เวลาของการแข่งขันกำหนดไว้ในตอนบ่ายวันศุกร์ ทันทีที่ชวีเสี่ยวปอเดินเข้าไปในสนามบาสเกตบอล คิดไม่ถึงว่าด้านในจะมีคนนั่งอยู่มากมายจนมองไม่เห็นที่ว่างขนาดนี้
“โห” เขาสะกิดเซี่ยเจิงที่อยู่ข้างๆ “นี่มันไม่ใช่แค่ชั้นเรียนของพวกเราสองห้องแน่ๆ ”
“ดูเหมือนจะเป็การแข่งบาสของโรงเรียนอยู่แล้วนะเนี่ย” เซี่ยเจิงกวาดสายตามองไปคร่าวๆ “คนที่มาได้ก็ล้วนมานั่งอยู่ตรงนี้ทั้งหมดเลย”
แล้วก็เป็เช่นนั้นจริงๆ หลังจากที่เซี่ยเจิงพูดจบ ชวีเสี่ยวปอก็เห็นจ้าวชิวเจียอยู่ในกลุ่มคนตรงนั้น ทำไมถึงมองเห็นเธอในครั้งแรกน่ะเหรอ ตอบได้เพียงแค่ว่าจ้าวชิวเจียค่อนข้างที่จะดึงดูดสายตาของผู้คนได้เป็อย่างดี เธอถึงขนาดยังทำป้ายแนวนอนยาวสีแดงสดที่พิมพ์ชื่อของชวีเสี่ยวปอมาด้วย ในขณะนั้นเธอใช้มือกางมันออกพร้อมทั้งเขย่าไปมา จึงยากที่จะไม่สังเกตเห็นเธอได้
“ชวีเสี่ยวปอ !” เมื่อจ้าวชิวเจียเห็นชวีเสี่ยวปอเดินเข้ามาเธอจึงโบกไม้โบกมือออกไปอย่างสุดกำลัง “สู้ๆ !”
ถ้าเปลี่ยนเป็ตอนปกติ ชวีเสี่ยวปอต้องรู้สึกว่าจ้าวชิวเจียทำเกินไปอย่างแน่นอน แต่ใน่เวลานี้ จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าความตื่นเต้นของเขาขยายใหญ่ขึ้นจนไม่รู้กี่เท่า เขายกนิ้วโป้งให้จ้าวชิวเจียพร้อมทั้งก้าวเดินไปด้านหน้า
ทั้งสองฝ่ายมาอยู่ในสนามเป็ที่เรียบร้อยแล้ว
ทันทีที่เสียงนกหวีดดังขึ้น ชวีเสี่ยวปอก็รู้สึกว่าเืได้พลุ่งพล่านไปทั่วทั้งร่างกายของเขาเป็ที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากลูกบาสเกตบอล เพื่อนร่วมทีม และฝ่ายตรงข้ามที่ท่าทางจะพุ่งเข้ามาเพียงอย่างเดียว ก็มองไม่เห็นอะไรอีกเลย
เริ่มเกมได้ดีมากเลยทีเดียว
พวกเขาได้บอลบุก ชวีเสี่ยวปอรีบแย่งคว้าบอลเอาไว้ในทันที และชู้ตลงไปได้จากการทำรีบาวด์แรก [1]
สุดยอด
เสียงะโร้องเชียร์ที่ดังกระหึ่มไม่ได้รบกวนชวีเสี่ยวปอเลยแม้แต่น้อย ในขณะนั้นเขาจึงหันไปสบตากับเซี่ยเจิงทันที เข้าใจความหมายที่จะสื่อของกันและกัน
การป้องกันของอีกฝ่ายค่อนข้างที่จะแ่าพอสมควร ทั้งยังแทบจะเข้ามาประชิดตัวเพื่อแย่งลูกบาสอย่างบ้าคลั่ง ไม่ให้โอกาสพวกเขาได้เล่นอย่างสบายๆ เลยสักนิด
หลังจากหมดเวลาควอเตอร์แรก เหงื่อของพวกเขาก็ไหลหยดลงมาอย่างต่อเนื่องราวกับไม่อยากได้เงินรางวัลแล้ว โหยวเจียเดินพัดให้พวกเขาไปรอบๆ อย่างสุดกำลัง นอกจากนี้เพื่อนผู้หญิงที่อยู่ห้องเดียวกันนั้นก็ะโออกมาอย่างพร้อมเพรียง “สู้ๆ !สู้ๆ !”
