ม่อหลิงหานออกแรงดึงชุดตนกลับมาด้วยความรำคาญใจ กล่าวด้วยน้ำเสียงเ็าว่า “เปิ่นหวาง [1] จะทำสิ่งใด ยังไม่ถึงทีให้เ้ามาชี้นิ้วสั่ง”
ฉินหว่านถูกคำพูดของม่อหลิงหานทำเอาสะอึกไปในทันที
ยามนี้นางไม่กล้ากล่าวอะไรอีก เพียงแต่ใช้สายตาที่ดุร้ายยิ่งกว่าเดิมมองเยว่เฟิงเกอ
เยว่เฟิงเกอไม่สนใจฉินหว่าน แต่กลับมองม่อหลิงหานอย่างไม่ละสายตาไปที่ไหน “ท่านอ๋อง ยังไม่ต้องพูดเื่เมื่อครู่ที่หม่อมฉันตกสระน้ำไปเป็เพราะชายารองฉินประทานให้ เอาแค่เื่ที่ไข่มุกราตรีเก้าคำรบ [2] ที่หม่อมฉันนำมาจากแคว้นเสวี่ยอวี้หายไป เื่นี้หม่อมฉันสืบทราบแล้วว่าเป็เฉี่ยวอวี้ที่ขโมยไป ขอบังอาจถาม เื่นี้ท่านจะจัดการอย่างไร? ”
ดูสิ การละครที่พวกเ้าสองคนแสดงต่อหน้าข้า คนหนึ่งขับร้องคนหนึ่งขานรับ คิดว่าตนเป็นักแสดงพูดตลก [3] หรืออย่างไร
ม่อหลิงหานรู้ว่าเยว่เฟิงเกอกำลังสร้างเื่โกหก ตอนนั้นที่นางแต่งออกมาไกลจากบ้านเดิม ในขบวนสินเดิมของนางไม่มีไข่มุกราตรีเก้าคำรบอะไรนั่น
ตอนนี้ที่นางกล่าวถึงเื่นี้ขึ้นมาคงเพราะไม่้าให้เขาเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยอีก
เดิมทีม่อหลิงหานก็ไม่อยากสนใจการทะเลาะเบาะแว้งของสตรีสองนางนี้อยู่แล้ว เช่นนั้นก็ให้พวกนางจัดการกันเองแล้วกัน
ขอแค่ไม่ทำให้เป็เื่ใหญ่ ม่อหลิงหานก็คร้านจะสนใจ
“เื่นี้พวกเ้าจัดการกันเอาเอง” ทันทีที่พูดจบ ม่อหลิงหานก็สะบัดชายเสื้อหมุนกายจากไป
อาภรณ์ชุดนี้ต้องทิ้งเสียแล้ว อาภรณ์ที่เคยถูกสตรีจับต้องจะสวมใส่ไม่ได้อีก
ฉินหว่านเห็นว่าม่อหลิงหานจากไป บนใบหน้าพลันปรากฏรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้นในทันที
ขอแค่ม่อหลิงหานไม่สนใจเื่นี้ นางก็ย่อมมีวิธีจัดการเยว่เฟิงเกอ
เพียงแต่เยว่เฟิงเกอไม่รอให้ฉินหว่านได้กล่าววาจาใด ก็กล่าวกับชิงจื่อที่อยู่ข้างกายทันทีว่า “ชิงจื่อ สาวใช้ชั้นต่ำนี่บังอาจขโมยไข่มุกราตรีเก้าคำรบของเปิ่นกง [4] เหตุใดยังไม่รีบไปสั่งสอนนางแทนเปิ่นกงอีก”
ชิงจื่อมองเยว่เฟิงเกออย่างอึ้งๆ ไปทีหนึ่งพลางคิดในใจว่าพระชายาของนางมีไข่มุกราตรีเก้าคำรบที่ใดกัน?
