"ฮ่าฮ่า ในเมื่อเป็เช่นนี้ ข้าจะไม่ขอสุภาพต่อผู้นำตระกูลหานอีกต่อไปแล้ว" ถังชิงยุ่นหัวเราะออกมาอย่างเบิกบานใจ
หานเฉินต้งก็เช่นกัน บรรยากาศระหว่างพวกเขาทั้งสองคนช่างสนิทสนมกลมเกลียวเป็อย่างยิ่ง
เหล่าสาวใช้เข้ามาเติมชาให้ แล้วกลับออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้อื่นอยู่ในห้องโถงใหญ่อีก หานเฉินต้งจึงเอ่ยขึ้นมาว่า "ว่าแต่ว่าท่านผู้าุโมาเยือนตระกูลหานของข้าด้วยเื่ใดหรือ?"
พอได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของถังชิงยุ่นก็ทอประกายมุ่งมั่นออกมาอย่างแรงกล้า
ในตอนที่เขาเงยหน้าขึ้น ประกายแรงกล้านั้นก็ถูกซ่อนเอาไว้อย่างดี เขามองตาของหานเฉินต้งและสีหน้าก็ค่อยๆ กลายเป็เคร่งขรึม "ข้ามาตระกูลหานในครั้งนี้ เพื่อหารือกับท่านเกี่ยวกับการประลองของตระกูลหานที่กำลังจะมาถึง"
"หือ? การประลองของตระกูลหรือ?" หานเฉินต้งรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "เื่การประลองของตระกูลกำลังดำเนินไปตามระเบียบแบบแผนอย่างที่มันควรเป็ ผู้าุโกล่าวถึงเป็การส่วนตัวเช่นนี้หรือว่าเกิดเื่ผิดพลาดอะไรขึ้นงั้นหรือ?”
ถังชิงยุ่นส่ายหัว "ไม่ใช่หรอก แต่เพราะว่าหลายวันมานี้ข้าครุ่นคิดไตร่ตรองดูและรู้สึกว่าไม่อาจปล่อยวางได้ลง ดังนั้นจึงอยากจะปรึกษาหารือกับท่านผู้นำตระกูลหานเสียหน่อย"
ถังชิงยุ่นไม่รอให้หานเฉินต้งตอบกลับ เขากล่าวต่อทันที "ท่านผู้นำตระกูลหานเองก็รู้ การประลองของตระกูลหานนั้นค่อนข้างยิ่งใหญ่และมีความสำคัญ ผู้ที่ชนะการประลองในสามอันดับแรกจะมีสิทธิเข้าร่วมการทดสอบคัดเลือกเพื่อเข้าศึกษาต่อในสถานศึกษาของตี้ตู คงไม่ต้องให้ข้าอธิบายอะไรมากมายท่านผู้นำตระกูลหานเองก็น่าจะทราบดีว่าหากสามารถเข้าร่วมการทดสอบคัดเลือกก็จะได้แสดงฝีมือต่อหน้าตระกูลอื่น เหล่าผู้ฝึกตนจากเมืองใกล้เคียงต่างแข่งขันกันอย่างหนักเพื่อแย่งชิงโอกาสเข้าศึกษาในสถานศึกษาของตี้ตู ซึ่งเป็สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้ฝึกตนทั่วทุกแห่งหนอยากไปมากที่สุด! "
เมื่อเอ่ยจบ ถังชิงยุ่นก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย
อารมณ์ของหานเฉินต้งถูกคำพูดของถังชิงยุ่นกระตุ้นจนต้องยืนขึ้นด้วยความตื่นเต้น เขาเอ่ยสนับสนุนคำพูดของถังชิงยุ่นว่า “สิ่งที่ผู้าุโเอ่ยมานั้นข้าทราบดี ทุกๆ ปีผู้ที่ชนะการประลองของตระกูลหานไม่เคยโดดเด่นในการทดสอบคัดเลือกเลย แต่บัดนี้ถึงเวลาแล้ว ปีนี้ตระกูลหานของเราเต็มไปด้วยผู้ที่มีพร์เหนือกว่าปีก่อนหน้ามากมายนัก ข้าเชื่อว่าในปีนี้พวกเขาจะต้องทำได้สำเร็จแน่นอน!"
