ชายคนที่พูดชื่อว่าเยี่ยหรง ตอนนี้เขามีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หก
เยี่ยหรงรู้ดีว่ากำลังของเขาอาจจะสู้ิอวี่ไม่ได้ ก็เลยเตรียมที่จะร่วมมือกับอีกแปดคน คิดจะเล่นงานิอวี่ก่อน แล้วค่อยอาศัยความสามารถของตัวเองไปแย่งชิงกันอีกที
ทุกคนต่างพยักหน้า ไม่มีใครคัดค้านข้อเสนอของเขาเลย
ความสามารถของเยี่ยหรงไม่ได้ดีมาก แต่ว่าเขาเป็คนของตระกูลเยี่ย แค่เยี่ยซีคนเดียว ที่ได้ส่วนแบ่งมาจากองค์ชายเก้า ก็ไม่รู้ว่าเหนือกว่าิอวี่เท่าไรแล้ว พวกเขาไม่เห็นิอวี่อยู่ในสายตาอยู่แล้ว
ิอวี่ยืนรออยู่เงียบๆ เขายิ้มมุมปากเพราะเขาได้เปิดััแห่งิญญารอเอาไว้แล้ว จึงได้ยินที่พวกเยี่ยหรงคุยกันชัดทุกคำ
ถึงแม้ิอวี่จะไม่ได้แสดงออกอะไรเลยก็ตาม แต่ว่าในใจของเขากลับเริ่มนิ่งเป็สายน้ำ
ในเวลานี้ที่ด้านนอกลานประลอง มู่หลางยื่นมือขวาออกมาแล้วสะบัดชายเสื้อ แสงสว่างเจิดจ้าปรากฏออกมาจากแหวนเก็บของ ลูกบอลขนาดเท่าหัวคนปลิวลอยออกมาแล้วพุ่งไปที่ลานประลองทั้งแปดแห่ง
ลูกบอลเหล็กตกลงแทบจะตรงกลางลานทุกแห่ง จากนั้นก็เกิดเสียงออกมาเล็กน้อย
ฟังจากเสียงน้ำหนักที่ตกลงไป ก็รู้ในทันทีว่าลูกบอลนั้นมีน้ำหนักไม่น้อยเลย
ในความเป็จริงแล้ว บอลแต่ละลูกนั้นทำมาจากเหล็กดำ ถึงแม้จะมีขนาดเท่าหัวคนแต่น้ำหนักของมันสูงถึงพันกรัม!
“สมาชิกของทั้งแปดกลุ่มยืนล้อมลานประลองได้ เมื่อข้าออกคำสั่งเมื่อไหร่การแข่งขันในรอบที่สองก็จะถือว่าเริ่มต้นขึ้น”
ไม่นานนัก ทุกคนก็เดินมาบนลานประลอง แต่ละกลุ่มมีทั้งหมดสิบคนยืนล้อมลานประลองเอาไว้ จากนั้นเสียงของมู่หลางก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“เริ่ม!”
“ฟึ่บ!”
แทบจะในทันทีที่สิ้นเสียง กลุ่มคนก็พุ่งขึ้นไปบนลานประลองเข้าไปชิงเอาบอลเหล็กอย่างบ้าคลั่ง ลมปราณแผ่กระจายออกไปจนทั่ว
แต่ว่าบนลานประลองของเยี่ยซี บรรยากาศมันกลับดูแปลกๆ เพราะไม่มีใครเลือกที่จะขึ้นไปชิงบอลเหล็กเลย ทุกคนยืนอยู่ที่เดิมกันหมด
เยี่ยซีกวาดสายตาแล้วมองไปที่คนข้างๆ แต่ละคนแล้วพูดว่า “ข้าจะให้โอกาสพวกเ้า หากพวกเ้ามีความมั่นใจก็ลองไปชิงลูกบอลเหล็กนั่นดู”
แต่คนรอบข้างนางกลับส่ายหัวกันทุกคน พวกเขาเหมือนเป็กลุ่มที่ถูกทิ้ง องค์ชายองค์หญิงเก้าคนที่เหลือถึงแม้จะมีชื่อเสียงอยู่บ้างในเมืองหลวง แต่เมื่อเทียบกับตระกูลเยี่ยแล้วยังห่างชั้นมาก แล้วใครจะไปกล้าล่วงเกินเยี่ยซีกันล่ะ?
