ภายในป่ารกชัฏด้านขวาของดงกล้วย ลิงสองฝูงทั้งกัดทั้งข่วนกันอยู่ เสียงร้องโหยหวนชวนบาดหูของเหล่าวานรดังกึกก้องไปทั่ว
ในจำนวนนั้น มีลิงสองตัวที่แข็งแกร่งเป็พิเศษกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ช่องว่างระหว่างกิ่งไม้ของต้นไม้ใหญ่เห็นสองวานรเข้าห้ำหั่น เ้าตามข้าตี ไม่มีใครยอมใคร จนกระทั่งตามตัวของพวกมันเต็มไปด้วยาแ
"พวกมันกำลังแย่งชิงอาณาเขตกันอยู่หรือ"
เซวียเสี่ยวหรั่นหรี่ตาเพ่งพินิจอย่างถ้วนถี่
ลิงโตเต็มวัยจำนวนมากต่างไล่กวดและกัดข่วนกันเอง ลูกลิงส่วนมากพากันไปหลบซ่อนตัวอยู่ไกลๆ
แต่ก็มีบางตัวที่เข้าร่วมต่อยตีด้วย เช่นลิงน้อยขนทองจอมหยิ่งผยองตัวนั้นเป็ต้น
เห็นมันติดตามข้างกายแม่ของมัน คอยหาจังหวะเข้าโจมตีลิงฝ่ายตรงข้ามอยู่เป็พักๆ
เซวียเสี่ยวหรั่นมองเห็นไม่ชัด ลอบย่องเข้าไปใกล้อีกนิด แล้วนั่งหลบอยู่หลังพงหญ้าสูง
"เจี๊ยกๆ" ยิ่งเข้าใกล้ เสียงร้องของลิงก็ยิ่งบาดหู
เซวียเสี่ยวหรั่นแหวกหญ้าพลางเงยหน้าขึ้นมอง เห็นลิงน้อยขนทองตัวนั้นใช้หางพันกิ่งไม้ แล้วห้อยตัวลงมาตวัดกรงเล็บใส่ลิงฝ่ายตรงข้าม
ดูเหมือนว่าลิงตัวนั้นจะหงุดหงิดกับการตามตอแยของลิงน้อย จึงเอื้อมมือไปคว้าตัวมันลงมายกชูขึ้นเหนือศีรษะ พลางแยกเขี้ยวเห็นฟันเหลืองทั้งปากอย่างดุดัน ก่อนทุ่มลิงน้อยลงพื้น
"ว้าย..."
เซวียเสี่ยวหรั่นเห็นภาพตรงหน้า ก็กรีดร้องด้วยความใ ตำแหน่งที่พวกมันอยู่เป็กิ่งก้านสาขาของต้นไม้สูงใหญ่
"เจี๊ยกๆ" ชั่วขณะนั้นแม่ลิงก็ร้องอย่างตื่นตระหนก
เสียงกรีดร้องโหยหวนทะลุทะลวงอยู่ในอากาศ
ฝูงลิงที่กำลังทะเลาะกันพลันหยุดชะงัก มีแต่จ่าฝูงตัวใหญ่สองตัวที่ยังคงฝืนสังขารสู้กันอย่างหนัก
"ลิงน้อยตัวนั้นคงไม่... ตายแล้วหรอกนะ"
เซวียเสี่ยวหรั่นพึมพำเสียงเบา
แม้ปรกติลิงน้อยจะกำแหงนัก แต่มันเป็เพียงลูกลิง กลับต้องมาถูกจับโยนลงมาตาย เซวียเสี่ยวหรั่นอดเวทนาสงสารไม่ได้
แม่ลิงปีนลงมาอย่างรวดเร็ว ด้านล่างมีพุ่มไม้นานาชนิดและเถาวัลย์รกเรื้อบดบังอยู่ เซวียเสี่ยวหรั่นจึงมองไม่เห็นรายละเอียดของสถานการณ์
ได้แต่ชะเง้อมองด้วยความตื่นเต้น
มีลิงสองสามตัวตามลงไป เสียงร้องโหยหวนของลิงน้อยแว่วมาจากด้านล่าง
ดูท่ามันคงไม่ได้ตกมาตาย แต่น่าจะกระทบกระเทือนไม่เบา
ลิงสองตัว้าที่ต่อสู้กันอยู่ ดูเหมือนจะเริ่มเหนื่อยล้า ต่างฝ่ายต่างถอยออกมา แต่ยังแยกเขี้ยวคำรามใส่กันอยู่
ผ่านไปครู่หนึ่ง ลิงหนึ่งในนั้นก็เป็ฝ่ายยอมล่าถอย
