หลังจากที่ออฟไลน์ออกจากเกม
ในขณะที่เขากำลังเดินเข้ามาที่ห้องนั่งเล่นสีหน้าของฉินโจ้วก็กลับคืนสู่สภาพปกติ มองดูไม่เห็นความแตกต่างแต่อย่างใด หวังโหรวและชูหลิงก็มานั่งรออยู่ที่โซฟาแล้วแม้แต่หนานกงเสี่ยวเองก็ออฟไลน์ออกมาเช่นกัน ทุกคนอยู่พร้อมหน้ากันหมดแต่ทว่าสีหน้าดูไม่สู้ดีนัก
"กิน... มากินกันก่อน ทุกทีก็กินอยู่ในเกมจนลืมไปแล้วว่าจะต้องไปเข้าห้องน้ำ" ฉินโจ้วพูดพร้อมรอยยิ้ม
"ทุเรศ" ชูหลิงถึงกับด่าออกมา
หวังโหรวมองเขาด้วยสายตาตำหนิเล็กน้อย ส่วนหนานกงเสี่ยวถึงกับเอามือปิดปากหัวเราะคิกๆ
เมื่อถูกขัดจังหวะขึ้นอารมณ์ของทั้งสามก็เริ่มกลับมาเป็ปกติอีกครั้งก่อนที่พวกเขาจะเลิกทำหน้าตาบึ้งตึง อาหารมื้อนี้หวังโหรวเป็คนปรุงเองกับมือทั้งสีสัน กลิ่น และรสชาติ ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความอยากอาหารมากขึ้น
"ขอถามแค่สองข้อ ข้อแรก ใครเป็คนทำ? ส่วนข้อสอง กำแพงจะสร้างเสร็จทันก่อนภารกิจป้องกันเมืองหรือไม่?"ฉินโจ้วถามขึ้นในขณะที่อาหารกำลังเต็มปากน้ำเสียงฟังดูอู้อี้ไม่ชัดเจน
ชูหลิงวางตะเกียบลงก่อนจะพูดขึ้นว่า"ดูเหมือนว่าน่าจะเป็ฝีมือของกิลด์ต้นไม้ทงเทียน แต่จะมีคนอื่นร่วมมือด้วยหรือไม่นั้นตอนนี้ยังตอบไม่ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากเวลามีจำกัดและเบาะแสก็มีมากเกินจะตรวจสอบได้หมด"
ดวงตาของฉินโจ้วส่องประกายวาบออกมาก่อนจะพยักหน้ารับฟัง แต่เขาเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เขากลับนึกถึงฉิวเฉ่ากังขึ้นมาทันที ดูเหมือนว่านายคนนี้และกิลด์ต้นไม้ทงเทียนน่าจะต้องร่วมมือกันบางอย่างมันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกันอยู่แน่ๆ
"ในส่วนของการสร้างกำแพงเมืองขึ้นใหม่..."สีหน้าของชูหลิงดูไม่ดีนัก เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดต่อว่า "ฉันกลัวว่ามันจะไม่ทันเวลามีน้อยเกินไป"
ฉินโจ้วใช้ความคิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบชามซุบถ้วยใหญ่ยกขึ้นซดไปกว่าครึ่ง และพูดขึ้นว่า"ทำให้ดีที่สุดแล้วกัน เราจะพยายามสร้างให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ภารกิจป้องกันเมืองก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกำแพงเมืองเพียงอย่างเดียวดูอย่างก่อนหน้านี้ กำแพงเมืองของกิลด์ราตรียิ่งใหญ่แข็งแกร่งขนาดไหนก็ยังล้มเหลวได้เลย ดังนั้นไม่ต้องไปกังวลกับมันมากนัก เื่นี้เดี๋ยวผมจัดการเองอีกอย่างหนึ่งนอกจากปัญหาเื่ของกำแพงเมืองแล้ว ยังมีอะไรที่ดูยุ่งยากอีกไหมจะได้มาดูกัน"
หวังโหรวพูดขึ้นมาว่า "เนื่องจากอาวุธและอุปกรณ์ป้องกันทั้งหลายทางเราเป็คนผลิตขึ้นเองดังนั้นแล้วจึงไม่จำเป็ต้องเป็ห่วง ในส่วนของยาน้ำก็มีมากพอ ซึ่งจำนวนคนของเราก็มีมากพอไม่จำเป็ต้องกังวลแต่ดูเหมือนว่าในส่วนของระดับเลเวลนั้นอาจจะต่ำไปบ้างและยังมีปัญหาในเื่การขาดแคลนจำนวนของผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งในเวลานี้เรามีผู้เชี่ยวชาญอยู่เพียง3 กลุ่ม นั่นก็คือ น้องชายมีด ลมกระจ่างจันทร์แรม และก็ ''นกกาเหว่า'' (ปู้กู่เหนี่ยว)จากข้อมูลที่รวบรวมมาได้นั้น เราคาดการณ์ว่าระดับของมอนสเตอร์จะอยู่ใน่เลเวล 30-60ซึ่งมอนสเตอร์ที่ระดับเลเวลต่ำกว่า 55 ลงมานั้นเราสามารถรับมือกับมันได้แต่สำหรับพวกที่เลเวลเกิน 55 ขึ้นไปนั้นค่อนข้างมีปัญหาอยู่บ้างซึ่งคงมีแค่ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงเท่านั้นที่พอจะรับมือกับมันไหว แต่ถ้ามีจำนวนมากเกินไปก็คงเป็เื่ยากที่จะจัดการกับพวกมัน"
