"ใช่แล้ว ข้าคืออี้จื่อฮันเป็ศิษย์ในของนิกายเซวียนอี้ ข้าสงสัยว่าใครกันนะที่กล้าเรียกท่านพ่อข้ามาพบด้วยตัวเอง ที่ไหนได้เป็น้องชายเจียงนี่เอง! น้องเจียงมีพร์ดุจสัตว์ประหลาด เป็อัจฉริยะไร้ที่เปรียบที่หาพบได้ยากในรอบหมื่นปี เหตุใดเ้าถึงได้มาที่เขตหวงฉีหรือ?"
อี้จื่อฮันประสานมือต่อเจียงเฉิน เขาไม่ได้แสดงท่าทีดูิ่เหยียดหยามแต่อย่างใด แม้ว่าเขาจะเป็ศิษย์ใน ส่วนเจียงเฉินจะเป็เพียงศิษย์นอก และเขาเป็ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ขั้นต้นขณะที่เจียงเฉินเป็เพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์ขั้นสูงสุดเท่านั้น หลังจากที่เขาได้เห็นถึงวีกรรมที่เจียงเฉินก่อไว้ในนิกายเซวียนอี้ อี้จื่อฮันไม่สามารถปฏิบัติต่อเจียงเฉินเฉกเช่นศิษย์นอกธรรมดาทั่วไปได้
แม้ว่าการบ่มเพาะของเจียงเฉินจะมีเพียงขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ขั้นสูงสุดเท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งของเขาท้าทาย์นัก แม้แต่เจียงเหว่ยซึ่งเป็ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ขั้นกลางยังถูกเขาสังหาร ด้วยความแข็งแกร่งของอี้จื่อฮัน หากเขาต้องต่อสู้กับเจียงเฉิน เขาคงพ่ายแพ้ในกระบวนท่าเดียว
หลักจากที่ได้เห็นวีรกรรมที่เจียงเฉินได้ก่อขึ้นในนิกายเซวียนอี้ อี้จื่อฮันได้บอกกับตัวเขาเองว่า ถึงแม้เขาจะไม่มีโอกาสเป็สหายกับเจียงเฉิน แต่จะไม่มีวันเป็ศัตรูโดยเด็ดขาด เจียงเฉินนั้นโเี้อำมหิต และไร้ซึ่งความปรานี แม้แต่หนานเป่ยเฉากับเฝินคุนก็ไม่มีผู้ใดอยู่ในสายตาของเจียงเฉิน แม้แต่ผู้าุโนิกายยังถูกจับแขวนและทุบตีอย่างทารุณ คนประเภทนี้ไม่ใช่คนที่อี้จื่อฮันกับตระกูลสามารถล่วงเกินได้
"เป็ธรรมดาที่พี่อี้จะไม่รู้ว่าการมายังเขตหวงฉีของข้าเป็ภารกิจที่ท่านผู้นำนิกายได้มอบหมายมา ให้ข้ามายังเขตหวงฉีและกำจัดปีศาจโลหิตทั้งหมด และเป้าหมายของข้าคือราชันย์จันทราโลหิต"
เจียงเฉินพูด
"อะไรนะ? น้องเจียง เ้าบอกว่าท่านผู้นำส่งเ้ามาเพียงลำพังเช่นนั้นรึ?เหล่าปีศาจโลหิตทั้งโเี้อำมหิต ข้าได้ยินมาว่าระดับการบ่มเพาะของราชันย์จันทราโลหิตถึงขอบเขตแก่นแท้์ขั้นสูงสุด การบ่มเพาะพลังของมันไม่ได้ด้อยไปกว่ากวนอี้หยุนหรือเหลียงเซียวเลย นี่มันภารกิจฆ่าตัวตายสำหรับน้องเจียงชัดๆ!"