พอมันจากไป ลิงอีกฝูงก็เฮโลตามไปด้วย
เหลือแต่ลิงตัวใหญ่ที่ใบหน้าอาบเืเต็มไปด้วยรอยข่วน ขนของมันย้อมไปด้วยคราบโลหิต จะได้รับาเ็หรือเืที่ใบหน้าหยดลงมาก็สุดรู้
ลิงใหญ่มองที่พื้น สุดท้ายก็หมุนตัวจากไป ฝูงลิงที่อยู่ด้านหลังก็ตามมันไปด้วย
"พวกมันทอดทิ้งลิงน้อยที่าเ็เลยหรือ"
เซวียเสี่ยวหรั่นคุกเข่าจนขาทั้งสองเริ่มชาอยู่ในท่าอ้าปากค้าง
เพียงชั่วครู่เดียว ลิงทั้งฝูงก็หายไปจากป่าแห่งนั้นไม่เหลือแม้แต่เงา แม่ลิงตัวนั้นเกาะอยู่บนกิ่งไม้ มันหันมามองด้านล่างด้วยแววตาเศร้าสร้อย แต่สุดท้ายก็ตามฝูงลิงไป
"เ้าลิงน้อยถูกทิ้งจริงๆ ด้วย"
เซวียเสี่ยวหรั่นค่อยๆ ลุกขึ้น มองฝูงลิงที่จากไปไกลแล้วด้วยความรู้สึกสะท้อนใจ
แม้แต่แม่ลิงยังตัดใจทอดทิ้ง ดูท่าเ้าลิงน้อยคงจะาเ็สาหัส
เซวียเสี่ยวหรั่นบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร
เธอครุ่นคิด ก่อนหยิบท่อนไม้ที่ใช้ป้องกันตัวขึ้นมา แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปในป่าแห่งนั้น
หลังผ่านพุ่มไม้มาได้ เสียงแหบพร่าของลิงน้อยก็แว่วเข้ามาในหู
เธอก้าวเข้าไปสองสามก้าวอย่างระมัดระวัง ในที่สุดก็เห็นลิงน้อยร้องครวญครางอยู่ท่ามกลางกองหินอย่างอ่อนแรง
มันทรุดตัวอยู่ท่ามกลางกรวดหิน ขาซ้ายของมันหักจนเห็นกระดูก เืแดงฉานไหลอาบลงมา ก้อนหินที่อยู่ข้างตัวมันก็ย้อมไปด้วยสีโลหิต
เห็นชัดว่าตอนที่มันร่วงลงมาขาซ้ายกระแทกโขดหินอย่างจัง ทำให้กระดูกขาซ้ายของมันหัก
ลิงน้อยขนทองร้องจนเสียงแหบแห้ง ยามเห็นเซวียเสี่ยวหรั่น มันพยายามจะถลึงตาใส่เธอด้วยความเคยชิน ทว่าเปลือกตาของมันกลับหลุบลงอย่างอ่อนแรง
มันหันไปมองทางป่าลึก สีหน้าเผยความเ็ปและเสียใจ ดูเหมือนว่ามันจะเข้าใจแล้วว่าตนเองถูกฝูงทอดทิ้ง
จิ๊ๆ แม้แต่จะแสดงท่าทางดุร้ายใส่ผู้อื่นยังไม่มีเรี่ยวแรง เซวียเสี่ยวหรั่นรู้สึกเวทนาสงสารอยู่บ้าง
ขาของมันหักคงเจ็บมากเป็แน่ กระดูกโผล่ออกมาแบบนั้นไม่รู้ว่าจะช่วยชีวิตได้หรือเปล่า
ใช่ เซวียเสี่ยวหรั่นอยากลองช่วยลิงน้อยตัวนี้
ฝูงลิงทอดทิ้งมันแล้ว หากเธอไม่ช่วยอีก มันคงต้องตายสถานเดียว
"ลิงน้อย ลิงน้อย ข้าจะพาเ้ากลับไปจัดกระดูกเองนะ" เซวียเสี่ยวหรั่นเข้าไปใกล้อย่างระมัดระวัง แล้วย่อตัวลงพูดกับมันด้วยน้ำเสียงแ่เบาและอ่อนโยนเป็ที่สุด
ลิงน้อยไม่เพียงเฉลียวฉลาด ยังความรู้สึกไว การสื่อสารกับมันด้วยความหวังดี เชื่อว่ามันน่าจะคลายความเป็ศัตรูที่มีต่อเธอ