"นั่นก็เป็ปัญหาหนึ่ง"ฉินโจ้วพูดไปพลางหน้านิ่วคิ้วขมวด ผู้เชี่ยวชาญเองก็ไม่ได้หาได้ทั่วไปราวกับผักกะหล่ำแต่ละคนก็มักจะมีบุคลิกแตกต่างกันออกไป หากไม่ใช่คนรู้จักกันก็ยากที่จะเชิญมาได้ซึ่งเื่นี้ไม่ได้เกี่ยวกับเงินเลยแม้แต่น้อยเพราะผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ล้วนไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง เมื่อพูดถึงเื่นี้ฉินโจ้วก็ถึงกับกุมขมับ"ผมจะพยายามหาทางแก้ปัญหาเื่นี้เอง แต่ก็คงจะตั้งความหวังไม่ได้มาก แล้วมีปัญหาเื่อื่นอีกไหม"
"ไม่แล้วล่ะ เื่อื่นที่เหลือ เราพอมีประสบการณ์มากพอที่จะรับมือกับมันได้ซึ่งส่วนใหญ่ก็เตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วงานของเราในเวลานี้ถือได้ว่าครอบคลุมในเกือบทุกด้านแล้วตราบใดที่ระดับมอนสเตอร์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก การต่อสู้เพื่อป้องกันเมืองย่อมจะไม่มีปัญหา"หวังโหรวตอบกลับไป
"ดีแล้ว แค่มั่นใจไว้ก็พอ"ในขณะที่เขายืนขึ้นนั้น ฉินโจ้วก็เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ก่อนจะนั่งลงอีกครั้ง และพูดกับชูหลิงว่า "คุณอย่าเพิ่งใช้คนทั้งหมดควรจะเหลือไว้บางส่วนเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดฝันขึ้น ผมรู้สึกมีลางสังหรณ์ว่าการป้องกันเมืองครั้งนี้น่าจะไม่ง่ายนักดูท่าศัตรูของเราคงไม่ปล่อยให้เราทำสำเร็จได้โดยง่ายเป็แน่"
"เื่นี้ไม่ต้องเป็ห่วง ฉันเองก็คิดเื่นี้มาสักพักหนึ่งแล้วเหมือนกันซึ่งมีการเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าแต่จะทำอย่างไรกับเื่ของกิลด์ต้นไม้ทงเทียน"ชูหลิงถามขึ้น
"คุณไม่ต้องเป็กังวลในเื่นี้ ตอนนี้ก็ดีเลยผมก็กินอิ่มเต็มคราบแล้ว ถึงเวลาคงต้องเริ่มงานเสียที ่นี้คงจะยุ่งๆอยู่สักสองสามวัน อ้อ... พี่ชูหลิง เข้ามาในเกมที ผมมีอะไรจะให้"ตอนนี้ฉินโจ้วรู้สึกเหมือนจะเริ่มจุกเสียดแน่นท้องเสียแล้วสงสัยว่าจะกินมากเกินไปหน่อย และก็เริ่มไม่อยากจะกระดิกกระเดี้ยตัวไปไหนแล้ว
"อะไรหรือ?" ชูหลิงถามขึ้นด้วยความสงสัย
"ของดีแล้วกันน่า... ถ้ามีของสิ่งนี้ล่ะก็าป้องกันเมืองดูไปคงน่าจะหมดห่วงแล้วล่ะ"ฉินโจ้วพูดขึ้นด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
"อย่างนั้นหรือ ได้...เดี๋ยวฉันจะรีบเข้าเกมเดี๋ยวนี้" ชูหลิงแทบจะนั่งไม่ติดเมื่อได้ยินเื่ดังกล่าวเธอเองถึงกับหยุดกิน โยนตะเกียบลงแล้วรีบวิ่งกลับเข้าห้องทันที
"รอฉันด้วย... ฉันไปด้วยคน"หนานกงเสี่ยวท่าทางดูกระปรี้กระเปร่า ก่อนจะรีบวิ่งไล่ตามไปทันที เมื่อหวังโหรวเห็นก็อดที่จะส่ายหน้าไม่ได้
ภายในเกม
สิบนาทีให้หลังชูหลิงก็ตื่นเต้นดีใจโวยวายอยู่ในห้องของฉินโจ้ว "อ้าาา... ปืนใหญ่ิญญานี่มันคือปืนใหญ่ิญญา ของจริงหรือ? นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหมฉินโจ้ว ฉันรักนายที่สุดในโลกเลย... จุ๊บๆ..."