อี้จื่อฮันประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่ได้เป็กังวลเื่เจียงเฉิน แต่เป็กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเขตหวงฉีและตระกูลอี้ของเขา ั้แ่ากับเหล่าปีศาจโลหิตได้อุบัติ ราชันย์จันทราโลหิตไม่เคยปรากฎตัวออกมาจนถึงบัดนี้ นิกายเซวียนอี้ได้ส่งเจียงเฉินมาทำภารกิจนี้เพียงลำพัง หากเขาพ่ายแพ้แก่ราชันย์จันทราโลหิต มันก็คงถึงคราวอวสานของเขตหวงฉี
"พี่อี้ ท่านกำลังดูถูกข้า?"
บนใบหน้าเจียงเฉินเผยรอยยิ้มบาง
ได้ยินเช่นนี้ท่าทางของอี้จื่อฮันเปลี่ยนไป เขารีบประสานมือและพูดออกมาอย่างรวดเร็ว
"ข้ามิกล้า!"
"เ้าเพียงแค่เป็กังวลเท่านั้น หากว่าข้าไม่สามารถจัดการกับราชันย์จันทราโลหิต ไม่เพียงแค่ชีวิตของข้าตกอยู่ในอันตราย เขตหวงฉีเองก็อาจต้องพบกับจุดจบใช่หรือไม่?"
เจียงเฉินจ้องไปยังอี้จื่อฮันด้วยรอยยิ้ม อี้จื่อฮันยังคงเงียบและยอมรับในสิ่งที่เจียงเฉินพูดออกมา
"ข้าไม่สนใจว่าเ้าจะคิดอย่างไร ข้าจะบอกให้เ้าได้รู้ไว้ ั้แ่ที่ท่านผู้นำส่งข้ามาที่นี่ นั่นก็หมายความง่ายๆว่าข้ามีความสามารถเพียงพอที่จะจัดการกับราชันย์จันทราโลหิต เมื่อคืนก่อน เหล่าปีศาจโลหิตได้เข้าโจมตีเมืองหงหยาง หากข้ามาช้ากว่านี้ ป่านนี้เมืองแห่งนี้คงเป็เมืองร้างเป็แน่ ปีศาจโลหิตทั้งโเี้และไร้ความปรานี ข้าเพียงคนเดียวคงไม่อาจจัดการพวกมันได้หมด พวกเราจำต้องร่วมมือกัน"
เจียงเฉินพูดออกมา
"แน่นอน ตระกูลอี้จะช่วยเ้าอย่างแน่นอน เพียงแต่ข้าสงสัยว่าน้องเจียงมีแผนการเช่นไร?"
อี้จื่อฮันพูดขึ้น การจัดการปีศาจโลหิตไม่อาจทำได้ด้วยกำลังตระกูลเขาเพียงผู้เดียว นอกจากนี้เจียงเฉินยังถูกส่งมาที่นี่เพื่อกวาดล้างปีศาจโลหิต และอี้จื่อฮันเชื่อว่าผู้นำนิกายคงไม่นำชีวิตของผู้คนในเขตหวงฉีมาล้อเล่นแน่ เมื่อเขาส่งเจียงเฉินมาที่นี่ นั่นหมายความว่าเจียงเฉินมีวิธีสะสางเื่นี้ นอกจากนี้ั้แ่เขาได้เข้ามาในห้องจนถึงบัดนี้ ทุกอย่างที่เขาเห็นมีเพียงความมั่นใจและความเยือกเย็นบนใบหน้าเจียงเฉินเท่านั้น อารมณ์ของเขาไม่ได้แปรเปลี่ยนแม้แต่น้อยเมื่อเขาพูดถึงปีศาจโลหิต ราวกับว่าเขาไม่สนใจพวกมันแม้แต่น้อย
นอกจากนี้อี้จื่อฮันไม่กล้าที่จะดูถูกเจียงเฉิน นับั้แ่เขาได้ยินชื่อเจียงเฉิน เจียงเฉินได้สร้างปาฏิหารย์ไว้มากมาย และได้ก่อเื่ราวใหญ่โตไว้มากถึงขนาดสั่นะเืไปทั่วทั้งแคว้นฉี แม้แต่หนานเป่ยเฉาเขายังกล้าท้าประลอง บางทีเขาอาจจะมีความสามารถที่จะจัดการราชันย์จันทราโลหิตก็เป็ได้