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ดวงตาของถังชิงยุ่นฉายแววเย้ยหยันและหายไปในพริบตา จนหานเฉินต้งไม่อาจสังเกตเห็น
"ข้ารู้ว่าท่านผู้นำตระกูลหานค่อนข้างโปรดปรานหานเทียน บุตรชายคนโตเป็อย่างมาก แต่ท่านผู้นำตระกูลหาน ขออภัยด้วยที่ข้าต้องเอ่ยตามตรงว่าจากมุมมองของข้านั้นหานเซี่ยวก็มีพร์ที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน"
หานเฉินต้งรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "หานเซี่ยวหรือ?"
ถังชิงยุ่นพยักหน้า
หานเฉินต้งเงียบไปครู่หนึ่ง
หานเซี่ยวเป็บุตรชายของเว่ยซื่อ เมื่อหลายปีก่อนตอนที่พบว่าเขามีพร์สูงส่งจึงออกไปฝึกฝนวรยุทธ์ด้านนอก แม้ว่าพร์ด้านวรยุทธ์ของหานเซี่ยวจะเหนือกว่าบุตรคนอื่นมาก แต่หานเฉินต้งก็ไม่อาจตักน้ำใส่ถ้วยให้เท่ากัน [1] ได้ เพราะหานเทียนและหานิเป็บุตรชายที่เขาเฝ้าดูมาั้แ่เด็ก ได้เห็นบุตรชายทั้งสองฝึกฝนจนฝีมือพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เมื่อนำมาเทียบกันแล้ว ความรักของหานเฉินต้งที่มีต่อหานเซี่ยวนั้นไม่ได้มากมายเท่าบุตรชายอีกสองคนเลย
แม้ว่าในใจจะไม่เห็นด้วยนัก แต่หานเฉินต้งไม่ได้กล่าวหักล้างคำพูดของถังชิงยุ่นทันที แต่เอ่ยหยั่งเชิงออกมาอย่างระมัดระวัง "ที่ท่านผู้าุโหมายถึงคือ......ท่าน้าตำแหน่งที่ว่างหนึ่งในสามให้กับหานเซี่ยวงั้นหรือ?"
ผู้ตัดสินการประลองมีอำนาจในการลงนามเพื่อเลือกหนึ่งคนในตำแหน่งที่ว่างได้ ซึ่งถังชิงยุ่นนั้นมีฐานะและความสามารถสูงสุดในบรรดาผู้ตัดสินทั้งหมด หากเขาเอ่ยว่าเลือกผู้ที่เข้ารอบหนึ่งในสามไว้แล้วก็ไม่มีผู้ใดสามารถปฏิเสธได้
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกมาจากถังชิงยุ่นจะมีสิทธิเป็หนึ่งในผู้ชนะทั้งสามคน และมีสิทธิเข้ารับการทดสอบรอบคัดเลือก
ถังชิงยุ่นฟังสิ่งที่หานเฉินต้งถามโดยไม่ปฏิเสธ เขาทำเพียงพยักหน้าและเอ่ยว่า "ข้ามีความคิดเห็นเป็เช่นนั้น"
ภายในห้องโถงใหญ่ หานเฉินต้งนั่งนิ่งไม่พูดสิ่งใดเป็เวลาเนิ่นนาน
ส่วนหานโม่ก็กำลังแอบฟังอยู่บนต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลจากห้องโถงมากนัก
สิ่งที่หานโม่เพิ่งได้ยินมานั้นเป็สิ่งที่นางไม่เคยรู้มาก่อน พอได้ฟังถังชิงยุ่นพูดถึงประโยคสุดท้าย ภายในใจของนางก็เกิดคำถามขึ้นมา