ฉินโจ้วถึงกับเขินอายก่อนจะรีบเช็ดน้ำลายบนหน้าออกไป ผู้หญิงคนนี้ช่างไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจบ้างเลยซึ่งเขาเองก็ไม่มีทางเลือก ได้แต่พูดขึ้นว่า "โอ... โอเค... ใจเย็น...ใจเย็นไว้ก่อน นี่เป็เื่จริงแท้แน่นอน ถ้าเราสามารถทำได้ทันมันก็จะเป็สิ่งที่รับประกันได้เป็อย่างดี ตอนนี้เวลาเราเหลือไม่มากแล้ว"
ชูหลิงเต็มไปด้วยรอยยิ้มในเวลานี้ก่อนจะวิ่งออกจากห้องของเขาพร้อมการ์ดปืนใหญ่ิญญา ในขณะที่กำลังจะพ้นประตูห้องก็หันกลับมาและพูดขึ้นว่า "ฉันเองก็ไม่อยากรบกวนเวลาของเธอสองคนหรอกน้องเสี่ยวเกอ ตะกี้พี่สาวคนนี้ดีใจมากไปหน่อย อย่าถือสาเลยนะ"
"ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันสักหน่อย"หนานกงเสี่ยวพลันหน้าแดงและกัดริมฝีปากล่างเอาไว้ ก่อนที่ชูหลิงจะจากไปพร้อมกับเสียงหัวเราะก้องกังวานไม่ต่างไปจากระฆังสีเงิน
"พวกเราไปกันเถอะ"ฉินโจ้วหันกลับมาพูดกับหนานกงเสี่ยว
"แล้วคุณจะไปทำอะไรหรือ?" หนานกงเสี่ยวเอ่ยถามขึ้น
"แก้แค้น"ฉินโจ้วเอ่ยขึ้นมาสองคำด้วยน้ำเสียงเ็า
หนึ่งชั่วโมงต่อมาคำสั่งลอบสังหารเ้าหน้าที่ระดับสูงของกิลด์ต้นไม้ทงเทียนก็ปรากฏขึ้นมาด้วยความรวดเร็วจนน่าทึ่งผ่านทางช่องทางสื่อสารลับของสหพันธ์นักฆ่า ภายในไม่เกินสิบนาที ข่าวนี้ก็กระจายถึงหูนักฆ่าทุกคนที่อยู่ในเขตเหยียนหวงซึ่งมีคำสั่งให้ฆ่าทิ้ง ในเวลานี้หายนะกำลังจะมาเยือนกลุ่มผู้เล่นระดับสูงของกิลด์ต้นไม้ทงเทียนเข้าแล้ว
ดูเหมือนจะใช้เวลารวบรวมข่าวกรองไม่ถึงชั่วโมงครึ่งซึ่งเป็การแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในด้านข้อมูลที่ยิ่งใหญ่ของสหพันธ์นักฆ่าจากนั้นผู้าุโกลุ่มแรกที่เป็เป้าหมายก็ถึงแก่ความตาย และเพียงไม่นานนักดอกไม้แห่งความตายก็เริ่มเบ่งบานไปทั่วทุกหนแห่งคล้ายกับพายุเฮอริเคนที่โหมกระหน่ำพัดทำลายหมู่บ้านที่ขวางทาง ก่อนจะแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วจนน่าใเพียงแค่ครึ่งวันก็มีสมาชิกของกิลด์ต้นไม้ทงเทียนไม่ต่ำกว่า 400 คน ที่ถูกฆ่าตาย และจำนวนยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าคนที่มีตำแหน่งสูงที่สุดที่โดนสังหารก็คือผู้าุโเก้อฉิง เป็ผู้เชี่ยวชาญเลเวล 56
