นักเวทชุดคลุมสีดำดวงตาเป็ประกายวูบหนึ่ง หลังเงียบไปสักพักก็ถอนหายใจออกมา “เ้าหนุ่ม ข้าต้องยอมรับว่าเ้าฉลาดจริงๆ อาศัยแค่เบาะแสเล็กๆ ก็สามารถคาดเดาความจริงบางอย่างได้ แต่ ฮิๆ มันก็ไม่มีประโยชน์ แม้ว่าราชอาณาจักรไอนด์โฮเวนจะไม่รู้ว่าองค์ชายไปอยู่ที่ไหน แต่ถ้าพวกเขาพบว่ามีบางอย่างผิดปรกติไป ไม่มีใครสามารถหนีพ้นพระเนตรพระกรรณองค์จักรพรรดิไปได้ ต่อให้มีม้าหายไปตัวหนึ่ง สายสืบขององค์จักรพรรดิก็สามารถออกไปตรวจสอบได้ ไม่ต้องพูดถึงองค์ชายและกองทัพทหารเกราะดำที่หายตัวไปอีกเล่า? เมื่อเวลานั้นมาถึง เมืองแซมบอร์ดและราชอาณาจักรเซนิทก็ยากที่จะหนีพ้น ทุกคนต้องตาย!”
“น้องเ้าสิตาย!” ซุนเฟยตบปากมันอีกสองที กระทืบนักเวทชุดคลุมสีดำที่ดูมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น ฟันกระเด็นหลุดจากปาก ซุนเฟยขมขู่ไปว่า “ไอ้แก่ พูดมาตามตรง พวกเ้ามาทำอะไรที่เมืองแซมบอร์ด?”
นักเวทชุดคลุมสีดำหัวเราะเ็า ในดวงตาประกายความอาฆาตและเงียบงัน
“โอ้ คิดจะแข็งข้อกับข้า?” ซุนเฟยเริ่มโมโห “ได้ ไอ้แก่ หวังว่าเ้ายังคงปากแข็งต่อไปได้นะ”
ซุนเฟยหัวเราะอย่างเ็าก่อนจะจับกระดูกของนักเวทที่ยังอยู่ในสภาพดีมาหักจนเกิดเสียงดังกร๊อบ นักเวทสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะสลบไป ซุนเฟยก็หยิบ ‘น้ำยารักษาชีวิต’ ออกมาเทสองสามหยด ไม่ช้า ชายชราก็ค่อยๆ ฟื้นคืนสติกลับมา เมื่อก้มหน้ามองกระดูกขาของตัวเองก็ต้อตกตะลึง “กระดูกของข้ายังอยู่ดี? นี่มัน...”
“ไอ้แก่ ดูนี่นะ...” ซุนเฟยแกว่ง ‘น้ำยารักษาชีวิต’ ที่เหลืออยู่ครึ่งขวดในมือ เหมือนมีเขาปีศาจแหลมๆ งอกออกมาตรงหัวพร้อมรอยยิ้มชั่วร้าย “ขวดนี้น่ะ สามารถชุบชีวิตหรือรักษาคนได้ แม้ว่าจะาเ็หนักขนาดไหน เพียงหยดน้ำยานี้ไม่กี่หยดก็สามารถรักษาให้หายดีได้...หากเ้ามีความอดทนมากนักข้าก็จะเล่นกับเ้าต่อไป ข้าจะหักกระดูกทั้งร่างเ้าเป็ร้อยเป็พันท่อน แล้วรักษาเ้าอีกครั้ง ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ให้เ้าได้ลิ้มรสความเ็ปทรมาน ฮิๆ ฮ่าๆๆๆ...”
นักเวทชุดคลุมสีดำพลันหน้าเปลี่ยนสี พูดพลางสะอื้นว่า “ปีศาจ เ้ามันปะ...ปีศาจ...”
ซุนเฟยหัวเราะ “แต่ถ้าเ้ายอมพูดออกมา ข้าก็จะใช้น้ำยาขวดนี้รักษาชีวิตเ้า กระดูกของเ้าที่ถูกหักก็จะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้ ยังเป็ไปได้อยู่นะที่พวกเราจะมาร่วมมือกันนะ ฮึๆๆ!”