ชวีเสี่ยวปอไม่ได้พูดอะไรออกมา พร้อมทั้งยืนมือไปจับกับเซี่ยเจิงอย่างแรง
ควอเตอร์ที่สองเริ่มขึ้น
ชวีเสี่ยวปอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเกมบุกของฝ่ายตรงข้ามเล่นเร็วขึ้นยิ่งกว่าเดิม
หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายรู้กันและกันจากการเล่นในควอเตอร์ก่อนหน้าแล้ว หม่าเวยและผู้เล่นอีกคนจึงเข้ามาขว้างชวีเสี่ยวปอเอาไว้
คะแนนของทั้งสองทีมไล่ตามกันมาไปมา สูสีคู่คี่กันมากเลยทีเดียว ทั้งยังบวกกับเจียงอี้หยางที่เล่นพลาดติดต่อกันไปถึงสองครั้ง และถึงแม้ว่าซือจวิ้นจะเร่งทำคะแนนขึ้นมาแล้ว แต่หลังจากที่จบการแข่งขันในควอเตอร์ที่สองพวกเขาก็ยังคงตามหลังอยู่สองแต้ม
หม่าเวยที่เหลิงจนได้ใจจึงทำท่ายิงปืนมายังชวีเสี่ยวปอหนึ่งครั้ง ส่วนเจียงอี้หยางที่ยืนอยู่ด้านหลังชวีเสี่ยวปอจึงด่าคำหยาบออกไปด้วยความโมโห ทั้งยังเอาแต่โทษตัวเองและรู้สึกเสียใจเป็อย่างมาก
“ไม่เป็ไร” เซี่ยเจิงวิ่งหอบหายใจมาตบเบาๆ เข้าที่ด้านหลังของเจียงอี้หยาง “ทำหน้าที่ในตำแหน่งของนายให้ดีที่สุด ยังมีฉันอยู่ทั้งคน”
หลังจากพูดจบเขาก็หันไปมองชวีเสี่ยวปอครั้งหนึ่ง “นายก็ด้วยนะ”
ในขณะที่เกมการแข่งขันเข้าสู่่ที่กดดัน ทุกคนก็ล้วนค่อยๆ หมดแรงกันลงไปแล้ว เซี่ยเจิงโยนลูกบาสออกไป และลูกบาสก็ถูกส่งเข้าไปในมือของชวีเสี่ยวปออย่างแม่นยำโดยไม่ผิดพลาดเลยสักนิด แต่ซือจวิ้นกลับถูกกันเอาไว้จึงทำให้วิ่งไปได้ไม่ทัน ในตอนนั้นเองหม่าเวยรีบวิ่งไล่ตามขึ้นไป ชวีเสี่ยวปอจึงใช้โอกาสในการชู้ตสามแต้ม แต่ในเวลาเดียวกันนั้นหม่าเวยกลับะโขึ้นมา ชวีเสี่ยวปอที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวจึงล้มคะมำลงไปกับพื้น พร้อมกับส่งเสียงร้องอู้อี้ออกมา
เขาไม่อยากคิดไปถึงว่าหม่าเวยตั้งใจทำผิดกติกาหรือเปล่า เพราะในตอนนี้เขารู้แค่เพียงว่าร่างกายของเขาเ็ปไปทั้งตัว
ผู้ตัดสินเป่านกหวีด คนกลุ่มใหญ่ก็กรูกันเข้ามาล้อมรอบเขาไว้ พร้อมทั้งช่วยกันดึงชวีเสี่ยวปอขึ้นมา
ที่จริงแล้วชวีเสี่ยวปอไม่ได้สนใจตัวเองเลยสักนิด เขาเพียงแต่รู้ว่าคะแนนสามแต้มนั้นยังไม่ได้ชู้ตลงไป
“ไม่เป็อะไรใช่ไหม? ” เซี่ยเจิงยื่นมือออกมากดลงไปบนท้องของชวีเสี่ยวปอ พร้อมทั้งพูดออกมาเสียงแ่เบา เมื่อครู่นี้เขาเห็นเหตุการณ์อยู่ตรงหน้า ทั้งยังรู้ว่าหม่าเวยลงน้ำหนักไปตรงไหน
“นายนั่นมันใช้วิธีสกปรกน่ะสิหลานชาย !” ซือจวิ้นกัดฟันแน่น พร้อมพูดโดยปล่อยเสียงออกมาตามช่องฟัน
ชวีเสี่ยวปอวางมือของตัวเองลงไปบนมือของเซี่ยเจืง ส่ายศีรษะไปมา แต่ยังคงกัดฟันพูดออกมาว่า : “ไม่ต้องลนลานไป”
“พยายามเต็มที่แล้ว !”
