บางคนมีความสุข และบางคนกังวล
ผู้ที่มีความสุขต่างตั้งหน้าตั้งตารอคำขอต่อไปที่น่าตื่นเต้นของหลัวเลี่ย ที่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของแคว้นเป่ยสุ่ยได้ในคราวเดียว
สำหรับหลิวจื่ออั๋งแล้ว เขาสามารถบรรยายโครงสร้างของแคว้นเป่ยสุ่ยได้ในประโยคเดียว
ผู้คนที่เป็กังวลเมื่อได้ยินเสียงตบหน้าของเกา่ดังลั่น ก็รู้สึกราวกับว่าพวกเขาถูกตบหน้าไปด้วย เพราะอีกสักครู่พวกเขาอาจจะเ็ปเช่นนี้ก็ได้
บางคนสงสัยว่า ทำไมหลิวจื่ออั๋งถึงเต็มใจทำตามคำขอของหลัวเลี่ย?
เช่นชงจ้านหยวนและหลานฉายหลิง ซึ่งรู้ภูมิหลังของเกา่ ก็อดสงสัยและไม่เข้าใจ พวกเขารู้ว่าอาจารย์ของเกา่และหลิวจื่ออั๋งเป็เพื่อนสนิทกัน เช่นนั้นหลิวจื่ออั๋งก็ควรช่วยเกา่สิ หรือแม้ว่าเขาจะไม่ช่วย แต่ก็ไม่ควรปฏิบัติกับเกา่อย่างเลวร้ายถึงขนาดนี้
แต่ใครจะรู้ ขณะที่ทุกคนจ้องมองไปที่หลัวเลี่ย เกา่ และคนอื่นๆ รถม้าที่หลิวจื่ออั๋งนั่งมาได้มีร่างเล็กๆ พุ่งเข้าไปด้านในด้วยความเร็วเกินกว่าที่ตาเปล่าจะมองทันได้ มันพุ่งมาจากภายในคุกกลืนอสูร
เพราะมันเร็วเกินไปจึงไม่มีใครสังเกตเห็น
ครู่ต่อมา ร่างเล็กที่กลับมาอย่างเงียบเชียบก็ไปลงเกาะบนไหล่ของหลิวจื่ออั๋ง
นี่เป็ทักษะพิเศษของนกฟินิกซ์์ที่สามารถหดตัวได้
“สถานการณ์เป็อย่างไรบ้าง” หลิวจื่ออั๋งถาม
“ข้างในยังเย็นอยู่มาก แต่ข้าััได้ถึงกลิ่นอายของลูกแก้วอัคคีณาน” นกฟินิกซ์์ตอบ
ไม่มีใครรู้ว่าความพิเศษของนกฟินิกซ์์ นอกจากมีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาแล้ว ยังมีประสาทััที่เฉียบคมมาก ซึ่งเหนือกว่าผู้ที่อยู่ในระดับทลายยุทธ์เสียอีก
ในความเป็จริงแล้ว หลัวเลี่ยไม่ได้ใช้ลูกแก้วอัคคีณานในทางเดินปกติ และทางเดินปกติยังคงถูกปิดกั้นด้วยน้ำแข็ง กล่าวได้ว่าเขาใช้มันในทางเดินด้านในที่เปิดอยู่ ดังนั้นจึงเป็ไปได้ว่าอาจมีการรั่วไหลของพลังออกมาเล็กน้อย
ยิ่งไปกว่านั้นช่องทางที่ถูกเปิดไว้ก็ถูกแช่แข็งอีกครั้ง และไม่มีการรั่วไหลอีกต่อไป
ถึงอย่างนั้น มันก็ยังถูกจับกลิ่นอายได้โดยนกฟินิกซ์์
หลิวจื่ออั๋งยิ้มเล็กน้อย “แบบนี้หลัวเลี่ยต้องเป็ ‘มีัอยู่ในเป้า’ แน่ๆ ฮ่าๆ ในที่สุดเราก็พบเขาแล้ว ในเมื่อเขาอยู่ในคุกกลืนอสูรได้ เช่นนั้นเขาก็สามารถช่วยตัวเองได้โดยการใช้ตราหยกเชื่อมิญญาเชื่อมไปที่ภพจิตัไม่ผิดแน่ ในเมื่อหลัวเลี่ยก็คือเขา ดังนั้นขอเพียงไม่ใช่คำขอที่ให้สังหารเกา่เสีย จะคำขออะไรข้าล้วนทำให้ได้ทั้งนั้น!”