ในระหว่างที่กำลังเดินทางกลับเมืองลิง''เอ้อเปี่ยง'' กับสมาชิกในกลุ่มเก็บรวบรวมกว่าร้อยชีวิตที่บรรทุกของกันมาเต็มพิกัดซึ่งต่างก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดี ในกิลด์ต้นไม้ทงเทียนเขาเป็ผู้เล่นคนเดียวที่มีระดับของทักษะในการเก็บรวบรวมสูงที่สุดซึ่งทำให้เขากลายเป็บุคคลที่มีคุณค่าสูงยิ่งในกิลด์ต้นไม้ทงเทียนในขณะที่กำลังจะถึงเมืองลิง ก็มีผู้เล่นที่อยู่ด้านหลังได้สังเกตเห็นว่า มีรอยเท้าปรากฏขึ้นด้านหลังของหัวหน้าของเขาทันใดนั้นเืก็สาดกระเซ็นออกมาจากลำคอก่อนที่เงาดำจะหายวูบไปพร้อมกับประกายคมมีดที่อยู่ในมือหลังจากที่คนที่เหลือเริ่มรู้ตัว เอ้อเปี่ยงก็ได้กลายเป็แสงสีเทาก่อนจะกลับไปเกิดใหม่เป็ที่เรียบร้อย
ภายในหุบเขา มีแท่นบูชาอยู่ห้าแห่งหนึ่งในแท่นบูชาเถาไม้เขียวเป็ที่สำหรับต่อสู้กับมอนสเตอร์เพื่อเพิ่มระดับ เนื่องจากที่นี่เต็มไปด้วยปีศาจหมาป่าโลหิตเป็จำนวนมากหลังจากที่จัดการกับมันแล้วจะได้เืของมอนสเตอร์ที่เป็วัตถุดิบ สามารถนำไปใช้ในการสร้างยาพลังชีวิตได้ซึ่งมีค่าเป็อย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าการโจมตีของปีศาจหมาป่าโลหิตเองก็รุนแรงมากพอดูแต่เนื่องจากพลังชีวิตที่ไม่สูงมากนัก ตราบใดถ้าผู้เล่นยังมีพลังป้องกันมากพอก็เป็เื่ง่ายในการล่าและสังหารพวกมัน
ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็ทีของหัวหน้าแท่นบูชา''อู้โหยวเสี่ยวเต้า'' ที่เป็คนนำทีมหลังจากที่เข้าเกมมา เขาได้ทักษะลับในการใช้ยันต์เพื่อโจมตีอาจเป็เพราะเขานั้นโชคดี ระบบจึงให้ยันต์มาใช้สองแบบคือยันต์เปลวเพลิงและยันต์ดาบซึ่งสามารถใช้โจมตีได้ผลดีจนน่าทึ่ง ั้แ่นั้นมาเขาจึงได้ชื่อว่า ''อู้โหยวเสี่ยวเต้า'' (เส้นทางไร้กังวล) ซึ่งในเวลานี้เขาได้ขว้างยันต์ไปติดที่ร่างของปีศาจหมาป่าโลหิตจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงะเิเปลวไฟลุกลามกระจายออกมาก่อนจะปกคลุมทั้งร่างของปีศาจหมาป่าโลหิตเอาไว้อย่างรวดเร็วแล้วก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนจากปีศาจหมาป่าโลหิต เพียงไม่นานซากศพของปีศาจหมาป่าโลหิตที่ถูกเปลวเพลิงเผาไหม้ก็เต็มไปด้วยเื
หลังจากนั้นปีศาจหมาป่าโลหิตที่เหลืออีกสามตัวก็พุ่งเข้าใส่อีกครั้งสีหน้าของอู้โหยวเสี่ยวเต้าเต็มไปด้วยอาการเยาะเย้ย ก่อนจะขว้างยันต์ดาบอีกสามชิ้นออกไปหลังจากที่ขว้างออกไปแล้ว ก็ปรากฏเงาดำให้เห็นในแววตาของเขาวูบหนึ่งก่อนที่ลูกธนูจะพุ่งทะลวงผ่านอกไป ตามมาด้วยความเจ็บแปลบที่หน้าอก หลังจากนั้นเขาก็หมดสติไปเมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่า ได้มาอยู่ที่จุดฟื้นคืนชีพเสียแล้วซึ่งเหลือทิ้งไว้เพียงความงุนงงสับสนเท่านั้น