พวกเขาหลายคนตรงนั้นวางมือประสานเข้าด้วยกันพร้อมทั้งะโเรียกขวัญกำลังใจขึ้นมา
ในตอนที่การแข่งขันเหลือเพียงสามวินาทีสุดท้าย ทั้งสองฝ่ายมีคะแนนเสมอกัน ชวีเสี่ยวปอมองไปยังหม่าเวย รู้สึกว่าอีกฝ่ายดูเหมือนจะตาร้อนผ่าวขึ้นมาแล้ว
ไม่ ต้อง ลนลาน
ชวีเสี่ยวปอกัดเข้าที่ปลายลิ้นของเขาอย่างแรง จนความเ็ปที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกตื่นตัวมากขึ้น ส่วนเซี่ยเจิงในตอนนี้ก็กำลังจับจังหวะ แต่ไม่ได้เร่งความเร็วนัก การเปลี่ยนแปลงการเล่นและกลวิธีของพวกทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถบุกขึ้นมาได้ ทั้งยังตัดตอนไปจนอีกฝ่ายขาด่
ตอนนี้นี่แหละ
ชวีเสี่ยวปอโยกตัวหลบทั้งสองคนไปได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังเพิ่มพื้นที่การเคลื่อนไหวของตัวเองให้มากยิ่งขึ้น ร่วมมือกับการป้องกันซือจวิ้น เขาแทบจะบุกเกมตรงขึ้นไปได้โดยไม่มีใครเข้ามาขว้างกั้น ในตอนนั้นเองเขาจึงะโอัดลูกบาสเข้าห่วงไปในทันที
ชนะแล้ว !
เสียงเชียร์ะโดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ราวกับว่าหลังคาของสนามบาสเกตบอลกำลังจะทำให้ถูกเปิดออกมา ในขณะที่เสียงนกหวีดดังขึ้นพวกเขาก็วิ่งกรูเข้ามากอดกันเอาไว้แน่น
“เยี่ยมมาก! เยี่ยมมาก! เยี่ยมมาก! ” ซือจวิ้นจุ๊บไปบนหน้าผากของชวีเสี่ยวปอโดยที่ไม่ได้สนใจเหงื่อที่ไหลออกมาเต็มตัวของเขาเลยสักนิด “ปอเอ๋อร์ เยี่ยมมาก !”
ชวีเสี่ยวปอถูกหลายคนตรงนั้นเบียดตัวกันเข้ามาจนแทบจะหายใจไม่ออก เซี่ยเจิงไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ในตอนนั้นชวีเสี่ยวปอรู้ว่าเขากอดตัวเองเอาไว้แแ่เป็ที่สุด เพราะลมร้อนทั้งหมดที่พ่นออกมาจากปากของเซี่ยเจิงได้เป่าลงไปบนต้นคอของเขา เตือนให้ชวีเสี่ยวปอรับรู้ว่า
เมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งสองคนเคียงบ่าเคียงไหล่พยายามต่อสู้ไปด้วยกัน
หม่าเวยและพวกเขาหลายคนตรงนั้นก็หน้างอคอตกแยกย้ายกันออกไปแล้ว ส่วนชวีเสี่ยวปอและเพื่อนร่วมทีมก็กำลังยืนกอดกันเกลียวพร้อมทั้งร้องะโออกมาด้วยความดีใจอยู่ตรงนั้นพักใหญ่ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป และทันทีที่แยกกันชวีเสี่ยวปอจึงวิ่งเข้าไปหาโหยวเจียทันที
“ไว้หน้าครูแล้วนะครับ !” ชวีเสี่ยวปอยืนตรงทำท่าวันทยหัตถ์ แต่กลับไม่ได้สังเกตเห็นว่าดวงตาของโหยวเจียแดงขึ้นมา ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะร้องไห้ออกมาแล้ว
เก่งมาก !” โหยวเจียปากสั่นเสียงสั่นไปหมด ในตอนสุดท้ายขณะที่ชวีเสี่ยวปอกำลังจะสแลมดังก์ [2] ลูกบาสเกตบอลลงไปในห่วงเธอหันหลังไป เพราะรู้สึกตื่นเต้นจนให้ไม่กล้าดู แต่หลังจากที่ได้ยินเสียงเชียร์โห่ร้องดังขึ้นเธอจึงได้หันกลับมา “ครูภูมิใจในตัวพวกเธอมากเลยนะ! ความพยายามหลายวันมานี้ของพวกเธอไม่เสียเปล่าแล้วนะ! เหงื่อก็ไม่ได้ไหลออกมาฟรีๆ ด้วย! ”
“ห้ามร้องไห้นะครับ” ชวีเสี่ยวปอมองไปยังใบหน้าของโหยวเจียที่พูดออกมาพร้อมทั้งสะอื้นไปด้วย ราวกับว่าหากกลั้นเอาไว้ไม่อยู่เธอก็จะปล่อยโฮออกมาเสียงดัง
“ถ้าครูร้องไห้ออกมามันก็เป็น้ำตาแห่งความซาบซึ้งใจ !” โหยวเจียยกแขนขึ้นมาปิดดวงตาทั้งสองข้างเอาไว้ “ไม่ขายหน้าเลยสักนิด !”