นักเวทชุดคลุมสีดำหวั่นไหว ดวงตากรอกไปมา ความคิดกำลังตีกันในใจ แขนขาของเขาถูกหักจนแทบจะเหลวกลายเป็โคลน ถ้าไม่มีเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุนคงยากที่จะรอด เขาที่ไร้ซึ่งความหวังและความปรารถนา ดังนั้นจึงทำเป็ใจแข็ง แต่เมื่อเห็นความหวังที่จะมีชีวิตรอดจึงเริ่มลังเล สุดท้ายนักเวทชุดคลุมสีดำก็ยอมพยักหน้า บางครั้งความสิ้นหวังอาจทำให้คนกลายเป็วีรบุรุษ แต่ความหวังกลับสามารถทำให้วีรบุรุษเปลี่ยนเป็คนขี้ขลาดตาขาว ขวดน้ำยาสีแดงในมือของปีศาจตรงหน้าเป็ฟางช่วยชีวิตของนักเวทชุดคลุมสีดำ ไม่มีใครไม่เสียดายชีวิต ไม่ต้องพูดถึงว่ามีโอกาสที่ยิ่งใหญ่กำลังรออยู่เบื้องหน้า เพียงยื่นมือไปคว้าเอาไว้ก็สามารถทะยานขึ้นฟ้าได้...ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้ พยักหน้าตกลง “ตกลง ข้าจะบอกเ้าทุกอย่าง แต่เ้าต้องสาบานก่อนว่าหลังจากที่ข้าพูดเ้าจะช่วยรักษาข้า หากไม่ทำตามที่พูด เ้าจะต้องพบเจอ...”
“ข้าขอสาบานต่อพระผู้เป็เ้า ข้าในนามาาอเล็กซานเดอร์แห่งเมืองแซมบอร์ด หากข้าไม่ทำตามที่พูด ขอให้ดวงิญญาของอเล็กซานเดอร์ต้องสลาย หรือลงก้นบึ้งของขุมนรกให้ต้องทรมานไปชั่วกาลนาน!”
นักเวทชุดคลุมสีดำจึงยอมเชื่อ
“ข้าชื่อเอแวนส์ เป็นักเวทย์ธาตุไม้ระดับสี่ดาวตอนต้น ข้ามาจากราชอาณาจักรระดับเก้า ราชอาณาจักรแมนเชสเตอร์ที่ห่างไกล ตามคำแนะนำของท่านอาจารย์เฟอร์ดินานด์ที่ให้ข้าออกท่องเที่ยวแผ่นดินใหญ่เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เมื่อสามเดือนก่อน ตอนที่ข้าเดินทางผ่านป่าลึกทางทิศเหนือของราชอาณาจักรไอนด์โฮเวน บังเอิญได้พบกับกลุ่มทหารรับจ้างสองฝ่ายกำลังฆ่ากันเพื่อแผนที่สีดำลึกลับ ฮิๆ เพราะเกิดความสงสัย ข้าจึงสังหารพวกทหารรับจ้างไปหลายร้อยคนแล้วแย่งแผนที่นี้มา ตอนแรกข้าก็ไม่ได้สนใจมากนัก แต่ต่อมาก็พบว่าวัสดุของแผนที่นั้น แม้แต่ข้าที่เป็ถึงนักเวทสี่ดาวก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน หลังจากที่ข้าทำการค้นคว้าและแปลภาษา ข้าก็พบสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ แม้ว่าตอนแรกข้าไม่ได้ตั้งใจจะเก็บของราคาถูกนี้มาหรอก ความจริงแล้วแผนที่นี้เป็ของโบราณที่สืบทอดต่อกันมาในสมัยาครั้งใหญ่ของเทพและปีศาจเมื่อหลายพันปีก่อน บนแผนที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายวงกลมสีแดงตามสถานที่ต่างๆ มากมาย น่าจะเป็ที่ตั้งการทำาของเทพและปีศาจ นอกจากที่ตั้งเหล่านี้ ยังมีสถานที่อีกมากมายที่ถูกทำสัญลักษณ์ไว้ ไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร...หลังจากที่ข้าได้พบเื่ที่น่าตกตะลึงนี้ ข้าจึงอยากไปสำรวจตามที่ตั้งการทำาของเทพและปีศาจพวกนี้ เสียเวลาไปสองเดือนกว่าในการศึกษาค้นคว้าข้อมูลแผนที่อย่างละเอียด สุดท้ายข้าก็แปลที่ตั้งที่ระบุไว้ได้...”