บนทุ่งหญ้าหนึ่งในแท่นบูชาทั้งห้าของกิลด์ต้นไม้ทงเทียน ''สวนดอกไม้ที่เป็อาหาร''ในเวลานี้ได้มี ''อู้จี้ไห่เจิ้ง'' เป็ผู้นำกลุ่มในการสังหารมอนสเตอร์จามรี จู่ๆก็มีแสงสีดำพุ่งผ่านทะลุร่างไปหลังจากนั้นเขาก็ถูกสังหารจนตายโดยที่ยังไม่ทราบสาเหตุ
...ในระหว่างที่เดินอยู่บนถนน พื้นที่ข้างใต้เท้าของผู้าุโของกิลด์ต้นไม้ทงเทียนที่เดิมราบเรียบไม่มีอะไรก็ปรากฏหลุมขนาดใหญ่ขึ้นทันใด แต่ชายคนดังกล่าวมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วฉับไวมากฝ่ามือทั้งคู่ยืดเหยียดออกไปเป็กรงเล็บคว้าจับขอบหลุมเอาไว้ได้ โดยใช้แรงดันส่งตัวเองไว้เตรียมที่จะพุ่งกลับขึ้นไปในอากาศเพื่อจะะโข้ามหลุมไป แต่ไม่คิดว่าในเวลานั้น กลับมีแรงดึงดูดมหาศาลจากด้านในทำให้เขาเสียหลักก่อนที่หลุมขนาดใหญ่นั้นจะหดตัวปิดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาถูกจับขังอยู่ด้านในไม่ต่างจากการถูกแช่แข็งหลังจากนั้นพื้นดินก็เริ่มแข็งตัว ได้ยินแต่เพียงเสียงกรีดร้องของผู้าุโต่ำกว่า่คอลงไปถูกแรงบีบอัดจนกลายเป็เศษเนื้อแหลกเหลวยังดีที่เหลือส่วนศีรษะที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มีเพียงเืไหลรินออกจากทวารทั้งเจ็ด
...ที่ห้องพักรับรองในฐานบัญชาการของกิลด์ต้นไม้ทงเทียนที่อยู่ในเมืองลิงรองหัวหน้ากิลด์ต้นไม้ทงเทียนนั่งรับประทานอาหารเย็นกับมิตรสหาย ขณะที่กำลังกินดื่มอยู่นั้นจู่ๆทุกคนก็เห็นร่างของรองหัวหน้ากิลด์นิ่งค้างไป จากนั้นก็เริ่มกลายเป็สีเขียวดูไปไม่ต่างจากแตงโมขนาดใหญ่ เมื่อเอามือไปอังที่จมูกก็พบว่า ไม่มีลมหายใจเสียแล้ว...
......
การลอบสังหารดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นทุกหัวระแหงอย่างเงียบเชียบก่อนจะกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง
ที่หุบเขาปาหยวน ผู้เล่นของกิลด์ต้นไม้ทงเทียนกว่าร้อยชีวิตกำลังต่อสู้กับหัวหน้าแมวป่าสองตัวอยู่ทันใดก็ได้ยินเสียงพิณที่โดดเด่นดังขึ้นจากนั้นทุกคนก็เริ่มรู้สึกง่วงเหงาหาวนอนขึ้นมาทันที เปลือกตาเริ่มหนักอึ้ง หัวหน้าทีมเริ่มรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติไปเขาจึงรีบกลืนยาฟื้นฟูทันที ในขณะที่กำลังเตือนพี่น้องคนอื่นก็มีเมฆสายฟ้าพุ่งผ่านหน้าไป ก่อนจะตามมาด้วยเสียงะเิที่ดังขึ้นข้างกาย หลังจากนั้นก็เหมือนจะไม่รู้สึกอะไรอีกเลยที่มือซ้ายของฉินโจ้วนั้นมีไท่อี่เทพสายฟ้าอยู่ ส่วนมือขวาก็ปล่อยหนามกระดูกทั้งสองมือต่างก็ปลดปล่อยการโจมตีออกมาราวกับพายุคลั่งเสียงะเิดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายในหนึ่งนาที แค่หนึ่งนาที...ผู้เล่นกว่าหนึ่งร้อยคนก็ถูกส่งกลับไปคืนชีพทั้งหมดไม่เว้นแม้กระทั่งหัวหน้าแมวป่าสองตัวนั่นก็ถูกสังหารด้วยเช่นเดียวกัน