อี้จื่อฮันเป็คนฉลาด เขารู้สึกได้ว่าเจียงเฉินต้องกลายเป็คนที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต ตัวตนอย่างเขามิใช่ผู้ที่เฝินคุนจะมาเทียบได้ หากเขาได้กลายเป็สหายของเจียงเฉิน ก็เป็เื่ที่ดีต่อตัวเขาและตระกูลอี้
"ง่ายมาก หลังจากเกิดเื่ขึ้นเมื่อคืน เมืองหงหยางได้ตกเป็เป้าหมายหลักของเหล่าปีศาจโลหิต ข้าจะอยู่ที่นี่รอพวกมันบุกเข้ามา และข้าจะให้พวกมันมาได้แต่กลับไม่ได้ ตราบใดที่พวกมันได้ตกตายอย่างต่อเนื่องที่นี่ ข้าเชื่อว่าปีศาจโลหิตต้องมารวมตัวรอบเมืองหงหยาง สำหรับพวกเรามันง่ายกว่าหากจะสู้เช่นนี้ ดีกว่าต้องไปค้นหามันทุกหนทุกแห่ง"
เจียงเฉินหยุดครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า
"ทุกคนต่างรู้ถึงความโหดร้ายของปีศาจโลหิต ไม่รู้ว่ามันมีจำนวนเท่าไร หากพวกมันแบ่งกำลังไปยังทั่วเขตหวงฉี คงเกิดหายนะขึ้นแน่ ดังนั้น จึงล่อพวกมันมารวมกันที่นี่ พวกเราสามารถลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเมืองอื่นๆได้ ตอนนี้พี่ชายอี้เข้าใจถึงเจตนาของข้าหรือไม่?"
"น้องเจียง เ้าช่างมองการณ์ไกลนัก ด้วยแผนนี้จำนวนผู้เสียชีวิตและความเสียหายในสถานที่อื่นจะลดลงอย่างมาก ถึงอย่างไรขณะเดียวกัน เมืองหงหยางจะกลายเป็สถานที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด น้องชายเจียงหากเ้า้าสิ่งใดช่วยบอกข้า หากไม่ใช่สิ่งที่ไม่อาจยอมรับ และผิดศีลธรรมตระกูลอี้จะช่วยอย่างสุดความสามารถ"
อี้จื่อฮันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง การตัดสินใจของเจียงเฉินเป็ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์ในเขตหวงฉี
"คำขอของข้าง่ายมาก แม้ว่าเหล่าปีศาจโลหิตจะมุ่งโจมตีเมืองหงหยาง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะไม่โจมตีสถานที่อื่น ข้า้าให้ตระกูลอี้ส่งคนไปประจำที่เมืองต่างๆในเขตหวงฉี อย่างแรกคือสามารถปกป้องประชาชนได้ อย่างที่สองคนของเ้าสามารถสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับปีศาจโลหิตได้ โดยเฉพาะเกี่ยวกับราชันย์จันทราโลหิตอยู่ที่ใด ข้าไม่คิดว่ามันจะเป็ปัญหาสำหรับตระกูลอี้ ใช่รึไม่?"