หานเซี่ยวออกไปฝึกฝนด้านนอกตระกูลหานตลอดทั้งปี เช่นนั้นแล้วผู้าุโแห่งถังชิงจงท่านนี้รู้ได้อย่างไรว่าความแข็งแกร่งและพร์ของหานเซี่ยวนั้นไม่ธรรมดา อีกทั้งยังบอกอีกว่าหานเซี่ยวไม่ควรไปต่อแถวประลองกับคนอื่นในตระกูล
อู๋ซื่อมีบุตรชายสองคนและบุตรสาวสองคน บุตรสาวคนโตอย่างหานเสวี่ยกำลังศึกษาอยู่ที่ตี้ตู พร์ของนางนั้นไม่เลวเลย ส่วนบุตรสาวคนที่สองอย่างหานซินแม้จะไม่ได้มีฝีมือโดดเด่นนัก แต่ในด้านความแข็งแกร่งก็ไม่อาจดูแคลนได้เช่นกัน หานเทียนกับหานิหนึ่งในบุตรที่ไม่เป็ที่หนึ่งก็เป็ที่สอง [2] ของตระกูลหาน ไม่ว่าอย่างไรสิทธิสำหรับยกเว้นจากการทดสอบก็ควรจะถูกเลือกจากพวกเขาสี่คน
เพราะเหตุใดถังชิงยุ่นถึงได้เลือกหานเซี่ยวที่ไม่อยู่ตระกูลหานตลอดทั้งปีให้ได้รับสิทธินี้กัน บางทีคนในตระกูลหานก็อาจจะลืมรูปร่างหน้าตาของหานเซี่ยวไปแล้วด้วยซ้ำ
เมื่อนึกถึงลักษณะของชายชู้ผู้นั้นที่โตวโตวพูดถึง ประกอบกับพฤติกรรมของถังชิงยุ่นแล้ว หานโม่ก็สามารถยืนยันได้แปดส่วนว่าผู้าุโที่กำลังวางมาดภูมิฐาน เป็คนมีศีลธรรมและบารมีสูงส่งท่านนี้จะต้องเป็ชายชู้ของเว่ยซื่อที่โตวโตวเห็นเมื่อคืนนี้แน่
คาดไม่ถึงเลยว่าเว่ยซื่อจะเลียแข้งเลียขาถังชิงยุ่นเช่นนี้ นี่คงเป็แผนการที่จะอาศัยความแข็งแกร่งของถังชิงยุ่นเพื่อปูทางให้บุตรชายของตนเอง
หลังจากที่หานโม่คิดอย่างรอบคอบก็สามารถหาเหตุผลที่เว่ยซื่อทำเช่นนี้ได้
สถานะของอู๋ซื่อในตระกูลหานคือนายหญิงใหญ่ แม้ว่าเว่ยซื่อจะอาศัยอำนาจฝั่งตระกูลมารดาของนางมาต่อต้านได้ แต่สถานะของนางในตระกูลหานก็ยังอยู่ต่ำกว่าและยังมีบุตรชายบุตรสาวเพียงหนึ่ง แถมหนทางข้างหน้าของบุตรชายนางยังมีบุตรชายของฮูหยินใหญ่คอยกดข่มอยู่ถึงสองคน ดังนั้นไม่ว่าหานเซี่ยวจะมีความสามารถมากแค่ไหน แต่ท้ายที่สุดแล้วตำแหน่งผู้นำตระกูลหานก็ไม่มีทางตกมาเป็ของเขาอยู่ดี
ดังนั้นเว่ยซื่อจึงพยายามหาหนทางอื่นให้บุตรชายของตน โดยการจับขาทองคำอย่างผู้าุโถังชิงยุ่นแห่งถังชิงจงผู้นี้เอาไว้แน่น
ไม่อาจพูดได้ว่านี่เป็วิธีการที่ชาญฉลาดนัก
ถ้าหานเซี่ยวได้รับการยกเว้นจากการทดสอบครั้งนี้ สุดท้ายแล้วแม้เขาก็จะโดดเด่นในการทดสอบคัดเลือกเข้าสถานศึกษา มันอาจจะเป็เวทีสุดท้ายของหานเซี่ยว แต่ไม่ใช่สำหรับตระกูลหานอย่างแน่นอน
เมื่อถึงเวลานั้นเว่ยซื่ออาจรังเกียจตระกูลหานด้วยซ้ำ
พอนึกถึงสิ่งนี้ มุมปากของหานโม่ก็ปรากฏรอยยิ้ม
ผู้ใดบอกว่าในสถานที่ที่ให้ความเคารพกับศิลปะการต่อสู้จะไม่ปากหวานก้นเปรี้ยว [3] กันเล่า?