ในเวลาเลิกเรียนใน่บ่าย โหยวเจียจะควักเงินของตัวเองออกมาเพื่อเลี้ยงข้าวพวกเขา แต่พวกเขากลับปฏิเสธออกไป อย่างแรกเลยคือไม่อยากให้โหยวเจียต้องสิ้นเปลืองเงิน อีกทั้ง่นี้พวกเขาก็เหนื่อยกันมามากแล้วด้วย เวลาให้สนุกสนานครื้นเครงยังคงมีอยู่อีกมาก เพียงแต่ในตอนนี้พวกเขาอยากที่จะพักกันแล้ว
ชวีเสี่ยวปอและซือจวิ้นไปบ้านของเซี่ยเจิงอีกครั้ง คำพูดเดิมของเซี่ยเจิงพูดเอาไว้ว่าพวกเรามาฉลองเล็กๆ กันก่อนก็แล้วกันนะ
“หมายความว่าไง? ” ในระหว่างทางกลับบ้าน ซือจวิ้นเดินลากเท้าไปมา ความสุขจากการชนะการแข่งขันยังคงฝั่งลึกอยู่ในตัวเขาไม่ได้สลายหายไป
“หมายความว่าพวกเราแอบกินกันก่อนไง” ชวีเสี่ยวปออธิบายได้ตรงประเด็นในประโยคเดียว หลังจากพูดจบก็มองไปยังเซี่ยเจิง “ใช่ไหม? ”
“ใช่” เซี่ยเจิงหัวเราะออกมา “เนื้อย่างโอเคไหม? ”
“ได้ โอเคมากเลยละ” ชวีเสี่ยวปอผิวปากออกมาครั้งหนึ่งอย่างตื่นเต้น “ย่างที่บ้านเหรอ? ”
“อืม ที่บ้านมีเตาย่างอยู่” เซี่ยเจิงพยักหน้า “เมื่อเช้าตอนออกจากบ้านตุ๋นเนื้อเตรียมเอาไว้แล้ว”
“เมื่อเช้า? ” ชวีเสี่ยวปอเบิดตากว้างมองเขา “เดี๋ยวนะ เมื่อเช้านายก็...นายก็คิดว่าวันนี้พวกเราต้องชนะแน่ๆ เลยงั้นเหรอ? ”
“ก็นายบอกฉันเองไม่ใช่เหรอว่านายมั่นใจ” เซี่ยเจิงพูดออกมาอย่างแน่ใจ “ฉันก็แค่เตรียมเอาไว้ ถ้าชนะก็ฉลองกัน แต่ถ้าแพ้ก็ช่างมัน กินก่อนแล้วค่อยว่ากัน !”
.............................
เชิงอรรถ
[1] รีเบาด์ (Rebound) คือการที่ฝ่ายตัวเองแย่งลูกบาสเกตบอลที่ฝ่ายตรงข้ามหรือฝ่ายตัวเองทำแต้มไม่ได้ แล้วนำลูกบาสเกตบอลกลับทำเกมบุกต่อ
[2] สแลมดังก์ (Slam dunk) คือการะโเอาลูกบาสเกตบอลยัดลงไปในห่วง