หากเจียงเฉิน้ารับประกันความปลอดภัยของผู้คนในเขตหวงฉี เขาจะต้องได้ความช่วยเหลือจากตระกูลอี้ หากมีตระกูลอี้รับประกันความปลอดภัยในเขตอื่นๆ เขาจะได้มุ่งความสนใจของเขาที่เมืองหงหยาง เพื่อรอการต่อสู้ชี้ขาดกับเหล่าปีศาจโลหิต
เหล่าปีศาจโลหิตที่โหดร้ายสำหรับผู้คนแล้วเสมือนหายนะ แต่แกนพลังงานโลหิตเป็สิ่งมีประโยชน์มากสำหรับเจียงเฉิน ดังนั้นเจียงเฉินจึงกลายเป็หายนะสำหรับเหล่าปีศาจโลหิต
"นั่นเป็สิ่งที่ตระกูลอี้สมควรกระทำ แต่ข้ารู้สึกไม่ดีหากปล่อยให้น้องเจียงอยู่ที่นี่และต่อสู้กับพวกมันเพียงลำพัง เช่นนี้ข้าอี้จื่อฮัน้าที่จะอยู่เมืองหงหยางกับเ้า ข้าจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับน้องเจียง!"
อี้จื่อฮันพูดด้วยท่าทีจริงจัง
"ดี เยี่ยมมากที่พี่ชายอี้ตัดสินใจเช่นนี้ นอกจากตัวข้าแล้ว คนอื่่นๆในเมืองหงหยางเมื่อเทียบกับปีศาจโลหิตแล้ว อ่อนแอเกินไป"
นี่เป็ครั้งแรกที่ได้พบกับอี้จื่อฮัน เจียงเฉินค่อนข้างประทับใจในคัวเขา ชายคนนี้ไม่คนวางท่าแต่อย่างใด เขามีความกล้าและความเที่ยงธรรม และเจียงเฉินรู้สึกว่าชายคนนี้สามารถเป็สหายเขาได้
"ในเมื่อเป็เช่นนี้ ข้าจะกลับไปยังเขตหวงฉี หลังจากสะสางเื่ราวแล้วข้าจะกลับมา และร่วมต่อสู้กับน้องชายเจียง"
อี้จื่อฮันประสานมือต่อเจียงเฉิน จากนั้นเขาก็หันหลังแล้วจากไป
"เ้าหนูนี่ก็มีประโยชน์อยู่บ้างล่ะนะ"
หลังจากที่อี้จื่อฮันจากไป หวงต้าได้แสดงความคิดเห็นของมันออกมา
"อย่างน้อยเขาก็ไม่น่ารำคาญล่ะนะ"
เจียงเฉินยักไหล่ อี้จื่อฮันเป็คนมีความสามารถ เป็อัจฉริยะจากเขตในของนิกายเซวียนอี้ หาได้ยากที่คนในระดับเดียวกันจะเทียบเขาได้ เขาสามารถจัดการหัวหน้าหน่วยปีศาจโลหิตได้โดยง่าย และการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับปีศาจโลหิตก็ใกล้เข้ามา ด้วยความช่วยเหลือของอี้จื่อฮัน สามารถรับประกันความปลอดภัยของคนในเมืองหงหยางได้
ชาวเมืองหงหยางทั้งหมดได้ลงหลักปักฐานเรียบร้อยแล้ว มีเพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้มนุษย์คอยคุ้มกันบริเวณนอกเมือง ในตอนนี้เจียงเฉินและหวงต้าได้เดินทางไปยังบริเวณตอนเหนือของเมืองหงหยาง
"หวงต้าเ้าแน่ใจว่าชีพจรพลังงานอยู่ที่นี่?"
