เมื่อเย่เฟิงปรากฏตัวตรงทางเข้า นอกจากความประหลาดใจแล้วคนทั้งสองฝ่ายที่กำลังเผชิญหน้ากันก็ตกตะลึง
“เย่เฟิง! ซือฉิง!”
เมื่อเซียวฉี่เห็นพวกเขาก็พลันดูสดใสและโบกมือเล็กๆ ของเธอเรียกเพื่อนทันที
หญิงสาวสวมกระโปรงสีแดงกับสัดส่วนที่ชวนให้หลงใหล เมื่อเห็นพวกเขาเดินเคียงข้างกันมาก็ไม่รู้เพราะอะไรแต่ในใจพลันเต็มไปด้วยความรู้สึกปลอดภัย เย่เฟิงไม่ใช่คนธรรมดา อีกทั้งหลินซือฉิงยังมาด้วย ถ้าพวกเขารักษาหลินซิวเหวินไม่ได้ แต่คงมีวิธีขับไล่หลินเหรินเทียนสินะ?
เมื่อเซียวเต๋อเฉิงเห็นเย่เฟิงเข้ามาในคฤหาสน์ สายตาหนักแน่นก็เปลี่ยนเป็สงสัยใคร่รู้
เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับเย่เฟิงมาก่อนหน้านี้ แต่ไม่เคยได้พบ ไม่นานมานี้ภายในแวดวงผู้มีอิทธิพลต่างเล่าลือเื่เย่เฟิง แม้ข่าวลือค่อนข้างเกินจริง แต่เซียวเต๋อเฉิงก็คิดว่าชายหนุ่มเป็คนมีพร์ซึ่งหาตัวจับยาก แต่เมื่อได้ยินเขาพูดว่าจะรักษาหลินซิวเหวิน นี่ไม่ใช่ว่าพูดอย่างไร้สมองเกินไปหน่อยหรือ? หากสามารถรักษาหลินซิวเหวินได้ง่ายปานนั้น หลินเหรินเทียนคงไม่มาถึงตระกูลเซียวของพวกเขาเพื่อบีบบังคับให้เซียวฉี่แต่งงานด้วยแล้ว
เซียวเต๋อเฉิงมองข้างกายเย่เฟิง หลังจากเห็นร่างผอมเพรียวและรอยยิ้มบนใบหน้าของหลินซือฉิง ใบหน้าของชายวัยกลางคนก็ปรากฏความสงสัยขึ้นมาอีก
เขาบอกได้เลยว่าเย่เฟิงพูดจาเพ้อเจ้อ มันต้องเป็เช่นนั้นแน่ แต่หลินซือฉิงที่อยู่ข้างย่อมรู้เหตุรู้ผล หรือพวกเขาจะทำได้อย่างที่พูด?
“ไอ้สารเลว!”
หลินเหรินเทียนพลันหันมาชี้หน้าเย่เฟิงพลางะโด่าด้วยความโกรธ
ลูกชายเขาหลินซิวเหวินกลายเป็ปัญญาอ่อนไม่ใช่เพราะเย่เฟิงเป็ต้นเหตุหรอกเหรอ? ตอนนี้ทุกคนต่างรู้แล้วว่าเย่เฟิงคือชายสวมหน้ากาก! ไม่ว่าแท้จริงหลินซิวเหวินจะกลายเป็ปัญญาอ่อนได้อย่างไร เย่เฟิงคงต้องเกี่ยวข้องด้วยแน่!
ภายใต้ความคิดนี้ หลินเหรินเทียนคิดว่าเย่เฟิงมาที่นี่เพื่อข่มขู่เื่การรักษาหลินซิวเหวิน มันเห็นได้อย่างโจ่งแจ้ง คงอยากจะตบหน้าเขาต่อหน้าผู้คน ทำให้เขาอับอาย ใครจะ้าให้ลูกชายตัวเองปัญญาอ่อนบ้าง?
หลินเหรินเทียนโมโหจนหน้าแดง เย่เฟิงคนนี้ไร้ระเบียบเกินไป เอาแต่พึ่งพาปู่กระทำการไร้ยางอาย
“ระวังคำพูดของคุณด้วย” เย่เฟิงเหลือบมองฝ่ายตรงข้ามอย่างเ็า “จะสู้กันไหมล่ะ?”
เพียงสายตานี้มองมาโดยตรงก็กดดันจนหลินเหรินเทียนถึงกับผงะถอยหลัง
สู้?
