยำเกรงเมื่อพบเจอเขา มีที่ไหนกันที่จะถูกคนดูิ่เช่นนี้? เขาทุบโต๊ะลงไปเต็มแรง และพูดอย่างเ็า “หลี่โหย่วฉาย เ้าแน่ใจนักหรือว่ามีผู้เฒ่าร้องไห้ปกป้อง จะไม่มีใครกล้าทำอะไรเ้า? ข้าฆ่าเ้าได้ง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ!”
“ไม่ทราบว่าเ้ามีอาวุธเต๋าระดับสูงติดตัวอยู่บ้างหรือไม่?” จู่ๆ ฉินอวี่ก็ถามกลับไปทันที
ทุกคนต่างตกตะลึง และมองฉินอวี่อย่างงุนงง พวกเขาทั้งหมดกำลังสับสนเป็อย่างมาก ในสถานการณ์ตาต่อตา ฟันต่อฟันเช่นนี้ แต่หลี่โหย่วฉายกลับถามคนอื่นว่ามีอาวุธเต๋าระดับสูงหรือไม่เช่นนี้น่ะหรือ?
เขาจะมีหรือไม่มี แล้วเกี่ยวอะไรกับหลี่โหย่วฉาย?
อินิถูกฉินอวี่ทำให้สับสนแล้วเช่นกัน หลังจากมึนงงอยู่ครู่หนึ่งก็พูดขึ้น “มีแล้วจะทำไม? ไม่มีแล้วจะทำไม?”
“หากแม้แต่อาวุธเต๋าระดับสูงยังไม่มี แล้วยังจะกล้าพูดอีกหรือว่าเป็หลานทวดของเต้าจวิน” ฉินอวี่เยาะเย้ย
สีหน้าของอินิดูซีดเซียวไปทันที ถูกฉินอวี่ดูิ่ครั้งแล้วครั้งเล่า ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งวัยหนุ่มของแดนต้าโหมวเทียน มันทำให้ความอดทนของเขาเกือบจะถึงขีดสุด หน้าอกของเขากระเพื่อมรุนแรง และพูดขึ้นเสียงดัง “ข้าบอกแล้วหรือว่าข้าไม่มี?”
“เอาล่ะ ในเมื่อเ้ามี เช่นนั้นพวกเรามาเดิมพันกันหรือไม่?” ฉินอวี่ยิ้มมุมปาก จ้องตรงไปยังอินิ และพูดช้าๆ
“เดิมพัน? คนอย่างเ้ามีสิทธิ์มาเดิมพันกับข้าด้วยหรือ? แล้วเ้ามีอาวุธเต๋าระดับสูงด้วยหรือ?” อินิโกรธฉินอวี่อย่างมาก เขาแอบสาบานกับตนเอง หากฉินอวี่กล้าจะเข้าร่วมการท้าประลองของเจ็ดสิบสองอสูรธรณี เขาจะต้องเอาชีวิตของฉินอวี่มาให้ได้ ในเวลานั้น ต่อให้ผู้เฒ่าร้องไห้จะแข็งแกร่งเพียงใด ก็ไม่มีทางเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการท้าประลองได้!
ฉินอวี่ยิ้มอย่างเ็า หอกศึกก็ลอยออกมาปรากฏอยู่ในมือจากนั้นจึงยกขึ้นไปทางอินิ “อาวุธชิ้นนี้เป็สิ่งที่อาจารย์ได้มอบให้ข้า และเป็อาวุธที่มีคุณลักษณะของสายฟ้า แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่ามันอยู่ในระดับใด แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็อยู่ในระดับของอาวุธเต๋า เ้ากล้าเดิมพันกับข้าหรือไม่?” ฉินอวี่พูดกับอินิ แต่สายตาของเขากลับชำเลืองมองไปทางเหลยจั๋วเยว่ที่อยู่ไม่ไกลออกไป
สีหน้าของอินิเริ่มเอาแน่นอนไม่ได้ เขาไม่ได้สนใจมองหอกศึกในมือของฉินอวี่เลยแม้แต่น้อย เขาไม่ได้มาจากตระกูลเหลยของตี้หวัง แล้วเอาอาวุธในกลุ่มของสายฟ้าไปจะมีประโยชน์อะไร? แต่หากไม่รับเดิมพัน ก็เท่ากับช่วยเพิ่มความหยิ่งผยองให้หลี่โหย่วฉาย แล้วจะไม่เป็การสร้างความอับอายให้ตระกูลอินหรือ?