เจียงเฉินถาม-7ho เนื่องจากมีม่านพลังธรรมชาติอยู่รอบบริเวณแหล่งกำเนิดพลังงาน คนปกติทั่วไปยากที่จะััมันได้ หากนี่เป็ในชีวิตที่แล้วของเขา เขาสามารถหามันพบได้ในทันที แต่ว่าในตอนนี้เขายังมิได้อยู่ในขอบเขตนักบุญ ถึงแม้ว่าเขาจะมีััที่เฉียบคมแค่ไหน และความรู้มากเพียงใด ด้วยระดับการบ่มเพาะของเขาตอนนี้ ขีดจำกัดของเขาตอนนี้ไม่อาจทำสิ่งใดได้มากมายนัก
"ไม่ผิดแน่"
หวงต้าแกว่งหางไปมา หวงต้าเดินวนไปมารอบๆบริเวณนี้ ในขณะเดียวกันเจียงเฉินใช้ทักษะยอดิญญาต้าเหยี่ยนปลดปล่อยััของเขาจนถึงขีดสุด หลังจากนั้นวิสัยทัศน์ของเจียงเฉินและหวงต้าได้มองไปที่เนินเล็กๆในเวลาเดียวกัน
"มันอยู่ข้างใต้นั่น"
เจียงเฉินและหวงต้าพูดออกมาพร้อมกัน หวงต้าประหลาดใจเล็ดน้อย มันสามารถััถึงสถานที่ของชีพจรพลังงานด้วยความสามารถดั้งเดิมของมัน แต่เจียงเฉินก็สามารถััได้ในเวลาเดียวกัน นั่นทำให้หวงต้าแอบคิดว่ามันเป็เื่บังเอิญ แต่มันเลิกคิดอย่างรวดเร็ว เพราะว่าตลอดการเดินทางของมันที่ไปพร้อมกับเจียงเฉิน มันได้เห็นปาฏิหารย์ที่เกิดขึ้นจากเจียงเฉินมากมายยิ่งนัก
"ชีพจรพลังงานตั้งอยู่ลึกลงในดินกว่าหนึ่งพันจ้าง เพื่อที่จะได้รับมัน จะต้องดำดินลงไป คู่หู ข้าสงสัยว่าเ้าจะมีความสามารถในการเดินทางใต้ดินหรือไม่?"
หวงต้าเชิดหน้าของมันขึ้นอย่างยโส ชัดเจนว่ามันสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้ มันเพียง้าหยอกล้อเจียงเฉินเท่านั้น
แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญทั่วไปสามารถทะลวงหิน และสามารถขุดหลุมด้วยมือเปล่าได้ ไม่เพียงไม่กี่คนที่มีสามารถเดินทางใต้ดินได้ อย่างไรก็ตาม ใต้ดินลึกลงไปกว่าสามพันจ้างนั่นมันยากเกินไป
"เ้าหมาเวร อย่าได้มาเชิดหน้าใส่ข้า ในโลกใบนี้ไม่มีสิ่งใดที่บิดาทำไม่ได้ เบิกตาของเ้าและมองดูบิดาให้ดีๆ"
หลังจากพูดเช่นนั้นจบ ทันใดนั้นได้มีแสงสีเหลืองน้ำตาลเปล่งออกมาจากร่างกายของเจียงเฉิน ครึ่งร่างของเขาจมเข้าไปภายในพื้นดินทันที เพราะว่าม่านพลังสีเหลืองน้ำตาลที่ปกคลุมตัวเขา ทำให้เจียงเฉินสามารถรวมเข้ากับพื้นดินอย่างแท้จริง
"แม้เ้าโว้ย!บัดซบ! เ้าหนูนี่วิชาอะไรของเ้าน่ะ?"
หวงต้าแทบสะดุดขาตัวเอง มันเพียง้าหยอกล้อเจียงเฉินเท่านั้น แต่มันไม่คาดคิดว่าเจียงเฉินสามารถดำดินได้ นี่ทำให้มันถึงกับหัวเสีย ภายในใจของมันได้เห็นเจียงเฉินเป็สัตว์ประหลาดโดยสมบูรณ์
"ท่านย่าทวดมันเถอะ! เ้าหนูนี่มาจากเมืองเทียนเซียงตอนอายุเพียงสิบห้าเท่านั้น ในตอนนี้เขาอายุเพียงสิบหกปี ข้ายังไม่เคยเห็นเขาคำนับอาจารย์ที่ไหน แต่มันกลับ บัดซบ ทำไมถึงได้เชี่ยวชาญในทุกๆเื่? นี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!"
หวงต้าแทบเป็บ้าจนกลอกตาขาว เจียงเฉินได้สอนมันอย่างหนึ่ง ในโลกใบนี้มีบางอย่างที่ไม่อาจตัดสินได้ด้วยสามัญสำนึก