ไม่ต้องกล่าวถึงหลินเหรินเทียนคนเดียว ต่อให้เป็สิบหลินเหรินเทียนก็ไม่กล้าสู้กับเย่เฟิง! เนื่องจากเขามีอำนาจของตระกูลหลินแห่งเยี่ยนจิง จึงได้รู้ข้อมูลลับบางอย่างเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเย่เฟิงว่ามันน่ากลัวแค่ไหน ในเมื่อเป็เช่นนี้ ใครจะกล้าสู้กับเย่เฟิงกัน นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ
แน่นอนว่าหลินเหรินเทียนไม่ได้หวาดกลัวเย่เฟิง เนื่องจากสถานะของเขา แม้อีกฝ่ายจะเป็หลานชายของเย่เวิ่นเทียนแล้วอย่างไร? ถ้าเขากล้าทำอะไรหลินเหรินเทียน นั่นก็หมายความว่าเขาตบหน้าตาเฒ่าหลินด้วย!
ในความคิดหลินเหรินเทียน ตราบเท่าที่เย่เฟิงยังจำเป็ต้องพึ่งพาการสนับสนุนของหลินจื้อชิงอยู่ เขาจะต้องไม่กล้าทำอะไรตนแน่นอน
แท้จริงเขากลับไม่รู้เลยว่า การกระทำของเย่เฟิงไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเย่เวิ่นเทียน ไม่ว่าเขา้าจะทำอะไรก็ทำได้ นอกจากนี้เขาไม่จำเป็ต้องพึ่งพาหลินซือฉิงเพื่อก้าวหน้าเลยสักนิด พูดให้ถูกก็คือ ต่อให้มีอำนาจและอิทธิพลมากมายแค่ไหน แต่สำหรับเย่เฟิงมันก็แค่เมฆที่ลอยอยู่บนอากาศ เขาไม่คิดแยแสสิ่งเหล่านี้
“ลุงสาม ในความคิดหนู ลุงสงบอารมณ์สักหน่อยจะดีกว่า”
หลินซือฉิงที่อยู่ด้านข้างส่งยิ้มให้ขณะมองหลินเหรินเทียน
เธอชั่งน้ำหนักระหว่างหลินเหรินเทียนและเย่เฟิงได้อย่างชัดเจน ด้วยความแข็งแกร่งของเย่เฟิง คนขององค์กรไวเปอร์และเพ่ยเค่อกรุ๊ปยังกลายเป็ลูกน้องของเขาในเวลาไม่กี่นาที แล้วเย่เฟิงจะยังหวาดกลัวหลินเหรินเทียนขี้ประติ๋วนี้อยู่อีกเหรอ?
หลินเหรินเทียนพาหลินซิวเหวินที่ปัญญาอ่อนมาบังคับให้คนตระกูลเซียวแต่งงานด้วย หลินซือฉิงโกรธมาก ถ้าให้เธอเป็คนจัดการ ก็ยังไม่สามารถทำอะไรหลินเหรินเทียนได้โดยพลการ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็เย่เฟิงล่ะก็ เื่นี้ต้องไม่แม้แต่จะมีความยากลำบาก
“เธอยังเป็คนตระกูลหลินอยู่อีกเหรอ?”
เมื่อหันไปเผชิญหน้ากับหลินซือฉิง หลินเหรินเทียนซึ่งเพลิงแห่งความโกรธลุกโชนก็ถามอย่างเ้าสำบัดสำนวน
“ใช่สิ ตามความคิดหนู คนตระกูลหลินไม่ชอบวิธีการสกปรก” หลินซือฉิงกล่าวตอบเสียงเรียบ ท่าทางสุขุม “ถ้าปู่รู้เื่นี้ ลุงคิดว่าปู่จะยังสนับสนุนความคิดของลุงอยู่อีกเหรอ?”
“เฮอะ ตอนนี้ซิวเหวินกลายเป็แบบนี้ มันจะต้องมีคนรับผิดชอบ ไม่เช่นนั้นเธอคิดหรือว่าฉันจะ้าผู้หญิงจากตระกูลเซียว?”
ขณะหลินเหรินเทียนพูดก็เหลือบมองเย่เฟิง ทุกคนต่างรู้ความหมายของท่าทางนั้น ‘ถ้ามีทางรักษาให้หลินซิวเหวินหายดีและตราบเท่าที่หลินซิวเหวินหายดี เขาจะไม่บีบบังคับให้เซียวฉี่ต้องรับผิดชอบ’
อย่างไรก็ตามคำพูดนี้สำหรับเย่เฟิงมันช่างไร้สาระสิ้นดี เขาไม่สนใจหลินเหรินเทียนหรือคนตระกูลเซียว วันนี้เขาจะต้องสั่งสอนหลินเหรินเทียน
สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความสงสัยหรือเชื่อมั่น และยังมีสายตาเยาะเย้ย เย่เฟิงตรงไปจัดการในทันที ไม่นานก็มาถึงประตูรถตู้หรูหรา จากนั้นเปิดประตูเข้าไปในรถ แล้วให้คนรับใช้ของหลินซิวเหวินออกไป ความจริงแล้วคนคนนี้ดูเด็กและสวยมาก คิดว่าน่าจะเป็หญิงสาวอายุประมาณยี่สิบปี คล้ายจะยังเรียนมหาวิทยาลัย
นี่คือการคัดเลือกของหลินเหรินเทียน เลือกคนรับใช้สาวสวยขนาดนี้มาดูแลลูกชายตัวเองจะต้องมีค่าใช้จ่ายไม่น้อยแน่นอน!