“ที่ตั้งนั่นก็คือเมืองแซมบอร์ด?” ซุนเฟยใจกระตุกก่อนจะรีบถาม
“อืม ถูกต้องแล้ว เป็เมืองแซมบอร์ด กว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ข้ามาเมืองแซมบอร์ดหลายครั้ง ค้นหาและสำรวจในเมืองอย่าละเอียดหลายครั้งก็พบเบาะแสอย่างหยาบๆ แต่ทางเข้าที่แท้จริงกลับหาไม่เจอ ภายหลังข้าจึงตระหนักได้ว่า ถ้าอยากหาตำแหน่งที่ตั้งได้แน่นอนจำเป็ต้องมีแรงงานและใช้เวลาอย่างมากในการล้อมเมืองหา ข้าเพียงคนเดียวคงไม่อาจทำได้ อีกทั้งในเมืองแซมบอร์ดยังมีคนจำนวนมาก ดังนั้น ข้าคิดไปคิดมาเลย้าหาคนช่วย...”
“ดังนั้นเ้าจึงไปหาองค์ชายแห่งราชอาณาจักรไอนด์โฮเวนตูดหมาอะไรนั่น?”
“ข้ากับองค์ชายเคชมันรู้จักกันมาก่อนหน้านี้ เขาเห็นข้ามีพลังแข็งแกร่งก็พยายามชักชวนข้าให้เป็พรรคพวกเขาเพื่อช่วยเขาแย่งตำแหน่งจักรพรรดิราชอาณาจักรไอนด์โฮเวนกับพี่ชายอีกสองคนของเขา...ข้าไปหาเขา บอกเขาว่าข้าพบที่ตั้งการทำาของเทพและปีศาจเมื่อหลายพันปีก่อน แล้วแกล้งทำเป็เชิญชวนให้เขามาร่วมกันสำรวจ เพียงยึดที่ตั้งนี้ได้ เขาก็สามารถจัดการพี่ชายทั้งสองคนของเขาได้อย่างง่ายดาย และจะได้สืบทอดตำแหน่งจักรพรรดิราชอาณาจักรไอนด์โฮเวน เคชมันตื่นเต้นมากรีบตอบรับทันที เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พี่ชายทั้งสองคนที่เป็คู่แข่งของเขาทราบ เขาจึงหลอกว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยวโดยนำกองทหารชั้นยอดออกเดินทางไปด้วย เมื่อมาถึงชายแดนราชอาณาจักรเซนิทก็รีบถอดธงออก หลีกเลี่ยงตำแหน่งรักษาการณ์ของราชอาณาจักรเซนิท ข้ามูเาและป่าลึก คิดจะล้อมเมืองแซมบอร์ดแบบไม่ให้ทันรู้ตัว ทีแรกก็คิดจะโจมตีแบบสายฟ้าแลบ สังหารชาวเมืองทั้งหมด จากนั้นก็ยึดเมือง แสร้งทำทีว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นก็ค่อยเริ่มการสำรวจ ที่จริงเมืองแซมบอร์ดเป็เพียงเมืองชายแดนเล็กๆ เมืองหนึ่ง อย่างไรเสียก็ไม่เป็ที่สนใจอยู่แล้ว กว่าราชอาณาจักรเซนิทจะค้นพบ พวกข้าก็ยึดครองเมืองไปแล้ว ฮิๆ...”
“น่าแปลกใจจัง เ้าดูเป็คนสันดานชั่ว คงไม่คิดจะช่วยไอ้องค์ชายโง่นี่แย่งตำแหน่งจักรพรรดิจริงๆ หรอกใช่ไหม? ยิ่งไม่ต้องพูดเลยว่าเ้าจะยอมแบ่งสมบัติที่ได้มาให้กับมันด้วย? ข้าว่าเ้าไม่ใช่คนดีแบบนั้นหรอก?”
“แค่กๆ...” นักเวทชุดคลุมสีดำกระอักเืออกมา พูดด้วยน้ำเสียงระโหยโรยแรง “มันแน่นอนอยู่แล้ว ที่ตั้งเทพและปีศาจที่มีค่าเช่นนี้? ทำไมข้าต้องแบ่งให้มันด้วย หากข้าหาทางเข้าที่ตั้งพบและเจอซากปรักหักพัง ข้าก็จะสังหารเขาเสีย จากนั้นก็จะควบคุมทหารสามพันนายเพื่อให้พวกมันขุดหาสมบัติให้ข้าต่อ ฮิๆ...” พูดถึงตรงนี้ นักเวทชุดคลุมสีดำก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“แล้วเ้าไม่กลัวราชอาณาจักรไอนด์โฮเวนแก้แค้น?”