“เดิมพันอะไร?” อินิกัดฟันพูดออกไป
“เดิมพันว่าเ้าไม่มีทางได้เป็สามสิบหกขุนพล์!” ฉินอวี่พูดอย่างเรียบง่าย
อินิหายใจอย่างอึดอัด จนเกือบจะวิ่งหนีไป ลองคิดดู ใครกันจะไปมั่นใจว่าจะได้เป็สามสิบหกขุนพล์? ถึงแม้เป็ผู้นำของเจ็ดสิบสองอสูรธรณีก็ไม่มีความมั่นใจอะไร!
การได้เป็สามสิบหกขุนพล์ต้องใช้ความโชคดี โชคชะตา และพละกำลังร่วมด้วย ใครจะกล้าพูดได้อย่างอกผายไหล่ผึ่งว่าจะได้เป็สามสิบหกขุนพล์? แม้จะเป็โหมวจิ่นซิ่วหรือเหลยจั๋วเยว่ เข้าร่วมการทดสอบขุนพล์ก็ไม่มีผู้ใดสามารถรับรองได้ว่าจะผ่านการทดสอบ!
“ช่างเหลวไหลสิ้นดี ใครจะไปยืนยันการผ่านทดสอบสามสิบหกขุนพล์ได้?”
“สงสัยผู้เฒ่าร้องไห้คงจะตาบอดไปแล้วจริงๆ จึงได้รับศิษย์ที่ไร้ยางอายเช่นนี้เข้ามา?”
ทุกคนต่างก่นด่าอย่างต่อเนื่อง
อินิยิ่งโกรธมากขึ้นจนใบหน้าของเขาแดงก่ำ หน้าอกของเขาขยับอย่างรุนแรง ดวงตากลมโตจ้องตรงไปทางฉินอวี่ ราวกับจะฉีกร่างฉินอวี่ออกทั้งเป็
“ข้าก็รู้อยู่แล้วว่าเ้าคงไม่กล้าเดิมพัน เช่นนั้นเอาอย่างนี้ดีหรือไม่ พวกเรามาเปลี่ยนวิธีเดิมพัน? มาเดิมพันกันว่าข้าจะได้เป็สามสิบหกขุนพล์หรือไม่ สิ่งเดิมพันของข้าคือหอกศึก ส่วนของเ้าก็เป็อาวุธเต๋าระดับสูง เ้ากล้าเดิมพันหรือไม่ล่ะ?” ฉินอวี่พูดอย่างเฉยเมย แต่ยังคงแอบเยาะเย้ยอยู่ในใจ เมื่อได้เป็สามสิบหกขุนพล์ และยังได้อาวุธเต๋าระดับสูงมาเพิ่มอีกหนึ่งชิ้น แล้วจะไม่เอาได้หรือ?
เหล่าอัจฉริยะที่นั่งอยู่ต่างตกตะลึงขึ้นมาทันที มองฉินอวี่ราวกับมองดูคนโง่เขลาคนหนึ่ง
หลี่โหย่วฉายคิดจะเดิมพันว่าเขาจะได้เป็สามสิบหกขุนพล์หรือ? หลี่โหยว่ฉายมีความมั่นใจหรือว่าจะได้เป็สามสิบหกขุนพล์?
คนบ้าเช่นนี้มีอยู่ในแดนต้าโหมวเทียนั้แ่เมื่อไรกัน?