ฉินโจ้วส่งสัญญาณให้กับหนานกงเสี่ยวก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะรีบเก็บกวาดสนามรบ และมองหาเป้าหมายต่อไปทันที
ผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงกลุ่มที่เสียชีวิตลงนั้นเป็กลุ่มที่ห้าแล้ว ถ้าไม่ได้เสียเวลามากไปในระหว่างทาง สถิติย่อมจะต้องน่าทึ่งมากยิ่งกว่านี้
แต่ก็อย่างว่าพวกนี้เป็เพียงแค่ปลาซิวปลาสร้อยเท่านั้นตำแหน่งสูงสุดเป็แค่เพียงหัวหน้าหน่วยย่อย ไม่มีอะไรที่น่าอวดเลยสักนิด
เนื่องจากเขาได้ว่าจ้างนักฆ่าแล้วดังนั้นฉินโจ้วจึงไม่้าที่จะเสี่ยงอีกอันตรายทั้งหลายที่อาจจะเกิดขึ้นก็ยกให้สหพันธ์นักฆ่าเป็คนจัดการไปที่เขาไล่สังหารคนพวกนี้ ก็เพียงเพื่อ้าระบายความแค้นเท่านั้น
ตกดึกคืนนั้น ที่เมืองลิงสำนักงานใหญ่กิลด์ต้นไม้ทงเทียน
ภายในห้องโถงที่ดูรกราวกับไม่ได้มีการจัดระเบียบมานานแล้วหลวีเซ่อจีกวง (แสงนี้สีเขียว) นั่งอยู่เพียงลำพังที่เก้าอี้้าสุดสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้นเป็อย่างมาก ดูเหมือนว่าคราวนี้เขาจะรู้สึกโกรธจนแทบคลั่งแล้วั้แ่ก่อตั้ง กิลด์ต้นไม้ทงเทียนมาจนถึงปัจจุบัน ผ่านมรสุมมาก็มากมายความทุกข์ยากลำบากมากมายล้วนผ่านมาแล้ว ทั้งประนีประนอม ทั้งถูกกดขี่แต่นี่เป็ครั้งแรกที่เขารู้สึกโกรธมากขนาดนี้
ฟางเซียวเสี้ยวและรองหัวหน้าคนอื่นยังคงยืนอยู่ด้านข้างก้มหัวลงต่ำ และไม่มีใครกล้าส่งเสียงดังอะไรขึ้นมาเลยแม้แต่นิดเดียว
ยังไม่ถึงวันสมาชิกมากกว่าหกร้อยคนนั้นถูกฆ่าตาย ซึ่งถ้าเป็สมาชิกทั่วไปก็คงไม่มีปัญหาอะไรแต่ปัญหาก็คือ หกร้อยกว่าคนนี้เป็สมาชิกระดับผู้บริหาร ไล่เรียงลงไปจนถึงระดับหัวหน้าทีมและรองหัวหน้าซึ่งคนทั้งหลายนั้นต้องสูญเสียระดับอย่างน้อยหนึ่งเลเวลในเวลาเดียวกัน ถือว่าเป็ความสูญเสียที่ค่อนข้างใหญ่หลวง
ตอนนี้ากลางเมืองก็กำลังใกล้เข้ามาเดิมทีก็กำลังพัฒนาไปได้สวย ทำไมถึงต้องเป็่นี้ด้วยเพราะเป็่ที่กำลังต้องใช้คน กิลด์ต้นไม้ทงเทียนนั้นก็ไม่สามารถที่จะทนรับความเสียหายได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว
สิ่งที่ทำให้หัวเสียมากขึ้นไปอีกก็คือ ยังไม่รู้ว่าศัตรูในเวลานี้คือใครกันคนกว่าหมื่นชีวิตในหน่วยข่าวกรองช่างเลี้ยงเสียข้าวสุกเสียจริง ไร้ประโยชน์สิ้นดี...