“เพื่อหลีกเลี่ยงถูกคนอื่นแย่งชิง พวกข้าได้ลบร่องรอยตลอดการเดินทาง ไม่มีใครรู้ว่าองค์ชายเคชมันและกองทัพไปไหน...ฮ่าๆๆ นี่คือกองทัพที่หายสาบสูญ องค์ชายเคชมันขุดหลุมฝังศพให้ตัวเองชัดๆ ทุกอย่างอยู่ในแผนการของข้า”
“พูดแบบนี้ สิ่งที่เ้าพูดก่อนหน้าว่าราชอาณาจักรไอนด์โฮเวนอะไรนั่นไม่ช้าก็เร็วคงพบเื่ที่เกิดขึ้น ความจริงแค่ขู่ข้านะสิ?” ซุนเฟยหัวเราะอย่างเ็า “เดิมทีพวกเขาก็ไม่มีทางพบว่าองค์ชายตายอยู่ที่นี่อยู่แล้ว?”
“นั่นก็ไม่แน่ เ้าอย่าประมาทความแข็งแกร่งของราชอาณาจักรไอนด์โฮเวน แม้ว่ากว่าที่พวกเขาจะเจอมันอาจช้าอยู่บ้าง แต่แล้วอย่างไร? ข้ามาจากราชอาณาจักรระดับเก้า ราชอาณาจักรแมนเชสเตอร์ ท่านอาจารย์ของข้าเป็ขุนนางคนสำคัญของจักรพรรดิ รอจนกว่าพวกเขาจะหาเจอ ข้าก็ควบคุมที่ตั้งเทพและปีศาจไปแล้ว จากนั้นก็จะรายงานเื่ที่ตั้งเทพและปีศาจให้แก่ราชอาณาจักรแมนเชสเตอร์ทราบ เื่นี้ต้องได้รับความสนใจแก่องค์จักรพรรดิอย่างแน่นอน ฐานะของข้าก็จะสูงขึ้น ฮิๆ เวลานั้นมาถึง ราชอาณาจักรไอนด์โฮเวนที่เป็แค่ราชอาณาจักรระดับสี่จะมีปัญญาทำอะไรข้าได้?” นักเวทชุดคลุมสีดำเผยสีหน้าชั่วร้าย ดวงตาทั้งคู่นั้นเปล่งประกาย
“ความคิดดีมาก น่าเสียดายจริงๆ ที่ไม่เป็ไปตามแผนของเ้า เพราะพบข้าเข้าเสียก่อน ทั้งยังถูกบิดทุบตีเหมือนหมาตัวหนึ่ง กลายเป็นักโทษที่ไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้?” ซุนเฟยไม่ลังเลที่จะหัวเราะเยาะออกมา “ที่เ้าพูดมา ข้าต้องขอบใจเ้าจริงๆ หากไม่ใช่เพราะเ้าเล่าแผนการอันอ้อมค้อมนี้ บางทีเมืองแซมบอร์ดอาจจะตกอยู่ในกรงเล็บราชอาณาจักรไอนด์โฮเวนไปแล้วก็ได้”
นักเวทย์ชุดคลุมสีดำได้ยินซุนเฟยพูดเช่นนี้ก็โมโห อยากจะเถียงกลับไปสักประโยคแต่ก็ลังเล สุดท้ายก็ทำได้เพียงก้มหน้าลง พูดอย่างเศร้าๆ ว่า “มีทางเลือกอื่นหรือไม่? คนคิดมิสู้ฟ้าคำนวณ ข้าไม่เคยคิดว่าเมืองเล็กๆ อย่างแซมบอร์ดจะมีคนไม่ธรรมดาเช่นเ้าอยู่ แต่หากไม่สู้ก็ไม่รู้จักกัน ที่เ้าพูดมาก่อนหน้านั้นก็ไม่ผิด บางทีพวกเราอาจมีโอกาสได้ร่วมมือกันต่อ”
ซุนเฟยไม่มีข้อคิดเห็นอะไรกับข้อเสนอนี้
ในใจของเขาตอนนี้มีคลื่นที่โหมซัดสาดอย่างบ้าคลั่ง ตามที่นักเวทชุดคลุมสีดำพูดก่อนหน้านี้ มันก็พอที่จะตรงกับสิ่งที่เขาคาดเดาไว้ก่อนหน้าไม่มากก็น้อยว่าเมืองแซมบอร์ดมีความเป็มาที่ยิ่งใหญ่ และเรือนจำที่เป็เหมือนเขาวงกตใต้ดินขนาดใหญ่ที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้ก็น่าจะเป็ส่วนหนึ่งของที่ตั้งเทพและปีศาจ