อีกทั้ง เยี่ยซีเองก็มีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดระดับประสานเป็หนึ่งแล้ว ต่อให้พวกเขาชิงบอลมาได้ สุดท้ายก็ไม่มีทางชิงไปจากเยี่ยซีได้
พูดได้เลยว่า กลุ่มนี้ถูกแบ่งออกมาเพื่อให้เยี่ยซีชนะ ผลการแข่งขันถูกกำหนดเอาไว้แล้ว
เพราะเห็นอีกเก้าคนไม่มีใครเดินขึ้นหน้าเลย เยี่ยซีก็พูดอย่างเรียบเฉยว่า “ในเมื่อพวกเ้าไม่คว้าโอกาสนี้เอาไว้ ข้าก็ไม่เกรงใจล่ะนะ”
ระหว่างที่พูดก็ยื่นข้อมือออกไป จากนั้นก็ใช้พลังดูดเอาลูกบอลเหล็กมาไว้ในมือ
พูดได้ว่า ในรอบที่สองเยี่ยซีเองก็ชนะแบบไม่เปลืองแรงเลย ไม่เหมือนกับลานประลองอื่นที่ทุกคนสู้กันอย่างดุเดือด
ในขณะเดียวกัน บนลานประลองฝั่งของิอวี่ก็ไม่ได้เริ่มั้แ่นาทีแรกเหมือนกัน สายตาของคนที่เหลือก็จับจ้องมาที่ตัวของิอวี่!
“ิอวี่ เ้าเป็องค์ชาย ลูกบอลเหล็กนี่เ้าหยิบก่อนได้เลย” เยี่ยหรงยิ้มแล้วพูด
คนที่เหลือเองก็ไม่มีใครคิดจะเข้าไปชิงลูกบอลเลย เหมือนอยากจะยกลูกบอลให้กับิอวี่ เช่นเดียวกับทางฝั่งของเยี่ยซี
“ตระกูลเยี่ยของพวกเ้ารู้จักคิดนะ หยิบลูกบอลเหล็กนั่นมาให้ทีสิ” ิอวี่ยิ้ม แล้วออกคำสั่งให้เยี่ยหรงนำเอาลูกบอลเหล็กนั่นมาให้เขา
“หือ?” เยี่ยหรงยิ้มเหมือนกัน ในใจกลับคิดว่า ‘เ้าคิดว่าเ้าเป็ใคร ตอนนี้เ้าโอหังไปก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวข้าจะทำให้เ้าตายเอง!’
พอคิดได้แบบนี้เยี่ยหรงก็เดินขึ้นหน้าไป จากนั้นก็ใช้แรงอย่างมากยกลูกบอลเหล็กน้ำหนักหนึ่งพันกรัมโยนใส่มือของิอวี่
แต่พอิอวี่รับลูกบอลเหล็กไปแล้ว อีกแปดคนที่เหลือก็พุ่งโจมตีใส่เขาจากทุกมุมในทันที
พวกเขายอมให้ิอวี่ได้บอลเหล็กไป ก็เพื่อให้ิอวี่มีแรงกดดันมากขึ้น บวกกับเจอการโจมตีของคนเก้าคนิอวี่ก็แทบจะหนีไปไหนไม่ได้เลย!
“คิดว่ามันเป็ของที่เ้าคู่ควรจะได้ไปงั้นหรือ? ซัดให้น่วมเลย!”
เยี่ยหรงสั่งการอีกแปดคนที่เหลือและพุ่งโจมตีใส่ิอวี่ด้วยเหมือนกัน อีกแปดคนที่เหลือแค่ใช้กำลังซัดหมัดแตะเท้าเข้าใส่ แต่เยี่ยหรงไม่ได้สนใจอะไรอย่างอื่น เขาซัดหมัดคู่ออกไปอีกทั้งยังใช้ทักษะวิชาหลิงระดับกลางที่น่าทึ่งอีกด้วย!
คนอื่นที่ไม่ใช่คนของตระกูลเยี่ย ยังมีความกังวลเื่ฐานะขององค์ชายของิอวี่อยู่บ้าง แต่ว่าเยี่ยหรงกลับไม่สนใจ เขาเป็คนของตระกูลเยี่ย อาศัยบารมีของเยี่ยซีแล้วเขาจะตีิอวี่จนพิการก็ไม่มีปัญหา
การโจมตีของเขาเหมือน้าให้ิอวี่พิการไปเลย!