ถึงแม้ในใจจะคิดเช่นนี้ แต่ก็ไม่ได้ชักช้ารำไรแต่อย่างใด
นางกระชากตัวเฉี่ยวอวี้ขึ้นมาแล้วตวัดมือลงไปบนใบหน้าของเฉี่ยวอวี้อย่างรุนแรงทันที
เดิมทีเฉี่ยวอวี้ก็าเ็ที่ดวงตาอยู่แล้ว คนเจ็บจนแทบจะทนไม่ไหว ซ้ำร้ายตอนนี้ยังมาถูกชิงจื่อตบหน้าเข้าให้อีก
มือที่ตวัดมานี้กระทบเข้ากับดวงตาของนางด้วย แผลใหม่กดซ้ำแผลเก่า ทำให้เฉี่ยวอวี้อดส่งเสียงร้องด้วยความเ็ปออกมาไม่ได้
เฉี่ยวอวี้กอบกุมใบหน้าที่ถูกตบของตน ก่อนจะใช้สายตาดุร้ายมองชิงจื่อ
“เ้ากล้าตบข้าหรือ? ข้าจะกระชากหนังหน้าเ้า” นางอดทนต่อความเจ็บแปลบบนใบหน้า ทั้งยังคิดจะลงมือทันทีหลังกล่าวจบ เพียงแต่มือของนางที่เพิ่งจะเงื้อขึ้น แก้มซีกขวาก็รู้สึกแสบร้อนขึ้นมาทันควัน
ครั้งนี้นับว่าเป็การตบหน้าที่รุนแรงยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ทำเอาเฉี่ยวอวี้ยืนไม่มั่นคงอีกต่อไป คนทั้งคนซวนเซไปสามครั้งจนเกือบจะล้มลงไปกองกับพื้น
เฉี่ยวอวี้ถูกตบจนดวงตาเห็นดาวเดือน ทว่า ยามที่นางได้เห็นว่าผู้ใดเป็เ้าของฝ่ามือตบชัดๆ กลับทำให้เป็ต้องใยิ่งกว่า
เยว่เฟิงเกอถึงกับมาปรากฏตัวต่อหน้านางอย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้ อีกทั้งเมื่อครู่ก็เป็เยว่เฟิงเกอที่ตบนางด้วย
“ชิงจื่อ จัดการต่อไป ตบนางจนกว่าเปิ่นกงจะพอใจ”
เยว่เฟิงเกอไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าที่แห่งนี้ยังมีคนอื่นอยู่อีก นางสั่งการชิงจื่อด้วยเสียงเ็าต่อทันที
เมื่อได้รับคำสั่งจากเยว่เฟิงเกอ ชิงจื่อก็ลงมืออย่างแข็งขันทันที สำหรับนางแล้ว บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ ด้วยเหตุนี้ นางจึงไม่รอช้ารีบพุ่งเข้าไปทักทายใบหน้าของเฉี่ยวอวี้ด้วยฝ่ามืองามของนางทันที
ชั่วขณะนั้นเสียงตบหน้าดัง ‘เพี๊ยะ เพี๊ยะ’ ก็ก้องกังวานในอากาศ จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงร้องครวญอย่างทรมานของเฉี่ยวอวี้
เมื่อฉินหว่านเห็นว่าสาวใช้ข้างกายตนถูกตบ ก็อดโกรธเกรี้ยวยิ่งกว่าเดิมไม่ได้
“เยว่เฟิงเกอ อย่าให้มันมากเกินไปนะ”
เยว่เฟิงเกอหันศีรษะไป สายตาจับจ้องที่ฉินหว่าน นางกล่าวเสียงเข้ม “ฉินหว่าน เ้าช่างบังอาจยิ่งนัก เป็แค่ชายารอง แต่กลับกล้าเอ่ยนามของเปิ่นกงตรงๆ ดูท่าตำแหน่งชายารองนี้ เ้าคงจะไม่้าแล้ว จึงวางแผนคิดทำร้ายเปิ่นกงจนถึงตาย จากนั้นก็ตั้งใจขึ้นมาแทนที่ตำแหน่งพระชายาเอกของเปิ่นกงสินะ”
เชิงอรรถ
[1] เปิ่นหวาง(本王)ตัวข้าผู้เป็อ๋อง
[2] ไข่มุกราตรีเก้าคำรบ(九转夜明珠)หมายถึง ไข่มุกเรืองแสงที่ถูกหล่อเลี้ยงและทำพิธีถึงเก้าครั้ง
[3] พูดตลก(相声)ศิลปะพื้นบ้านอย่างหนึ่งของจีน เน้นการสนทนาตลกขบขันโต้ตอบกัน
[4] เปิ่นกง(本宫)คำเรียกแทนตัวเองของสตรีสูงศักดิ์ในวัง เนื่องจากเยว่เฟิงเกอเคยเป็องค์หญิงมาก่อนจึงเรียกแทนตัวเองเช่นนี้