เพราะมีผู้คนมากมายที่ไร้ซึ่งอำนาจ คนเ่าั้จึงต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้คนของตนเองโดดเด่นขึ้นมา
หานโม่ไม่ได้รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ แต่ก็พอจะเข้าใจอยู่บ้างเล็กน้อย
เช่นเดียวกับเว่ยซื่อที่เต็มใจยอมเสียสละตัวเองเพื่อบุตรชาย......ไม่สิ ไม่แน่ว่าเว่ยซื่อคิดว่านี่ไม่ใช่การเสียสละด้วยซ้ำเพราะนางกำลังแข่งขันกับอู๋ซื่ออยู่ รวมถึงนางรู้สึกผิดหวังในตัวของหานเฉินต้งเต็มทีแล้ว ดังนั้นนางจึงคิดจะเปลี่ยนเป้าหมาย
กล่าวโดยสรุปคือการเป็ชู้รักของถังชิงยุ่นเป็สิ่งที่นางตัดสินใจมาอย่างดีแล้ว
ในขณะที่หานโม่กำลังปะติดปะต่อเื่ราวต่างๆ อยู่ในหัว ถังชิงยุ่นกับหานเฉินต้งก็ตกลงเลือกผู้ที่จะได้รับการยกเว้นการทดสอบเป็ที่เรียบร้อยแล้ว
"เนื่องจากเป็การตัดสินใจของผู้าุโ เช่นนั้นข้าก็จะปฏิบัติตาม" จริงๆ แล้วภายในใจของหานเฉินต้งรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง เพราะอย่างไรเสียเขาก็มองว่าบุตรชายคนโตอย่างหานเทียนนั้นมีฝีมือที่ดีกว่ามาก แต่ถึงแม้จะไม่ได้เข้ารอบเขาก็ยังมีหานิบุตรชายคนที่สองอยู่ หานเฉินต้งเชื่อมั่นในตัวบุตรชายทั้งคู่ของตนเองว่าถ้าหากผู้ใดได้รับการยกเว้นการทดสอบ อีกคนก็จะสามารถผ่านการคัดเลือกได้อย่างไม่ยากเย็น หากบุตรชายคนโตและบุตรชายคนที่สองสามารถผ่านไปจนถึงการทดสอบรอบคัดเลือกได้ทั้งคู่ หานเฉินต้งคงรู้สึกพอใจเป็อย่างมาก
แต่ถังชิงยุ่นเป็ผู้าุโแห่งถังชิงจง ดังนั้นหานเฉินต้งจึงต้องเชื่อฟังคำพูดของเขาอยู่หลายส่วน
........................................................................
เชิงอรรถ
[1] ตักน้ำใส่ถ้วยให้เท่ากัน หมายถึง การปฏิบัติอย่างเท่าเทียม ไม่เอนเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง
[2] ไม่เป็ที่หนึ่งก็เป็ที่สอง หมายถึง มือหนึ่ง, ยอดเยี่ยมที่สุด, ไม่เป็สองรองใคร
[3] ปากหวานก้นเปรี้ยว หมายถึง พูดจาอ่อนหวานแต่ไม่จริงใจ