ไม่มีใครได้ยินบทสนทนาระหว่างคนหนึ่งคนกับนกหนึ่งตัวนี้
แต่มันกลับเป็สิ่งที่ตัดสินทิศทางของเหตุการณ์ต่อไป
เมื่อตบหน้าตัวเองครบหนึ่งร้อยทีแล้ว
ใบหน้าของเกา่ก็บวมเป็หัวหมู และดวงตาบวมเป่งจนแทบมองไม่เห็นนี้ก็ไม่อาจปกปิดความเกลียดชังที่มีต่อหลัวเลี่ยไว้ได้
ในทางกลับกัน หลัวเลี่ยพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ และพูดว่า “ผู้าุโหลิว ข้ามีคำขอข้อที่สอง”
“พูดมาสิ ในเมื่อข้าเป็คนทำตามคำขอของท่าน ท่านก็ขอมาได้เลย” หลิวจื่ออั๋งยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของเขา เขาตัดสินใจแล้วว่าหลัวเลี่ยต้องเป็ ‘มีัอยู่ในเป้า’ อย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึง้าทำให้หลัวเลี่ยพึงพอใจ
หลัวเลี่ยกล่าวว่า “เพื่อที่จะใส่ร้ายข้า ข้าไม่คิดว่าผู้าุโรองแห่งคณะผู้าุโจะสามารถตัดสินใจเื่นี้เพียงคนเดียวได้ แม้ข้าจะเป็ถึงผู้สืบทอดตำแหน่งอ๋องถึงสองตำแหน่งของแคว้นเป่ยสุ่ย และข้าเองก็ไม่เคยมีตำแหน่งสูงเช่นนี้ ดังนั้นเื่ที่จะสั่งขังข้าได้คงต้องมีการปรึกษาเห็นชอบกันภายในจากเหล่าคณะผู้าุโแล้ว จึงมีผู้าุโรองมากล่าวโทษข้าได้ ดังนั้นคำขอประการที่สองของข้า คือขอให้ปลดตำแหน่งพวกคณะผู้าุโที่เกี่ยวข้องกับการสั่งขังข้าซะ ให้พวกเขากลับไปเป็แค่ประชาชนธรรมดา ริบทรัพย์สิน และเนรเทศพวกเขาออกจากแคว้นเป่ยสุ่ยเสีย”
พรึ่บ!
ทันทีที่หลัวเลี่ยพูดคำขอออกมา ผู้าุโบางคนก็เป็ลมไปด้วยความใ
ผู้าุโที่ถูกเรียกว่าคาบช้อนทองมาเกิด พวกเขาทำอะไรไม่เป็สักอย่าง หากยึดฐานันดรศักดิ์และริบทรัพย์สินไป นี่ไม่เท่ากับว่าให้พวกเขารอความตายหรือ
“ได้” หลิวจื่ออั๋งพูดเบาๆ “ข้าเชื่อว่าคงจะไม่มีใครในแคว้นเป่ยสุ่ยปฏิเสธข้า”
มันยังไม่สายเกินไปที่หลิวหงเหยียนจะมีความสุข นางจะปฏิเสธคำขอนี้ได้อย่างไร นางตอบตกลงในทันที
คนที่เศร้าซึมมีเพียงคนเดียวคือชงโหวหู่
คณะผู้าุโถือเป็อาวุธที่คอยทิ่มแทงหลิวหงเหยียนมาโดยตลอด
แม้ว่าเขาจะสละตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้าุโโดยสมัครใจ แต่ผู้าุโทั้งหมดก็ถูกควบคุมโดยเขาอย่างสมบูรณ์ และทุกอย่างก็ยังขึ้นอยู่กับเขา หลิวหงเหยียนที่ได้ขึ้นเป็หัวหน้าคนใหม่นั้นเป็เพียงหุ่นเชิด
ตอนนี้เมื่อคณะผู้าุโสูญเสียการควบคุมแล้ว หลิวหงเหยียนก็สามารถใช้ไพ่ลับของแคว้นเป่ยสุ่ยที่ถูกควบคุมโดยคณะผู้าุโมาต่อสู้กับชงโหวหู่ หรือแม้แต่จะทำลายชงโหวหู่ก็ย่อมทำได้
อาจกล่าวได้ว่า การเคลื่อนไหวของหลัวเลี่ยนั้นโหดร้ายเกินไปแล้ว
หลัวเลี่ยและชงโหวหู่สบตากัน ราวกับว่ามีประกายไฟพุ่งออกมาจากดวงตาของทั้งสอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งชงโหวหู่ เขารู้สึกเหมือนถูกแทงเข้าที่หัวใจโดยหลัวเลี่ย หัวใจของเขาเ็ปแทบตาย แต่เขาทำได้แค่ต้องอดทนเท่านั้น รสชาติความเ็ปเช่นนี้ทำให้ชีวิตของเขาเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย
หลัวเลี่ยยิ้มให้เขาเล็กน้อย ราวกับจะบอกเขาว่า นี่เป็แค่จุดเริ่มต้น ยังมีเื่ที่โหดร้ายกว่านี้อีก
ใบหน้าของชงโหวหู่ซีดเซียว
หลังจากที่คณะผู้าุโถูกขับไล่ พวกเขาลอบสาปแช่งและได้แต่โกรธแค้น ั้แ่นั้นมาพวกเขาก็อยู่ห่างจากวังวนอำนาจของแคว้นเป่ยสุ่ยโดยสิ้นเชิง และสำหรับเื่ที่ว่า พวกเขาจะเป็หรือจะตายไม่มีใครสนใจอีกต่อไป
ั้แ่นั้นมาคณะผู้าุโก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างมาก และหลิวหงเหยียนก็ได้ทำหน้าที่หัวหน้าอย่างแท้จริง
“คำขอข้อที่สาม” หลัวเลี่ยกล่าวต่อ “ผู้าุโรองเคยกล่าวใส่ร้ายข้า ด้วยบอกว่ามีหลักฐานและพยานชัดเจน แน่นอนว่าหลักฐานและพยานที่ว่ามานั้นล้วนเป็เท็จทั้งหมด เขาให้พยานตัวปลอมมา ข้าหวังว่าผู้าุโหลิวคงช่วยข้าหาตัวพยานพวกนั้นได้”
หลิวจื่ออั๋งทำเพียงมองไปที่เกา่อย่างเฉยเมย
เกา่เคยถามเกี่ยวกับแผนการทั้งหมดของชงจ้านหยวน และต่อหน้าหลิวจื่ออั๋งเขาทำได้เพียงกัดฟันและพูดว่า “คนนั้นคือหลัวชื่อสิง”
หืม?