"รายงาน..."เ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาด้วยทีท่าเร่งร้อน
"มีอะไรว่ามา" น้ำเสียงของหลวีเซ่อจีกวงที่เปล่งออกมาทั้งเสียงดังและรุนแรงดูเหมือนว่าในเวลานี้เขาจะควบคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่แล้ว
"ผู้าุโทั้งสาม เถาฮวา หลีฮวา และเหมยฮวาทั้งหมดถูกสังหารที่เมืองเสือครับ" เ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองพูดรายงานด้วยเสียงสั่นเครือและหวาดกลัว
"เ้าพวกขยะเปียก"หลวีเซ่อจีกวงถึงกับสบถด่าออกมาด้วยน้ำเสียงดุดันถึงแม้ไม่รู้ว่าเขานั้นด่าว่าใครก็ตาม หลังจากที่รออยู่ชั่วอึดใจเ้าหน้าที่ข่าวกรองคนดังกล่าวเมื่อไม่เห็นว่าหลวีเซ่อจีกวงจะเอ่ยอะไรเพิ่มเติม ก็ถอยออกไปอย่างเงียบๆ
"รายงาน..." เ้าหน้าที่ข่าวกรองอีกคนวิ่งเข้ามา
"พูด" หลวีเซ่อจีกวงเองไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะพูดมากไปกว่านี้ถ้าเขาสามารถพูดจบได้ในคำเดียว ก็จะไม่พูดคำที่สองขึ้นมาอีก
"เราค้นพบกลุ่มคนที่ลงมือฆ่าแล้ว"เ้าหน้าที่ข่าวกรองพูดขึ้น
"ใคร?" ดวงตาของหลวีเซ่อจีกวงเกิดประกายวูบขึ้นมาที่ด้านข้างนั้นฟางเซียวเสี้ยวและรองหัวหน้ากิลด์คนอื่นๆถึงกับเงยหน้าขึ้นพร้อมกัน พลางจ้องมองไปทางเ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองผู้นั้น
"สหพันธ์นักฆ่า" เ้าหน้าที่คนดังกล่าวเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น
"ใครเป็คนจ้างวาน? หาตัวพบแล้วหรือยัง?"ฟางเซียวเสี้ยวถามขึ้นด้วยความร้อนใจโดยที่ไม่ทันรอให้หลวีเซ่อจีกวงเอ่ยปากถามขึ้นก่อน
"สหพันธ์นักฆ่าเวลานี้ปิดปากแน่นไม่ได้ให้ความร่วมมือแต่อย่างใด แต่คิดว่าจากข้อมูลที่เราได้รวบรวมมา คนจ้างวานก็คือคนของฉินหวังกรุ๊ป" เ้าหน้าที่ข่าวกรองตอบออกไปด้วยความลังเล
"ฉินหวังกรุ๊ป!"ฟางเซียวเสี้ยวเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจว่า "ต้องเป็พวกมันแน่ พวกเราเพิ่งจะะเิกำแพงเมืองของพวกมันไปถ้าจะมีใครสักคนที่เกลียดเรามากที่สุดในตอนนี้ล่ะก็ก็คงต้องมีแต่ฉินหวังกรุ๊ป"
"ค่าใช้จ่ายในการจ้างสหพันธ์นักฆ่าก็ไม่ใช่น้อยคงมีแต่ฉินหวังกรุ๊ปที่มีเงินมากมายขนาดนั้น ดูแล้วก็น่าจะเป็พวกเขา"รองหัวหน้ากิลด์พยักหน้าเห็นด้วยในข้อสรุปดังกล่าว
"เฮอะ... ฉินหวังกรุ๊ป"หลวีเซ่อจีกวงบ่นพึมพำขึ้น สีหน้าท่าทางโกรธแค้นเป็อย่างมากไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
"ตอนนี้เรารู้แล้วว่าศัตรูของเราคือใครทีนี้เราจะทำอย่างไรกันต่อ ?" รองหัวหน้ากิลด์อีกคนได้เอ่ยถามขึ้น
"แน่นอนว่าพวกเราต้องตอบโต้กลับเราจะจ้างนักฆ่ากลับไปสังหารคนของฉินหวังกรุ๊ป"รองหัวหน้ากิลด์ที่ยืนอยู่ด้านหน้าเอ่ยขึ้น
"ไม่มีประโยชน์" ฟางเซียวเสี้ยวเอ่ยคัดค้าน"คนส่วนใหญ่ของฉินหวังกรุ๊ปนั้นทำธุรกิจซึ่งระดับเลเวลไม่ส่งผลอะไรกับพวกเขาเลย ต่อให้คุณสังหารเขาจนระดับลดลงจนเหลือ 0แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร? อีกอย่างหนึ่งเราเองก็ไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้นด้วย"