เมื่อถูกล้อมโจมตี ิอวี่ไม่มีทางป้องกันทีละคนแน่ แต่วินาทีต่อมาเขาก็ย่อตัวลง “ปัง” ะโลอยตัวขึ้นพร้อมกับลูกเหล็กหนึ่งพันกรัมราวกับเป็ลูกะุ
“อะไรกัน?”
เยี่ยหรงคิดไม่ถึงเลยว่าิอวี่จะทำอะไรที่โง่ขนาดนี้ หากิอวี่ป้องกันเขาอาจจะแค่าเ็หนัก แต่พอเขาะโขึ้นไปกลางอากาศแบบนี้ อาศัยแรงดันจากอากาศ ตอนที่ลงมา แม้แต่การป้องกันก็ไม่อาจทำได้ จุดจบของเขามันจะอนาถมาก!
เยี่ยหรงคิดว่าิอวี่จะต้องไม่ป้องกันแน่ ดังนั้นเขาจึงปล่อยทักษะการต่อสู้ออกไปอย่างไม่ปราณี หลังจากที่ิอวี่ะโลอยตัวขึ้นไปกลางอากาศแล้ว หมัดที่เต็มไปด้วยลมปราณแผ่กระจายจนอีกแปดคนที่ไม่ได้ใช้กระจัดกระจายออกไป แต่เพราะเขาประมาทจึงทำให้ถูกหมัดของคนอื่นชกเข้าที่หน้าหลายที
“รนหาที่ตาย!”
เยี่ยหรงสีหน้าไม่ค่อยพอใจ เขาเป็ผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หก ถึงแม้จะมีกำลังไม่มากเท่าิอวี่ แต่ไม่ว่าจะเป็วิชายุทธ์หรือว่าทักษะก็ล้วนแต่ไม่ธรรมดา ในเวลานี้เขากำลังพุ่งโจมตีไปใต้ฝ่าเท้าของิอวี่และซัดหมัดของเขาขึ้นไป้า!
เดิมที ิอวี่อยู่กลางอากาศแทบจะไม่มีอะไรคอยช่วยได้เลย หมัดที่พุ่งมานี้เขาสมควรที่จะไม่มีทางรับมือ แต่ิอวี่กลับยิ้มแสยะแล้วแตะเท้ากลางอากาศเหยียบพลังเท้าแตะเมฆา อาศัยแรงที่เยี่ยหรงซัดมาพุ่งโจมตีกลับไปที่ตัวของเยี่ยหรงเอง
มือข้างหนึ่งของเขาจับหมัดของเยี่ยหรงเอาไว้ เยี่ยหรงมองมาที่ิอวี่ด้วยสายตาตื่นกลัว เขาใช้บอลเหล็กหนักพันกรมซัดลงมาบนใบหน้าของเยี่ยหรง
“ตึ่ง!” เสียงที่ทำให้คนใจสั่นดังขึ้น เยี่ยหรงปลิวกระเด็นไปไกล เขารู้สึกว่าโลกหมุน ตอนที่ตกลงมาที่พื้นใบหน้าที่ถูกซัดจนเละไปครึ่งหนึ่งก็เกิดความรู้สึกเ็ปขึ้นมา
ใบหน้าทางด้านซ้ายของเขาบวมแดงขึ้นมา เขาใช้ดวงตาที่คล้ายสีเืมองมาที่ิอวี่ มันดูเหมือนมีดวงตาโผล่ขึ้นบนซาลาเปาลูกหนึ่ง เขาจ้องิอวี่ตาไม่กะพริบเลย ...
“เยี่ยหรง!”
บนลานประลองฝั่งตรงข้าม เยี่ยเสวียนที่เพิ่งจะชนะบังเอิญเห็นิอวี่ใช้บอลเหล็กซัดเยี่ยหรงจนปลิวกระเด็น ก็เลยร้องขึ้นมาด้วยความใ
เยี่ยหรงเป็น้องชายแท้ๆ ของเยี่ยเสวียน เห็นเยี่ยหรงมีสภาพย่ำแย่มากเขาก็รู้สึกโกรธ!
“ิอวี่ เ้ามันรนหาที่ตาย!” เยี่ยเสวียนกัดฟันแล้วพูด
เยี่ยหรงพยายามลุกขึ้นมาจากพื้น ฟันของเขาร่วงเกือบหมดปากแต่ก็ยังพูดออกมาว่า “เ้าบ้า ... วันนี้ข้าจะฆ่าเ้า!”
“เ้าว่าอะไรนะ?”