มีศิษย์อัจฉริยะบางคนที่อดไม่ได้จนหัวเราะเสียงดังออกมา ทุกคนต่างมองไปยังฉินอวี่อย่างตลกขบขัน
อินิตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เ้าคนนี้... คิดว่าตนเองจะได้เป็สามสิบหกขุนพล์จริงหรือ?
พวกฉวีหย่งเซิงทั้งสามคนต่างมองฉินอวี่อย่างตกตะลึงจนถึงกับพูดอะไรไม่ออก เอ่อ... เหลาอู่คิดจะยกหอกานี้ให้ผู้อื่นหรือ? ไม่เช่นนั้น ทำไมจึงกล้าเอามันมาเป็สิ่งเดิมพัน?
ไม่ไกลออกไป หยางเต้าจ้องตรงมาทางฉินอวี่ ขมวดคิ้วแน่น เขาได้แต่คาดเดาอยู่ในใจว่าฉินอวี่คิดจะทำอะไรกันแน่ เท่าที่เขารู้จักฉินอวี่ ฉินอวี่เป็คนที่ไม่ค่อยระวัง การเดิมพันครั้งนี้... ฉินอวี่ต้องแพ้แน่นอน!
“ข้าว่านะคงเป็การเดิมพันว่าเขาจะไม่ได้เป็สามสิบหกขุนพล์เสียมากกว่า? พี่อิน อย่าได้หลงกลเลย” มีศิษย์บางคนถากถางขึ้นมา
“ไม่ ไม่ ข้าขอเดิมพันว่าข้าจะได้เป็สามสิบหกขุนพล์ หากข้าไม่ได้เป็สามสิบหกขุนพล์ หอกศึกนี้จะเป็ของเ้าทันที แต่ถ้าข้าทำได้ เ้าต้องมอบอาวุธเต๋าระดับสูงให้ข้าหนึ่งชิ้น” ฉินอวี่อธิบายอย่างละเอียด
ทุกคนต่างตกตะลึงอีกครั้ง บอกได้เลยว่าความคิดของพวกเขาก่อนหน้านี้ต่างเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัยว่า ฉินอวี่คงตั้งใจหลอกลวงอินิ แต่ในตอนนี้ คำอธิบายของฉินอวี่ทำให้ทุกคนต้องใขึ้นอีกครั้ง แม้แต่โหมวจิ่นซิ่วเองก็ยังต้องขมวดคิ้วมองมาทางฉินอวี่
คนผู้นี้ จะบ้าคลั่งไปถึงไหนกัน?
อินิจ้องมาทางฉินอวี่ด้วยสีหน้าที่ไม่แน่นอน ใน่เวลาสำคัญเช่นนี้ ไม่เพียงแต่เขายังมีสติดี แต่ยังสงบนิ่งมากขึ้น อาวุธเต๋าระดับสูง แม้ตัวเขาเองก็มีเพียงชิ้นเดียว อีกทั้งยังเป็สิ่งที่อ้อนวอนขอจากพ่อของเขาอยู่เป็เวลานาน และเมื่อนึกย้อนไปถึงสถานะของฉินอวี่ อินิก็เริ่มไม่แน่ใจอีกแล้ว
หรือว่า หลี่โหยว่ฉายมั่นใจว่าจะได้เป็สามสิบหกขุนพล์จริงๆ?
เป็ไปได้อย่างไร!
“เ้ายังไม่กล้าเดิมพันหรือ? แล้วหลานทวดของหยินหยางเต้าจวินล่ะ” ฉินอวี่จ้องมองอินิ และพูดด้วยสีหน้าเ้าเล่ห์
สีหน้าของอินิดูแย่ยิ่งกว่าเก่า แต่ก็รู้สึกได้ว่ามีการโกง และอดไม่ได้ที่จะลังเล
“ข้า ข้าเดิมพันกับเ้า!” ในตอนนี้เอง ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น มันคือเสียงของเหลยจั๋วเยว่ที่นิ่งเงียบมาโดยตลอด