หลัวชื่อสิงอีกแล้วหรือ!
ความอาฆาตรุนแรงเกิดขึ้นในใจของหลัวเลี่ย
ครั้งแรกหลัวชื่อสิงปรากฏตัวในฐานะลูกชายนอกสมรสของอ๋องหนานหลี่คนเก่า และเขายัง้ายึดบัลลังก์ของอ๋องหนานหลี่ ในเวลานั้นหลัวเลี่ยเกลียดคนคนนี้มาก
ต่อมาเพียงการแสดงของหลัวชื่อสิงไม่เพียงพอที่จะคุกคามเขา เพราะฐานะต่างกันเกินไป ดังนั้นเขาจึงเพิกเฉย แต่ไม่คาดคิดว่าหลัวชื่อสิงจะเป็หนึ่งในคนที่เล่นงานเขาในครั้งนี้
หากเป็ครั้งแรกก็ไม่เป็ไร แต่นี่เป็ครั้งที่สองแล้ว หลัวเลี่ยจะเมตตาได้อย่างไร
“คำขอที่สี่ของข้าคือ ชีวิตของหลัวชื่อสิง!” ในที่สุดหลัวเลี่ยก็เอ่ยคำแห่งความตายขึ้นมาอย่างเ็า
ก่อนหน้านี้แม้ว่าจะมุ่งเป้าไปที่คณะผู้าุโ ทำให้พวกเขาถูกขับไล่และถูกทิ้งให้ดูแลตัวเอง แต่กับหลัวชื่อสิงคนนี้กลับเป็คนแรกที่ทำให้หลัวเลี่ยคิดอยากสังหาร
หลัวชื่อสิงอยู่ท่ามกลางฝูงชน
ความจริงแล้วหลัวชื่อสิงไม่้ามา แต่เมื่อหลิวจื่ออั๋งมา เกา่จึงขอให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเื่นี้มาที่นี่ด้วย ดังนั้นหลัวชื่อสิงจึงทำได้เพียงมาอยู่ที่นี่ด้วย
เมื่อเขาได้ยินเกา่เอ่ยถึงชื่อเขา หลัวชื่อสิงแทบอยากจะวิ่งหนีทันที แต่ก่อนที่เขาจะหันกลับไป แสงสีฟ้าก็สว่างวาบขึ้น และพลังที่น่าสะพรึงกลัวก็เข้ามา ส่งผลให้หลัวชื่อสิงพุ่งออกมาจากฝูงชน และล้มลงอย่างแรงต่อหน้าของหลัวเลี่ย
ผู้ที่ทำการลงมือคือนกฟินิกซ์์ ซึ่งกำลังบินกลับมาเกาะที่ไหล่ของหลิวจื่ออั๋ง
“เ้าฆ่าข้าไม่ได้หรอก ข้าเป็พี่ชายต่างมารดาของเ้านะ” หลัวชื่อสิงร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว
หลัวเลี่ยเยาะเย้ย และพูดว่า “อูไท่ไหลบอกความจริงมานานแล้ว ว่าเ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับจวนหนานหลี่เลย เ้าเป็เพียงสุนัขตัวหนึ่งที่ถูกคนอื่นใช้เพื่อมายึดบัลลังก์ของอ๋องหนานหลี่”
หลัวชื่อสิงะโว่า “ไม่ ข้าเป็ ข้าเป็จริงๆ”
หลัวเลี่ยไม่คุยกับเขา แต่พูดอย่างเฉยเมยว่า “คนที่ข่มเหงข้าหลายครั้ง ถ้าข้าเก็บเขาไว้ ข้าคงจะเป็คนโง่เง่าแล้ว เ้า หลัวชื่อสิง ต้องตาย!”
ทันทีที่พูดจบ เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังออกมาจากฝูงชน
“เขาจะตายไม่ได้!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้