ิอวี่ค่อยๆ เดินเข้าไปหาเยี่ยหรง
เยี่ยหรงมองไปที่ิอวี่ด้วยสายตาที่เ็า ความโกรธของเยี่ยหรงเมื่อครู่หายไปเกือบครึ่งหนึ่ง ที่เหลือมันเป็ความกลัว
“เ้า ... เ้ากล้าหรือ ข้าเป็คนของตระกูลเยี่ยนะ ...”
พูดยังไม่ทันจบ ิอวี่ก็ยกเท้าขึ้นแล้วถีบเยี่ยหรงกระเด็นออกไปร้อยเมตร เยี่ยหรงาเ็หนักจนสลบไปท่ามกลางผู้ชมกว่าสามหมื่นคน
ิอวี่หยิ่งแล้วก็เด็ดขาดมากไปแล้วกระมัง? กล้าถีบเยี่ยหรงจนกระเด็นไปไกลขนาดนั้น ใครจะหยุดเขาได้เนี่ย?
“ิอวี่! เ้าซวยแน่!”
เยี่ยเสวียนที่อยู่ลานประลองตรงข้ามเกร็งแขนขวาจนกล้ามเนื้อเป่งขึ้นมา เขาโยนลูกบอลเหล็กเข้าใส่ที่หน้าของิอวี่
“แกร๊ง!”
ิอวี่ยกมือขึ้นมา เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นจากการปะทะระหว่างมือกับลูกบอลเหล็ก เขาจับบอลเหล็กติดมือโดยที่ร่างกายของเขาไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อยด้วย
เขาค่อยๆ วางบอลเหล็กลง สีหน้าที่เ็าราวกับน้ำแข็งก็ปรากฏขึ้น!
เดิมที เยี่ยหรงก็ยุยงให้คนอื่นทำร้ายเขาและขู่จะฆ่าเขาอย่างเปิดเผย ตอนนี้เขามีสีหน้าท่าทางแบบนี้มันก็สมควรแล้ว แต่เยี่ยเสวียนกลับโกรธเหมือนกับว่าเขาต่างหากเป็คนทำร้ายเยี่ยหรง ทำให้เยี่ยหรงาเ็ เขาต่างหากที่เป็คนผิด!
“เ้าขยะ เ้ากล้าทำร้ายน้องชายข้าหรือ อย่าให้ข้าได้เจอเ้านะ ไม่อย่างนั้นข้าจะซัดหัวเ้าให้น่วมเลย!” เยี่ยเสวียนชี้หน้าด่าิอวี่
“หากเ้ายังอวดดีแบบนี้อีก จะต้องตายอย่างอนาถแน่”
คำพูดของิอวี่พุ่งเข้าหูของเยี่ยเสวียน ในตอนนี้ เขาเหมือนเป็เทพสังหารที่เืเย็น ทำให้เยี่ยเสวียนรู้สึกหวั่นใจไปเล็กน้อย!
นี่มันอะไรกัน?
เยี่ยเสวียนรู้สึกใจสั่น อะไรเป็สาเหตุที่ทำให้เขาเกิดความรู้สึกตื่นกลัวแบบนี้กันนะ? ไม่มีทาง มันต้องเป็แค่ภาพลวงตาแน่ๆ
เมื่อปรับอารมณ์ความรู้สึกแล้ว เยี่ยเสวียนก็มองไปที่ิอวี่อีกครั้ง คิดไม่ถึงเลยว่าเขากลับเดินลงจากลานประลองไปแล้ว เพราะเมื่อครู่เขาถือบอลเหล็กครบสิบลมหายใจ การแข่งขันในกลุ่มของเขานั้นถือว่าจบแล้ว
เพราะเยี่ยเสวียนกับิอวี่มีปัญหากัน ทำให้ผู้ชมต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ ในสายตาของทุกคนนั้น ิอวี่ชนะเหมือนกับอีกสองคน แต่เหมือนจะมีการเคลื่อนไหวที่แปลกมาก เขาสามารถพลิกแพลงได้กลางอากาศ ดังนั้นถึงสามารถเล่นงานเยี่ยหรงจนหมดท่าได้
อีกทั้ง เยี่ยหรงเล่นงานคนอีกแปดคนจนาเ็ จนพวกเขาไม่มีแรงที่จะสู้ต่อแล้ว พูดได้เลยว่าิอวี่แทบจะไม่ได้รับความท้าทายอะไรเลย
เพราะแม้แต่ทักษะการโจมตีเขาก็ไม่ได้ใช้ หรือวิชาอะไรก็ไม่ได้แสดงออกมาเลยด้วย
พวกเขารู้สึกว่าวิธีการที่ิอวี่ใช้เล่นงานเยี่ยหรงค่อนข้างอันธพาล มันไม่ใช่ความสามารถ แต่เป็ความวู่วามซึ่งเป็เื่ที่โง่สิ้นดี
ลูกถีบนี้ ไม่เพียงทำให้เยี่ยหรงาเ็สาหัส แต่ยังเป็การล่วงเกินตระกูลเยี่ยแบบเต็มๆ ไม่มีใครเห็นหรือว่าสีหน้าของเสนาบดีกรมอาญาเยี่ยหลิงอวินนั้นแย่แค่ไหน? ถึงแม้เยี่ยซีจะไม่ได้พูดอะไรเลย แต่สีหน้าของนางก็ดูไม่ค่อยจะดีเหมือนกัน!