"ดูสิ เ้ากำลังเจ็บหนัก หากไม่รักษา อาจเสียเืมากเกินไป ข้าจะพาเ้ากลับไปเอง ที่อยู่ของข้ามียาแก้ปวดด้วยนะ"
แม้จะเสียดาย แต่หากการเสียสละยาแก้ปวดเม็ดหนึ่งสามารถช่วยชีวิตน้อยๆ ได้หนึ่งชีวิต เซวียเสี่ยวหรั่นก็ยินดีที่จะทำเช่นนั้น
ลิงน้อยไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูด แต่ท่าทางอ่อนโยนของเธอ ทำให้มันผ่อนคลายลงมาก
เซวียเสี่ยวหรั่นลองขยับเข้าไปข้างหน้า "ลิงน้อย ข้าจะพาเ้ากลับไปกินยา หลังจากพันแผลจัดกระดูกให้แล้วก็น่าจะดีขึ้น เ้าว่าดีหรือไม่"
เสียงของลิงน้อยแ่เบาลงไปเรื่อยๆ แววตาเริ่มจะเลื่อนลอย
เซวียเสี่ยวหรั่นแค่เห็นก็รู้สึกว่าไม่ได้การ ลิงตัวนี้คงจะเสียเืมาก ใกล้จะหมดสติแล้ว
แค่ความคิดวาบผ่าน ดวงตาของมันก็ปิดสนิท คอตกสลบไป
"หา? สลบไปจริงๆ เหรอเนี่ย"
เซวียเสี่ยวหรั่นตกตะลึงอ้าปากค้าง แต่เวลาแบบนี้จะมัวแต่ตกอกใไม่ได้
เธอรีบลุกขึ้นมา วิ่งไปเด็ดใบกล้วยน้ำว้าเอามาปูข้างกายลิงน้อย จากนั้นก็อุ้มมันวางลงไป แล้วยกขึ้นมาทั้งใบตอง ประคองลิงน้อยสู้อ้อมแขน แล้วค่อยหมุนตัววิ่งกลับถ้ำอย่างรวดเร็ว
"เหลียนเซวียน..."
เหลียนเซวียนกำลังปั่นโอ่งน้ำใบใหญ่อยู่ ได้ยินเสียงนางะโมาแต่ไกล น้ำเสียงกระวนกระวายเจือไปด้วยความตื่นตระหนก
หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น?
เหลียนเซวียนใจหายวูบ วางดินเหนียวในมือ เอื้อมมือควานหาหมายเท้า ก่อนออกแรงลุกขึ้น
"เหลียนเซวียน"
ขณะที่เซวียเสี่ยวหรั่นวิ่งเข้ามาในถ้ำ เหลียนเซวียนเพิ่งเดินมาได้ครึ่งทาง นี่คือความเร็วสูงสุดสำหรับเขาตอนนี้แล้ว
"เหลียนเซวียน เร็วๆ เข้า ท่านจัดกระดูกเป็ไหม" เซวียเสี่ยวหรั่นวางลิงน้อยลงข้างกองไฟ พลางหายใจกระหืดกระหอบ ก่อนวางเป้ลง แล้วค้นหายาแก้ปวด
จัดกระดูก? เหลียนเซวียนเห็นนางปลอดภัยก็รู้สึกโล่งใจ แต่หัวคิ้วกลับขมวดเข้าหากัน นางวิ่งเข้ามาสุดชีวิตเพียงเพื่อถามเขาว่าต่อกระดูกเป็รึเปล่าเท่านั้นเองหรือ
ขาของนางเรี่ยวแรงดีปานนั้น เห็นชัดว่าคนที่ต้องต่อกระดูกไม่ใช่นาง แต่ยังมีเสียงหายใจรวยรินมาจากที่พื้น นั่นใคร? ในป่าแห่งนี้ยังมีผู้อื่นอีกหรือ?
เหลียนเซวียนรู้สึกงุนงง เดินเข้าไปหานางอย่างช้าๆ
"เจอแล้ว มันตัวเล็กขนาดนั้น ยาแก้ปวดครึ่งเม็ดก็น่าจะพอ" เซวียเสี่ยวหรั่นเทยาออกมาแล้วใช้มีดผ่าเป็สองส่วน
ตัวเล็ก?
เหลียนเซวียนชะงักไปชั่วขณะ