หลังจากเย่เฟิงให้คนรับใช้ออกไป เธอก็โมโหเล็กน้อย หญิงสาวไม่รู้เลยว่าจะมีคนกล้าบุกเข้ามาในรถและจะทำร้ายหลินซิวเหวินบ้างหรือไม่ งานนี้เป็ชามข้าวทองคำของเธอเลย ดูแลคนหนึ่งวันได้ตั้งหนึ่งพันหยวน! แค่ดูแลคนปัญญาอ่อน งานที่ดีเช่นนี้ จะไปหาได้จากที่ไหนกัน?
แน่นอน หญิงสาวก็รู้เช่นกันว่าคำพูดของคนต้อยต่ำอย่างเธอไม่มีน้ำหนักอะไร หลังจากออกมาข้างนอกก็พบหลินเหรินเทียนและคนอื่นมาที่นี่และไม่ได้สั่งให้ขัดขวางชายหนุ่มเสื้อดำ จึงอดสงสัยไม่ได้ว่าชายหนุ่มคนนั้นกำลังจะทำอะไร
หลินเหรินเทียนนำคนตระกูลหลินเดินมาแต่ไกล ท่าทางมืดมนอย่างยิ่ง เขาไม่กลัวว่าเย่เฟิงจะทำร้ายหลินซิวเหวิน ในเมื่ออยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย ถ้าหลินซิวเหวินเกิดเื่ร้ายแรง เย่เฟิงก็ไม่สามารถหนีความผิดได้ เมื่อเวลานั้นมาถึง หลินเหรินเทียนไม่มีทางให้เย่เฟิงปัดความรับผิดชอบ ในทางกลับกัน เขาคาดหวังให้เย่เฟิงสามารถรักษาหลินซิวเหวินได้
ภายในแวดวงผู้มีอิทธิพลในเมืองเยี่ยนจิงตอนนี้รู้จักเย่เฟิงอยู่สองขอบเขต ขอบเขตแรกเพียงรู้จักอย่างตื้นเขิน รู้แค่ว่าความเก่งกาจของเย่เฟิงเกี่ยวข้องกับตระกูลหลิน ขอบเขตที่สองคือรู้ลึกซึ้ง รู้เื่ราวที่แถบทะเลตะวันออกของเย่เฟิง
หลินเหรินเทียนเป็ขอบเขตหลัง สามารถรู้เื่ราวที่แถบทะเลตะวันออก ซึ่งเป็สถานะที่สูงมากในประเทศจีน เื่นี้เป็ความลับระดับประเทศ
ถ้าเย่เฟิงมีความสามารถจริงและรักษาหลินซิวเหวินได้ เขาจะได้ผลประโยชน์อะไรกัน?หลินเหรินเทียนขบคิดจากนั้นเงยหน้ามองรถตู้หรูหราที่อยู่ห่างไปไม่ไกล
เซียวฉี่และเซียวเยว่ เซียวเต๋อเฉิงและเซียวเต๋อเจิ้ง รวมทั้งคนตระกูลเซียวอื่นๆ ต่างจ้องประตูรถตู้ด้วยความสงสัยเต็มเปี่ยม
หลินซิวเหวินกลายเป็ปัญญาอ่อนเช่นนี้ เย่เฟิงมีความสามารถที่จะรักษาเขาได้จริงหรือ?
เพียงครึ่งนาที ประตูรถหรูหราพลันเปิดออก
เงาคนสองร่างก้าวออกมาจากรถตู้ พวกเขาคือเย่เฟิงและหลินซิวเหวิน เมื่อเห็นหลินซิวเหวินเดินตามหลังเย่เฟิง คนทั้งหมดที่เฝ้าดูอยู่ต่างชะงักไปชั่วครู่
อะไรกัน? มันรักษาได้จริงๆ เหรอ?
หลินเหรินเทียนท่าทางมีความสุข!
เย่เฟิงคนนี้แท้จริงแล้วเก่งกาจถึงขั้นมีพระหัตถ์คืนชีพ!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้