รองหัวหน้ากิลด์ก็พูดอะไรไม่ออก
"แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องหาทางไม่อย่างนั้นแล้วคนของเราก็ต้องตายเปล่า"รองหัวหน้ากิลด์พูดขึ้นด้วยความวิตกกังวล
หลวีเซ่อจีกวงก็ได้แต่ขมวดคิ้วแต่ยังคงไม่เอ่ยอะไรออกมาสักคำ
"หรือเราจะคุกคามฉินหวังกรุ๊ปโดยตรง พวกเขากำลังเตรียมทำาป้องกันเมืองอยู่ไม่ใช่หรือ?ถ้าพวกเขาไม่ยอมหยุดสังหารคนของเราเราก็จะสร้างความเสียหายให้กับพวกเขา และทำให้เขาทำภารกิจล้มเหลว ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะกล้าประกาศากับกิลด์ต้นไม้ทงเทียนหรอก"รองหัวหน้ากิลด์คนหนึ่งเสนอความคิดเห็น
ฟางเซียวเสี้ยวได้แต่ถอนใจก่อนจะมองดูชายคนดังกล่าวด้วยสายตาราวกับดูคนโง่เง่า ก่อนจะพูดขึ้นว่า"ถ้าฉินหวังกรุ๊ปไม่ออกมายอมรับ และตราบใดที่สหพันธ์นักฆ่าเองไม่เป็คนบอกใครจะพิสูจน์ได้บ้างว่า ถูกฆ่าโดยเขาเป็คนจ้างวาน แต่ถึงอย่างนั้นคิดว่าสหพันธ์นักฆ่าจะออกมาเป็พยานให้อย่างนั้นหรือ? ไม่มีทาง...แล้วคุณคิดว่าจะคุกคามเขาอย่างไร? นั่นมันน่าจะไม่ใช่การคุกคามหรอกน่าจะเป็เพียงแค่การกลั่นแกล้งกันเสียมากกว่า ถ้าเกิดเวลานั้นมาถึงจริงๆคุณคิดว่าพวกเขาจะไม่ต่อต้านเลยหรือ? นอกจากนี้คุณคิดว่าฉินหวังกรุ๊ปจะกลัวพวกเราหรืออย่างไร?ทันทีที่าเริ่มต้นขึ้น คนทั่วไปไม่ต้องทำธุรกิจได้หลายเดือน แต่สำหรับเราที่กำลังพัฒนาไม่สามารถหยุดได้นานขนาดนั้นไม่จำเป็ต้องหลายเดือนหรอก เพียงแค่เดือนเดียวที่ไม่มีการพัฒนาขึ้นกิลด์ต้นไม้ทงเทียนก็คงหล่นลงไปอยู่ในระดับกองกำลังระดับสามแล้ว เผลอๆ ยังจะแย่กว่ากองกำลังระดับสามเสียด้วยซ้ำถ้าถึงตอนนั้น คิดว่ากิลด์ต้นไม้ทงเทียนของเราจะยังคงรักษาคนไว้ได้อีกหรือ?แล้วเราจะพัฒนาต่อไปข้างหน้าได้อย่างไรถ้าเรายังไม่สามารถตั้งตัวขึ้นจากในเกมได้เลย"
"นั่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ได้นายก็อย่าเอาแต่เงียบ จะให้ทำอย่างไรก็ว่ามา?" ชายคนดังกล่าวสีหน้าแดงก่ำะโใส่ด้วยเสียงอันดัง ฟางเซียวเสี้ยวเองก็ได้แต่นิ่งเงียบไม่ได้เอ่ยอันใดออกมาเลย
"ที่จริงเื่นี้ก็เป็เพราะฉิวเฉ่ากัง อย่างไรก็ต้องลองถามฉิวเฉ่ากังดูก่อน"รองหัวหน้ากิลด์ผู้ที่ยืนอยู่มุมด้านหนึ่งเอ่ยแนะนำขึ้น
"ไม่ต้อง!" หลวีเซ่อจีกวงตอบปฏิเสธทันที ก่อนที่น้ำเสียงจะเริ่มอ่อนลงและพูดขึ้นว่า "เื่นี้ขอให้ผมคิดดูอีกที ภายในสองวันนี้ ผมคงต้องแจ้งให้พี่น้องทุกท่านหลีกเลี่ยงการออกปฏิบัติงานเพียงลำพังถ้ามีอะไรก็ให้เรียกพรรคพวกไปด้วยเป็จำนวนมากในเวลาเดียวกันให้ส่งทีมราตรีออกไปด้วยเพื่อไม่ให้คนอื่นคิดว่ากิลด์ต้นไม้ทงเทียนของเราเป็ลูกพลับนิ่มเลิกประชุมได้"
"ครับท่านหัวหน้า" รองหัวหน้ากิลด์ทั้งหลายไม่กล้าคัดค้านแต่อย่างใดก่อนจะเดินออกไปพร้อมกัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้