ซุนเฟยไม่แสดงท่าทีอะไร เขาพูดต่อไปว่า “พูดมาสิว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับที่ตั้งเทพและปีศาจ”
“นี่เ้าไม่รู้เื่ที่ตั้งเทพและปีศาจ?” นักเวทชุดคลุมสีดำแสยะยิ้ม แต่หลังจากเห็นสายตาเหี้ยมโหดของซุนเฟยก็รีบตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ตำนานกว่าว่าเมื่อหนึ่งพันปีก่อน เทพและปีศาจดำรงอยู่ด้วยกันบนแผ่นดินอาเซรอท ทำาด้วยกันมิเคยขาด ทั้งเผ่าเทพและเผ่าปีศาจต่างมีพลังแข็งแกร่ง เพียงยกมือก็สามารถผ่าูเาไล่ดวงจันทร์ แหวกอากาศ ทำลายแผ่นดิน มีอำนาจทุกอย่าง แต่พวกเขาไม่อาจอยู่ด้วยกันได้เพราะเหตุผลบางประการ ถึงขนาดไม่ตายไม่เลิกรา พวกเขาทำากันมายาวนานหลายหมื่นปีนับั้แ่พวกเขาถือกำเนิด ทุกที่ของแผ่นดินอาเซรอทต่างมีที่ตั้งเทพและปีศาจหลงเหลือ ที่ตั้งเหล่านี้จมดิ่งอยู่ในคลื่นกาลเวลาของประวัติศาสตร์...ต่อมา ก็ไม่มีใครรู้ว่า ทำไมเผ่าเทพและปีศาจที่แข็งแกร่งถึงได้หายไปจากแผ่นดินอาเซรอทอย่างลึกลับ หลังจากผ่านไปนาน เผ่ามนุษย์จึงถือกำเนิดขึ้น...แน่นอนว่า ตำนานนี้เป็เื่เล่าของพวกพเนจรเท่านั้น แต่ต่อมา มนุษย์ก็ได้ค้นพบที่ตั้งลึกลับมากมายในแผ่นดินและได้รับสิ่งที่เหลือเชื่อมากมายจากมัน แม้แต่รูปแบบการฝึกของคลื่นพลังและเวทมนตร์ที่แพร่หลายบนแผ่นดินตอนนี้ก็มาจากการค้นพบในที่ตั้งเหล่านี้ ยังมีอุปกรณ์เวทมนตร์ที่แข็งแกร่งนับไม่ถ้วน สมบัติ ม้วนคัมภีร์คลื่นพลัง ความรู้เวทมนตร์...หากมีที่ตั้งเทพและปีศาจมากพอก็สามารถมีทุกอย่าง นี่คือบรรทัดฐานที่ทุกคนบนแผ่นดินอาเซรอทรู้กันดี อย่างราชอาณาจักรบาร์เซโลน่า ราชอาณาจักรระดับเก้า หรือราชอาณาจักรเซลซี ราชอาณาจักรมิลาน ราชอาณาจักรแอนฟีลด์ และอื่นๆ ที่อาศัยว่าเจอที่ตั้งเทพและปีศาจขนาดใหญ่ถึงได้ค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ราชอาณาจักรแมนเชสเตอร์ของเราก็ไม่มีข้อยกเว้น จักรพรรดิแมตต์ บัสบีก็ค้นพบที่ตั้งเทพและปีศาจที่แข็งแกร่งเช่นกัน ทำให้ได้รับการสืบทอดมรดกยิ่งใหญ่และเริ่มก่อตั้งราชอาณาจักรแมนเชสเตอร์ขึ้นมา”
พูดถึงตรงนี้ ใบหน้านักเวทชุดคลุมสีดำก็เผยให้เห็นถึงความภาคภูมิใจอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน คนที่ชื่อบัสบีจะต้องมีพลังแข็งแกร่งอย่างมาก
---------------