ถึงจะไม่พูดว่าคนในตระกูลเยี่ยคนอื่นคิดอะไรอยู่ แค่เยี่ยเสวียนที่มีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ด ขอแค่ในรอบที่สามหากวนมาเจอกับิอวี่ เขาจะต้องแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งแน่!
ไม่นานนัก ผลแพ้ชนะของกลุ่มอื่นก็ทยอยตามมา ผู้ชนะทั้งแปดคน ได้แก่เยี่ยซี หลิวซงิ ซ่งซูเหลียน หลินเจ๋อเทียน เยี่ยเสวียน รวมถึงอีกสองคนและิอวี่ที่ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป
“ยินดีกับผู้แข็งแกร่งทั้งแปดคนที่ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปด้วย ตอนนี้พวกท่านจะมีเวลาได้พักประมาณสองก้านธูป หลังจากนั้นเราจะเข้าสู่การแข่งขันในรอบที่สาม ซึ่งเป็การประลองฝีมือเพื่อหาผู้ชนะในปีนี้!”
“ข้าว่าไม่ต้องพักหรอก” เยี่ยซีเอ่ยปากขึ้นมา
ั้แ่เมื่อครู่จนถึงตอนนี้นางแทบไม่ได้ออกแรงเลย หากให้รอต่อไปอีกนางรู้สึกว่ามันไม่ท้าทาย
คนอื่นเองก็พยักหน้า เพราะพวกเขามีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ดกันหมดแล้ว ร่างกายไปอยู่ในระดับที่น่ากลัวมากแล้ว อีกทั้งยังมีพลังจิตที่แข็งแกร่ง เื่แค่นี้ไม่มีปัญหา
ส่วนิอวี่ไม่มีทางมีปัญหาอะไรได้เลย เขาอาศัยโชคชนะมาก็ไม่ได้เสียแรงอะไรไปเท่าไร
“ถ้าอย่างนั้น เริ่มการประลองรอบสุดท้าย”
มู่หลางทำการหารือกับกรรมการอีกแปดคน จากนั้นก็ลงความเห็นว่า “ตอนนี้ พวกเ้าแปดคนตามข้ามาทางนี้ จับลูกบอลเหล็กที่เขียนเลขหนึ่งถึงแปดเอาไว้ที่อยู่ในกล่องไม้นี้ หนึ่งเจอกับสอง สามเจอกับสี่ ตามลำดับ จากนั้นก็เริ่มประลองได้เลย”
ทุกคนทยอยหยิบลูกบอลเหล็กออกมาจากกล่องไม้ เยี่ยเสวียนจับได้หมายเลขหก จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปยังบอลเหล็กในมือของิอวี่ ้าเขียนหมายเลข “แปด” ทำให้เขาชักสีหน้าลงทันที
เขาอดแก้แค้นให้น้องชายของเขา ในใจเขารู้สึกโกรธมาก
แต่ว่าเมื่อเขาเห็นว่าหลินเจ๋อเทียนจับได้หมายเลขเจ็ด ก็เกิดความคิดอื่นขึ้นมา เขามองไปที่หลินเจ๋อเทียน จากนั้นก็มองไปที่ิอวี่ด้วยสายตาที่เหี้ยมโหด จากนั้นก็ใช้มือปาดไปที่คอ
ต่อให้เขาไม่ได้เจอกับิอวี่ แต่ถ้าเจอกับหลินเจ๋อเทียน ิอวี่ก็จะต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างอนาถแน่นอน!